สืบเนื่องมาจากกระทู้ที่มีคนเคยตั้งคำถามไว้ว่า
ข้าราชการครูสามารถลาศึกษาต่อต่างประเทศได้ไหมคะ
เราได้เข้าไปตอบขั้นตอนต่างๆ ไว้ซึ่งค่อนข้างละเอียด ดังนั้นในกระทู้นี้จะเป็นการรวบรวมข้อมูลที่เคยตอบมา และจะอัพเดทขั้นตอนต่อๆ ไป
โดยข้อมูลทุกอย่างจะมาจากประสบการณ์ของเราโดยตรง เราคิดว่าประสบการณ์ที่เจอมาค่อนข้างเป็นประโยชน์
เลยอยากจะนำมาแชร์และเป็นข้อมูลให้เพื่อนครูท่านอื่นๆ เพราะก่อนหน้านี้เราหาข้อมูลโดยละเอียดจากในอินเทอร์เน็ตไม่ได้เลย
จะมีแค่เว็บไซต์ของสำนักพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่แปะลิ้งค์ระเบียบการและเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ไปอ่าน
ช่วงที่เขียนกระทู้นี้เป็นช่วงที่กำลังดำเนินการทางด้านเอกสารกับทางเขตพื้นที่การศึกษา อาจจะมีมาอัพเดทขั้นตอนเรื่อยๆ
ถ้าให้รอจบกระบวนการแล้วค่อยมาเขียนอาจลืมขั้นตอนได้
ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับคุณครูที่อยากจะลาศึกษาต่อต่างประเทศ (ส่วนหนึ่งเอามาจากระเบียบ แค่เขียนเป็นภาษาคน)
- คุณครูมีสิทธิลาไปเรียนต่อต่างประเทศได้ แต่ต้องตรงตามเงื่อนไขที่ระเบียบกำหนดออกมา
- ช่วงที่ลาไปเรียนต้องมีครูที่สามารถสอนแทนตำแหน่งเราได้ บางคนจ้างครูมาสอนแทน
- ข้าราชการครูสามารถลาไปศึกษาต่อต่างประเทศในสาขาที่ราชการต้องการมาก ซึ่งไม่มีการศึกษาในประเทศหรือมีแต่ยังไม่เพียงพอหรือสูงพอ
- ไปศึกษาได้ในระดับที่สูงกว่าปริญญาตรี และไม่สูงกว่าปริญญาโท ถ้าระดับปริญญาเอกต้องให้ลองคุยกับกับทางเขตก่อน
- ในช่วงระยะเวลาที่ไปศึกษาต่อ
ยังได้รับเงินเดือน และสามารถขอขึ้นเงินได้หลังจากที่เรียนจบ โดยต้องเขียนเอกสารเพิ่มเติม (แบบขออนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัตงานวิจัย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการและมีสิทธิได้รับการพิจาณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างลาไปศึกษาฝึกอบรม หรือปฏิบัตงานวิจัย ตามกฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550)
- มีการทำสัญญาผูกมัดให้กลับมารับราชการเป็นระยะเวลาเท่ากับเวลาที่ไปศึกษาต่างประเทศ เช่น ไปเรียน 2 ปี ก็ต้องกลับมาทำงาน 2 ปี
- ถ้าไม่ทำตามสัญญาหรือลาออกต้องชดใช้เงินให้ราชการ ตรงนี้ต้องมีคนเซ็นค้ำประกันด้วย
- ต้องพ้นตำแหน่งครูผู้ช่วยแล้ว
- ก่อนอื่นให้คุยกับ ผอ.โรงเรียน พูดคุยและตกลงให้เข้าใจก่อนเริ่มทำเอกสาร เพราะเอกสารเยอะมากกกกกกกกกกก จะได้ไม่เสียเวลา
ลิ้งค์ระเบียบการทั้งหมด
ดาวโหลดเอกสาร
-
แนวปฏิบัติสำหรับการขออนุญาตไปต่างประเทศของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
-
ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการทําสัญญาและการชดใช้เงิน กรณีรับทุน ลาศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย และปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548
-
แนวปฏิบัติในการขออนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปปฏิบัติงานวิจัย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการและมีสิทธิได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างลาไปศึกษาฝึกอบรม หรือปปฏิบัติงานวิจัย ตามกฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550
-
แบบฟอร์มต่างๆ
-
ตัวอย่างบันทึกข้อความ
ก่อนเริ่มทำเอกสารย้ำอีกครั้งว่า ให้คุยกับ ผอ. โรงเรียนก่อนและอ่านแนวปฏิบัติสำหรับการขออนุญาตไปต่างประเทศของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ขั้นตอนและเอกสารขออนุญาตลาศึกษาต่อต่างประเทศ
1. สมัครสอบและรอรับใบตอบรับจากมหาวิทยาลัย *ต้องตรวจสอบก่อนว่ามหาวิทยาลัยที่จะสมัครเป็นมหาวิทยาลัยที่ กพ. รับรอง
2. หลังจากได้รับเข้าเรียนแล้ว ให้ทำบันทึกข้อความขออนุญาตผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมแนบใบตอบรับจากมหาวิทยาลัย
3. รวบรวมเอกสารส่งให้เขตพื้นที่การศึกษาให้ต้นสังกัด เขตฯจะส่งเอกสารของเราต่อให้สำงาน ก.พ. เอง
1.) เอกสารส่งให้เขตพิจารณาประกอบด้วย
1. บันทึกข้อความขออนุญาตลาศึกษาต่อ พร้อมลายเซ็นอนุญาตจาก ผ.อ.โรงเรียน
2. แบบใบลาไปศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัยหรือดูงาน
3. โครงการ หรือแนวการศึกษา หรือแนวฝึกอบรม ณ ต่างประเทศ
4. เหตุผล ความจำเป็นและโครงการ
5. กพ.7 (ขอที่เขตฯ)
6. หนังสือตอบรับจากมหาวิทยาลัย (บางเขตฯอาจจะขอให้แปลเป็นภาษาไทย)
7. หลักฐานการได้รับทุน (กรณีได้รับทุน)
8. หลักฐานการสำเร็จการศึกษาวุฒิเดิม
9. ผลสอบภาษา (ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนด)
10. บันทึกข้อความแจ้งความประสงค์ขอตรวจร่างกาย ส่งถึง ผ.อ.เขต (เขตฯจะทำหนังสือส่งตัวเราไปตรวจที่โรงพยาบาลที่เราจองไว้)
11. สัญญาอนุญาตให้ข้าราชการไปศึกษา ฝึกอบรมหรือปฏิบัติการวิจัย ณ ต่างประเทศ (ทำสัญญา 2 ฝ่ายระหว่างเราและเขตฯ)
12. สัญญาค้ำประกัน (เขตฯเรา พ่อแม่ต้องเป็นคนเซ็นค้ำเท่านั้น)
- เอกสารสัญญาทั้ง 2 ฉบับต้องไปเซ็นที่เขตฯ
- แนบสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านและสำเนาทะเบียนสมรสของผู้เซ็นค้ำประกัน (เซ็นสำเนาถูกต้องทุกฉบับ)
13. แบบขออนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัตงานวิจัย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการและมีสิทธิได้รับการพิจาณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างลาไปศึกษาฝึกอบรม หรือปฏิบัตงานวิจัย ตามกฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550
4. จองคิวตรวจสุขภาพ ณ โรงพยาบาลที่ ก.พ. รับรอง แบ่งเป็นตรวจสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต****
ขั้นตอนนี้ทาง กพ.บังคับตรวจสุขภาพกายและสุขภาพจิตนักเรียนทุน กพ. และข้าราชการที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศทุกคนนะคะ
รายละเอียดตาม
ลิ้งค์นี้
5.ไปตรวจสุขภาพตามนัด การตรวจสุขภาพจะแตกต่างกันไปแต่ละโรงพยาบาลนะคะ บางที่อาจจะรับตรวจทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต แต่บางที่อาจจะรับแค่อย่างเดียว ของเราแยกไปตรวจคนละโรงพยาบาลค่ะ แล้วทางโรงพยาบาลจะส่งผลตรวจไปที่เขต พอตรวจสุขภาพเสร็จโรงพยาบาลจะส่งผลตรวจมาที่เขตโดยตรง
6. เมื่อเราส่งเอกสารครบหมดแล้ว ทางเขตจะพิจารณาอนุมัติแล้วออกเป็นคำสั่งราชการให้เรา ในกรณีของเรารอเขตฯพิจารณาและออกหนังสืออนุมัติให้ประมาณ 3 วัน
หลังจากนี้ก็เตรียมตัวแพ็คกระเป๋าไปเรียนได้เลยค่ะ
อย่าลืมทำบันทึกข้อความมอบหมายภาระงานระหว่างที่เราไม่อยู่ด้วยนะคะ
ข้าราชการครูก็ไปเรียนต่อต่างประเทศได้ (ทุนส่วนตัว)
เราได้เข้าไปตอบขั้นตอนต่างๆ ไว้ซึ่งค่อนข้างละเอียด ดังนั้นในกระทู้นี้จะเป็นการรวบรวมข้อมูลที่เคยตอบมา และจะอัพเดทขั้นตอนต่อๆ ไป
โดยข้อมูลทุกอย่างจะมาจากประสบการณ์ของเราโดยตรง เราคิดว่าประสบการณ์ที่เจอมาค่อนข้างเป็นประโยชน์
เลยอยากจะนำมาแชร์และเป็นข้อมูลให้เพื่อนครูท่านอื่นๆ เพราะก่อนหน้านี้เราหาข้อมูลโดยละเอียดจากในอินเทอร์เน็ตไม่ได้เลย
จะมีแค่เว็บไซต์ของสำนักพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่แปะลิ้งค์ระเบียบการและเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ไปอ่าน
ช่วงที่เขียนกระทู้นี้เป็นช่วงที่กำลังดำเนินการทางด้านเอกสารกับทางเขตพื้นที่การศึกษา อาจจะมีมาอัพเดทขั้นตอนเรื่อยๆ
ถ้าให้รอจบกระบวนการแล้วค่อยมาเขียนอาจลืมขั้นตอนได้
ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับคุณครูที่อยากจะลาศึกษาต่อต่างประเทศ (ส่วนหนึ่งเอามาจากระเบียบ แค่เขียนเป็นภาษาคน)
- คุณครูมีสิทธิลาไปเรียนต่อต่างประเทศได้ แต่ต้องตรงตามเงื่อนไขที่ระเบียบกำหนดออกมา
- ช่วงที่ลาไปเรียนต้องมีครูที่สามารถสอนแทนตำแหน่งเราได้ บางคนจ้างครูมาสอนแทน
- ข้าราชการครูสามารถลาไปศึกษาต่อต่างประเทศในสาขาที่ราชการต้องการมาก ซึ่งไม่มีการศึกษาในประเทศหรือมีแต่ยังไม่เพียงพอหรือสูงพอ
- ไปศึกษาได้ในระดับที่สูงกว่าปริญญาตรี และไม่สูงกว่าปริญญาโท ถ้าระดับปริญญาเอกต้องให้ลองคุยกับกับทางเขตก่อน
- ในช่วงระยะเวลาที่ไปศึกษาต่อยังได้รับเงินเดือน และสามารถขอขึ้นเงินได้หลังจากที่เรียนจบ โดยต้องเขียนเอกสารเพิ่มเติม (แบบขออนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัตงานวิจัย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการและมีสิทธิได้รับการพิจาณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างลาไปศึกษาฝึกอบรม หรือปฏิบัตงานวิจัย ตามกฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550)
- มีการทำสัญญาผูกมัดให้กลับมารับราชการเป็นระยะเวลาเท่ากับเวลาที่ไปศึกษาต่างประเทศ เช่น ไปเรียน 2 ปี ก็ต้องกลับมาทำงาน 2 ปี
- ถ้าไม่ทำตามสัญญาหรือลาออกต้องชดใช้เงินให้ราชการ ตรงนี้ต้องมีคนเซ็นค้ำประกันด้วย
- ต้องพ้นตำแหน่งครูผู้ช่วยแล้ว
- ก่อนอื่นให้คุยกับ ผอ.โรงเรียน พูดคุยและตกลงให้เข้าใจก่อนเริ่มทำเอกสาร เพราะเอกสารเยอะมากกกกกกกกกกก จะได้ไม่เสียเวลา
ลิ้งค์ระเบียบการทั้งหมด
ดาวโหลดเอกสาร
- แนวปฏิบัติสำหรับการขออนุญาตไปต่างประเทศของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
- ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการทําสัญญาและการชดใช้เงิน กรณีรับทุน ลาศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย และปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548
- แนวปฏิบัติในการขออนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปปฏิบัติงานวิจัย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการและมีสิทธิได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างลาไปศึกษาฝึกอบรม หรือปปฏิบัติงานวิจัย ตามกฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550
- แบบฟอร์มต่างๆ
- ตัวอย่างบันทึกข้อความ
1. สมัครสอบและรอรับใบตอบรับจากมหาวิทยาลัย *ต้องตรวจสอบก่อนว่ามหาวิทยาลัยที่จะสมัครเป็นมหาวิทยาลัยที่ กพ. รับรอง
2. หลังจากได้รับเข้าเรียนแล้ว ให้ทำบันทึกข้อความขออนุญาตผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมแนบใบตอบรับจากมหาวิทยาลัย
3. รวบรวมเอกสารส่งให้เขตพื้นที่การศึกษาให้ต้นสังกัด เขตฯจะส่งเอกสารของเราต่อให้สำงาน ก.พ. เอง
1.) เอกสารส่งให้เขตพิจารณาประกอบด้วย
1. บันทึกข้อความขออนุญาตลาศึกษาต่อ พร้อมลายเซ็นอนุญาตจาก ผ.อ.โรงเรียน
2. แบบใบลาไปศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัยหรือดูงาน
3. โครงการ หรือแนวการศึกษา หรือแนวฝึกอบรม ณ ต่างประเทศ
4. เหตุผล ความจำเป็นและโครงการ
5. กพ.7 (ขอที่เขตฯ)
6. หนังสือตอบรับจากมหาวิทยาลัย (บางเขตฯอาจจะขอให้แปลเป็นภาษาไทย)
7. หลักฐานการได้รับทุน (กรณีได้รับทุน)
8. หลักฐานการสำเร็จการศึกษาวุฒิเดิม
9. ผลสอบภาษา (ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนด)
10. บันทึกข้อความแจ้งความประสงค์ขอตรวจร่างกาย ส่งถึง ผ.อ.เขต (เขตฯจะทำหนังสือส่งตัวเราไปตรวจที่โรงพยาบาลที่เราจองไว้)
11. สัญญาอนุญาตให้ข้าราชการไปศึกษา ฝึกอบรมหรือปฏิบัติการวิจัย ณ ต่างประเทศ (ทำสัญญา 2 ฝ่ายระหว่างเราและเขตฯ)
12. สัญญาค้ำประกัน (เขตฯเรา พ่อแม่ต้องเป็นคนเซ็นค้ำเท่านั้น)
- เอกสารสัญญาทั้ง 2 ฉบับต้องไปเซ็นที่เขตฯ
- แนบสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านและสำเนาทะเบียนสมรสของผู้เซ็นค้ำประกัน (เซ็นสำเนาถูกต้องทุกฉบับ)
13. แบบขออนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัตงานวิจัย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการและมีสิทธิได้รับการพิจาณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างลาไปศึกษาฝึกอบรม หรือปฏิบัตงานวิจัย ตามกฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550
4. จองคิวตรวจสุขภาพ ณ โรงพยาบาลที่ ก.พ. รับรอง แบ่งเป็นตรวจสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต****
ขั้นตอนนี้ทาง กพ.บังคับตรวจสุขภาพกายและสุขภาพจิตนักเรียนทุน กพ. และข้าราชการที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศทุกคนนะคะ
รายละเอียดตามลิ้งค์นี้
5.ไปตรวจสุขภาพตามนัด การตรวจสุขภาพจะแตกต่างกันไปแต่ละโรงพยาบาลนะคะ บางที่อาจจะรับตรวจทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต แต่บางที่อาจจะรับแค่อย่างเดียว ของเราแยกไปตรวจคนละโรงพยาบาลค่ะ แล้วทางโรงพยาบาลจะส่งผลตรวจไปที่เขต พอตรวจสุขภาพเสร็จโรงพยาบาลจะส่งผลตรวจมาที่เขตโดยตรง
6. เมื่อเราส่งเอกสารครบหมดแล้ว ทางเขตจะพิจารณาอนุมัติแล้วออกเป็นคำสั่งราชการให้เรา ในกรณีของเรารอเขตฯพิจารณาและออกหนังสืออนุมัติให้ประมาณ 3 วัน
หลังจากนี้ก็เตรียมตัวแพ็คกระเป๋าไปเรียนได้เลยค่ะ
อย่าลืมทำบันทึกข้อความมอบหมายภาระงานระหว่างที่เราไม่อยู่ด้วยนะคะ