ปัญหาค่าตอบแทนในประเทศไทยกับค่าครองชีพ

คิดไว้ในใจมานานแล้วว่าจะมาเขียนเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้
ขอเน้นเลยนะครับ ผมส่งสาสน์นี้ ถึงคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ

ประเทศไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนามานานมากแล้ว  
ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ อายุประมาณสามสิบลงไป ก็ประสบความยากลำบากเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น
แต่ค่าตอบแทนการจ้างแรงงาน...บ้าไปแล้ว สั้นๆง่ายๆละกันเดี๋ยวมันจะยาว.
มีอยู่วันหนึ่งผมไปเข้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ในนั้นขายองุ่นคุณภาพดีตัวเลขราคาที่ผมเห็นนั้นตีเป็นราคาเท่ากับที่ขายที่สวีเดน ถ้าจำไม่ผิด
คนไทยรับค่าแรงวันละ300กว่าๆ แต่ต้องซื้อผลไม้เกรดดีดี ด้วยราคาเท่าคนยุโรป .... นี่มันอะไรกันเนี่ย
ใครจะว่าอะไรผมว่าไม่เข้าใจเศรษฐศาตร์ การเงิน หรืออะไรก็แล้วแต่ เอาเป็นว่า "ทฤษฎี มันไม่เหนือกว่าความเป็นจริงหรอก" ผมมองแบบนี้

ยิ่งวิกฤต Covid19 มายิ่งเร่งให้ปัญหาที่มีอยู่ภายในประทุออกมาเร็วขึ้น
บริษัทเล็กใหญ่ต่างพากันขอลดค่าจ้างลง ซึ่งปกติก็ไม่ได้มากมายอยู่แล้วเมื่อเทียบกับภาระที่มี
ผู้เขียนเองเคยทำงานด้วยเงินเดือน 5500 เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว และขยับมา 7พันบาท เลี้ยงทั้งพ่อ,แม่,น้อง และ ส่งตัวเองเรียน

วิกฤต Covid19 ทำให้เห็นธาตุแท้ของคนหรือบริษัท
บริษัทบางแห่งปลดลูกจ้างแบบผิดกฎหมายเบี้ยวเงินดื้อๆก็มี ลองถามคนที่โดนละกันไม่ต้องมาขอหลักฐานนู่นนี่นั่น
บริษัทบางแห่ง ให้ลูกจ้างไปทำงานก็หลายวัน เสร็จแล้วพอครบเดือน ก็บอกว่า "อ๋อ ผมจ่ายเป็นวันหยุดให้คุณแทนละกัน"
เอ่อ....ท่านนายจ้างครับแล้วเงินที่ผมเดินทางมาทำงานให้คุณทุกวันค่ากินค่ารถ ละครับ.... "คุณต้องทุ่มเทสิ เพื่อองกรณ์" Yes, sir!

บริษัทบางแห่ง เล่นแง่ไม่ยอมจ่ายเงินสะสมในส่วนของนายจ้างให้ลูกจ้าง บางเคสนับล้านบาท
แต่ใช้วิธีปล่อยให้ลูกจ้างฟ้องเพื่อประวิงเวลาให้ตัวเอง พอฟ้องตัวเองก็ส่งทีมทนายสู้ สุดท้ายจบเจรจานายจ้างขอผ่อนจ่าย
....เงินนับล้านแต่มาขอผ่อนจ่าย ลูกจ้างก็อายุ60ปีแล้ว ฉลาดไหมล่ะ กลเม็ดของนายจ้าง

อ้าวก็มีกฎหมายคุ้มครอง ถ้านายจ้างทำผิดก็ไปฟ้องศาลสิ.... ครับท่านผู้รู้ดี
คุณคิดว่าลูกจ้างมีต้นทุนมากพอไหมที่จะสู้คดีจนกระทั่งชนะคดี?
ต้นทุนที่ว่านี้ ไม่ใช่บ้าน ไม่ใช่รถ แต่เป็น..... ต้นทุนทางเวลาและเงิน
และอีกอย่าง ใครที่ฟ้องนายจ้างชนะมันจะพบจุดจบในอุตสาหกรรมนั้นหรือแวดวงนั้นไปเลย
"อ๋อ อย่าไปรับมันเข้าทำงาน ไอนี่ยิ้มฟ้องบริษัท ทำงานก็มีปัญหาข้อต่อรองเยอะ" ผมอยากรู้ว่าประเทศไทยมีกฎหมายคุ้มครองตรงนี้เหมือนในต่างประเทศหรือไม่?

อยากบอกเด็กรุ่นใหม่ว่า รีบทำงานหาประสบการณ์แล้ว มาเปิดกิจการของตัวเองซะ อย่าไปเป็นลูกจ้างเขาจนแก่
เป็นลูกจ้างเสียเปรียบมากมายเชื่อผม!!!
คุณดูค่าตอบแทนที่เขาจ่ายให้เราโดยมีกฎหมายบังคับ มันน้อยนิดมาก เรียกได้ว่าให้คุณพอมีชีวิตอยู่ได้ แต่ ไม่ให้คุณตั้งตัวได้
เพราะระบบต้องการ "ให้คุณเป็นทาส แรงงงานไปตลอดกาลยังไงล่ะ"
บริษัทในไทยตอนไปสมัครงาน รายละเอียดการทำงานในสัญญาจ้างมี10อย่าง ทำงานจริงมา100 "ทุ่มเทเพื่อบริษัทครับและเพื่อการเรียนรู้"
ในต่างประเทศทำงานตามสัญญาที่ได้มีการตกลงกันไว้  ส่วนในไทย..... คุณจะเห็นได้จากเว็บรับสมัครงานทั่วๆไป ว่า
 รับสมัครกราฟฟิคดีไซน์
 ทำPhotoship, Illustrator, หรือ Animation ได้
 สามารถทำเว็บไซต์ได้ และ ดูแลเว็บการตลาด
 เงินเดือน 15,000 บาท

 รับสมัครไอทีซัพพอร์ต
 ดูและระบบกล้องวงจรปิดและไอพีทีวี
 เซอร์เวอร์ต่างๆ VMWARE
 Networking WIFI
 ดูแลคอมพิวเตอร์สำนักงาน
 นำเสนอโปรเจคใหม่
 ดูแลเว็บไซต์
 ทำกราฟฟิค
 และอื่นๆที่ได้รับมอบหมาย
 เงินเดือน 15,000 บาท
 ฝากถึงบริษัทที่รับสมัครคนไปทำงานแล้วคิดแบบนี้ว่า "มิงเชื่อกรู ไปจ้างเทวดามาทำงานเถอะ สัส!"

 ถ้าทำงานขนาดนี้เงินเดือน 15,000บาท ลูกจ้างทั้งหลายพี่ขอบอกว่า "มิงนอนอยู่บ้านเหอะ เชื่อกรู หรือ เปิดบริษัทตัวเองดีกว่า"
 อยากบอกน้องๆที่เริ่มทำงานว่า "เวลาก็เป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง จำไว้" อย่าให้เขาหรือระบบมาเอาเปรียบเรา!!
ผมเคยอยู่ต่างประเทศนานนับหลักปี เห็นความแตกต่างในการจ้างงานมา ผมเกิดคำถามในใจว่า ทำไมในไทยถึงเอาเปรียบลูกจ้างถึงเพียงนี้!!

เขียนจากประสบการ์ณจริงล้วนๆ ตัวผู้เขียนทำงานอยู่ในระดับสูงแล้ว

ส่วนตัวผมชอบเพจย้ายประเทศกันเถอะ ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีโอกาสย้ายก็ตาม
#ย้ายประเทศกันเถอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่