อยากจะถามว่าผมควรทำไงต่อดี + อยากแชร์ว่าก่อนซื้อให้ดู Dev ดีๆหน่อย + ระบาย
เริ่มเรื่องเลยน้ะครับ
ผมซื้อคอนโดย่านไทรม้า
- ทำสัญญาปลาย เม.ย. 62
- เข้าอยู่ปลาย พ.ค. 62
วันที่ 15 มิ.ย. 62 ฝนตกหนักมากจนทำให้เกิดเหตุที่ทำให้ตกใจกับราคา 2M ที่เสียไปคือ น้ำฝนซึมจากผนังด้านนอกเข้ามาด้านใน ถึงกับนองพื้น จะใช้คำว่าซึมก็ไม่ถูก เรียกว่าไหลเป็นทางเลยดีกว่า ผมเป็นห้องมุมจึงมีผนังที่อีกด้านเป็นนอกอาคารอยู่2ด้าน ทำให้ได้รับน้ำทั้ง2ด้าน และฝนต้องสาดมาตรงๆกับผนังน้ำถึงจะเข้า จากนั้นผมก็แจ้งโครงการให้ดำเนินการอะไรสักอย่างทันที
หลังจากนั้นมหากาพย์การลางานของผมเพื่อมาเฝ้าช่างทำงานก็เริ่มขึ้น
ในขณะระหว่างวันที่ 16 มิ.ย. 62 ถึง 11 ก.ค. 62 ฝนก็ยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันผมได้ประสานงานกับวิศวกรโครงการ ว่าเหตุเกิดจากอะไร แล้วจะแก้ไขอย่างไรอยู่ตลอด วิศวกรโครงการแจ้งมาโดยสรุปดังนี้
1.ผมใช้วัสดุอุด precast ที่ดีที่สุดในท้องตลาดแล้ว
2.เป็นเรื่องปกติของคอนโดสร้างใหม่ **ตรงนี้ผมร้องเอ๊ะในใจเลย ว่ามันจริงหรอ
3.มีห้องที่มีปัญหาแบบนี้ในโครงการ เท่าที่โครงการได้รับแจ้งมา มีน้อยมาก (แต่หลังจากผ่านมา2ปี เท่าที่ผมทราบก็นับ10แล้ว ส่วนมากเป็นห้องมุม)
4.น้ำฝนอาจจะเข้าทางรอยต่อจากชั้นบนๆห้องผมขึ้นไป และผมอยู่ล่างๆมันเลยมาทะลักที่ห้องผม
วันที่ 12 ก.ค. 62 หลังจากโรยตัวด้านนอกหลายครั้งก็ยังไม่หาย วิศวกรเลยสั่งให้ผ่าฝ้าเพดานเพื่อฉีดโฟมอุดจากภายใน และทาสีทับคราบน้ำจากที่ฝนซึมครั้งก่อนๆ เป็นเพราะฝนไม่สาดมาทิศทางที่มีปัญหา หรืออะไรก็ตามแต่ ฝนก็ไม่ซึมเข้ามาอีกเลย
แต่ วันที่ 15 มี.ค. 63 น้ำฝนก็นองอยู่ที่พื้นห้องอีกครั้ง เพิ่มเติมคือปัญหาผนังห้องร้าวรอบทิศทาง ผมเลยได้แจ้งทั้ง2เรื่องให้โครงการทราบ วิศวกรคนเดิมที่เริ่มเห็นจนชินตาก็มาทำปัญหาผนังร้าวให้รอบห้อง พร้อมแจ้งว่าเรื่องฝนจะโรยตัวแก้ไขอีกครั้ง
เนื่องจากเป็นฝนหลงฤดู จึงดูเหมือนมันจะเบาบางลง ซึมอีกทีห่างกันเป็นเดือนคือ 26 พ.ค. 63 และ 8 มิ.ย. 63 ผมจึงตั้งคำถามว่าคุณได้โรยตัวแล้วหรือยังจากที่ผมแจ้งไปวันที่ 15 มี.ค. 63 วิศวกรแจ้งว่า "ทำแล้วครับ" ผมถามกลับว่า "ทำไมมันไม่หายน้ำยังซึมมาอยู่เลย ผมให้ทำก่อนถึงหน้าฝน เพราะเดี๋ยวจะมาอ้างว่าฝนตกโรยตัวไม่ได้อีก" จากนั้นวันที่ 15 มิ.ย. วิศวกรถ่ายรูปช่างกำลังโรยตัวแก้ไขตำแหน่งห้องผมให้ดู ผมก็อุ่นใจเพราะคิดว่าได้เห็นเขาแก้ไขกับตาแล้ว เรื่องคงจบแล้วหล่ะ แต่ด้วยหน้าฝนปี 63 ผมไม่ได้อยู่ห้องเลย ตั้งแต่ ก.ย.-พ.ย. ทำงานตจว.ตลอดทามไลน์ฝนซึมจึงหายไปในช่วงนี้ แต่น่าจะมีฝนเข้าเพราะมีเชื้อราดำๆขึ้นตามขอบหน้าต่างและผนังแล้ว
แต่หน้าฝนปี 64 เริ่มหนัก น้ำเข้ามาก และเชื้อราที่ผนังเริ่มมากขึ้น ตอนนี้เดือน 8 ฝนเริ่มเบา เลยกะว่าจะคุยกับวิศวกรเจ้าเก่าว่าจะเอาไงต่อ แล้วเขาตอบกับมาว่า "นิติเป็นคนดูแลเรื่องนี้แล้วครับ" ผมงงหนักเลยโยนไปได้ไง หมดประกันแล้วหรอ หรือยังไง แต่ที่คุณซ่อมๆมาตั้งแต่ย้ายเข้าอยู่เดือนแรก คุณยังแก้ไม่หายเลย โยนได้ด้วยหรอ
นิติเองก็มีเคสค้างอยู่กับผมเหมือนกัน เรื่องท่อ Main KW ตันทำให้น้ำล้างจานจากห้องบนๆทะลักห้องผม ตอนผมไม่อยู่ พื้นพัง ชุดครัวพัง นิติขอใบเสนอราคาช่างเป็นเดือน หาได้แค่เจ้าเดียวด้วย นิติบอกยังหาอีก2เจ้าไม่ได้ จนผมต้องเสนอตัวหาให้อีก2เจ้า เกิดเหตุวันที่ 6 มิ.ย. 64 จนถึงวันนี้ (1 ส.ค. 64) พื้นยังเน่าอยู่เลย แล้วผมจะไว้ใจให้นิติไปหาช่างโรยตัวได้ยังไง แล้วมันโยนงานที่ยังแก้ไม่เสร็จแบบนี้ได้ด้วยหรือ ใจนึงก็สงสารนิติน้ะ
ที่ผมอยากทราบจากพี่ๆน้าๆคือ
1. ผนังห้องผมถือเป็นโครงสร้างอาคารหรือไม่ครับ
2. ผมควรทำอย่างไรต่อดี ผมแค่ต้องการอยู่แบบสงบสุข ไม่มีน้ำซึม ไม่มีช่างเข้าๆออกๆห้องบ่อยๆ
3. อยากร้องสคบ. แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า แล้วจะฟ้องเอาอะไร เงินชดเชยผมก็ไม่เอา ซื้อห้องคืนโครงการก็คงไม่ทำ หรือให้กำหนดเส้นตายวันที่จะซ่อมให้เสร็จและให้การรับประกันของโครงการเพิ่มอีก ถ้าให้รวมห้องที่เจอเหมือนกันไปร้อง คงจะรวมตัวกันได้ไม่มาก เพราะลูกบ้านไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการเรียกร้องอะไรแบบนี้ อาจจะเพราะตัวเองเจอมาแค่ 1-2 ครั้ง บวกกับวิศวกรโครงการรับปากว่าถ้ามีปัญหาอีกก็จะมาซ่อมให้อีก ลูกบ้านจึงเชื่อใจโครงการ แต่ผมก็โดนวิศวกรพูดแบบนี้เหมือนกันเมื่อ2ปีที่แล้ว
4. ถ้าฟ้องสคบ.ผมมีโอกาสโดนฟ้องกลับไหมครับ แต่ผมถ่ายรูปลง TimeStamp ไว้ตั้งแต่วันแรกที่น้ำเข้า ข้อมูลฝั่งผมแน่นพอตัว
ช่วยแนะนำทีครับ
ปล.โพสแบบนี้กลัวพรบ.คอมมากครับ พยายามไม่ลงลึก หรือลงรูป และยังมีปัญหาอีกเยอะที่นี่ แต่ถ้าบอกหมดจะรู้เลย ให้โฟกัสที่น้ำซึมผนังห้องผมก็พอครับ
ปล2.ผมเคยเข้าพบกับระดับกรรมการของบ. Dev นี้แล้ว เค้า Type เดียวกับ ผอ.รร.ดังที่เพิ่งเสียชีวิตไปครับ ผมเลยไม่อยากคุยแล้ว เนื่อย ผมอยากหาคนกลางหรือทางอื่นๆมากกว่า
ปล3.ดู Dev ดีๆก่อนซื้อ และอย่าเชื่อเซลมาก เซลไม่ได้หวังดีแต่หวังยอดครับ
ทำอย่างไรดีครับ น้ำฝนซึมผนัง โครงการแก้มา 2 ปี ไม่หาย ล่าสุดโยนให้นิติแล้ว
เริ่มเรื่องเลยน้ะครับ
ผมซื้อคอนโดย่านไทรม้า
- ทำสัญญาปลาย เม.ย. 62
- เข้าอยู่ปลาย พ.ค. 62
วันที่ 15 มิ.ย. 62 ฝนตกหนักมากจนทำให้เกิดเหตุที่ทำให้ตกใจกับราคา 2M ที่เสียไปคือ น้ำฝนซึมจากผนังด้านนอกเข้ามาด้านใน ถึงกับนองพื้น จะใช้คำว่าซึมก็ไม่ถูก เรียกว่าไหลเป็นทางเลยดีกว่า ผมเป็นห้องมุมจึงมีผนังที่อีกด้านเป็นนอกอาคารอยู่2ด้าน ทำให้ได้รับน้ำทั้ง2ด้าน และฝนต้องสาดมาตรงๆกับผนังน้ำถึงจะเข้า จากนั้นผมก็แจ้งโครงการให้ดำเนินการอะไรสักอย่างทันที
หลังจากนั้นมหากาพย์การลางานของผมเพื่อมาเฝ้าช่างทำงานก็เริ่มขึ้น
ในขณะระหว่างวันที่ 16 มิ.ย. 62 ถึง 11 ก.ค. 62 ฝนก็ยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันผมได้ประสานงานกับวิศวกรโครงการ ว่าเหตุเกิดจากอะไร แล้วจะแก้ไขอย่างไรอยู่ตลอด วิศวกรโครงการแจ้งมาโดยสรุปดังนี้
1.ผมใช้วัสดุอุด precast ที่ดีที่สุดในท้องตลาดแล้ว
2.เป็นเรื่องปกติของคอนโดสร้างใหม่ **ตรงนี้ผมร้องเอ๊ะในใจเลย ว่ามันจริงหรอ
3.มีห้องที่มีปัญหาแบบนี้ในโครงการ เท่าที่โครงการได้รับแจ้งมา มีน้อยมาก (แต่หลังจากผ่านมา2ปี เท่าที่ผมทราบก็นับ10แล้ว ส่วนมากเป็นห้องมุม)
4.น้ำฝนอาจจะเข้าทางรอยต่อจากชั้นบนๆห้องผมขึ้นไป และผมอยู่ล่างๆมันเลยมาทะลักที่ห้องผม
วันที่ 12 ก.ค. 62 หลังจากโรยตัวด้านนอกหลายครั้งก็ยังไม่หาย วิศวกรเลยสั่งให้ผ่าฝ้าเพดานเพื่อฉีดโฟมอุดจากภายใน และทาสีทับคราบน้ำจากที่ฝนซึมครั้งก่อนๆ เป็นเพราะฝนไม่สาดมาทิศทางที่มีปัญหา หรืออะไรก็ตามแต่ ฝนก็ไม่ซึมเข้ามาอีกเลย
แต่ วันที่ 15 มี.ค. 63 น้ำฝนก็นองอยู่ที่พื้นห้องอีกครั้ง เพิ่มเติมคือปัญหาผนังห้องร้าวรอบทิศทาง ผมเลยได้แจ้งทั้ง2เรื่องให้โครงการทราบ วิศวกรคนเดิมที่เริ่มเห็นจนชินตาก็มาทำปัญหาผนังร้าวให้รอบห้อง พร้อมแจ้งว่าเรื่องฝนจะโรยตัวแก้ไขอีกครั้ง
เนื่องจากเป็นฝนหลงฤดู จึงดูเหมือนมันจะเบาบางลง ซึมอีกทีห่างกันเป็นเดือนคือ 26 พ.ค. 63 และ 8 มิ.ย. 63 ผมจึงตั้งคำถามว่าคุณได้โรยตัวแล้วหรือยังจากที่ผมแจ้งไปวันที่ 15 มี.ค. 63 วิศวกรแจ้งว่า "ทำแล้วครับ" ผมถามกลับว่า "ทำไมมันไม่หายน้ำยังซึมมาอยู่เลย ผมให้ทำก่อนถึงหน้าฝน เพราะเดี๋ยวจะมาอ้างว่าฝนตกโรยตัวไม่ได้อีก" จากนั้นวันที่ 15 มิ.ย. วิศวกรถ่ายรูปช่างกำลังโรยตัวแก้ไขตำแหน่งห้องผมให้ดู ผมก็อุ่นใจเพราะคิดว่าได้เห็นเขาแก้ไขกับตาแล้ว เรื่องคงจบแล้วหล่ะ แต่ด้วยหน้าฝนปี 63 ผมไม่ได้อยู่ห้องเลย ตั้งแต่ ก.ย.-พ.ย. ทำงานตจว.ตลอดทามไลน์ฝนซึมจึงหายไปในช่วงนี้ แต่น่าจะมีฝนเข้าเพราะมีเชื้อราดำๆขึ้นตามขอบหน้าต่างและผนังแล้ว
แต่หน้าฝนปี 64 เริ่มหนัก น้ำเข้ามาก และเชื้อราที่ผนังเริ่มมากขึ้น ตอนนี้เดือน 8 ฝนเริ่มเบา เลยกะว่าจะคุยกับวิศวกรเจ้าเก่าว่าจะเอาไงต่อ แล้วเขาตอบกับมาว่า "นิติเป็นคนดูแลเรื่องนี้แล้วครับ" ผมงงหนักเลยโยนไปได้ไง หมดประกันแล้วหรอ หรือยังไง แต่ที่คุณซ่อมๆมาตั้งแต่ย้ายเข้าอยู่เดือนแรก คุณยังแก้ไม่หายเลย โยนได้ด้วยหรอ
นิติเองก็มีเคสค้างอยู่กับผมเหมือนกัน เรื่องท่อ Main KW ตันทำให้น้ำล้างจานจากห้องบนๆทะลักห้องผม ตอนผมไม่อยู่ พื้นพัง ชุดครัวพัง นิติขอใบเสนอราคาช่างเป็นเดือน หาได้แค่เจ้าเดียวด้วย นิติบอกยังหาอีก2เจ้าไม่ได้ จนผมต้องเสนอตัวหาให้อีก2เจ้า เกิดเหตุวันที่ 6 มิ.ย. 64 จนถึงวันนี้ (1 ส.ค. 64) พื้นยังเน่าอยู่เลย แล้วผมจะไว้ใจให้นิติไปหาช่างโรยตัวได้ยังไง แล้วมันโยนงานที่ยังแก้ไม่เสร็จแบบนี้ได้ด้วยหรือ ใจนึงก็สงสารนิติน้ะ
ที่ผมอยากทราบจากพี่ๆน้าๆคือ
1. ผนังห้องผมถือเป็นโครงสร้างอาคารหรือไม่ครับ
2. ผมควรทำอย่างไรต่อดี ผมแค่ต้องการอยู่แบบสงบสุข ไม่มีน้ำซึม ไม่มีช่างเข้าๆออกๆห้องบ่อยๆ
3. อยากร้องสคบ. แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า แล้วจะฟ้องเอาอะไร เงินชดเชยผมก็ไม่เอา ซื้อห้องคืนโครงการก็คงไม่ทำ หรือให้กำหนดเส้นตายวันที่จะซ่อมให้เสร็จและให้การรับประกันของโครงการเพิ่มอีก ถ้าให้รวมห้องที่เจอเหมือนกันไปร้อง คงจะรวมตัวกันได้ไม่มาก เพราะลูกบ้านไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการเรียกร้องอะไรแบบนี้ อาจจะเพราะตัวเองเจอมาแค่ 1-2 ครั้ง บวกกับวิศวกรโครงการรับปากว่าถ้ามีปัญหาอีกก็จะมาซ่อมให้อีก ลูกบ้านจึงเชื่อใจโครงการ แต่ผมก็โดนวิศวกรพูดแบบนี้เหมือนกันเมื่อ2ปีที่แล้ว
4. ถ้าฟ้องสคบ.ผมมีโอกาสโดนฟ้องกลับไหมครับ แต่ผมถ่ายรูปลง TimeStamp ไว้ตั้งแต่วันแรกที่น้ำเข้า ข้อมูลฝั่งผมแน่นพอตัว
ช่วยแนะนำทีครับ
ปล.โพสแบบนี้กลัวพรบ.คอมมากครับ พยายามไม่ลงลึก หรือลงรูป และยังมีปัญหาอีกเยอะที่นี่ แต่ถ้าบอกหมดจะรู้เลย ให้โฟกัสที่น้ำซึมผนังห้องผมก็พอครับ
ปล2.ผมเคยเข้าพบกับระดับกรรมการของบ. Dev นี้แล้ว เค้า Type เดียวกับ ผอ.รร.ดังที่เพิ่งเสียชีวิตไปครับ ผมเลยไม่อยากคุยแล้ว เนื่อย ผมอยากหาคนกลางหรือทางอื่นๆมากกว่า
ปล3.ดู Dev ดีๆก่อนซื้อ และอย่าเชื่อเซลมาก เซลไม่ได้หวังดีแต่หวังยอดครับ