
เกือบๆ3ปีได้แล้วมั้ง นับจากวันแรก ที่ตัดสินใจเก็บลูกแมวข้างถนน เข้ามาในบ้าน เรื่องราวในตอนนั้น เรายังจดจำได้ดี และยังคิดถึงแต้มเสมอ (แม้ไม่ค่อยจะกล้าคิดถึงมากนัก น้ำตาจะไหลทุกที

)
เรื่องราวของแต้มค่ะ >>>
https://pantip.com/topic/38243215
หลังจากตัดสินใจยกแต้มให้ผู้ขออุปการะไป เรารู้สึกคิดถึงแต้มมาก จะขอคืนก็ทำไม่ได้แล้ว ได้แค่แชทไปถามเค้าเป็นครั้งคราว ไม่คิดว่ากับแมวตัวแรก ที่เอามาดูแลแค่19วัน จะผูกพันได้มากขนาดนี้เลยค่ะ ซื้อหนังสือวรรณกรรมที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับแมวมาอ่าน อ่านแล้วก็ชอบคิดถึงแต้ม ร้องไห้น้ำตาแตกทุกเล่มไป
เอาล่ะค่ะ จากช่องว่างที่ขาดแต้มไปแล้วเพิ่งรู้ใจตัวเองในตอนนั้น เราก็เดินหาลูกแมวมาตลอดเลย รู้สึกอยากเลี้ยงแมวขึ้นมาจริงๆจังๆ ขอเป็นแมวข้างถนนผู้หิวโหยและเหน็บหนาวด้วยนะ แมวพันธุ์ก็ไม่เอาด้วย ไม่ใช่อะไรนะคะ ลงทุนไม่ไหว 555
เราได้เข้าในอยู่ในกลุ่มแชทเกี่ยวกับแมวที่นี่ (เซี่ยงไฮ้) หนึ่งในนั้นมีกลุ่มคนไทยผู้มีใจรักแมวที่อาศัยอยู่ในจีนค่ะ หลักๆเราก็คุยกันเรื่องแมว ส่งข่าวแมวจรต้องการความช่วยเหลือบ้าง อะไรแบบนี้ เราก็ส่องอยู่บ่อยๆค่ะ หวังว่าจะได้พบเจอลูกแมวสามสี ที่ต้องชะตากัน
หลังจากนั้น ว้าบข้ามมาเลย ปลายปีที่แล้ว เรามีแมวเลี้ยงไว้ในอพาร์ตเมนท์เล็กๆที่เช่าอยู่ที่นี่ รวมทั้งหมด 5 ตัวค่ะ

จากความตั้งใจอยากรับเลี้ยงแค่ 1-2 ตัวในตอนนั้น
และในเช้าวันหนึ่งวันนั้น เวลารุ่งเช้า 6 โมงกว่าๆ เดือนกันยายน ปี2021ที่ผ่านมา ก่อนความหนาวเหน็บจะเข้าครอบคลุมเมืองเซี่ยงไฮ้ เรากับแฟน มักออกจากหมู่บ้าน ไปวิ่งๆเดินๆตอนเช้าที่สวนแถวๆหมู่บ้าน ขณะที่กำลังจะออกจากหมู่บ้าน สายตาก็เหลือบไปเห็นลูกแมวสีน้ำตาลอ่อนๆ นอนเล่นอยู่บนพื้นหญ้า ใกล้ๆกับสถานีทิ้งขยะของหมู่บ้าน "นอนเล่นชมวิวเพลินเลยนะเจ้าแมว" เราคิดในใจ ความสะดุดตาเล็กๆคือมีสีที่แปลกกว่าแมวจรที่มักเจอแถวๆนั้น แต่เอ๊ะ ดูๆไป ทำไมมันไม่ค่อยขยับเลยล่ะ เดินเข้าไปใกล้ก็ยังนอนนิ่ง ยิ่งเดินเข้าไปใกล้อีก เจ้าแมวน้อย กำลังก้มหน้า หายใจรวยริน

เอาล่ะสิ ท่าทางจะงานเข้า ไม่น่าเข้ามาทักเลย เอาไงดี วันนี้ต้องไปทำงาน ยืนคิดกับแฟน งั้นเดี๋ยววิ่งขึ้นไปเอาน้ำเอาอาหารมาลองให้มันกินดูละกัน ดูว่ามันยังกินได้ไหม
เราวิ่งงง ขึ้นบันได5ชั้นไปที่บ้าน (ตึกเราไม่มีลิฟต์

) พร้อมกับแชทหาพี่ที่เค้าเป็น rescuer ที่นี่(เซี่ยงไฮ้) พี่เค้าเก่งเรื่องแมวมากและใจดีมากๆๆ ปรึกษาไปด้วยว่าทำยังไงดี ถึงบ้านปุ๊บก็คว้าทุกอย่างที่น่าจะได้ใช้ จากคำแนะนำของพี่เค้า ด้านล่าง ให้แฟนเฝ้าแมวไว้
วิ่งลงมาถึงแมว มันยังนอนท่าเดิมไม่ขยับ ก้มหน้าหายใจรวยรินอย่างไม่รู้สาเหตุ เราลองเอาอาหาร น้ำ ให้มันกินดู มันค่อยๆขยับหัว เลียอาหารช้าๆ โอเคคค กินอาหารได้
แต่ท่าทางมันไม่ขยับเลย ขยับแต่ปาก 5555 วันนี้ต้องไปทำงานด้วยสิ คนจีนเดินผ่านไปผ่านมาก็เริ่มมามุง ลุงคนนึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ ก็มาบอก แมวตัวนี้สวยมากนะ พาไปหาหมอเถอะ
ณ ตอนนั้น สับสนไปหมด แมวบนบ้านก็5ตังเข้าไปละ ค่าหมอแมวที่นี่ก็แพงมากๆๆ แต่มาถึงขั้นนี้ละ จะปล่อยมันตายไปทั้งอย่างงั้น ได้กลายเป็นปมในใจอีกแน่ เราเลยวิ่งงง 5ชั้นขึ้นไปอีกที หยิบกล่องรองเท้าเปล่าๆกล่องนึงลงมา และ หยิบมันใส่กล่อง ขึ้นบ้าน มันตัวเบามาก และยังคงไม่ขยับ หายใจแผ่ว
เราเอาแมวน้อยวางไว้ตรงห้องเล็กๆระหว่างโถงบันไดตึกกับภายในบ้านเรา เพราะไม่รู้ว่ามันเป็นโรคติดต่ออะไรไหม ตกลงกับแฟนว่าให้แฟนเป็นคนพาไปรพ.สัตว์ใกล้ๆบ้าน โชคดีที่ที่ทำงานแฟนอยู่ใกล้บ้าน ส่วนเรา ขอตัวไปทำงานก่อนแล้วว ทิ้งงานใหญ่ไว้ให้แฟนเลย 555
เช้านั้น แฟนจึงสวมวิญญาณผู้พิทักษ์ (พี่คนที่เก่งเรื่องแมวที่คอยแชทให้คำปรึกษาเราตลอดตั้งฉายาให้) ปั่นจักรยาน มือข้างนึงจับแฮนด์ มืออีกข้างหอบกล่องรองเท้าที่มีแมวอยู่ในนั้น ไปหาหมอ
ถึงรพ. หมอได้ทำการเอกซเรย์ พบว่ากระดูกสะโพกหัก น่าจะตกจากที่สูง ฟันเขี้ยวข้างซ้ายหักลงมาปักริมฝีปากด้านล่าง เลือดกลบปาก (แล้วมะเช้ากินอาหารเข้าไปยังไงนั่น

)
หมอดึงฟันออกจากปากให้ และให้ออกซิเจนช่วยหายใจ
หมอบอกกับแฟนว่า นี่เป็นแมวพันธุ์นะ ราคาแพง หมื่นกว่าบาทได้เลยนะ และมันต้องทำการผ่าตัดนะ เรามีข้อเสนอ 2ข้อ
ข้อ1 เราต้องจ่ายให้หมอ ประมาณหมื่นกว่าบาท หมอจะจัดการผ่าตัดและหาบ้านให้
ข้อ2 เรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเองทั้งหมด
เรากับแฟนเลยปรึกษาพี่ที่รู้จัก ว่าจะเอาไงต่อไปดี พี่เค้าเลยแนะนำว่า เอาไปฝากคลินิคหมอรูเข็มก่อนดีไหม (ที่เรียกหมอรูเข็มเพราะแมวที่บ้าน5ตัว ทำหมันกับหมอคนนี้หมดเลยทุกตัว แผลเล็ก สวยมาก)
ก็เป็นอันว่า เย็นวันนั้น แฟนรับหน้าที่พาจอนไปฝากหมอรูเข็ม
แต่พอดีว่าวันนั้นแฟนเลิกงานช้า เลยต้องปั่นจักรยาน ไปรับจอน เอาจอนใส่กล่อง หอบกล่องพร้อมปั่นจักรยานมาออฟฟิศ พักจอนที่ออฟฟิศก่อน
เจ้าจอนในกล่อง วางอยู่บนพื้นที่ออฟฟิศแฟน นิ่ง สงบเสงี่ยม เจ็บสินะเรา
สภาพจอน อิดโรย สะบักสะบอม ตาแดงช้ำ ฯลฯ
ไปเจออะไรมาบ้างก็ไม่รู้
พอเลิกงาน แฟนก็รีบพาจอนนั่งแทกซี่ไปหาหมอรูเข็มทันที ระหว่างทาง จอนร้องเบาๆโดยที่แฟนก็ไม่เข้าใจว่านางต้องการอะไร จนในวินาทีที่กำลังจะลงจากแทกซี่ … นางก็ได้ปลดปล่อยสิ่งที่อดกลั้นไว้ ออกมา ….
ภาพจอนตอนกำลังร้องโวยวายในแทกซี่ ก่อนจะสร้างวีรกรรมก่อนลงแทกซี่
พอถึงมือหมอ แฟนเล่าให้ฟังว่าหมอชิวมาก จับๆที่สะโพกแล้วก็บอก สะโพกหัก โดนรถชนมา ไม่ต้องผ่าตัดหรอก เดี๋ยวมันก็หาย พอได้ฟังแบบนี้ ใจนึงก็โล่งใจ แต่อีกใจก็…โห หมอชิวแท้ มันไม่เป็นไรแน่นะ
สภาพหลัง…แตกในรถแทกซี่ สบายละสิ
หน้าตาเริ่มดูดีมีแววน่ารักขึ้นมาละ หลังเช็ดหน้าเช็ดตา เช็ดเลือดออก
วันต่อๆมา เราและแฟนก็ไปเยี่ยมอยู่เรื่อยๆ อาการจอนก็ดีขึ้นตามลำดับ
จากที่ยังลุกเองไม่ได้ ก็ลุกขึ้นยืนเองได้
ทุกครั้งที่ไปเยี่ยม จอนจะเพอร์เสียงดังมาก ออกอาการกระตือรือร้น อยากจะออกมาเล่นนอกกรง พยายามจะยืน จะเดิน จะวิ่ง ใจสู้มาก พอเอากลับเข้ากรงก็จะร้องโวยวาย เหมือนอยากกลับด้วย
(เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ)
มึนกับแมว season3 - เจ้าจอน แมวพันธุ์ที่ปูมหลังยังคงเป็นปริศนา -
เกือบๆ3ปีได้แล้วมั้ง นับจากวันแรก ที่ตัดสินใจเก็บลูกแมวข้างถนน เข้ามาในบ้าน เรื่องราวในตอนนั้น เรายังจดจำได้ดี และยังคิดถึงแต้มเสมอ (แม้ไม่ค่อยจะกล้าคิดถึงมากนัก น้ำตาจะไหลทุกที
เรื่องราวของแต้มค่ะ >>> https://pantip.com/topic/38243215
หลังจากตัดสินใจยกแต้มให้ผู้ขออุปการะไป เรารู้สึกคิดถึงแต้มมาก จะขอคืนก็ทำไม่ได้แล้ว ได้แค่แชทไปถามเค้าเป็นครั้งคราว ไม่คิดว่ากับแมวตัวแรก ที่เอามาดูแลแค่19วัน จะผูกพันได้มากขนาดนี้เลยค่ะ ซื้อหนังสือวรรณกรรมที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับแมวมาอ่าน อ่านแล้วก็ชอบคิดถึงแต้ม ร้องไห้น้ำตาแตกทุกเล่มไป
เอาล่ะค่ะ จากช่องว่างที่ขาดแต้มไปแล้วเพิ่งรู้ใจตัวเองในตอนนั้น เราก็เดินหาลูกแมวมาตลอดเลย รู้สึกอยากเลี้ยงแมวขึ้นมาจริงๆจังๆ ขอเป็นแมวข้างถนนผู้หิวโหยและเหน็บหนาวด้วยนะ แมวพันธุ์ก็ไม่เอาด้วย ไม่ใช่อะไรนะคะ ลงทุนไม่ไหว 555
เราได้เข้าในอยู่ในกลุ่มแชทเกี่ยวกับแมวที่นี่ (เซี่ยงไฮ้) หนึ่งในนั้นมีกลุ่มคนไทยผู้มีใจรักแมวที่อาศัยอยู่ในจีนค่ะ หลักๆเราก็คุยกันเรื่องแมว ส่งข่าวแมวจรต้องการความช่วยเหลือบ้าง อะไรแบบนี้ เราก็ส่องอยู่บ่อยๆค่ะ หวังว่าจะได้พบเจอลูกแมวสามสี ที่ต้องชะตากัน
หลังจากนั้น ว้าบข้ามมาเลย ปลายปีที่แล้ว เรามีแมวเลี้ยงไว้ในอพาร์ตเมนท์เล็กๆที่เช่าอยู่ที่นี่ รวมทั้งหมด 5 ตัวค่ะ
และในเช้าวันหนึ่งวันนั้น เวลารุ่งเช้า 6 โมงกว่าๆ เดือนกันยายน ปี2021ที่ผ่านมา ก่อนความหนาวเหน็บจะเข้าครอบคลุมเมืองเซี่ยงไฮ้ เรากับแฟน มักออกจากหมู่บ้าน ไปวิ่งๆเดินๆตอนเช้าที่สวนแถวๆหมู่บ้าน ขณะที่กำลังจะออกจากหมู่บ้าน สายตาก็เหลือบไปเห็นลูกแมวสีน้ำตาลอ่อนๆ นอนเล่นอยู่บนพื้นหญ้า ใกล้ๆกับสถานีทิ้งขยะของหมู่บ้าน "นอนเล่นชมวิวเพลินเลยนะเจ้าแมว" เราคิดในใจ ความสะดุดตาเล็กๆคือมีสีที่แปลกกว่าแมวจรที่มักเจอแถวๆนั้น แต่เอ๊ะ ดูๆไป ทำไมมันไม่ค่อยขยับเลยล่ะ เดินเข้าไปใกล้ก็ยังนอนนิ่ง ยิ่งเดินเข้าไปใกล้อีก เจ้าแมวน้อย กำลังก้มหน้า หายใจรวยริน
เอาล่ะสิ ท่าทางจะงานเข้า ไม่น่าเข้ามาทักเลย เอาไงดี วันนี้ต้องไปทำงาน ยืนคิดกับแฟน งั้นเดี๋ยววิ่งขึ้นไปเอาน้ำเอาอาหารมาลองให้มันกินดูละกัน ดูว่ามันยังกินได้ไหม
เราวิ่งงง ขึ้นบันได5ชั้นไปที่บ้าน (ตึกเราไม่มีลิฟต์
วิ่งลงมาถึงแมว มันยังนอนท่าเดิมไม่ขยับ ก้มหน้าหายใจรวยรินอย่างไม่รู้สาเหตุ เราลองเอาอาหาร น้ำ ให้มันกินดู มันค่อยๆขยับหัว เลียอาหารช้าๆ โอเคคค กินอาหารได้
แต่ท่าทางมันไม่ขยับเลย ขยับแต่ปาก 5555 วันนี้ต้องไปทำงานด้วยสิ คนจีนเดินผ่านไปผ่านมาก็เริ่มมามุง ลุงคนนึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ ก็มาบอก แมวตัวนี้สวยมากนะ พาไปหาหมอเถอะ
ณ ตอนนั้น สับสนไปหมด แมวบนบ้านก็5ตังเข้าไปละ ค่าหมอแมวที่นี่ก็แพงมากๆๆ แต่มาถึงขั้นนี้ละ จะปล่อยมันตายไปทั้งอย่างงั้น ได้กลายเป็นปมในใจอีกแน่ เราเลยวิ่งงง 5ชั้นขึ้นไปอีกที หยิบกล่องรองเท้าเปล่าๆกล่องนึงลงมา และ หยิบมันใส่กล่อง ขึ้นบ้าน มันตัวเบามาก และยังคงไม่ขยับ หายใจแผ่ว
เราเอาแมวน้อยวางไว้ตรงห้องเล็กๆระหว่างโถงบันไดตึกกับภายในบ้านเรา เพราะไม่รู้ว่ามันเป็นโรคติดต่ออะไรไหม ตกลงกับแฟนว่าให้แฟนเป็นคนพาไปรพ.สัตว์ใกล้ๆบ้าน โชคดีที่ที่ทำงานแฟนอยู่ใกล้บ้าน ส่วนเรา ขอตัวไปทำงานก่อนแล้วว ทิ้งงานใหญ่ไว้ให้แฟนเลย 555
เช้านั้น แฟนจึงสวมวิญญาณผู้พิทักษ์ (พี่คนที่เก่งเรื่องแมวที่คอยแชทให้คำปรึกษาเราตลอดตั้งฉายาให้) ปั่นจักรยาน มือข้างนึงจับแฮนด์ มืออีกข้างหอบกล่องรองเท้าที่มีแมวอยู่ในนั้น ไปหาหมอ
ถึงรพ. หมอได้ทำการเอกซเรย์ พบว่ากระดูกสะโพกหัก น่าจะตกจากที่สูง ฟันเขี้ยวข้างซ้ายหักลงมาปักริมฝีปากด้านล่าง เลือดกลบปาก (แล้วมะเช้ากินอาหารเข้าไปยังไงนั่น
หมอดึงฟันออกจากปากให้ และให้ออกซิเจนช่วยหายใจ
หมอบอกกับแฟนว่า นี่เป็นแมวพันธุ์นะ ราคาแพง หมื่นกว่าบาทได้เลยนะ และมันต้องทำการผ่าตัดนะ เรามีข้อเสนอ 2ข้อ
ข้อ1 เราต้องจ่ายให้หมอ ประมาณหมื่นกว่าบาท หมอจะจัดการผ่าตัดและหาบ้านให้
ข้อ2 เรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเองทั้งหมด
เรากับแฟนเลยปรึกษาพี่ที่รู้จัก ว่าจะเอาไงต่อไปดี พี่เค้าเลยแนะนำว่า เอาไปฝากคลินิคหมอรูเข็มก่อนดีไหม (ที่เรียกหมอรูเข็มเพราะแมวที่บ้าน5ตัว ทำหมันกับหมอคนนี้หมดเลยทุกตัว แผลเล็ก สวยมาก)
ก็เป็นอันว่า เย็นวันนั้น แฟนรับหน้าที่พาจอนไปฝากหมอรูเข็ม
แต่พอดีว่าวันนั้นแฟนเลิกงานช้า เลยต้องปั่นจักรยาน ไปรับจอน เอาจอนใส่กล่อง หอบกล่องพร้อมปั่นจักรยานมาออฟฟิศ พักจอนที่ออฟฟิศก่อน
เจ้าจอนในกล่อง วางอยู่บนพื้นที่ออฟฟิศแฟน นิ่ง สงบเสงี่ยม เจ็บสินะเรา
สภาพจอน อิดโรย สะบักสะบอม ตาแดงช้ำ ฯลฯ
ไปเจออะไรมาบ้างก็ไม่รู้
พอเลิกงาน แฟนก็รีบพาจอนนั่งแทกซี่ไปหาหมอรูเข็มทันที ระหว่างทาง จอนร้องเบาๆโดยที่แฟนก็ไม่เข้าใจว่านางต้องการอะไร จนในวินาทีที่กำลังจะลงจากแทกซี่ … นางก็ได้ปลดปล่อยสิ่งที่อดกลั้นไว้ ออกมา ….
ภาพจอนตอนกำลังร้องโวยวายในแทกซี่ ก่อนจะสร้างวีรกรรมก่อนลงแทกซี่
พอถึงมือหมอ แฟนเล่าให้ฟังว่าหมอชิวมาก จับๆที่สะโพกแล้วก็บอก สะโพกหัก โดนรถชนมา ไม่ต้องผ่าตัดหรอก เดี๋ยวมันก็หาย พอได้ฟังแบบนี้ ใจนึงก็โล่งใจ แต่อีกใจก็…โห หมอชิวแท้ มันไม่เป็นไรแน่นะ
สภาพหลัง…แตกในรถแทกซี่ สบายละสิ
หน้าตาเริ่มดูดีมีแววน่ารักขึ้นมาละ หลังเช็ดหน้าเช็ดตา เช็ดเลือดออก
วันต่อๆมา เราและแฟนก็ไปเยี่ยมอยู่เรื่อยๆ อาการจอนก็ดีขึ้นตามลำดับ
จากที่ยังลุกเองไม่ได้ ก็ลุกขึ้นยืนเองได้
ทุกครั้งที่ไปเยี่ยม จอนจะเพอร์เสียงดังมาก ออกอาการกระตือรือร้น อยากจะออกมาเล่นนอกกรง พยายามจะยืน จะเดิน จะวิ่ง ใจสู้มาก พอเอากลับเข้ากรงก็จะร้องโวยวาย เหมือนอยากกลับด้วย
(เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ)