10ปีที่ผ่านมา ผู้ชนะและผู้เข้าชิงออสการ์สาขานี้ที่ผ่านมาจะรับบทเป็นบุคคลจริงเสียเป็นส่วนใหญ่ โดย 6ใน 10 (60%)เป็นการชนะจากการสวมบทบาทเป็นบุคคลจริงไม่ว่าจะเป็น อับราฮัม ลินคอล์น, สตีเฟน ฮอว์กิงและเฟรดดี เมอร์คูรี เป็นต้น โดย 22 บทบาทจาก 50 (44%) บทบาทที่ได้เข้าชิงล้วนแต่แสดงเป็นคนที่มีชีวิตอยู่จริง ซึ่งแปลได้ว่านักแสดงคนไหนอยากจะได้ออสการ์มาเก็บไว้สักตัว บทบาทบุคคลจริงคือบทบาทที่มีโอกาสจะส่งคุณเข้าชิงและชนะรางวัลออสการ์ได้สูงอยู่
ย้อนมองออสการ์นำชายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาผ่านกับสถิติ
- 10ปีที่ผ่านมามีนักแสดง 9 คนที่เข้าชิงสาขานี้มากกว่า 1 ครั้ง ซึ่ง 5 ใน 9 คนนี้ชนะ 1 ครั้งถ้วนได้แก่
Gary Oldman - Tinker Tailor Soldier Spy (2011), ชนะจาก Darkest Hour (2017) & Mank (2020)
Daniel Day-Lewis - ชนะจาก Lincoln (2012) & Phantom Thread (2017)
Bradley Cooper - Silver Linings Playbook (2012), American Sniper (2014) & A Star Is Born (2018)
Joaquin Phoenix - The Master (2012) & ชนะจาก Joker (2019)
Denzel Washington - Flight (2012), Fences (2016) & Roman J. Israel, Esq. (2019)
Christian Bale - American Hustle (2013) & Vice
Leonardo DiCaprio - The Wolf of Wall Street (2013), ชนะจาก The Revenant (2015) & Once Upon a Time in Hollywood (2019)
Eddie Redmayne - ชนะจาก The Theory of Everything (2014) & The Danish Girl (2015)
Viggo Mortensen - Captain Fantastic (2016) & Green Book (2018)
- มี Jean Dujardin, Matthew McConaughey, Eddie Redmayne & Rami Malek ที่ชนะออสการ์จากการเข้าชิงครั้งแรกซึ่งที่ว่าเป็นอัตตราส่วนที่สูงถึง (40%) ซึ่งแปลว่าถึงจะเข้าชิงครั้งแรก ก็มีโอกาสชนะได้
- มีเพียง Day-Lewis และ Hopkins ที่เคยชนะออสการ์การแสดงมาก่อน (2ใน 10) แล้วกลับมาชนะอีกครั้ง
- มีนักแสดงที่เป็น POC (คนผิวสี) เพียงแค่ 5 คน ได้แก่ Denzel Washingtonเข้าชิงสามครั้ง, Chiwetel Ejiofor (ชาวอังกฤษเชื้อสายไนจีเรีย), Riz Ahmed (ชาวมุสลิมอังกฤษเชื้อสายปากีสถาน), Chadwick Boseman (ชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี) ที่ได้เข้าชิง คิดเป็นอัตราส่วน (16%)
- มีนักแสดง 4 คนที่เข้าชิงจากบทบาทที่ไม่ได้พูดเพียงแค่ ภาษาอังกฤษ แต่พูดภาษาอื่นด้วยได้แก่ Demián Bichir (ภาษาสเปน), Timothée Chalamet (ภาษาอิตาลีและภาษาฝรั่งเศส), Steven Yeun (ภาษาเกาหลี) และ Riz Ahmed (ภาษามือมาตรฐานอเมริกา) มีเพียงแค่ Antonio Banderas เข้าชิงจากการพูดภาษาสเปนทั้งเรื่อง
ออสการ์นำชายในปีที่ผ่านมาถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว พูดความหลากหลายก็ค่อนข้างจะหลากหลาย ไม่ว่าจะเรื่องเชื้อชาติ อายุ และสไตล์การแสดง
Anthony Hopkins มอบการแสดงที่ดีที่สุดและทรงพลังในบทของชายแก่ผู้ต้องต่อสู้การโรคอัลไซเมอร์
Chadwick Boseman ที่พึ่งจะจากไป ก็มอบการแสดงที่ทรงพลัง ในบทชายหนุ่มนักดนตรีผู้แสนทะเยอทะยาน
Riz Ahmed พาเราไปสำรวจการต้องเรียนรู้จากการเคยได้ยินเสียงของมือกลองไปเป็นการต้องใช้มือและจิตใจในการสื่อสาร
Gary Oldman สวมบทเป็น Mank ที่พาเราไปสำรวจความคิดและเรื่องราวก่อนจะเป็นหนึ่งในหนังที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดตลอดกาลอย่าง Citizen Kane (1941)ผ่านมุมมองนักเขียนและนักคิดของเขา
Steve Yeunพาเราไปสำรวจจิตใจอย่างลึกซึ้งของพ่อที่ต้องดิ้นรนเพื่อครอบครัวในดินแดนใหม่ ที่ไม่รู้ว่าการดิ้นรนจนเจ็บปวดเพียงใด แต่เขาและครอบครัวจะต้องผ่านมันไปให้ได้
การที่ Hopkins ชนะเป็นตัวเลือกที่ถือว่าค่อนข้างถูกต้องในสาขานี้เลย ที่ก่อนหน้านี้หลายคนคิดและคาดหวังว่าBoseman จะชนะ เพราะการจากไปและการชนะ Golden Globe, Critics' Choice และ SAG ของเขา แต่การที่ Boseman ไม่ชนะ ก็ไม่ถือว่าน่าผิดหวังเสียเท่าไหร่ สิ่งที่น่าผิดหวังและน่าเสียใจคือการที่เขาจากไปเร็วเกินไปมากกว่า
สำหรับการแสดงในสาขานี้คนอื่นที่สนใจแต่หลุดไป
Delroy Lindo อดีตทหารผ่านศึกที่เป็นพวกอนุรักษ์นิยมและต้องรับมือกับโรคPTSD
Mads Mikkelsen นักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือจากยุโรปที่ควรจะเข้าชิงออสการ์ได้แล้ว รับบทครูที่ต้องเมาเพื่อทดสอบว่าการเมาจะมีผลต่อการใช้ชีวิตของเขาอย่างไร
Kingsley Ben-Adir สวมวิญญาณรับบทเป็น Malcolm X ผู้นำกลุ่มเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน
Tahar Rahim นักโทษที่ต้องเจ็บปวดกับการถูกจองจำกับการตัดสินคดีที่เขาไม่ได้ก่อ
ในส่วนของปีนี้ ตัวเต็งหรือคนน่าสนใจ จะเป็นbig name กันทั้งนั้น แต่ก็มีนักแสดงหน้าใหม่ หรือนักแสดงต่างชาติ รวมถึงนักแสดงเอเชียที่มีลุ้นหรือน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยคนที่เลือกมาเป็นคนที่คิดว่าโดยส่วนตัวแล้วมีโอกาสเข้าชิงสูง แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะไม่มีใครในนี้เข้าชิงก็เป็นไปได้ 5555
คุณเชียร์ใครออสการ์นำชายปีนี้ / รวมเบอร์ใหญ่
- 10ปีที่ผ่านมามีนักแสดง 9 คนที่เข้าชิงสาขานี้มากกว่า 1 ครั้ง ซึ่ง 5 ใน 9 คนนี้ชนะ 1 ครั้งถ้วนได้แก่
Gary Oldman - Tinker Tailor Soldier Spy (2011), ชนะจาก Darkest Hour (2017) & Mank (2020)
Daniel Day-Lewis - ชนะจาก Lincoln (2012) & Phantom Thread (2017)
Bradley Cooper - Silver Linings Playbook (2012), American Sniper (2014) & A Star Is Born (2018)
Joaquin Phoenix - The Master (2012) & ชนะจาก Joker (2019)
Denzel Washington - Flight (2012), Fences (2016) & Roman J. Israel, Esq. (2019)
Christian Bale - American Hustle (2013) & Vice
Leonardo DiCaprio - The Wolf of Wall Street (2013), ชนะจาก The Revenant (2015) & Once Upon a Time in Hollywood (2019)
Eddie Redmayne - ชนะจาก The Theory of Everything (2014) & The Danish Girl (2015)
Viggo Mortensen - Captain Fantastic (2016) & Green Book (2018)
- มี Jean Dujardin, Matthew McConaughey, Eddie Redmayne & Rami Malek ที่ชนะออสการ์จากการเข้าชิงครั้งแรกซึ่งที่ว่าเป็นอัตตราส่วนที่สูงถึง (40%) ซึ่งแปลว่าถึงจะเข้าชิงครั้งแรก ก็มีโอกาสชนะได้
- มีเพียง Day-Lewis และ Hopkins ที่เคยชนะออสการ์การแสดงมาก่อน (2ใน 10) แล้วกลับมาชนะอีกครั้ง
- มีนักแสดงที่เป็น POC (คนผิวสี) เพียงแค่ 5 คน ได้แก่ Denzel Washingtonเข้าชิงสามครั้ง, Chiwetel Ejiofor (ชาวอังกฤษเชื้อสายไนจีเรีย), Riz Ahmed (ชาวมุสลิมอังกฤษเชื้อสายปากีสถาน), Chadwick Boseman (ชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี) ที่ได้เข้าชิง คิดเป็นอัตราส่วน (16%)
- มีนักแสดง 4 คนที่เข้าชิงจากบทบาทที่ไม่ได้พูดเพียงแค่ ภาษาอังกฤษ แต่พูดภาษาอื่นด้วยได้แก่ Demián Bichir (ภาษาสเปน), Timothée Chalamet (ภาษาอิตาลีและภาษาฝรั่งเศส), Steven Yeun (ภาษาเกาหลี) และ Riz Ahmed (ภาษามือมาตรฐานอเมริกา) มีเพียงแค่ Antonio Banderas เข้าชิงจากการพูดภาษาสเปนทั้งเรื่อง
ออสการ์นำชายในปีที่ผ่านมาถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว พูดความหลากหลายก็ค่อนข้างจะหลากหลาย ไม่ว่าจะเรื่องเชื้อชาติ อายุ และสไตล์การแสดง
Anthony Hopkins มอบการแสดงที่ดีที่สุดและทรงพลังในบทของชายแก่ผู้ต้องต่อสู้การโรคอัลไซเมอร์
Chadwick Boseman ที่พึ่งจะจากไป ก็มอบการแสดงที่ทรงพลัง ในบทชายหนุ่มนักดนตรีผู้แสนทะเยอทะยาน
Riz Ahmed พาเราไปสำรวจการต้องเรียนรู้จากการเคยได้ยินเสียงของมือกลองไปเป็นการต้องใช้มือและจิตใจในการสื่อสาร
Gary Oldman สวมบทเป็น Mank ที่พาเราไปสำรวจความคิดและเรื่องราวก่อนจะเป็นหนึ่งในหนังที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดตลอดกาลอย่าง Citizen Kane (1941)ผ่านมุมมองนักเขียนและนักคิดของเขา
Steve Yeunพาเราไปสำรวจจิตใจอย่างลึกซึ้งของพ่อที่ต้องดิ้นรนเพื่อครอบครัวในดินแดนใหม่ ที่ไม่รู้ว่าการดิ้นรนจนเจ็บปวดเพียงใด แต่เขาและครอบครัวจะต้องผ่านมันไปให้ได้
การที่ Hopkins ชนะเป็นตัวเลือกที่ถือว่าค่อนข้างถูกต้องในสาขานี้เลย ที่ก่อนหน้านี้หลายคนคิดและคาดหวังว่าBoseman จะชนะ เพราะการจากไปและการชนะ Golden Globe, Critics' Choice และ SAG ของเขา แต่การที่ Boseman ไม่ชนะ ก็ไม่ถือว่าน่าผิดหวังเสียเท่าไหร่ สิ่งที่น่าผิดหวังและน่าเสียใจคือการที่เขาจากไปเร็วเกินไปมากกว่า
สำหรับการแสดงในสาขานี้คนอื่นที่สนใจแต่หลุดไป
Delroy Lindo อดีตทหารผ่านศึกที่เป็นพวกอนุรักษ์นิยมและต้องรับมือกับโรคPTSD
Mads Mikkelsen นักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือจากยุโรปที่ควรจะเข้าชิงออสการ์ได้แล้ว รับบทครูที่ต้องเมาเพื่อทดสอบว่าการเมาจะมีผลต่อการใช้ชีวิตของเขาอย่างไร
Kingsley Ben-Adir สวมวิญญาณรับบทเป็น Malcolm X ผู้นำกลุ่มเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน
Tahar Rahim นักโทษที่ต้องเจ็บปวดกับการถูกจองจำกับการตัดสินคดีที่เขาไม่ได้ก่อ
ในส่วนของปีนี้ ตัวเต็งหรือคนน่าสนใจ จะเป็นbig name กันทั้งนั้น แต่ก็มีนักแสดงหน้าใหม่ หรือนักแสดงต่างชาติ รวมถึงนักแสดงเอเชียที่มีลุ้นหรือน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยคนที่เลือกมาเป็นคนที่คิดว่าโดยส่วนตัวแล้วมีโอกาสเข้าชิงสูง แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะไม่มีใครในนี้เข้าชิงก็เป็นไปได้ 5555