สวัสดีค่ะ เราเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อแชร์ความรู้สึกของคนที่ใกล้ชิดกับบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลค่ะ
แฟนเราเป็นหนึ่งในบุคลากรของโรงพยาบาลและทำงานอยู่ฝ่ายการตลาดของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ หน้าที่รับผิดชอบหลักคือรับนัดหมายเพื่อฉีดวัคซีนในแต่ละวัน คิดค่ารักษาพยาบาล ดูแลลูกค้าที่เข้ามาฉีดยาทั้งหมดซึ่งมีหลายโรงงานมากๆ ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิท จากที่ต้องทำงานเพียง 5 วัน ตอนนี้ต้องทำ 6-7 วัน มาเป็นระยะเวลา 2 เดือนแล้วค่ะ เสียงโทรศัพท์หรือไลน์ดังตลอดเวลา รวมไปถึงเวลากลางคืนสามถึงสี่ทุ่ม ลูกค้าโทรตามก็มีอยู่ทุกคืน ช่วงกลางวันไปโรงพยาบาล ต้องมีหน้าที่คอยเดินยา จัดคิวลูกค้าให้ทุกท่านได้รับวัคซีนให้เร็วที่สุด แต่ด้วยบุคลากรที่มีน้อย ทำให้การทำงานอาจจะล่าช้าจนลูกค้าบางท่านไม่พอใจบ้าง จนเกิดการว่ากล่าวกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ แฟนมีอาการเครียดได้อย่างชัดเจนค่ะ กินข้าวได้น้อยลง มีอาการเหนื่อยล้ามากในแต่ละวัน หงุดหงิดง่าย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับความสัมพันธ์ของเราสองคน ถึงตอนนี้เราต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจมากๆค่ะ เพื่อให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนดีและผ่านไปได้ พลังทางใจต้องมีมากพอสมควรเลยค่ะ ดังนั้น นอกจากจะขอให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์แล้ว เราขอให้กำลังใจแก่ครอบครัวของบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลที่ทำงานหนักในทุกๆวัน ขอให้ทุกท่านมีพลังใจที่เข้มแข็ง หมั่นเติมความรักให้กันเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิทครั้งนี้ไปให้ได้ค่ะ
ชวนเพื่อนๆมาให้กำลังใจครอบครัวของบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลกันค่ะ
กำลังใจให้กับครอบครัวบุคลากรของโรงพยาบาล ที่ทำงานหนักเพื่อเร่งให้ทุกท่านได้รับวัคซีน
แฟนเราเป็นหนึ่งในบุคลากรของโรงพยาบาลและทำงานอยู่ฝ่ายการตลาดของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ หน้าที่รับผิดชอบหลักคือรับนัดหมายเพื่อฉีดวัคซีนในแต่ละวัน คิดค่ารักษาพยาบาล ดูแลลูกค้าที่เข้ามาฉีดยาทั้งหมดซึ่งมีหลายโรงงานมากๆ ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิท จากที่ต้องทำงานเพียง 5 วัน ตอนนี้ต้องทำ 6-7 วัน มาเป็นระยะเวลา 2 เดือนแล้วค่ะ เสียงโทรศัพท์หรือไลน์ดังตลอดเวลา รวมไปถึงเวลากลางคืนสามถึงสี่ทุ่ม ลูกค้าโทรตามก็มีอยู่ทุกคืน ช่วงกลางวันไปโรงพยาบาล ต้องมีหน้าที่คอยเดินยา จัดคิวลูกค้าให้ทุกท่านได้รับวัคซีนให้เร็วที่สุด แต่ด้วยบุคลากรที่มีน้อย ทำให้การทำงานอาจจะล่าช้าจนลูกค้าบางท่านไม่พอใจบ้าง จนเกิดการว่ากล่าวกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ แฟนมีอาการเครียดได้อย่างชัดเจนค่ะ กินข้าวได้น้อยลง มีอาการเหนื่อยล้ามากในแต่ละวัน หงุดหงิดง่าย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับความสัมพันธ์ของเราสองคน ถึงตอนนี้เราต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจมากๆค่ะ เพื่อให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนดีและผ่านไปได้ พลังทางใจต้องมีมากพอสมควรเลยค่ะ ดังนั้น นอกจากจะขอให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์แล้ว เราขอให้กำลังใจแก่ครอบครัวของบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลที่ทำงานหนักในทุกๆวัน ขอให้ทุกท่านมีพลังใจที่เข้มแข็ง หมั่นเติมความรักให้กันเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิทครั้งนี้ไปให้ได้ค่ะ
ชวนเพื่อนๆมาให้กำลังใจครอบครัวของบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลกันค่ะ