ผมไม่โอเค และไม่อยากเจอหน้า พ่อแฟน

กระทู้คำถาม
เกริ่นว่าด้วยผมอยู่บ้านแฟน มาประมาณ 5 ปี ผมเป็นคนพูดน้อย ความอดทนก็คิดว่าสูงอยู่ และถ้าได้เกลียดขี้หน้าใคร จะไม่อยากยุ่งหรือเห็นหน้าเลย ยึดตรรกะที่สังคมปัจจุบันเป็นหลัก 
ส่วนพ่อกับแม่แฟนไม่มีบ้านที่เป็นชื่อตัวเองเลยสักหลังจะใช้เครดิตลูกเขาซื้อบ้านเครดิตก็ไม่ผ่าน และกำลังจะขอเครดิตผมกู้ซื้อบ้านให้ ด้วยความที่ผมเห็นใจก็ยินยอมและกำลังลังเลว่าจะบ้านหลังที่อยู่อยู่ตอนนี้หรือบ้านปลูกใหม่สองชั้นกันอยู่ ด้วยที่เป็นเครดิตผมสามารถกู้ได้เต็ม 100% ผมก็อยากได้บ้านใหม่สองชั้น

ต่อไปเป็นปัญหาที่ผมไม่ควรได้มาเจออีกหลังจากผมเคยเห็นพ่อกับแม่ผมทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่ผมสะเหร่อมาอยู่บ้านแฟนยาวมาตั้ง 5 ปี และมีลูกด้วยกัน 1 คน ช่วงแรกครอบครัวแฟนเขาก็ดี อยู่ๆไปเริ่มเห็นนิสัยของครอบครัวแฟน

พ่อแฟน เป็นคนที่ชอบพูดถึงอดีต เมื่อเกิดปัญหาจะโทษคนอื่น ตัวเองเขาไม่เคยพูดถึง อย่างเช่น พ่อแฟนต้องได้ออกจากราชการมาเป็นทนายเพราะแม่แฟนหึงแล้วไปอาละวาดที่ทำงาน จนต้องเกษียรตัวเองออกมาเป็นทนายความ

แม่แฟน เป็นคนที่อยู่กับคนอื่นจะดีในสายตาคนอื่นจะบอกว่า แกก็ดีนะ ไม่กล้ามีเรื่องกับคนอื่น แต่พอแม่แฟนเห็นคนในครอบครัวทำผิดหน่อย ถึงแม้จะเป็นข้อผิดพลาดเพียงนิด ก็สามารถเอาเรื่องนั้นมาพูดได้ตลอด จนคนรอบข้างรำคาญ

ซึ่งที่กล่าวมานี้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยยุ่งเลยแม้แต่เรื่องเดียว

จนกระทั้ง พ่อแฟนคุยกับลูกความ และแม่จับได้ว่าแอบกิ๊กกักกันกับลูกความผู้หญิง พอแฟนผมรู้เท่านั้นล่ะ แฟนผมทักแชทไปด่า ทีนี้พ่อแฟนโมโหใส่ลูกสิครับ แฟนผมเสียใจกับคำนี้มากคือ"ลูกชั่ว" แต่ผมติดใจกับคำว่า "ทำดีมาตั้งเยอะ เรื่องแค่นี้ยอมไม่ได้เหรอ" คือไร ผิดก็ผิดป่ะว่ะ ถ้าพูดงี้งั้นทุกบ้านก็สามารถมีกิ๊กหรือเมียน้อยกันได้หมดนะสิ นี่มันคือกฎและตรรกะของสังคมที่ทุกคนเขายอมรับกันคือ"ผัวเดียวเมียเดียว" อันนี้คือผมคิดในใจและอธิบายแฟนไป

พอเขาทะเลาะกันเสร็จ พ่อแฟนก็หนีออกจากบ้านไปอาทิตย์ ประจวบกับต้องจ่ายรายจ่ายต่างๆ คราวนี้พ่อเขาไม่อยู่ แม่กับแฟนก็เป็นคน ผมก็ยื่นให้แฟนไป

ทีนี้ แม่แฟน โอดครวญ อยากให้พ่อกลับมา ก็ไปตามเขามาจนได้ แต่คราวนี้ บรรยากาศไม่เหมือนเดิม ลูกไม่ด้วย โดยเฉพาะแฟนผม  และผมเองก็เช่นกัน

คืนหนึ่งพ่อเมา และเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เวลาประมาณ ตี1 แฟนได้ยินเสียงพ่อร้อง แฟนให้ผมไม่ดู ผมก็ไปฟังหน้าประตูห้อง เสียงเหมือนพ่อแม่ทะเลาะ ห้องก็ล็อค ด้วยความเร่งใจกลัวเกิดความรุนแรง ผมถีบประตู พังเข้าไป และจับทั้งสองคนแยก ส่วนแฟนก็ไม่กล้าเข้ามา และได้ไปตามน้า เพื่อนบ้าน ลูกผมก็ร้องไห้แฟนผมก็ร้องไห้ และก็ไม่มีใครอยากมายุ่งด้วย เสียงดังลั่นซอยเลยครับ แม่ฉุดกระฉากเสื้อและกางเกงพ่อจนขาด พ่อทนไม่ไหวมั้ง จับแม่เหวี่ยงล้ม หัวฟาดกับเสาบ้าน หัวโน ช้ำ จากนั้นพ่อเขาจะเอากุญแจรถไป แต่แม่ไม่ให้ สรุปพ่อก็เดินออกจากบ้านไป จบรอบนี้ แม่เล่าว่า พ่อพูดถึงเมียเก่าว่า เขาดีอย่างนู้นอย่างนี้ แม่เลยถีบตกเตียง และทะเลาะกัน เหมือนจะใช่มั้ยครับ ผมก็คิดว่างั้น จะได้นอนสักทีเพราะต้องตื่นไปทำงานตอนตี 5 ผม แฟน ลูก ก็หลับไป สักพักเ
ได้ยินเสียงอีก ผมก็โมโหสิครับ คนจะหลับจะนอน ดูนาฬิกา โอโห ตีสาม ผมเลยพูดว่าโตเป็นควายแล้ว คิดไม่เป็น ไม่เห็นใจเพื่อนบ้าน หรือแม้กระทั่งหลานเลยเหรอที่ต้องมาเห็นภาพอย่างนี้ คราวนี้หนักตรงที่ว่า พ่อขู่จะเผาบ้าน อันนี้ผมไม่พูดอะไร แต่พอพูดว่าจะทุบรถนี่สิ นั้นมันมีรถจอดอยู่ตรงหน้า พูดเลยอารมณ์รุนแรงและพูดว่า กล้าทุบก็ทุบสิ พ่อพุ่งมาและเพื่อนบ้านดึงไว้ส่วนผมไปเอาไม้เบสบอลเหล็กมาชี้หน้า ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมเอาไม้ไปเก็บ และเดินมามองหน้า คนอื่นห้ามผม ผมก็ยืนเฉย และขณะนั้น เขาก็ด่าทุกคน และไล่ผมออกจากบ้าน "ออกไปจากบ้านกูเดียวนี้" ผมยืนฟังโดยไม่พูดสักคำ จากคำด่าสารพัด ผมคิดได้ว่า สันดานที่แท้จริงมันออกมาแล้ว  สักพักตำรวจมาแฟนผมเป็นคนโทรแจ้ง ตำรวจก็ไม่ทำอะไรหรอกครับ ออกจะรำคาญด้วย ตำรวจเขาก็พูดว่า "คุณก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว เป็นทนายความด้วย คุณน่าจะคิดได้ คุณทำผมเสียเวลามาก ช่วงนี้ โควิด ผมมีลูกน้องที่ต้องดูแลนะ" จากนั้น ตำรวจก็ไป ต่อมาผมกล่าวขอโทษ และให้เขาขอโทษผมและแฟนผม เขายอมขอโทษผม แต่ไม่ขอโทษลูกตัวเอง เขาให้เห็นผลว่า "ลูกพ่อ พ่อจะทำอะไรมันก็เรื่องพ่อ พ่อจะทำอะไรกับลูกพ่อก็ได้"  ใครว่ายังไงไม่รู้ ผมว่ามันหมาไม่-เลยสำหรับคำพูดนี้ หลังจากนั้น ผมก็ไม่พูดอะไร จนพี่ที่ทำงานผมเล่าให้ พี่เขารู้จักพ่อแฟน เคยเห็นหน้า และพ่อแฟนก็ไปนอนบ้านคนอื่น และกินเหล้าทุกวัน และสิ่งที่ทำให้ผมเกลียดเลยคือ เอาผมไปนินทากับคนในวงเหล้าที่ยิ้มไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ตอนเกิดเรื่อง ไม่เห็นมีเพื่อนพ่อแฟนที่-เหล้าด้วยกันมาห้ามสักคน ภาพในวันนั้นมันร้ายแรงมาก นินทาผมไม่พอ ว่าแม่แฟนนู้นนี้นั่น ว่าร้าย และบอก "จะไม่มีทางกลับมาหาอีกแน่" แล้วไม่พูดถึงปากที่ตัวเองพูด คำที่ตัวเองด่า หรือความผิดของตัวเองเลย 

หลังจากนั้น ก็ซมซานกลับมา แบบไปๆ มาๆ มาหาแม่ที่บ้านเช่าที่แม่ย้ายไปใหม่ มาหาหลานบ้าง มาเลี้ยงข้าวบ้าง ผมก็งง เป็นผู้ชายอกสามศอก กลับกลอกคำพูดง่ายไปไหม อ่อ ลืมครับ แม่แฟนก็อาไรอาวร จนลูกๆเบนหน้าหนีเลย 

ผมก็ย้ายออกมาอยู่บ้านที่เป็นชื่อพ่อ ที่อยู่ในเมือง บ้านแถวเล็กๆ อาศัยอยู่รอระหว่างสร้างบ้านใหม่ที่กู้ซื้อตามโครงการเสร็จ 

และล่าสุด อันนี้ผมรู้ว่าตัวเองผิดเต็มๆ เนื่องจากในวันขึ้นเสาเอก เสาโท บ้านใหม่ วันมงคล ตามชื่อผมที่เป็นคนซื้อ ผมควรจะไปใช่ไหม ใช่ ผมวางแผน แต่งตัวเรียบร้อย แฟนผมโทรเข้า แม่แฟนบอก เดียวไปรอที่โน่นนะ พ่อมารับ อือหือ เท่านั้นล่ะ ผมบอกแฟน ผมไม่ไป เพราะอะไรผมถึงไปๆให้มันจบๆล่ะ พูดตามตรง ผมไม่ใช่พระหรือผู้เข้าถึงธรรม อะไรขนาดนั้น ผมกลัวว่า ผมจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ เลยใช่การแก้ปัญหา แบบไปก็ไม่ไป อยู่กูไม่อยู่ ประมาณนั้น แฟนผมรู้ ทุกคนรู้ว่าผมไม่โอเคกับพ่อแฟนตั้งแต่วันที่มีเรื่องกันแล้ว ยังจะพามา คงเพราะผมมันหมาหัวเน่าแหละ

ตอนนี้ผมคิดเรื่องบ้านหลายอย่างมาก ทั้งเรื่องเงิน และเรื่องความสัมพันธ์ ถ้าเป็นไปได้คือ ผมจะอยู่บ้านใหม่กับลูกผม  แต่ถ้าแม่แฟนว่าอยู่ด้วย ผมว่าจิตตกกันทั้งบ้านแน่ 

ก็อยากถามทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะครับ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ อยากระบายด้วยส่วนหนึ่ง และอยากรู้ว่าคนอื่นๆจะคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ 

แต่ปัญหานี้กลับทำให้ผมเห็นใจทุกคนมากขึ้นทั้งลูกน้อง พ่อแม่ตัวเอง แฟนตัวเอง ลูกตัวเอง มีความรับผิดชอบมากๆๆขึ้น 

ลูกผมเลี้ยงแบบเป็นเหมือนเพื่อนให้กับลูก พยายามให้สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับลูกและแฟนมากที่สุด สนันสนุนทุกทาง

ขอบคุณมากๆครับ ที่รับฟังและอ่านจนจบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่