สวัสดีค่ะ วันนี้เราขอมาเล่าเรื่องแล้วอยากหาวิธีแก้นิดหนึ่ง คือตอนเด็กช่วงประมาณประถมเราเคยได้เข้ารวมการเขียนเรียงความ อ่าา เชื่อว่าทุกคนเคยมีกิจกรรมกันแหละ ไม่ว่าจะเป็นวันแม่ หรืออะไรต่างๆ เราขอยกประเด็นเลยคืองานวันแม่ ครูเขาให้เขียนเรียงความทุกคนในห้องใช่ไหมหรือน่าจะแล้วแต่คนสมัครใจอันนี้จำไม่ได้ แล้วด้วยความที่เราอยากเขียนดู ก็เขียนเสร็จแลวส่งไปให้ครู พอถึงวันแม่ เขามีแจกใบเกียรติบัตรใช่ไหมถ้าใครได้รางวัล ซึ่งเราได้ที่หนึ่ง จำได้แม่นเลย แล้วครูเขาให้เราไปพูดหน้าเวทีเลย พูดเกี่ยวกับสิ่งที่เราเขียนเรียงความลงไป ด้วยความเป็นเด็ก เลยเขียนว่า อยากพาแม่ไปกินของอร่อยอยากสร้างบ้านสร้างนูนนี้ หรือความฝันให้แม่ บรรยายอะไรต่างๆลงไป แล้วพอเราเล่าบรรยายใส่ไมค์เสร็จ ทุกคนปรบมือ แม่เราด้วย แต่พอเรามานั่งเพื่อนที่นั่งข้างๆกันบอกว่า กล้าเขียนลงไปได้ยังไง กูโคตรอายแทนเลยว่ะ ความฝันเพ้อเจ้อ ตลกว่ะ โอ้ยพิมพ์ไปน้ำตาไหลไป คือแบบเราเป็นเด็กก็เขียนในสิ่งที่ตนคิดลงไปจริงๆอ่ะ ไม่มีปรุงแต่งจากความรู้สึกเลย แล้วคือแบบตอนเด็กไม่คิดไรปล่อยผ่าน แต่พอโตมาเรากลับมาเขียนนิยาย เรื่องแรกผ่านไปแต่เรารู้สึกนึกถึงวันเก่าๆคำพูดเก่าๆ ที่คนพูดอาจพูดไม่คิดอะไรแต่คนฟังผ่านมาหลายปีแล้วยังคงติดอยู่ในใจ ตอนนั้นเห็นพวกเขาหัวเราะแล้วซุบซิบกันด้วยมั้ง ค่ะเรื่องแรกเป็นตอนท้ายๆเลยที่ความจำมันกลับมา เราเลยฝืนใจแต่งจริงให้จบ พอมาลองเรื่องต่อไป เราน้ำตาไหลเลยค่ะ เราไม่สามารถเขียนมันออกมาได้จริง กังวลว่าเขาจะหัวเราะเหมือนที่เคยได้ยินไหม เขาจะบอกว่าตลก ปัญญาอ่อนหรือป่าว ทั้งที่เรื่องพล๊อตทุกอย่างถูกร่างตอนไว้แล้วเราเขียนไปไม่ได้จริงๆค่ะ ไม่รู้แบบนี้มีวิธีแก้ไหม หรือเราควรทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับมันดี เรากลัวมาก ไม่ได้ว่าอะไรครูน่ะ เคยคิดว่าแค่แผลในใจเล็กๆในตอนเด็กไม่คิดเลยว่าวันนี้มันจะย้อนกลับมาทำร้ายเรา ไม่มีความมั่นใจอะไรเลยมันฝั่งใจไปแล้วอ่ะ ซึมมมม
โรคกลัวการเขียนใช่หรือป่าว