https://www.facebook.com/IbehindYou/

บทความจากเพจครับ

เป็นบทความที่ดีมากครับ

== อย่าด้อยค่า+ให้ความเป็นธรรมกับ Sinovac ==

ถ้าใครเห็นรูปซ้าย ต้องทึ่งผลการทดลอง Sinovac ของ สธ. ว่าป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้ถึง 75%
- เป็นตัวเลขที่แบบ โอ้โห ป้องกันดีกว่า AstraZenaca เจอสายพันธุ์เดลต้าที่เพิ่งตีพิมพ์ลง New England Journal of Medicine ล่าสุดอีก อันนั้นยังแค่ 67%
- เป็นตัวเลขที่แบบ โอ้โห ผลของไทยรับมือเดลต้าที่ว่าร้ายๆ ป้องกันดีกว่าเจอสายพันธุ์ดั้งเดิม ตาม WHO ที่บอกว่าป้องกันได้แค่ 67%
- เป็นตัวเลขที่โอ้โห หรือว่าคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกที่ภูมิดีขนาดนั้น
===
ทำไมผลการศึกษา Sinovac ในไทยแต่ละชิ้นที่สธ.นำเสนอ ช่างดีงามกว่าแทบทุกการศึกษาที่รายงานทั่วโลก
มีเฉลยในสองลิงค์นี้ :
(ก) https://m.facebook.com/.../a.10439863.../330711118528539/...
(ข) https://workpointtoday.com/sinovac22/... 
==============================
นี่คือการให้ความเป็นธรรมกับ Sinovac หรือเปล่า ?
==============================
สมมติเราศึกษาวัคซีนปาปริก้า
ฉีด 2 คน ผ่านไป 3 เดือน 2 คนนี้ไม่ป่วยเป็นโควิด
จะบอกว่าวัคซีนปาปริก้าป้องกันโควิดได้ 100%
ก็พูดได้แหละ
เพราะฉีดสองคนไม่ติดเลยทั้ง 2 คน
แต่มันคือการศึกษาที่ไม่น่าเชื่อถือพอ ไม่ว่าจะ n=2 หรือระเบียบวิธีวิจัย
สองคนนั้นอาจไม่ป่วยเพราะไม่ออกไปไหน หรือฉีดน้ำเปล่าก็อาจได้ผลดีเท่ากัน ฯลฯ
- เราจะเรียน methodology ไปทำไม
- อาจารย์จะเขี้ยวตอนตรวจงานวิจัยกับลูกศิษย์ทำไม
ถ้าเรายอมรับการศึกษาแบบวัคซีนปาปริก้า แล้วนำไปใช้สื่อสารกับมวลชนง่ายแบบนี้
เพียงแค่อยากได้ ‘สถิติสวยๆ’ มาโน้มน้าวมากกว่า ‘สถิติที่มีความน่าเชื่อถือ’
===
การรายงานข้อดีของ Sinovac ในรูปซ้ายคือรูปแบบเดิมซ้ำๆกับรูปขวาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ตอนที่ต้องการโชว์ตัวเลขว่า โอ้โห Sinovac ดีจัง มีประสิทธิภาพตั้ง 97.26% ซึ่งมากกว่า AstraZeneca อีก
มันคือการเน้นโชว์ 'เลขสวยๆ ค่าสูงๆ'
ทั้งที่รูปขวาคือการ mislead เพราะนั่นไม่ใช่ตัวเลขประสิทธิภาพ
สิ่งเหล่านี้แหละคือไม่ให้ความเป็นธรรมกับ Sinovac
มันมีดีของมันระดับนึง
แต่คุณไม่ตรงไปตรงมาในการจะสื่อกับประชาชน
คุณในฐานะกระทรวงหรือรัฐหรือหมอ ไม่สื่อสารผ่านสถิติที่มีมาตรฐานดีกว่านี้ ซึ่งอาจเพียงเพราะ 'กลัว' ความไม่ดีพอ จะทำให้คนไม่มาฉีดวัคซีน
============
ใครด้อยค่า Sinovac ?
===========
โอเค มีแหละ คนที่พูดทำนองว่า Sinovac ก็เหมือนน้ำเปล่า คือด้อยค่าจากคุณค่าจริงของมันที่กระตุ้นภูมิได้จริง
แต่ถามว่า “เราเชื่ออะไรง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ ?”
ประชาชนไม่ได้หัวกลวงเปล่าที่ได้ยินการด้อยค่าบ้าๆบอๆ หรือปั้นคำโกหกแล้วจะเชื่อง่ายๆ
คนไม่ศรัทธาส่วนใหญ่เมื่อ ‘บุคคล, สถาบัน หรือหน่วยงานที่เขาศรัทธา’ ทำให้เขาผิดหวัง หรือไม่พูดตามจริง
คนที่ไปถึงบูธฉีดวัคซีนแล้วเดินกลับเพราะรู้ว่าเป็น Sinovac บางคนอาจเลือกรัฐบาลนี้เองกับมือด้วยซ้ำ
- แต่เขาไม่ศรัทธาเพราะผลลัพธ์ไม่ดีสมราคาคุยตอนแรก
- แต่เคยได้ยินหมอบอกว่ากันตาย 100% ก็มีคนตาย
- แต่เคยได้ยินคำคุยว่าประสิทธิภาพดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่เห็นกรณีชิลี อินโดนีเซีย ฯลฯ
- แต่รัฐบาลเคยรับปากเป็นมั่นเหมาะยืนยันว่าจะให้ฉีด AstraZeneca*2 แต่มาถึงดันเจอ Sinovac
- แต่รู้ว่าตัวเองเจอสูตร Sinovac + AstraZeneca ซึ่งตัวเขาก็ไม่ได้อยู่ในกะลา อ่านเจอข่าวตปท.เต็มไปหมดว่าไทยเป็นที่แรกที่ลอง
ฯลฯ
คนด้อยค่า Sinovac ได้ดีที่สุด ก็คือคนที่ทำให้เกิดวิกฤติศรัทธา
รวมถึงพวกที่คิดอะไรบ้าๆบอๆแบบ ‘ผังขบวนการด้อยค่าซิโนแวค’ ที่สุดท้ายมันก็ทำร้ายตัวเอง
======
เวลาคนพูดมีปัญหา 'ความน่าเชื่อถือ' หรือวิกฤติศรัทธา
ถ้าสื่อสารแบบโน้มน้าวจัดๆ, อวยยศมากๆ , ด้อยค่าพูดข้อเสียตัวที่ไม่มีบ่อยๆ , mislead (แบบรูปขวา) , Half truth , Cherry Picking (เลือกแต่อะไรสวยๆดีๆมานำเสนอเชิงสรุปว่ามันดี แบบรูปซ้าย) ฯลฯ
มีแต่จะยิ่งทำให้คนฟังระแวงมากขึ้น
ประชาชนยุคนี้ไม่ได้โง่ , ถึงไม่ได้เรียนวิจัยทุกคน ไม่ได้มีความรู้การแพทย์เท่าหมอ แต่ก็อ่านข่าวสารที่มีหมอ มีนักวิชาการย่อยงานวิจัยให้ความรู้ในสื่อเหมือนกัน
พอเห็นตัวเลข ‘ดีเว่อร์ๆ’ ผิดการศึกษาในระดับสากล
ผู้คนที่ไม่เชื่อใจอยู่แล้วยิ่งระแวง เอาง่ายๆถ้าตัวเลข Sinovac ดีงามแบบรูปซ้ายหรือจากการการศึกษาต่างๆในไทยที่สธ.ยกมา แล้วจะมาให้ประชาชนทลองฉีดไขว้กับ AstraZeneca ทำไม?
แต่การพูดตรงๆ , โปร่งใส บอกทั้งข้อดี ข้อเสีย , รายงานผลการศึกษาที่มีมาตรฐานสูงและน่าเชื่อถือ
เคารพประชาชนในระดับคนเท่าๆกัน , จริงใจ , ไม่ tricky
มันถึงจะทำให้งานสื่อสารสร้างความเชื่อมั่นง่ายกว่าเดิม
========
ยิ่งถ้าการสื่อสารนั้นมาจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การแพทย์
การยกสถิติแต่ละตัว การยกงานวิจัยแต่ละชิ้น
มันควรมี ‘มาตรฐาน’ที่น่าเชื่อถือในระดับสากล ไม่ใช่ระดับวัคซีนปาปริก้า
ภาระหน้าที่ของบุคลากรสายการแพทย์/วิทย์ คือยึดอยู่ในหลักวิชาการ ช่วยให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ถูกต้องมากขึ้น
ไม่ใช่แค่โน้มน้าวให้ได้ตามเป้าประสงค์
====================================
แล้วถ้าอยากให้คนไปฉีด Sinovac หละจะทำยังไง
====================================
(1) กล้ายอมรับตรงๆกับประชาชนก่อนว่า การสั่ง Sinovac ครั้งนี้สั่งมาเพื่ออุดความผิดพลาดที่ AstraZeneca ไม่ได้มาตามแผนที่เคยรับปากประชาชน หายไปเดือนละ 5 ล้านโดส
(เพราะถ้า AstraZeneca มาตามคำคุย ก็คงไม่ต้องมี sinovac)
(2) ยอมรับว่าประสิทธิภาพของ Sinovac มีแน่แม้ไม่ได้สูงนัก เอาตัวเลขที่มีมาตรฐานจริงๆทั้งเลขดี เลขแย่ มาโชว์
ยอมรับว่ามันแย่เมื่อเทียบกับตัวอื่น ยอมรับผลการศึกษา Head to Head ที่ชิลี แต่อย่างน้อยดีกว่าไม่ฉีดเลย (เอาหลักฐานวิชาการมายันให้ได้ เอาคนพูดน่าเชื่อถือมายันให้ได้)
(3) ถ้ารัฐบาลพยายามขวนขวายหาวัคซีนประสิทธิภาพอื่นเต็มที่แล้ว ไม่สามารถหามาได้จริงๆในรอบสองเดือนนี้ ก็สื่อสารว่า เราดิ้นรนหาวัคซีนประสิทธิภาพสูงยี่ห้ออื่นแล้วนะ แต่ไม่สามารถหาได้ใน 2 เดือนนี้(ถ้าทำจริง)
(4) ส่วน Sinovac จะจับคู่กับ AstraZeneca ซึ่งลดหนักลดตายได้แน่ ได้ผลดีกว่า Sinovac 2 โดส ตามการศึกษาโน้นนั้นนี้ก็ว่าไป (แต่ประชาชนจะเชื่อถือมั้ยก็อีกเรื่องนึง)
(5) สื่อสารด้วยท่าที humble+respect ประชาชนมากกว่านี้
- อย่าลืมว่าคุณกำลังขอให้พวกเขาใช้วัคซีนที่ประสิทธิภาพด้อยกว่ายี่ห้ออื่น
- คุณกำลังขอให้พวกเขาเป็นกลุ่มแรกในโลกที่ฉีด Sinovac + AstraZeneca
เช่น
=== ร่างแถลงฯ ====
" ถึงพี่น้องประชาชนที่เคารพ เราเสียใจจริงๆในแผนการบริหารวัคซีนที่ผิดพลาดจนไม่สามารถฉีดวัคซีน AstraZeneca ตามแผนที่เคยรับปากทุกท่านไว้ ผมขอโทษทุกท่าน //โค้งเยอะๆ
แต่ในขณะนี้วิกฤติโควิดมาถึงจุดที่รุนแรงที่สุด ทุกคนในพื้นที่สีแดงเข้มมีโอกาสติดโควิดเพียงออกจากบ้าน อัตราการติดโรคที่ตรวจเจอตอนนี้คือ ** %
วัคซีนยี่ห้อเดียวที่เราสามารถนำมาใช้ได้ใน 2 เดือนนี้คือ Sinovac ซึ่งผมยอมรับว่ามันมีประสิทธิภาพด้อยกว่าหลายๆตัว และเข้าใจในความไม่เชื่อถือของทุกท่าน ซึ่งผมกราบขออภัยที่ทำให้เกิดความรู้สึกเหล่านั้นขึ้น
แต่ในขณะนี้ผมใคร่ขอร้องให้ทุกท่านเข้ารับการฉีดวัคซีน เป้าหมายหลักเพื่อลดความเสี่ยงจากการตาย ลดความเสี่ยงจากการต้องเข้าไอซียู หากติดโควิดก็มีโอกาสเป็นแค่ผู้ป่วยสีเขียวที่ดูแลตัวเองที่บ้านเหมือนไข้หวัด และจะเป็นการช่วยฟื้นฟูระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงได้ ซึ่งอาจเป็นท่าน เป็นผม หรือเป็นคนที่ท่านรัก
และด้วยประสิทธิภาพในการป้องกันแพร่ระบาดของ Sinovac ไม่ดีนัก การระบาดในประเทศยังรุนแรง คนได้รับวัคซีนยังมีน้อยมาก แม้ฉีดวัคซีนแล้วก็วอนท่านโปรดใช้ชีวิตแบบตั้งการ์ดเสมือนยังไม่ฉีดวัคซีน
ผมขอให้คำสัญญาว่า เราจะเร่งจัดหาวัคซีนคุณภาพสูงมาให้เร็วกว่านี้ในทุกวิถีทางไม่ว่าการค้าหรือการทูต
และขอให้สัญญาว่า เมื่อมีการศึกษาชัดเจนว่าระดับภูมิคุ้มกันของท่านตกลงจนมีความเสี่ยง ท่านก็จะได้รับการบูสต์ด้วยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงต่อเชื้อในเวลานั้น
//โค้งขอโทษให้เยอะกว่าเดิม "
=======
=======
ไม่ใช่สื่อสารแบบลิงค์นี้
"วัคซีนของ Sinovac เป็นวัคซีนที่ผ่านการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก เป็นวัคซีนที่ Covax จองซื้อจำนวนมหาศาล ดังนั้นถ้าจะบอกว่า Sinovac นั้นแย่ก็เท่ากับ WHO และ Covax เลือกวัคซีนไม่มีคุณภาพมาบริการแก่ชาวโลก
ซึ่งในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะในการใช้กับสถานการณ์จริงที่มาเลเซียพบว่าประสิทธิภาพของ Sinovac กับวัคซีนแบบ mRNA ก็เท่ากัน ขณะที่ผลการศึกษาของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าประสิทธิผลต่อสายพันธุ์เดลตาขณะนี้ ถือว่ายังคงที่ คือร้อยละ 75"
https://workpointtoday.com/sinovax10-9/ 
=========
=========
=========
การให้ความเป็นธรรมกับ Sinovac ที่ดีที่สุดคือ
- ซื่อสัตย์และจริงใจกับประชาชนมากกว่านี้
- tricky ในการเล่นกับตัวเลขหรืออินโฟกราฟฟิคให้น้อยกว่านี้
- ยอมรับแล้วบอกจุดด้อย ข้อเสียที่มีจริงๆ แม้แลกกับความไม่มั่นใจของประชาชน
- ยึดหลักสถิติ งานวิจัยที่มีมาตรฐานมากกว่านี้ในการนำเสนอ
- และคิดถึงเกียรติวิชาชีพ กับความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพตัวเอง