🔫 💣 🧨
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่าหนังใหม่ๆ นี่ผมหาช่องทางดูเอาเอง เพราะโรงหนังปิดไม่มีกำหนด ก็เลยไม่รู้จะดูหนังใหม่ๆ ยังไง แต่ไม่ได้สนับสนุนทางนี้นะครับ มาเข้าเรื่องกันเลย ต่อยอดความฮาและเรื่องราวสุดมันส์แบบวายป่วงมาจาก The Hitman's Bodyguard ปี 2017 ซึ่งเป็นเรื่องราวของ 1 บอดี้การ์ดมืออาชีพ กับ 1 อาชญากร ที่ต้องบังเอิญมาจับคู่ลุยกัน ซึ่งหนังได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างโอเค ก็เลยมาต่อยอดเป็นภาคสองที่มีการพาตัวละครใหม่มาร่วมแก๊งป่วนกันสนุกสนาน


🔫 💣 🧨
เรื่องราวในภาคนี้พูดถึง เมื่อ ไมเคิล ไบรซ์ (ไรอัน เรย์โนลด์) สุดยอดบอดี้การ์ดระดับพระกาฬ เลือกที่จะพักงานตัวเองเพื่อรักษาสภาพจิตใจ แต่แล้วเขากลับถูก ซอนย่า คินเคด (ซัลมา ฮาเย็ก) ภรรยาของมือสังหารรุ่นใหญ่ลายครามแห่งวงการนักฆ่าอย่าง ดาเรียส คินเคด (แซมมวล แอล แจ็คสัน) หลอกให้มาทำภารกิจช่วยตามหาสามีที่โดนลักพาตัว ก่อนที่ทั้งสามคนจะต้องร่วมมือกันหยุดยั้งวายร้ายสุดเหี้ยม อริสโตเติล (แอนโตนิโอ แบนเดอรัส) ที่หมายจะก่อวินาศกรรมทั่วยุโรป


🔫 💣 🧨
หนังยังคงเดินเรื่องเหมือนภาคที่แล้ว คือเอาความฮามาผสมความมันส์ ซึ่งคนที่ชอบหนังแอ็คชั่นมันส์ๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก แฝงด้วยมุขตลกที่ต่อปากต่อคำกันแบบกวนๆ เรื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอน เพราะหนังเปิดมาก็ไล่ล่ากันระโป้งป้างแล้ว โดยที่ยังไม่ต้องเกริ่นนำอะไรมากมาย หนังแค่บอกว่า ไมเคิล ไบร์ซ ที่วายป่วงมาในภาคแรก มาภาคนี้เจอผลกระทบทางจิตใจจนมีปัญหา เลยต้องการจะหยุดพักกายพักใจ แต่แล้วก็ไม่ได้พัก


🔫 💣 🧨
ความยาวหนังประมาณชั่วโมงสี่สิบกว่านาที หนังเลยไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง จัดความมันส์ความฮามาแบบเป็นชุดคอมโบต่อเนื่อง โดยเนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมาย ดาเรียส โดนจับ ติดต่อ ซอนย่า ให้ไปเรียก ไมเคิล มาช่วย พอออกมาได้ก็มีเรื่องของการก่อการร้ายของ อริสโตเติล เข้ามาให้ต้องเผชิญสถานการณ์กู้โลก ซึ่งเรื่องราวมันไม่สลับซับซ้อนอะไรเลย ออกจะทื่อๆ ตรงๆ ด้วยซ้ำ 


🔫 💣 🧨
แต่ด้วยความเป็นหนังแนว action comedy แบบนี้ จะหวังอะไรกับเนื้อหาที่มันหักมุม หรือหักเหลี่ยมเฉือนคมกับแบบเข้มข้นก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ หนังเลยใช้ความมันส์ฮามาเสิร์ฟเพื่อให้คนดูดูแบบไม่ต้องคิดอะไรมากแทน เป็นหนังเบาสมองที่ดูสนุกเพลินๆ เพื่อแก้เบื่อในช่วงที่ไปไหนไม่ได้แบบนี้ครับ

ชอบอ่านรีวิวหนัง มาพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai