แสงแดดกับหินสีเทา

กระทู้คำถาม
วันนี้เป็นวันที่ดีวันนึงของ
ผม  . .ตั้งแต่เจอสถานการณ์โควิดมา
ผมก็มีความรู้สึกว่าหาวันดีๆ
ยากจัง

เมื่อรู้สึกดี  ผมก็อยากส่งต่อ
เรื่องดีๆให้เพื่อนๆได้ผ่อน
คลายกันครับ

มาเถอะ  .ผมจะเล่านิทาน
ให้ฟัง(อ่าน)
เผื่อจะช่วยให้ผ่อนคลายกันได้บ้างไม่มากก็น้อย

   สุนทรียนิทาน  เรื่อง...

The sunray and  The
grey stone

  
   เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็เชื่อว่า แสงแดดย่อม
ต้องหลงไหลในความงาม
ของเหล่าผีเสื้อและดอกไม้
แต่...อาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะอย่างที่รู้ๆ
ความไม่แน่นอนอาจเป็น
ความแน่นอนก็ได้

และแล้วในยามเช้าที่แสนงดงามวันหนึ่งของเดือนธันวาคมอันหนาวเย็น
เหตุการณ์ไม่แน่นอนเหมือน
ที่ว่าก็เกิดขึ้น

    แดดเช้าชายแสงสีทองลงต้องหินสีเทาเล็กๆ
ซึ่งวางนิ่งอยู่บนพงหญ้า
และโคลนตมริมคลอง
ก้อนหินนั้นเรียบและเยือก
เย็น  เมื่อต้องแสงแดดอ่อน
มันก็คลายความทึบเทา
และเริ่มเปล่งแสงสีส้มจางๆ
อย่างนุ่มนวล
ใครเล่าจักอาจสังเกตเห็น
ผิวพรรณของก้อนหิน
ที่ทอประกายสีทองเป็น
ละอองเล็กๆ  เจือจาง
นอกจากแสงแดดที่อ่อน
หวานแสงนี้

แม้ผีเสื้อและดอกไม้จะดูสดใสในแสงอรุณ
แต่เพราะความทรนงในความงาม มันจึงไม่สนใจที่จะซึมซับสีสันของแสงตะวันไว้ ดังนั้นมันจึงไม่อาจฉาย
ประกายความสุขออกมา
ได้อย่างก้อนหิน

ในไม่ช้าก้อนหินที่เยียบเย็น
ก็เริ่มอบอุ่น
ผิวที่ขุ่นมัวฉายแววเรืองรอง
จนแสงแดดตะลึงหลง
เธอเพียงหันไปยิ้มนิดหนึ่ง
ให้กับผีเสื้อสีเหลือง
ที่กระพือปีกเบาบางล้อเล่น
กับเธอ เพราะสิ่งที่ทำให้เธอตราตรึงขณะนี้คือเจ้าสีเทา
ก้อนนั้น

แม้ว่าก้อนหินจะแข็ง แต่มันก็มีความโค้งในรูปทรง
ซึ่งช่วยลดเงาทึบกระด้าง
ของมันให้ดูอ่อนโยน
แม้จะเยียบเย็นแต่มันก็
สามารถซึมซับเอาความ
อบอุ่นจากแสงแดดและยัง
สะท้อนความอบอุ่นนั้นออกมา

ปีกผีเสื้อและกลีบดอกไม้
นั้นบอบบางเกินกว่าที่จะเก็บงำความลุ่มลึกใดๆไว้ได้
เหมือนก้อนหินที่มีมวลหนักแน่น

ด้วยแสงที่แรงขึ้นและร้อนขึ้น  แดดสายเฝ้าแต่เคล้า
เคลียก้อนหินด้วยความพึงใจ

    ถึงตอนนี้ก็มีควายเฒ่าขาเก ที่หูตาฝ้าฟางเดินผ่านมา
มันไม่มีทางรู้เลยว่า
แสงแดดยามสายและก้อน
หินก้อนเท่ากำปั้นนั้นกำลัง
คุ้นเคยและเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
มันเดินลากขากะโผลกกะ
เผลก เตะถูกก้อนหิน
กระเด็นลงไปในกระแสขุ่นของน้ำในคลอง

แดดงามได้แต่งุนงงและตื่น
ตระหนก  เธอสาดแสงไล่
ตามไปยังสายน้ำที่ขุ่นข้น
แต่คลองนั้นลึกเกินไป
จนเธอไม่อาจหยั่งแสงลงไปถึงก้นคลองได้
แม้จะเป็นช่วงกลางวันยามที่แสงของเธอแรงกล้าที่สุดก็ตาม  แต่เธอก็เฝ้าพยายามแล้วพยายามอีก

เธอหยุดพักเหนื่อยชั่วขณะ
ในก้อนเมฆขาวสะอาดที่
ค่อยเคลื่อนคล้อยมาอย่าง
ปราณี  แล้วเริ่มพรายแสงค้นหาต่อไปอีกจนเย็นย่ำ

วันแล้ววันเล่า  แสงทองที่
เศร้าหมองนี้ ก็ยังเฝ้าแต่ค้น
หาก้อนหินที่สูญหายของเธอ

หินน้อยก้อนนั้น  บัดนี้จมอยู่
ก้นคลอง มันวางอยู่บนเหล่า
สาหร่ายที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น  และพืชน้ำเหล่านี้เอง
ที่ช่วยพยุงไม่ให้มันจมลง
สู่โคลนเลนเบื้องล่าง

และแล้วฝูงปลาในคลองก็เริ่มสังเกตเห็นก้อนหินที่
เนียนเรียบและอบอุ่น
ที่ดูเหมือนจะเปล่งแสงเรือง
คล้ายแดดเรื่อ
พวกมันต่างพอใจ และพากันว่ายมาคลอเคลียก้อนหิน
อย่างมีความสุข
โดยไม่รู้ถึงเรื่องราวที่เกิดก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

..................................

ความรักไม่ว่าจะเกิดครั้งใด
จะเล็กหรือใหญ่ก็งดงาม
เสมอ  อยากให้ทุกคนรัก
และดีต่อกันมากๆครับ
เป็นกำลังใจให้กันและกัน
นะครับ

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่