💚มาลาริน/ศาลยกฟ้อง'บิ๊กปั๊ด-น.1-ผบก.อคฝ.'คดีนักข่าวสายม็อบฟ้องตร.ยิงกระสุนยาง/ศาลไม่ให้ประกันตัว ยกคำร้องปล่อยตัวแกนนำ

เพี้ยนแคปเจอร์ศาลยกฟ้อง'บิ๊กปั๊ด-น.1-ผบก.อคฝ.' คดีนักข่าวฟ้อง ตร.ยิงกระสุนยางสลายชุมนุม
วันพุธ ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 16.15 น.



ศาลแพ่งยกฟ้องคดี 2 นักข่าวฟ้อง"บิ๊กปั๊ด-น.1-ผบก.อคฝ." ถูกยิงในการชุมนุม เรียกค่าเสียหายกว่า 1.4 ล้าน เมื่อ 18 ก.ค.64 ศาลชี้เป็น จนท.รัฐได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ความลับผิดทางละเมิด แต่ให้รับฟ้องเฉพาะ สตช.ขณะที่วันนี้ 2 ผู้เสียหายยังยื่นศาลแพ่งขอคุ้มครอง ตร.สลายม็อบ 10 ส.ค.ไม่ระมัดระวังตามคำสั่งศาล
 
กรณีที่ นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ ผู้สื่อข่าวจาก PLUS SEVEN และ นายชาญณรงค์ เอื้ออุดมโชติ ช่างภาพประจำสำนักข่าว The MATTER ที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางที่ตำรวจยิงใส่ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่ทั้งสองไปทำข่าวการชุมนุม เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2564 ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน และมีคำสั่งขอคุ้มครองชั่วคราว คดีหมายเลขดำที่ พ 3683/2564 ระหว่างนายธนาพงศ์ กับพวกรวม 2 คน (โจทก์) กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ผบ.ตร. , ผบช.น.และ ผบก.อคฝ.กับพวกรวม 4 คน

ต่อมาวันที่ 10 ส.ค.ศาลได้มีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแก่งชาติ จำเลยที่ 1 ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุม และสลายการชุมนุม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของโจทก์ทั้งสอง และสื่อมวลชน ภายใต้หลักเกณฑ์ และแนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน
 
ความคืบหน้าเรื่องนี้นั้น เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก น.ส.จันร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความภาคีนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมทีมงาน เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกจำเลยที่ 1 หรือตัวแทนมาไต่สวน เนื่องจากไม่ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่จากเหตุการณ์การสลายชุมนุม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 ส.ค.บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ตามคำสั่งศาล โดยเห็นว่า ศาลมีคำสั่งออกมาแล้ว ซึ่งจำเลยที่ 1 ก็รับหมายโดยชอบแล้วเมื่อวันที่ 10 ส.ค.แต่การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ภายใต้การบังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 ยังเป็นรูปแบบเดิม มีสื่อมวลชนอีก 2 ราย ถูกยิงด้วยกระสุนยาง ถึงจะไม่ได้รับบาดเจ็บมาก แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ระมัดระวัง ไม่เป็นไปตามคำสั่งศาล
 
อย่างไรก็ตาม วันนี้ศาลแพ่งยังได้มีคำสั่งในคดี นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ ผู้สื่อข่าว PLUS SEVEN และ นายชาญณรงค์ เอื้ออุดมโชติ ช่างภาพประจำสำนักข่าว The MATTER ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกตำรวจยิงกระสุนยางเข้าใส่ระหว่างไปทำข่าวการชุมนุม เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2564 ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) , ผบ.ตร. , ผบช.น.และ ผบก.อคฝ.กับพวกรวม 4 คน เรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจำนวนทุนทรัพย์ 1,412,000 บาท

โดยศาลมีคำสั่งรับฟ้องเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จำเลยที่ 1 ในฐานะหน่วยงานของรัฐ แต่เนื่องจากในสถานการณ์ช่วงโควิด-19 ระบาดรุนแรง ศาลจึงยังไม่สามารถกำหนดวันนัดได้ ส่วนจำเลยที่ 2 - 4 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้กระทำการโดยปฎิบัติหน้าที่ จึงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ความลับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 5 วรรคหนึ่ง ดังนั้น โจทก์ทั้งสองจะฟ้องให้รับผิดทางละเมิดทางแพ่งหาได้ไม่ พิพากษายกฟ้องในส่วนของจำเลยที่ 2 - 4

https://www.naewna.com/local/594285

เพี้ยนแคปเจอร์ศาลสั่งถอนประกัน'ไผ่ ดาวดิน' ชี้ผิดเงื่อนไขซ้ำซาก
วันพุธ ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 16.41 น.



ศาลอาญามีคำสั่งถอนประกัน"ไผ่ ดาวดิน" ผิดเงื่อนไขการประกันตัวซ้ำซาก ก่อเหตุจัดกิจกรรมวุ่นวายให้ประชาชนเดือดร้อน ในช่วงโควิดระบาด ทั้งที่รับปากดิบดีกับศาล
 
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 ได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งการประกันตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ "ไผ่ ดาวดิน" จำเลยที่ 7 คดีหมายเลขดำ อ.287/2564 ที่มี นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำคณะราษฎรและพวก รวม 22 คน เป็นจำเลยฐานดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง  มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองนุม ตามมาตรา 112 ,116 ฯลฯ
โดยพนักงานอัยการโจทก์ระบุในคำร้องเพิกขอถอนการประกันตัวนายจตุภัทร์ สรุปว่า คดีดังกล่าวนี้อยู่ระหว่างสืบพยานโจท์และจำเลย และเนื่องจากนายจตุภัทร์ จำเลยที่ 7 ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณา และเมื่อวันที่ 23 เม.ย.2564 ศาลอาญาได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยมีหลักประกันและมีเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราว โดยห้ามมิให้จำเลยที่ 7 ทำกิจกรรมที่จะทำความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และห้ามจำเลยที่ 7 เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
 
ต่อมาระหว่างวันที่ 20 ก.ค.ถึงวันที่ 1 ส.ค.2564 ซึ่งเป็นภายหลังที่ นายจตุภัทร์ จำเลยที่ 7 ได้รับการปล่อยชั่วคราว ก็ได้เข้าร่วมชุมนุม ทำกิจกรรมและเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วไป รวมทั้งผู้ใช้เส้นทางสัญจรบนถนนที่จัดการชุมนุม
 
ทั้งที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมแต่อย่างใด พฤติการณ์ดังกล่าวของจำเลยที่ 7 เป็นการเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมกันชุมนุมโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ที่อาจเป็นสาเหตุในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) หลายครั้งและอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีหลายคดี

โจทก์จึงขอศาลได้โปรดมีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุภัทร์ จำเลยที่ 7 ด้วย

ศาลพิเคราะห์คำร้อง ประกอบพยานหลักฐานตามเอกสารแนบท้ายแล้ว เห็นว่า หลังจากที่นายจตุภัทร์ จำเลยที่ 7 ได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้ว ก็มิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ต่อศาลอาญาว่าจะไม่ไปก่อให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมืองอีก แต่จำเลยที่ 7 กลับมีพฤติการณ์ร่วมทำกิจกรรมทำให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายเป็นอย่างมาก สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไปรวมทั้งผู้ใช้เส้นทางสัญจรถนนหลวงหลายครั้งจริง อีกทั้งในสถานการณ์ขณะนี้ที่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) จนถูกจับกุมเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2564 ด้วยเหตุนี้ จึงเห็นควรให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 7 ให้ออกหมายขังระหว่างพิจารณาคดีดังกล่าว และแจ้งคำสั่งให้ผู้ประกันจำเลยที่ 7 ทราบ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายจตุภัทร์ พร้อมกับผู้ชุมนุม ได้ก่อความวุ่นวาย ปราศรัยขับไล่การทำงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมนำสีแดงไปสาดใส่ป้ายชื่อ สน.ทุ่งสองห้อง จนได้รับความหาย ก่อนถูกจับกุมตัว และฝากขังต่อศาลอาญา โดยศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวมาแล้ว เนื่องจากเห็นว่า นายจุตุภัทร์ได้กระทำการดูหมิ่นสถาบัน มั่วสุมชุมนุมตาม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองตามสถานที่ต่างๆ จนถูกจับกุมดำเนินคดีรวม 12 คดี หากให้ประกันตัวเกรงจะไปกระทำผิดซ้ำในลักษณะเช่นนี้อีก
 
 
https://www.naewna.com/local/594293

เพี้ยนปักหมุดศาลยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว 'อานนท์' ชี้คดีมีอัตราโทษสูง-ทำผิดเงื่อนไขศาล
11 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 17:48 น.    


 
11 ส.ค.64 - กรณีนายอานนท์ นำภา อายุ 36 ปี ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิ​มนุษยชน​ และแกนนำม็อบราษฎ ได้ถูกออกหมายจับเนื่องจากเข้าร่วมกิจกรรม "เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน" หรือม็อบแฮรี่พอตเตอร์ 2 ที่บริเวณลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนายอานนท์ได้กล่าวพาดพิงสถาบัน และฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ห้ามชุมนุมหรือมั่วสุมกันเกินกว่า 5 คนที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด และพ.ร.บ.โรคติดต่ออีกด้วย
ล่าสุด พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องฝากขังทางไกลผ่านจอภาพ นายอานนท์ นำภา อายุ 36 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ในความผิดฐานหมิ่นประมาทดูหมิ่นสถาบันฯ เเละข้อหาอื่นๆ ไปยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วันตั้งเเต่วันที่ 11-22 ส.ค.
 
ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังแล้วทนายความของผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายอานนท์ ล่าสุด ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง และพนักงานสอบสวนคัดค้านว่า หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราวจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก และมีการฝ่าฝืนเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลอาญาด้วย ชั้นนี้จึงเห็นควรไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง

 https://www.thaipost.net/main/detail/112992

นานาโอเคสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

ต้องการความยุติธรรมต้องใช้กฎหมายค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่