ทำไม CP-all จึงไม่จัดหาวัคซีนมาฉีดให้พนักงาน 7-11 และ.....

กระทู้คำถาม
1. ปฏิเสธไม่ได้ว่า 7-11 ถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่เรียกได้ว่าเป็น "ด่านหน้า" ในการลำเลียงอาหารให้คนที่ยังใช้บริการ (คือไม่ได้ต่อต้านนั่นแหละ) ซึ่งมีจำนวนไม่น้อย ไม่งั้นสาขาคงทะยอยปิดกันแบบมีนัยยะสำคัญไปแล้ว

การที่พนักงานหน้าร้านมีความเสี่ยงจาก COVID-19 โดยไร้ซึ่งการป้องกันใดๆ จึงย่อมหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดได้ยาก แม้ตัวพนักงานเองจะมีการ Scan หรือชำระล้างร่างกายก็ตาม แต่อย่าลืมว่ามีคนเข้าออกในร้านตลอดเวลา ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครติด Covid มาบ้าง

* โดยเฉพาะเด็กที่ส่งของหรือ Delivery ในฐานะที่ผมซื้อกิน (อาหารนะ ไม่ใช่อย่างอื่น ฮ่าๆ) เด็กพวกนี้สมควรได้รับการฉีดวัคซีนก่อนใครเพราะต้องไปสัมผัสลูกค้ามากหน้าหลายตา
นโยบายจัดส่งถึงบ้านเป็นเรื่องที่ดี (มาก) เพราะช่วยลดการเข้าไปแออัดอยู่ในร้าน
แต่การป้องกัน ควรทำควบคู่กันไปด้วย

และไม่ใช่แค่ 7-11 แต่พวก Deliver Riders ของทุกแอพก็เช่นกัน
เพราะคนพวกนี้ไม่ได้ฉีดวัคซีนเพื่อออกมาเที่ยวได้ตามปกติ แต่เพื่ออำนวยความสะดวกและนับได้ว่าเป็นส่วนช่วยจำกัดเชื้อไม่ให้แพร่กระจาย โดยเขารับหน้าที่เดินทางไปซื้อปัจจัย 4 แทนพวกเรา ตามหลักอยู่บ้านหยุดเชื้ออะไรนั่น

คงไม่ดีแน่ถ้าเขาเป็นผู้กระจายเชื้อเสียเอง

หรือหากมีข่าวอื่นนอกจากที่ผมได้รับรู้มา ช่วยบอกด้วยครับ เช่นทำไมจึงมีข้อจำกัดที่ทำให้พนักงานยังไม่ได้รับวัคซีน ทั้งที่เป็นคนในเครือ CP ที่เรียกได้ว่ามี Power พอสมควร
คือจะเป็น SinoPharm ก็ได้ ไม่ต้องถึงขนาด mRNA

2. ในเมื่อ 7-11 บอกว่าซื้อของทุก 150.- จะได้ถุงใหญ่สีน้ำตาล เหตุใดเมื่อผมสั่งของที่มียอดเกือบ 900- (ปัดลง 750 ซึ่งควรจะได้ถุงใหญ่ 5 ใบ)
จึงได้แค่ 2 ครับ

ถามน้องที่มาส่งแล้วเขาบอกว่าของเข้าน้อย
จึงต้องถามจากส่วนกลางว่า เหตุใดจึงจัดสรรถุงใหญ่ให้สาขาไม่เพียงพอ เพราะปัจจุบันผลกระทบจากการแบนถุงพลาสติก ผมว่าควรจะมีบริษัทที่พร้อมผลิตมากขึ้นมิใช่หรือจาก order ที่โล่งในลูกรายอื่น ?

พลาสติก ไม่มีวันหยุดใช้ครับ ตราบใดที่เรายังต้องใช้น้ำมันเติมรถ เพราะพลาสติกคือส่วนหนึ่งที่ได้มาจากน้ำมันดิบดำๆ ที่ขุดได้จากใต้พื้นโลก

ผมว่ามันเป็นนโยบายที่ไร้สาระมาก คนสั่งเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันช่วยอะไรไม่ได้
แต่กลับ impact กลุ่มคนที่ไปเที่ยวเมืองนอก (แบบเที่ยวอย่างเดียว ไม่ได้ศึกษาอะไรเลย) แล้วเห็นว่าประเทศอื่นไม่ใช้ถุงก๊อปแก๊ป ก็อยากมีภาพแบบนั้นในบ้านเกิดตัวเองบ้าง

แต่กลับไม่รู้เลยว่า ประเทศเหล่านั้นห้ามถุงพลาสติก เป็นลำดับท้ายๆ หลังจากที่เขาจัดการเรื่องเกี่ยวกับ "ขยะ" ทั้งหมดแล้ว ทั้งเรื่องการกำจัด การปลูกฝังนิสัยคน และกฎหมายเอาไว้ปราบพวกมักง่ายที่ทำเป็นเรื่องต้นๆ ก่อนหยุดใช้ถุงก๊อปแก๊ปเป็นขั้นตอนท้ายสุด

คุณเคยเห็นประเทศไหนที่สั่งห้ามก่อนเรา มีสิ่งแวดล้อมที่สกปรกไหมล่ะ ?

ถ้าอยู่ๆ ประกาศหยุดใช้ ก็เหมือนบังคลาเทศแหละครับ ที่แรกที่ประกาศเลิก.....แล้วบ้านเมืองเขาสะอาดขึ้นไหมล่ะ ?

คนที่อินกับเรื่องนี้ คุณกลายเป็นเหยื่อ PR การเมืองเข้าแล้ว เพราะแว่บนึง คุณให้คะแนนใจกับผู้ออกมาประกาศ ซึ่งอยากให้ลองเดินออกมาบนถนนแล้วดูรอบๆ ว่าจำนวนขยะมูลฝอยนั้นลดลงหรือไม่
คำตอบคือ ไม่ เพราะส่วนใหญ่ขยะมันเป็นอย่างอื่นนั่นเอง ทั้งขวดน้ำ แก้วกาแฟ ถุงเลย์  ขวดแก้วชูกำลัง ฯลฯ

หรือจะบอกว่ามีผลกระทบต่อสัตว์น้ำอย่างพะยูนมาเรียมและเต่าทะเล กุ้งหอยปูปลาจาก Micro Plastic
งั้นผมขอถามกลับว่า การมีถุงก๊อปแก๊ปใช้ที่เชียงใหม่ มันถูกย้ายมวลสารไปอยู่ที่ตรังภาคใต้ได้งั้นหรือ ?

ปัญหาอยู่ที่ "คนทิ้ง" ต่างหาก

ซึ่งไม่มีรัฐบาลรายไหนกล้าพอจะเป็นเจ้าภาพในการเอาผิด เพราะคนผิดและถูกปรับ จะกลายเป็นเกลียดจนเทคะแนนเสียงให้ฝ่ายตรงข้ามในวันเลือกตั้งทันที (ตั้งแต่ระดับนายก อบต.ยันเลือกตั้งระดับประเทศนั่นแหละ คนพวกนี้มันคิดอะไรเป็นซะที่ไหน แต่ทุกยุคทุกสมัยกลับอุ้มชู)

ทุกคนอยากเป็นคนดี อยากมีส่วนช่วยเหลือสังคม
แต่จะมีประโยชน์อะไรหาก

1. ความเป็นคนดีของคุณ เป็นเพียงเครื่องมือของคนบางกลุ่มที่มองทะลุถึงความต้องการของคุณ
2. ความเป็นคนดีของคุณ แก้ปัญหาผิดจากที่เป็นอยู่ไปไกล ซึ่งนอกจากปัญหาจะไม่ถูกแก้ ยังกลับสร้างปัญหาใหม่เพิ่ม
เราอยากอยู่ในสังคมที่กำลังเดินหน้าแก้ปัญหาผิดจุดแบบนี้ไปเรื่อยๆ จริงหรือ ? ซึ่งผมเชื่อว่าไม่ใช่ เพียงแต่เราคิดกันไม่ถึง

เพราะงั้น 7-11 เดินหน้าสั่งถุงให้เพียงพอต่อจำนวน Demand ไปเถอะ รัฐบาลเองก็ไม่ได้สั่งงด แค่ประกาศขอความร่วมมือ ซึ่งคุณเองก็ไม่ได้แจก แต่เป็นการแถมในรูปแบบ Promotion

วันนี้ขอฝากไว้ 2 เรื่องครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่