เราคือบุคคลากรทางการแพทย์ที่เหนื่อยและท้อกับงานจนคิดว่าจะต้องลาออกแล้ว

ในขณะที่คนอื่นทุกข์กับการที่ต้องตกงาน แต่เราซึ่งมีงานทำที่มั่นคง แต่ตอนนี้ไม่มีความสุขเลย
งานทุกวันนี้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว งาน rouetine ก็ยังต้องทำ งานโควิดก็เยอะมากๆจนจะไม่ไหวแล้ว
บางทีเวลาไปที่ต่างๆเห็นคนที่เค้าทำงานไปด้วยแล้วมีเวลานั่งพัก ได้ผ่อนคลาย ในใจเราสะท้อนตัวเอง
เราสงสารตัวเองที่ทำไมไม่มีเวลาว่างๆนั่งพักบ้าง เป็นแบบนี้มานานและหนักขึ้นเรื่อยๆ

เราจึงคิดว่าเราจะยอมเป็นคนตกงานดีมั้ย อยากว่าง อยากพักกายพักใจ
ใช้เงินเก็บที่มีประคองชีวิตไปก่อน  หนี้สินตอนนี้เคลียร์หมดแล้ว 
เมื่อเรามีแรงมีพลังงานที่จะหางานใหม่ ความรู้ความสามารถที่มีคงจะช่วยให้เรามีงานทำได้อีก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 40
ในฐานะบุคลากรทางการแพทย์คนนึงที่ลาออกมาเหมือนกัน
ไม่ว่าใครจะหาว่าเราไม่มีใจเมตตา หรือเห็นแก่ตัวก็ตาม
เรามีหลายปัจจัยที่ต้องปกป้อง ไม่ว่าจะครอบครัว หรือตัวเราเอง เพราะเราอยู่กับแม่ 2 คน แม่เราสูงอายุแล้วและมีโรคประจำตัว
ส่วนเราก็เป็นเสาหลักของแม่ หากขาดเราไป แม่ก็จะอยู่เพียงลำพังไม่ได้

เราจึงตัดสินใจลาออก มาใช้เงินเก็บที่มีเพื่อรอสถานการณ์ดีขึ้น แต่เราไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ไม่มีหนี้สิน มีบ้านเป็นของตัวเอง ค่าใช้จ่ายก็เล็กน้อยเพราะอยู่กับแม่เพียง 2 คน

และอีกเหตุผลที่สำคัญคือ เราไม่ไหวกับระบบสาธารณสุขไทยแล้ว
ตั้งแต่ปีที่แล้ว เงินเดือนเราไม่ได้เพิ่ม มีแต่จะหาเรื่องลดเงินเราด้วยซ้ำ (ขอไม่พูดเรื่องรายละเอียด) ต้องทำประกันโควิดเอง จ่ายเงินส่วนตัว เพราะถ้าติดไป ไม่มีใครมาช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ยิ่งถ้าตาย เราไม่ได้เงินชดเชย หรือแม้แต่การเลื่อนขั้นด้วยซ้ำ
อุปกรณ์ป้องกันแทบไม่มี หรือถ้ามีคือเราต้องหาซื้อเองเองซึ่งเราก็ต้องการของมีคุณภาพและราคาค่อนข้างสูง ค่าใช้จ่ายในการหาอุปกรณ์ต่อเดือนเป็นหลักพัน และเราต้องดิ้นรนหาคนมาช่วยบริจาคสิ่งของป้องกันให้แผนกซึ่งของต้องเข้าแผนกโดยตรง เพราะคนส่วนใหญ่บริจาคเข้า รพ แล้วจะมี ผอ.หรือ ผู้บริหารมายืนถ่ายรูปรับมอบ แต่ของไม่เคยถึงแผนกเราสักครั้ง หรือถึงน้อยมาก เงินที่เค้าบริจาคให้ รพ ก็ไม่เคยมาซื้ออุปกรณ์ป้องกันให้เราเลย
หากวันนึงเราติดเชื้อจากคนไข้ เราไม่ได้เป็นคนที่น่าเห็นใจ แต่เรากลายเป็นคนที่ไม่รู้จักป้องกันตัวเอง

เราแค่ผ่านมาจะบอกว่า มันมีหลายปัจจัย ในการจะอยู่หรือไป เรานับถือใจคนที่ยังคงอยู่เพื่อช่วยเหลือคนไข้ แต่สำหรับเรา เวลาเกือบ 2 ปี เราทำเต็มที่แล้วจริงๆ เราขอทำเพื่อตัวเองบ้าง ถ้าหากอนาคต ระบบดีขึ้น หรือสถานการณ์ดีขึ้น เราก็จะกลับไปทำหน้าที่เช่นเดิม

หากคุณเลือกจะอยู่ต่อ เราเป็นกำลังใจให้ สู้ๆนะคะ เรารู้ว่ามันแย่และเหนื่อยมากจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 2
เข้ามากอดและให้กำลังใจนะคะ ❤️❤️

เห็นใจและเข้าใจมากนะ นี้รอบตัวเราบุคลากรทางการแพทย์ก็ติดเชื้อโควิดไปหลายคนแล้วเลยทำให้บรรยากาศและเราหดหู่ และหลายคนก็ต้องหมุนเวียนพลัดเปลี่ยนทำงานแทนกัน ตารางเวรแน่น

เวรตึกโควิดยิ่งหดหู่มาก

นี้เราก็ไม่ได้กลับบ้านเลย พ่อแม่ก็ไม่ได้เจอตัวเป็นๆ ก็อาศัย FaceTime กับ Line กับเล่นพันทิปเอาแก้เครียด

เจ้าของกระทู้ไปนอนนะคะ คนไข้ทั้งวอร์ดไม่ได้เป็นของเจ้าของกระทู้คนเดียวนะ ❤️❤️  คุยกับแพทย์พี่เลี้ยงดูค่ะ ไปอาบน้ำ กินข้าว และนอนยาวๆ แล้วจะดีขึ้นนะ

เข้าใจสุดๆๆๆ <3 <3 <3
ความคิดเห็นที่ 9
ก็นี่ล่ะ
คนบางกลุ่มชอบบอกว่าติดก็รักษา จะกลัวทำไม กลัวอดตายมากกว่า

ไม่ได้คิดกันเลยว่าติดกันเยอะๆ แล้วหมอ พยาบาล จะงานล้นมือขนาดไหน
ความคิดเห็นที่ 33
ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน ไม่อยากเห็นบุคลากรการแพทย์เครียดจนโดดตึกอีก   คุณเป็นหมอของคนอื่น แต่ถึงจุดหนึ่ง คุณเป็นแค่ลูกของพ่อแม่ และเป็นคนธรรมดา
ความคิดเห็นที่ 23
ไม่ไหวก็ ออกครับ  
ทำมาพอเเล้ว  เสียสละ พอเเล้ว

มีพ่อเเม่ ญาติ พี่น้อง รออยู่ครับ
กลับไปพักก่อน ถ้าเติมไฟเเล้ว ค่อยกลับมาว่ากันใหม่
เมื่อพร้อม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่