ช่วงนี้อาจมีเพื่อนๆหลายคนกังวลกับสถานการณ์covidมากขึ้นนะครับ เขียนไว้เผื่อเป็นประโยชน์ หากผิดพลาดยังไงเข้ามาบอกกล่าวได้ครับ
จากข้อมูลการใช้เครื่องผลิตอ๊อกซิเจน(O2)จากสถานการณ์การระบาดของสายพันธุ์เดลต้าที่อินเดีย เบื้องต้นสิ่งที่ควรทราบ คือ
1.หลักการทำงานของเครื่องผลิตo2 โดยย่อ
เครื่องจะดูดอากาศธรรมชาติเข้าไปผ่านfilter และทำการกรองไนโตรเจนและก็าซอื่นๆออก และปล่อยo2ออก(ไปสู่ท่อcanula)
อากาศปรกติ จะมี ไนโตรเจน79% อ๊อกซิเจน21% การใช้เครื่องผลิต o2 จะเพิ่มค่าo2ให้เกิน21%ครับ
สามารถแบ่งเป็น low flow และ high flow....เครื่องที่ใช้ในบ้านเกือบทั้งหมดเป็นlow flowครับ
2.หลักการใช้งาน ตามชนิดของผู้ป่วย
ปรกติค่าของระดับออกซิเจนในเลือด(SPo2)จะอยู่ที่ 95% ขึ้นไป
น้อยกว่า 95% ร่างกายจะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะพร่องออกซิเจน
น้อยกว่า 90% อาจเกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่เกิดจากการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจและโรคปอดบวมได้
ผู้ป่วยที่อาการน้อย หรือ วัดระดับSPo2 ได้ 90-94% ใช้เครื่องขนาด 3-5LPM (litre per min. หรือ ลิตรต่อนาที)
ผู้ป่วยที่อาการปานกลาง หรือ วัดระดับSPo2ได้ 85-89%ใช้เครื่องขนาด 5-8LPM
ผู้ป่วยที่อาการหนักหรือ หรือ วัดระดับO2 ได้ต่ำกว่า 85% ใช้เครื่องขนาด 10LPM หรือ high flow
วิธีดูว่าใช้ได้ผลคือ สมมุติผู้ป่วยวัดค่าSPo2ได้87% พอให้o2แล้วซักพักค่าSPo2 กลับขึ้นมาเป็น92% ก็คือใช้ได้ผล แต่ถ้าใช้แล้วค่าSPo2ยังคงที่หรือลดลงกรณีเปิดflow meterมากสุดแล้ว ก็คือ เครื่องมีขนาดเล็กไปครับ
3.การเลือกซื้อเครื่อง มีจุดสำคัญ 2 อย่าง
*ความเข้มข้นของo2 ตลอดการทำงานทุกช่วงLPM ต้องไม่ต่ำกว่า 90%
เราจะเห็นโฆษณาบางเครื่องว่าปล่อยo2ได้ 1-7ltr ซึ่งความเข้มข้นของo2จะลดลงทันทีเหลือ50%-30%เมื่อเปิดลมแรงขึ้น จึงไม่สามารถใช้รักษาผู้ป่วยได้ครับ(เครื่องขนาดเล็ก1-2LPMหรือที่ขายกันว่า 1-2ltr. มักใช้ในคนสูงอายุปรกติ)
*ระยะเวลาการทำงานต่อเนื่อง เครื่องราคาสูง(มักจะเกิน 45,000บ.)จะทำงานต่อเนื่องได้24/7 ในขณะที่เครื่องราคาต่ำอาจจะทำงานได้4ชม. 10ชม. หรือ 1-2วัน แล้วต้องหยุดพักตามรอบ ซึ่งผู้ผลิตหรือผู้ขายเองก็อาจไม่ทราบหรือลืมบอกไม่ครบ ควรหาข้อมูลจากต่างประเทศครับ
Tips
-เครื่อง10LPM ส่วนมากสามารถใช้กับผู้ป่วยได้2คนพร้อมกัน แบ่งใช้คนละ5LPM
-ถ้าต้องการLPMมากขึ้น สามารถใช้2เครื่องต่อกันด้วยY cableได้ เช่น ใช้5LPM 2เครื่อง =10LPM
-ความดันลมทั่วไปอยู่ที่5 psiขึ้นไป บางรุ่น อาจได้8 psi เหมาะกับคนที่ใช้สายo2ยาวๆ
-กระบอกความชื้น ช่วยทำใก้อากาศที่สูดเข้าไปไม่แห้งจนเกินไป
นอกนั้นที่ควรทราบไว้คือ ความดังขณะใช้งาน(ปรกติราว40-45dB) ระบบการเตือนเมื่อค่าo2ที่ผลิตได้ต่ำกว่าปรกติ เตือน/ตัดการทำงานเมื่อเครื่องร้อน การบำรุงรักษา(ถอดล้างหรือบางรุ่นต้องเปลี่ยนfilterเมื่อครบกำหนด) การรับประกัน..etc.
เท่านี้ก่อนนะครับ ถ้ามีเพิ่มเติม/อ้างอิง เดี๋ยวมาต่อจ้ะ
ข้อแนะนำ วิธีเลือกซื้อเครื่องผลิตอ๊อกซิเจน (oxygen concentrator)
จากข้อมูลการใช้เครื่องผลิตอ๊อกซิเจน(O2)จากสถานการณ์การระบาดของสายพันธุ์เดลต้าที่อินเดีย เบื้องต้นสิ่งที่ควรทราบ คือ
1.หลักการทำงานของเครื่องผลิตo2 โดยย่อ
เครื่องจะดูดอากาศธรรมชาติเข้าไปผ่านfilter และทำการกรองไนโตรเจนและก็าซอื่นๆออก และปล่อยo2ออก(ไปสู่ท่อcanula)
อากาศปรกติ จะมี ไนโตรเจน79% อ๊อกซิเจน21% การใช้เครื่องผลิต o2 จะเพิ่มค่าo2ให้เกิน21%ครับ
สามารถแบ่งเป็น low flow และ high flow....เครื่องที่ใช้ในบ้านเกือบทั้งหมดเป็นlow flowครับ
2.หลักการใช้งาน ตามชนิดของผู้ป่วย
ปรกติค่าของระดับออกซิเจนในเลือด(SPo2)จะอยู่ที่ 95% ขึ้นไป
น้อยกว่า 95% ร่างกายจะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะพร่องออกซิเจน
น้อยกว่า 90% อาจเกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่เกิดจากการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจและโรคปอดบวมได้
ผู้ป่วยที่อาการน้อย หรือ วัดระดับSPo2 ได้ 90-94% ใช้เครื่องขนาด 3-5LPM (litre per min. หรือ ลิตรต่อนาที)
ผู้ป่วยที่อาการปานกลาง หรือ วัดระดับSPo2ได้ 85-89%ใช้เครื่องขนาด 5-8LPM
ผู้ป่วยที่อาการหนักหรือ หรือ วัดระดับO2 ได้ต่ำกว่า 85% ใช้เครื่องขนาด 10LPM หรือ high flow
วิธีดูว่าใช้ได้ผลคือ สมมุติผู้ป่วยวัดค่าSPo2ได้87% พอให้o2แล้วซักพักค่าSPo2 กลับขึ้นมาเป็น92% ก็คือใช้ได้ผล แต่ถ้าใช้แล้วค่าSPo2ยังคงที่หรือลดลงกรณีเปิดflow meterมากสุดแล้ว ก็คือ เครื่องมีขนาดเล็กไปครับ
3.การเลือกซื้อเครื่อง มีจุดสำคัญ 2 อย่าง
*ความเข้มข้นของo2 ตลอดการทำงานทุกช่วงLPM ต้องไม่ต่ำกว่า 90%
เราจะเห็นโฆษณาบางเครื่องว่าปล่อยo2ได้ 1-7ltr ซึ่งความเข้มข้นของo2จะลดลงทันทีเหลือ50%-30%เมื่อเปิดลมแรงขึ้น จึงไม่สามารถใช้รักษาผู้ป่วยได้ครับ(เครื่องขนาดเล็ก1-2LPMหรือที่ขายกันว่า 1-2ltr. มักใช้ในคนสูงอายุปรกติ)
*ระยะเวลาการทำงานต่อเนื่อง เครื่องราคาสูง(มักจะเกิน 45,000บ.)จะทำงานต่อเนื่องได้24/7 ในขณะที่เครื่องราคาต่ำอาจจะทำงานได้4ชม. 10ชม. หรือ 1-2วัน แล้วต้องหยุดพักตามรอบ ซึ่งผู้ผลิตหรือผู้ขายเองก็อาจไม่ทราบหรือลืมบอกไม่ครบ ควรหาข้อมูลจากต่างประเทศครับ
Tips
-เครื่อง10LPM ส่วนมากสามารถใช้กับผู้ป่วยได้2คนพร้อมกัน แบ่งใช้คนละ5LPM
-ถ้าต้องการLPMมากขึ้น สามารถใช้2เครื่องต่อกันด้วยY cableได้ เช่น ใช้5LPM 2เครื่อง =10LPM
-ความดันลมทั่วไปอยู่ที่5 psiขึ้นไป บางรุ่น อาจได้8 psi เหมาะกับคนที่ใช้สายo2ยาวๆ
-กระบอกความชื้น ช่วยทำใก้อากาศที่สูดเข้าไปไม่แห้งจนเกินไป
นอกนั้นที่ควรทราบไว้คือ ความดังขณะใช้งาน(ปรกติราว40-45dB) ระบบการเตือนเมื่อค่าo2ที่ผลิตได้ต่ำกว่าปรกติ เตือน/ตัดการทำงานเมื่อเครื่องร้อน การบำรุงรักษา(ถอดล้างหรือบางรุ่นต้องเปลี่ยนfilterเมื่อครบกำหนด) การรับประกัน..etc.
เท่านี้ก่อนนะครับ ถ้ามีเพิ่มเติม/อ้างอิง เดี๋ยวมาต่อจ้ะ