จากกระทู้เก่าที่คุยกันถึงว่าเมื่อเชื้อเดลต้ามีความสามารถในการแพร่กระจายมากขึ้น ทำให้เราอาจต้องฉีดวัคซีนกันให้ได้มากถึง 90% ของประชากร จึงจะเกิด Herd Immunuty ซึ่งในทางปฏิบัติมันยากมากๆ https://m.pantip.com/topic/40866991

วันนี้ได้อ่านรายงานสถานการณ์ที่ประเทศเดนมาร์ก ทางคณะแพทย์ของประเทศเดนมาร์กก็ประเมินการเกิด Herd Immunity ใหม่ ตามเชื้อเดลต้า ได้ค่าใกล้เคียงกันครับ คือ ต้องฉีดให้ครอบคลุมถึง 85% ของประชากร ซึ่งในทางปฏิบัติเกิดได้ยาก

ที่มา : https://www.facebook.com/249245651792690/posts/4586493304734548/?d=n

-------------------------------------------

รายงานสถานการณ์โควิด-19 ที่เดนมาร์ก

1. #สถานะปัจจุบัน (สถานะ ณ วันที่ 5 ส.ค. 2564 เวลา 14.00 น)
- ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 932 คน จากผู้เข้ารับการตรวจ 53,634 คน (อัตราการตรวจพบผลเป็นบวกร้อยละ 1.74)   
- ผู้เข้ารับการรักษาที่ รพ. 62 คน (เพิ่มขึ้น 3 คน)
- ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 2,552 คน (ร้อยละ 0.8 ของผู้ติดเชื้อสะสม 321,154 คน) 

2. #การฉีดวัคซีน COVID-19 
- สถานะ ณ วันที่ 5 ส.ค. 2564 เวลา 14.00 น. มีผู้ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว 4,254,246 คน (คิดเป็นร้อยละ 72.7 ของประชากร) และผู้ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้ว 3,341,719 คน (คิดเป็นร้อยละ 57.1 ของประชากร) 
.
- ผู้เชี่ยวชาญเดนมาร์กระบุว่า การบรรลุภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้จะเป็นไปได้ยาก เว้นแต่เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีจะได้รับการฉีดวัคซีนด้วย เนื่องจากเป้าหมายการบรรลุ herd immunity ได้ปรับเพิ่มเป็นการฉีดวัคซีนครบร้อยละ 85 ของประชากร (เดิมอยู่ที่ร้อยละ 60) สืบเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
.
- Danish Health Authority รายงานว่า มีผู้ได้รับข้อเสนอให้เข้ารับการฉีดวัคซีนแต่ยังไม่ได้นัดเวลาหรือปฏิเสธการฉีดวัคซีนจำนวนกว่า 800,000 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 16 ของประชากร ทั้งนี้ ยังคงมั่นใจว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และจะพยายามชักชวนให้ประชากรอีกร้อยละ 5 ที่ต่อต้านการฉีดวัคซีนเปลี่ยนใจมาขอรับวัคซีนให้ได้
.
- นับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. 2564 เป็นต้นไป Capital Region เปิดโอกาสให้ประชากรเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ได้โดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้า ซึ่งประชากรสามารถเข้าไปฉีดวัคซีนได้ตามศูนย์ฉีดวัคซีนทุกแห่งในภูมิภาคตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. 
.
3. เมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 SSI ได้เผยแพร่ผลการศึกษาประสิทธิภาพ #การฉีดวัคซีนแบบผสม กล่าวคือ วัคซีน AstraZeneca เข็มแรก ตามด้วย Moderna หรือ Pfizer เข็มที่สอง ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 ใกล้เคียงกับวัคซีน Pfizer/BioNTech จำนวน 2 โดส โดยสามารถลดความเสี่ยงติดเชื้อได้ร้อยละ 88 เทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งการศึกษาในเดนมาร์กก่อนหน้านี้พบกว่า วัคซีน Pfizer/BioNTech จำนวน 2 โดส มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ร้อยละ 90 นอกจากนี้ SSI พบว่าวัคซีน AstraZeneca เข็มแรกลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้ร้อยละ29-44 ในช่วง 14-83 วันหลังจากได้รับวัคซีน ทั้งนี้ ไม่มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแบบผสมต้องเข้ารับการรักษาที่ รพ. หรือเสียชีวิตจึงไม่สามารถระบุประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนแบบผสมในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงหรือการเสียชีวิตได้นอกจากนี้ การศึกษาดังกล่าวไม่ครอบคลุมช่วงที่ไวรัส delta variant เป็นสายพันธุ์หลักของการแพร่ระบาด ดังนั้นจึงไม่สามารถระบุประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนแบบผสมนี้ต่อไวรัส delta variant ได้

4. รบ. จะผ่อนคลายมาตรการข้อจำกัดเพิ่มเติม โดยตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. 2564 เป็นต้นไป ไม่จำเป็นต้องแสดง#CoronaPass ในการเข้าใช้พื้นที่สาธารณะ เช่น โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส พิพิธภัณฑ์ และสวนสัตว์ แต่ยังคงใช้ในการเข้าร้านอาหารต่อไปจนถึงวันที่ 1 ก.ย. 2564 อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการผ่อนคลายมาตรการในขณะนี้ ซึ่งจะทำให้ยับยั้งการแพร่เชื้อได้น้อยลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนหนุ่มสาว