Eusebio Sacristán !!! “ยูเซบิโอ ซาคริสตัน” โค้ชสเปนตัวเต็งหนึ่งกุนซือช้างศึก อดีตกุนซือใหญ่ เรอัล โซเซียดาด

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า ผมเชียร์ “ยูเซบิโอ ซาคริสตัน” (Eusebio Sacristán) ให้เป็นกุนซือใหญ่ตั้งแต่ปลดราเยวัชแล้ว แต่สมาคมเลือกนิชิโนะตอนนั้นรู้สึกผิดหวังนิดๆ เพราะ ทีมชาติไทยควรเล่นสไตล์สเปนมากกว่า เหมือนในยุคซิโก้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในระดับหนึ่ง 
 “การ์เลส โรมาโกซา”   ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นชาวสเปน ก็มีความรู้จักกับ กุนซือรายนี้เป็นอย่างดี เนื่องจาก “เจ้าตัว” เคยเป็น ผู้ฝึกสอนของทีมเยาวชนบาร์เซโลน่า นั่นเอง



ประวัติการคุมทีมในลาลีก้าสเปน ยูเซบิโอ ซาคริสตัน (Eusebio Sacristán)
2003–2008: Barcelona (assistant)
2009–2010: Celta 
2011–2015: Barcelona B
2015–2018: Real Sociedad
2018–2019: Girona
ยูเซบิโอ ซาคริสตัน การคุมทีมเน้นเล่นเกมรุก เจาะตามช่อง บอลเท้าต่อเท้าได้แม่นยำ เทคนิคดี  โค้ชไม่ได้เพิ่งมาใช้เทคนิคนี้ แต่โค้ชใช้มานานแล้ว ตั้งแต่คุมทีมบาร์เซโลน่า เบ จะบอกว่าเหมือนเขาสร้างระบบเอาไว้ จากนั้นก็หานักเตะที่เล่นเข้าระบบบอลแบบนี้ 
ระบบบอลแบบนี้ต้องการนักเตะทักษะดี เทคนิค เยี่ยม พูดง่ายๆ คือเบสิกดีนั่นแหละครับ รับบอลแรกพร้อมเล่น จ่ายบอลแม่น อ่านเกมขาด นั่นจึงทำให้ระบบของพวกเขาออกมาสมบูรณ์แบบในการเล่นฟุตบอลและมีโอกาสชนะได้ง่ายขึ้น 
ซึ่งเป็นเรื่องถูกต้องที่ทัพช้างศึกจะใช้ฟุตบอลระบบนี้ แต่หากเราจะสร้างฟุตบอลแบบนี้ มันก็ต้องใช้เวลา เราก็ต้องไปศึกษาวิธีการของพวเขาซึ่งถ้าจะว่าไปมันก็น่าจะเหมาะกับคนไทยนะครับ ตัวเล็ก เน้นความคล่อง เน้นเทคนิค ทักษะเพียงแต่ว่ามันคงต้องใช้เวลาสร้างนานเป็นพิเศษ
สูตรสำเร็จ ยูเซบิโอ ซาคริสตัน หลักๆที่เห็นบ่อยๆ จะใช้ 2 สูตร คือ 4-3-3 / 3-4-3 เรามาดูที่มาของแผนนี้กัน
ผู้รักษาประตู ต้องพิจารณาถึงประสบการณ์ และอายุงานที่ใช้ได้  ความสามารถในการเล่นนอกพื้นที่ การออกมาตัดบอลได้อย่างดี 
แผงหลัง เป็นศูนย์กลางของแนวรับขนาบข้างด้วย แบ็คขวา  แบ็คซ้าย ความเร็วสูง เติมเก็บรุกได้ดี
การป้องกัน นักเตะที่สามารถเล่นแนวรับได้ดี ซาคริสตัน จะเน้นที่ กองกลางตัวรับ จึงใช้ กลางตัวรับ จะมีบทบาทในการสร้างสรรค์เกมที่มากกว่าการตั้งรับเพียงอย่างเดียว โดยจับคู่กับตัวเพลย์เมเกอร์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ทีมต้องเน้นการป้องกัน ก็จะลงไปเป็นตัวเชื่อมแทนระหว่างกองหลัง แผงกลาง 3 คน หนึ่งคนตรงกลางที่เหมาะสมก็เป็นใครไปไม่ได้คือ ชนาธิป ที่เป็นตัวขับเคลื่อนทิศทางได้อย่างรอบทิศ เป็นใจกลางสำคัญกับทีม และอีก 2 คนในแนวกว้าง ด้านซ้าย ด้านขวา คอยขับเคลื่อนประสานงานกับ ทางปีกซ้าย และทางปีกขวา ส่วนข้างหน้า ก็ต้องสามารถเล่นสลับกันได้ เมื่อกองหน้า ลงมาต่ำเชื่อมบอลในแดนกลางกับ กลางรุก จากนั้น ปีกซ้ายขวา จะคอยสอดแทรกขึ้นมาคู่กับ กองหน้า ได้อย่างลงตัว
แผนการนี้ของ ยูเซบิโอ ซาคริสตัน เรียกได้ว่าแผนนี้สมดุลกับตัวผู้เล่นที่มีอยู่อย่างยืดหยุ่น การป้องกัน 3 คนในตอนที่ได้ครอบครองบอลจะช่วยให้มีการโจมตีที่กว้างขึ้น ถ้าเสียการครองบอล กลางรับ  ก็จะลงไปช่วยครอบคลุมพื้นที่ในแนวรับ กองกลาง ถูกออกแบบเพื่อการครองบอลที่มั่นคงขึ้นเพื่อโอกาสในการสร้างสรรค์ประตู ข้างหน้า กลางรุก ก็เป็นอิสระเพื่อมีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมทีม แล้ว กองหน้า ก็หาพื้นที่ในการจบสกอร์
เทคนิคฟุตบอลสไตล์ ยูเซบิโอ ซาคริสตัน เหมาะหรือไม่กับทัพช้างศึก ( มันดูคุ้นๆอยู่นะ เหมือนแต่ก่อนเราก็เคยใช้สูตรแบบนี้ )

   ส่วนถ้าผิดไปจาก“ยูเซบิโอ ซาคริสตัน”ผมอยากให้เลือก"อูลี่ สตีลิเก้ (Uli Stielike)กุนซือมากประสบการณ์ชาวเยอรมันเข้ามาวางระบบ กุนซือชาวเยอรมันรายนี้ รูปแบบการทำทีมเน้นไปในเกมส์บุกเป็นหลัก ที่สำคัญกุนซือชาวเยอรมันรายนี้ทุ่มเทกับการทำงานสุดๆ ปัจจุบันพึ่งแยกทางกับ สโมสร เทียนจิน ในไชนีสซูเปอร์ลีก  ทีมดังลีกจีน ที่ประกาศยุบทีม จากปัญหาการเงิน 
การคุมทีมในลีกจีนของ "อูลี่ สตีลิเก้" มีปัญหาเยอะมากๆ นักเตะภายในทีมเริ่มยกเลิกสัญญาและย้ายไปทีมอื่น ไม่ได้รับเงินเดือน ไม่มีสนามสำหรับการฝึกช่วงฤดูหนาว (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อทีมใหม่เป็น เทียนจิน จินเหมิน ไทเกอร์ (天津津门虎) เริ่มกลับมาสร้างทีมใหม่อีกครั้ง)
แต่โค้ช"อูลี่ สตีลิเก้" ก็ยังอยู่อึดอยู่ทน แม้เจอปัญหา108 อยู่จนถึงวินาทีสุดท้ายในการประกาศยุบทีม เป็นโค้ชที่เรียกได้ว่าโครตมีสปิริตเป็นอย่างสูง การทำงานที่ทุ่มเทแบบนี้ น่านับถือมากๆ ควรจะมาคุมทีมชาติไทย ดีกว่าโค้ชที่ชอบบินกลับไปกลับมา ทีมชาติไทยต้องการโค้ชที่ทำงานทุ่มเท ไม่ใช่โค้ชที่ทำงานเหมือนไซด์ไลน์
คาดว่า บริษัท FPS Management & Consulting ซึ่งเป็นบริษัทลูกครึ่งไทย-เยอรมัน เอเย่นต์ของ"อูลี่ สตีลิเก้ (Uli Stielike) น่าจะยื่นโปรไฟล์เข้ามาเป็นแคนดิเดตกุนซือทีมชาติไทยอย่างแน่นอน





ข่าว : https://www.smmsport.com/reader/news/348681