เราเป็นคนสมุทรปราการ เป็นจ.ที่มีรง.อุตสาหกรรมมากจ.นึงเลย ได้ยินหลายที่ว่ารง.ไหนมีคนติดโควิดเยอะ เขาก็ทยอยปิดกันเพื่อฆ่าเชื้อและหยุดการแพร่ระบาด แต่เรามีเพื่อนที่ทำงานอยู่รง.อาหารชื่อดังแห่งหนึ่งย่านพระประแดง เป็นรง.ทำเครื่องปรุง เรารู้มาจากเพื่อนว่าที่รง.มีคนติดโควิดมากกว่า20คนแล้ว
เสียชีวิต1คน (ท้อง3เดือน) 😢รักษาหายแล้วน่าจะ3-4คน ช่วงแรกที่พบคนติด ทางรง.ก็ให้จนท.มาฉีดฆ่าเชื้อและให้พนง.กลับบ้านก่อนเวลาเลิกงานประมาน2ชม. แล้วจากนั้นก็เริ่มมีคนติดเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ นางบอกว่า20กว่าคนที่ติดเขาไม่ได้ติดพร้อมๆกันนะ แผนกเดียวกันบ้างคนละแผนกบ้างแยกๆกันไป จนเมื่อประมาน2อาทิตที่แล้ว นางบอกว่ารง.หาวัคซีนให้พนง.ฉีดได้แล้วแต่ไม่ได้บังคับ (เรารู้สึกได้ว่านางดีใจที่อย่างน้อยรง.ก็ทำไรให้พนง.บ้าง) แต่เรารู้อยุ่แล้วว่าเพื่อนเราได้ฉีดจากที่อื่น เลยไม่ได้ถามไปว่านางฉีดกับที่รง.มั้ย จนอาทิตที่แล้วนางได้ยินว่ามีคนติดเพิ่มขึ้นอีกประมาน7-8คน แล้วก็มีจนท.มาฆ่าเชื้อทุกครั้งที่มีคนติดเพิ่ม เราก็ตกใจว่าทำไมเพิ่มขึ้นเร็วจังไม่กี่วันเอง นางบอกแต่เขาไม่ได้อยู่แผนกเดียวกันนะ เพราะมันมีคนในหอด้วยที่ติด (นางบอกว่าบางคนที่อยู่หอก็ไม่ได้เป็นพนง.ของรง.เป็นแค่ครอบครัวของพนง.ที่มาพักที่หอ) แล้วก่อนหน้าที่จะมีฉีดของรง.นางบอกว่ารง.เปิดหอพักชั้นบนสุด ให้เป็นที่แยกสำหรับคนติดโควิด (เหมือนยังปกป้องรง.อยู่🙄) เราก็งงว่า อ้าว แต่ก็ยังอยู่ในหอเดียวกันเนี่ยนะ??
แล้วถามว่าทุกวันนี้นางก็ยังไปทำงานจ.-ส.เหมือนเดิมจ้ะ🤦🏻♀️ ทั้งรง.ไม่มีการหยุด หรือWFHใดๆทั้งสิ้น...
คือเราสงสัยว่า ทำไมคนติดเยอะขนาดนี้ถึงยังมีการทำงานต่อ?? ทำไมไม่มีหน่วยไหนไปตรวจสอบเลยหรอ? หรือว่าถ้ามีแล้วทำไมถึงยังให้เปิดได้?
หรือถ้าไม่มีใครไปตรวจสอบจริงๆ เพราะมีใครตั้งใจปิดข่าวหรือป่าว? แล้วการฆ่าเชื้อก็ไม่ใช่ทั้งรง.แต่เป็นเฉพาะสถานที่ที่คนติดทำงานอยู่
เราสงสารเพื่อนถึงได้มาตั้งกระทู้นี้ เราคิดว่าคนที่ติดมากกว่า20คนมันไม่ใช่น้อยๆเลย เป็นเพราะคนที่มีความคิดแบบนี้หรือป่าวว่ามันไม่เป็นอะไรหรอก แค่20กว่าคนเอง "แค่...เอง" ถึงได้มีคนติดเขื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างทุกวันนี้ สำหรับเรามันไม่ใช่คำว่าแค่ มันเป็นคำว่า "ตั้ง20กว่าคน!" ชีวิตของทุกคนมีค่า เราเข้าใจในจข.กิจการนะว่าเขาก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของบริษัทเอาไว้ให้ได้มากที่สุด แต่เราว่ามันไม่คุ้มเลยอะที่จะแลกมาด้วยชีวิตของพนง. 😢
อย่างน้อยก็ควรปิดสัก3-5วันเพื่อ"ฆ่าเชื้ออย่างจริงจัง" ถึงจะขาดทุนหรือได้กำไรน้อยลงมาหน่อย แต่ได้รักษาชีวิตของพนง.ไว้ เราว่ามันคุ้มกว่ามั้ย...
ทำไมรง.อาหารมีคนติดโควิดมากกว่า20คน แต่กลับไม่เคยโดนตรวจสอบให้ปิดเพื่อฆ่าเชื้อ??
เสียชีวิต1คน (ท้อง3เดือน) 😢รักษาหายแล้วน่าจะ3-4คน ช่วงแรกที่พบคนติด ทางรง.ก็ให้จนท.มาฉีดฆ่าเชื้อและให้พนง.กลับบ้านก่อนเวลาเลิกงานประมาน2ชม. แล้วจากนั้นก็เริ่มมีคนติดเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ นางบอกว่า20กว่าคนที่ติดเขาไม่ได้ติดพร้อมๆกันนะ แผนกเดียวกันบ้างคนละแผนกบ้างแยกๆกันไป จนเมื่อประมาน2อาทิตที่แล้ว นางบอกว่ารง.หาวัคซีนให้พนง.ฉีดได้แล้วแต่ไม่ได้บังคับ (เรารู้สึกได้ว่านางดีใจที่อย่างน้อยรง.ก็ทำไรให้พนง.บ้าง) แต่เรารู้อยุ่แล้วว่าเพื่อนเราได้ฉีดจากที่อื่น เลยไม่ได้ถามไปว่านางฉีดกับที่รง.มั้ย จนอาทิตที่แล้วนางได้ยินว่ามีคนติดเพิ่มขึ้นอีกประมาน7-8คน แล้วก็มีจนท.มาฆ่าเชื้อทุกครั้งที่มีคนติดเพิ่ม เราก็ตกใจว่าทำไมเพิ่มขึ้นเร็วจังไม่กี่วันเอง นางบอกแต่เขาไม่ได้อยู่แผนกเดียวกันนะ เพราะมันมีคนในหอด้วยที่ติด (นางบอกว่าบางคนที่อยู่หอก็ไม่ได้เป็นพนง.ของรง.เป็นแค่ครอบครัวของพนง.ที่มาพักที่หอ) แล้วก่อนหน้าที่จะมีฉีดของรง.นางบอกว่ารง.เปิดหอพักชั้นบนสุด ให้เป็นที่แยกสำหรับคนติดโควิด (เหมือนยังปกป้องรง.อยู่🙄) เราก็งงว่า อ้าว แต่ก็ยังอยู่ในหอเดียวกันเนี่ยนะ??
แล้วถามว่าทุกวันนี้นางก็ยังไปทำงานจ.-ส.เหมือนเดิมจ้ะ🤦🏻♀️ ทั้งรง.ไม่มีการหยุด หรือWFHใดๆทั้งสิ้น...
คือเราสงสัยว่า ทำไมคนติดเยอะขนาดนี้ถึงยังมีการทำงานต่อ?? ทำไมไม่มีหน่วยไหนไปตรวจสอบเลยหรอ? หรือว่าถ้ามีแล้วทำไมถึงยังให้เปิดได้?
หรือถ้าไม่มีใครไปตรวจสอบจริงๆ เพราะมีใครตั้งใจปิดข่าวหรือป่าว? แล้วการฆ่าเชื้อก็ไม่ใช่ทั้งรง.แต่เป็นเฉพาะสถานที่ที่คนติดทำงานอยู่
เราสงสารเพื่อนถึงได้มาตั้งกระทู้นี้ เราคิดว่าคนที่ติดมากกว่า20คนมันไม่ใช่น้อยๆเลย เป็นเพราะคนที่มีความคิดแบบนี้หรือป่าวว่ามันไม่เป็นอะไรหรอก แค่20กว่าคนเอง "แค่...เอง" ถึงได้มีคนติดเขื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างทุกวันนี้ สำหรับเรามันไม่ใช่คำว่าแค่ มันเป็นคำว่า "ตั้ง20กว่าคน!" ชีวิตของทุกคนมีค่า เราเข้าใจในจข.กิจการนะว่าเขาก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของบริษัทเอาไว้ให้ได้มากที่สุด แต่เราว่ามันไม่คุ้มเลยอะที่จะแลกมาด้วยชีวิตของพนง. 😢
อย่างน้อยก็ควรปิดสัก3-5วันเพื่อ"ฆ่าเชื้ออย่างจริงจัง" ถึงจะขาดทุนหรือได้กำไรน้อยลงมาหน่อย แต่ได้รักษาชีวิตของพนง.ไว้ เราว่ามันคุ้มกว่ามั้ย...