ขอเล่าข้อความคร่าวๆนะครับ ผมขับมอเตอร์ไซต์มาทางตรงปก แต่โดนรถ 6 ล้อที่จะเลี้ยวเข้าซอยหักชนเต็มๆ คนขับเป็นพม่าซึ้งผมเดาคร่าวๆว่าไม่น่าจะมีใบขับขี่เป็นรถของโรงงานเพราะทางนั้นหลังจากพม่าชนก็มีหัวหน้ามาเครียยอมรับคดีความสมอ้างเป็นคนขับแทนลูกน้องพม่าที่ชนผมจริงๆ ผมได้รับบาดเจ็บ เป็นต้นขา โดนท่อรถไหม้ เนื้อเปิด รอยถลอกทั่วไป และกระดูกเท้าโดนเจาะแตก เบื้องต้นมีการ นัดเซนต์ยอมความกัน ซึ่งผมไม่ได้เรียกร้องค่าทำขวัญใดๆขอแค่รับผิดชอบค่ารักษา ค่าที่ผมต้องหยุดงาน และซ่อมรถให้เท่านั้น หลังจากตกลงกัน ตามนี้ผมก็จัดก่รเซนต์ยอมความให้ เพราะคิดว่าต่างฝ่ายต่างตกลงกันได้ แต่ก็เกิดเรื่องที้ไม่แฟร์กับผมขึ้นครับ
1)ภรรยาผมต้องทำงานหนักคนเดว ทั้งที่เป็นโรคหัวใจ ทางฝั่งนั้นไม่มีการโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบ ซึ่งผมต้องหยุดงานเป็นเวลาครึ่งเดือน
2)ประกันในครั้งนี้มี 2 คนคือประกันรถ และประกันที่ดูแลเรื่องรักษาให้ผม
3)หลังจากจบคดีความ ประกันรถมีการเข้ามาดูมอเตอไซต์และทำเอกสารซ่อมรถให้ โดยที่ผมต้องเอาไปซ่อมเองย้ำนะครับ ต้องเอาไปเอง หลังจากซ่อมเสด ประกันก็ไม่ได้มีการมาต่อบอกแต่เพียงให้เอาค่าใช้จ่ายไปยื่นที่บริษัทที่ห้วยขวางเพื่อรับเงินค่าทำรถ ตรงจุดนี้ผมค่อนข้างงงเพราะบริษัทอยู่ไกลมาก ผมไปไม่เป็น และสังขาลไม่ไหว ครั้นจะหอบเมียที่เป็นโรคหัวใจไปด้วยในช่วงระบาดหนักก็เสี่ยง แถมคำนวนค่ารถ ไปกลับเกือบ 600 ซึ่งผมก็ไม่รู้ได้ว่าจะได้ค่าน้ำมันส่วนต่างๆนี้ไหม เพราะตลอด มาไม่มีรถผมต้องเสียค่าน้ำมันไป สน. ไปดูรถ และไปรักษาพยาบาลเองอีกเกือบ 1500 และการซ่อมรถ มีบางอย่างที่ทางร้านบอกไม่สามารถเบิกประกันได้ผมต้องชำระส่วนต่างนี้เอง ผมถึงกับอึ้งว่าทำไมผมต้องทาเสียมากมายขนาดนี้ มันอาจจะเล็กน้อยสำหรับบางคนแต่สำหรับคนหาเช้ากินค่ำสามารถอยู่ได้หลายวันนะครับ
4)เรื่องร่างกาย ฝั่งนั้นมีประกันอีกคน ซึ่งมีการนัดพบกันหลังจากผมโดนชนประมาน 6 วัน ทุกวันผมไปรักษาที่คลินิคไกล้บ้านเพราะไปโรงพยาบาลที่เกิดเหตุไม่ไหว ค่อนข้างไกล และใช้สิทธิของตัวเอง ไม่ได้สำลองจ่ายไป แต่พอวันที่ไปเจอประกัน เค้าบอกช่วงที่รักษาที่ผ่านมาต้องมีใบเสดหรือใบรับรองแพทย์ไปให้เค้า ซึ่งใบเสดไม่มีเพราะเป็นการรักษาฟรี ผมจึงขอใบรับรองแพทย์กับคลินิคไปแต่คลิคนอคไม่สามารถออกใบรับรองแพทย์ให้ได้ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตรงจุดนี้ เท่ากับที้ผมต้องหยุดรักษาตัว 5 วันและค่าน้ำมันไปทำแผล ก่อนเจอประกันผมก็ต้องมาลุ้นอีกว่าจะได้หรือไม่ หลังจากคุยเรื่องนี้ผมก็ปล่อยผ่านถือว่ามันเป็นความโง่ของผมเองเริ่มเข้าระบบที้ประกันบอกใหม่ คือ ต้องขอใบเสด ใบรับรองแพทย์และต้องสำลองจ่ายเป็นเงินสดทุกครั้ง ด้วยเงินของผมเองก่อน เมื่อครบกำหนด แผลหายดีตามที่หมอบอกผมถึงจะรวมใบเสด ไปเอาเงินกับเค้าได้ (ผมก้ยังสงใสว่าถ้าบางคนไม่ทีเงินจะทำยังไงเพราะค่ารักษาครั้งนึงก็ 400 บาทยังไม่รวมค่ารถไปหาหมออีก) และเค้าบอกว่าหลังจากเอาใบเสดหรือใบรับรองแพทย์มาก็ต้องผ่านการประเมินจากบริษัทเค้าอีกว่าผมสมควรจะได้เงินเท่าไหร่ ประกัรเค้าก้เนอะนำมาว่าให้ไปทำที่โรงบาลที่ไปครั้งแรกเพราะมีประวัติที่เกิดอุบัติเหตุจะมีน้ำหนักมากกว่าซึ่งผมต้องเสียค่ารถมากกว่าเดิมและถ่อสังขาลไปไกลกว่าเดิม เช่นเคยแผลไกล้หาย ผมจึงโทรไปนัดเนอะกับเค้าว่าจะนัดไปเอาค่าสินไหมค่ารักษาต่างๆ ซึ่งเค้าบอกต้องไปเอากับบริษัทย์เค้าที่บางบ่อ อีก
ผมอยากจะถามเพื่อนๆครับว่าผมพอจะทำอะไรได้บ้างเพราะรู้สึกไม่โอเคและไม่ไหวแล้ว ทั้งๆที่ผมเป็นผู้เสียหาย แต่ต้องตามโทรตามถาม ตามทำเรื่องและต้องทำทุกอย่างเองหมด ทั่งต้องถ่อสังขาลไปหาเค้าถึงที่ เงินทุกบาททุกสตางค์ก็ต้องสำลองจ่ายเองหมด ค่ารถ ค่ารักษาส่วนต่างทำรถ รวมๆเกือบ 5000-6000 บาทโดยที่ยังไม่ได้คืนมาสักสลึง ทั้งยังต้องปวดหัวรวบรวมเอกสารจิปาทะต่างๆทั้งของรถและการรักษาให้เค้า มะรืนก็ต้องไปหาเค้าถึงที่ซึ่งไกลมาก ผมรู้สึกไม่แฟร์เลยครับ คนชนผมยังกินอิ่มทำฃานใช้ชีวิตสุขสบายปกติไมาเคยมาเลียวแล แต่ผมต้องลำบากตามเรื่องนู่นนี้ทั่งที่เป็นผู้เสียหาย ขอคำปรึกษาด้วยครับ
โดนรถชนคู่กรณีไม่สนใจ
1)ภรรยาผมต้องทำงานหนักคนเดว ทั้งที่เป็นโรคหัวใจ ทางฝั่งนั้นไม่มีการโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบ ซึ่งผมต้องหยุดงานเป็นเวลาครึ่งเดือน
2)ประกันในครั้งนี้มี 2 คนคือประกันรถ และประกันที่ดูแลเรื่องรักษาให้ผม
3)หลังจากจบคดีความ ประกันรถมีการเข้ามาดูมอเตอไซต์และทำเอกสารซ่อมรถให้ โดยที่ผมต้องเอาไปซ่อมเองย้ำนะครับ ต้องเอาไปเอง หลังจากซ่อมเสด ประกันก็ไม่ได้มีการมาต่อบอกแต่เพียงให้เอาค่าใช้จ่ายไปยื่นที่บริษัทที่ห้วยขวางเพื่อรับเงินค่าทำรถ ตรงจุดนี้ผมค่อนข้างงงเพราะบริษัทอยู่ไกลมาก ผมไปไม่เป็น และสังขาลไม่ไหว ครั้นจะหอบเมียที่เป็นโรคหัวใจไปด้วยในช่วงระบาดหนักก็เสี่ยง แถมคำนวนค่ารถ ไปกลับเกือบ 600 ซึ่งผมก็ไม่รู้ได้ว่าจะได้ค่าน้ำมันส่วนต่างๆนี้ไหม เพราะตลอด มาไม่มีรถผมต้องเสียค่าน้ำมันไป สน. ไปดูรถ และไปรักษาพยาบาลเองอีกเกือบ 1500 และการซ่อมรถ มีบางอย่างที่ทางร้านบอกไม่สามารถเบิกประกันได้ผมต้องชำระส่วนต่างนี้เอง ผมถึงกับอึ้งว่าทำไมผมต้องทาเสียมากมายขนาดนี้ มันอาจจะเล็กน้อยสำหรับบางคนแต่สำหรับคนหาเช้ากินค่ำสามารถอยู่ได้หลายวันนะครับ
4)เรื่องร่างกาย ฝั่งนั้นมีประกันอีกคน ซึ่งมีการนัดพบกันหลังจากผมโดนชนประมาน 6 วัน ทุกวันผมไปรักษาที่คลินิคไกล้บ้านเพราะไปโรงพยาบาลที่เกิดเหตุไม่ไหว ค่อนข้างไกล และใช้สิทธิของตัวเอง ไม่ได้สำลองจ่ายไป แต่พอวันที่ไปเจอประกัน เค้าบอกช่วงที่รักษาที่ผ่านมาต้องมีใบเสดหรือใบรับรองแพทย์ไปให้เค้า ซึ่งใบเสดไม่มีเพราะเป็นการรักษาฟรี ผมจึงขอใบรับรองแพทย์กับคลินิคไปแต่คลิคนอคไม่สามารถออกใบรับรองแพทย์ให้ได้ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตรงจุดนี้ เท่ากับที้ผมต้องหยุดรักษาตัว 5 วันและค่าน้ำมันไปทำแผล ก่อนเจอประกันผมก็ต้องมาลุ้นอีกว่าจะได้หรือไม่ หลังจากคุยเรื่องนี้ผมก็ปล่อยผ่านถือว่ามันเป็นความโง่ของผมเองเริ่มเข้าระบบที้ประกันบอกใหม่ คือ ต้องขอใบเสด ใบรับรองแพทย์และต้องสำลองจ่ายเป็นเงินสดทุกครั้ง ด้วยเงินของผมเองก่อน เมื่อครบกำหนด แผลหายดีตามที่หมอบอกผมถึงจะรวมใบเสด ไปเอาเงินกับเค้าได้ (ผมก้ยังสงใสว่าถ้าบางคนไม่ทีเงินจะทำยังไงเพราะค่ารักษาครั้งนึงก็ 400 บาทยังไม่รวมค่ารถไปหาหมออีก) และเค้าบอกว่าหลังจากเอาใบเสดหรือใบรับรองแพทย์มาก็ต้องผ่านการประเมินจากบริษัทเค้าอีกว่าผมสมควรจะได้เงินเท่าไหร่ ประกัรเค้าก้เนอะนำมาว่าให้ไปทำที่โรงบาลที่ไปครั้งแรกเพราะมีประวัติที่เกิดอุบัติเหตุจะมีน้ำหนักมากกว่าซึ่งผมต้องเสียค่ารถมากกว่าเดิมและถ่อสังขาลไปไกลกว่าเดิม เช่นเคยแผลไกล้หาย ผมจึงโทรไปนัดเนอะกับเค้าว่าจะนัดไปเอาค่าสินไหมค่ารักษาต่างๆ ซึ่งเค้าบอกต้องไปเอากับบริษัทย์เค้าที่บางบ่อ อีก
ผมอยากจะถามเพื่อนๆครับว่าผมพอจะทำอะไรได้บ้างเพราะรู้สึกไม่โอเคและไม่ไหวแล้ว ทั้งๆที่ผมเป็นผู้เสียหาย แต่ต้องตามโทรตามถาม ตามทำเรื่องและต้องทำทุกอย่างเองหมด ทั่งต้องถ่อสังขาลไปหาเค้าถึงที่ เงินทุกบาททุกสตางค์ก็ต้องสำลองจ่ายเองหมด ค่ารถ ค่ารักษาส่วนต่างทำรถ รวมๆเกือบ 5000-6000 บาทโดยที่ยังไม่ได้คืนมาสักสลึง ทั้งยังต้องปวดหัวรวบรวมเอกสารจิปาทะต่างๆทั้งของรถและการรักษาให้เค้า มะรืนก็ต้องไปหาเค้าถึงที่ซึ่งไกลมาก ผมรู้สึกไม่แฟร์เลยครับ คนชนผมยังกินอิ่มทำฃานใช้ชีวิตสุขสบายปกติไมาเคยมาเลียวแล แต่ผมต้องลำบากตามเรื่องนู่นนี้ทั่งที่เป็นผู้เสียหาย ขอคำปรึกษาด้วยครับ