สมดีกรีนางเอกเจ้าบทบาทจะขยับตัวรับบทไหนก็สอบผ่านการแสดงได้ใจแฟนละครไปเต็มๆ
สำหรับนางเอกซุปตาร์คนคุณภาพ "เบลล่า-ราณี"
กับผลงานเรื่องล่าสุดละครรักต่างวัยของนักกฎหมาย "Dare To Love ให้รักพิพากษา"
ผลงานการผลิตโดย "ค่ายชลลัมพีโปรดั๊กชั่น" ทางช่อง 3 กด 33
ก้าวกระโดดมารับ "ทนายทิชากร" ทนายหญิงไฟแรงสูง ที่เรื่องงานเก่งเป๊ะคะแนนสิบเต็มสิบ
ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะยึดติดว่าบท "ทนาย" ภาพจำในละครไทยในอดีต เรามักนำเสนอบทบาททนายชี้นำไปที่เพศชายเป็นหลัก
แต่ยุค 2021 เพื่อนหญิงพลังหญิง Women's empowerment กำลังมีบทบาทในสังคมโลก
"ทนายหญิง" ก็สามารถเป็นทัพหน้าและเป็นพลังที่สำคัญในวงการนิติศาสตร์ได้
งานนี้ใช่ว่าการเป็นนักแสดงจะสวมบทบาทได้ง่ายเพียงแค่กระพริบตา
แต่เบื้องหลังของพวกพวกเขาต้องผ่านการเรียนรู้ การท่องจำ และการฝึกฝนเพื่อถ่ายทอดงานศิลปะออกมาให้สมบูรณ์แบบผ่านทางหน้าจอ
"เบลล่า-ราณี" เธอคือผู้หญิงคนนั้นที่ทุ่มเททั้งการแสดงและจิตวิญญาณงานศิลปะบันเทิง
เรียนรู้เพิ่มเติมจากทั้งแอคติ้งโค้ช ครูสอนการแสดงฝ่ายบันเทิง และเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงจากครูสายวิชาชีพตัวจริงเสียงจริง
ที่มาประกบเธอทุกครั้งที่ต้องขึ้นว่าความในฉากละคร ให้ออกมาเรียลสมจริงมากที่สุด
โดยเริ่มที่ทนายคนดัง "ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต" ทนายหน้าหล่อ มือขวาของดาราคนดังที่ถูกจ้างว่าความมาแล้วไม่ถ้วน
"ทนายเจมส์" ยืนหนึ่งด้านโค้ชสวมอินเนอร์ทนายความให้กับ "เบลล่า"
ลงสนามจริงทุกครั้งคอยแนะนำและถ่ายทอดความรู้งานสายทนายให้กับนางเอกคนดัง เพื่อให้สมบทบาทราวกับเธอคือทนายตัวจริง
"การร่วมงานกับเบลล่า ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าน้องเป็นคนที่น่ารักมาก และเขาเต็มที่กับการแสดงมาก เขาจะทำการบ้านมาทุกครั้งในการเข้าฉาก
เรื่องการแสดงไม่ต้องห่วงเลยน้องเขาเป๊ะมาก ผมจะเป็นคนแนะนำจุดมาร์คการยืน ท่าทางบุคลิกให้เขาว่าเขาต้องถ่ายทอดออกมายังไง
ซึ่งเขาทำได้ดีมาก และผมขอชมละครเรื่องนี้นะ ที่ตีความวิชาชีพเราออกมาอีกรูปแบบนึง
ที่ทุกคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่เครียดเรื่องที่จริงจัง วิชาชีพทนายก็คืออีกหนึ่งวิชาชีพที่มีทั้งบวกและลบ"
ด้านทนายสาวคนดังแห่ง พ.ศ. นี้ ที่เป็นภาพจำของความแข็งแกร่งของทนายหญิง
อย่างทนายคนสวย "ทนายนิด้า - ศรันยา หวังสุขเจริญ" เปิดใจถึงการถ่ายทอดบทบาทของ "สาวเบลล่า" ไว้ว่า
"ครั้งแรกที่รู้ว่าบทนางเอกที่เป็นทนายคือน้องเบลล่า ก็คืออยากดูแล้ว อยากจะเห็นตอนที่น้องเขาขึ้นศาลว่าความจะเป็นยังไง
ประจวบเหมาะกับทางทีมงานก็ขอติดต่อมาให้ทางนิด้าเป็นที่ปรึกษาเรื่องบท
เราเห็นถึงความตั้งใจของทีมงานมาก ก็มารีเสิร์จตามติดเวลานิด้าว่าความ
คือเรื่องนี้ได้ใจเราแล้วนะในการทำงาน คือก็ต้องขอบคุณที่ใส่ใจในการทำละครเกี่ยวกับทนาย ไม่ใช่ไม่ทำการบ้านเลย
เราเห็นลุคของเบลล่าในละครคือสนุกน่ารัก แต่พอว่าความแล้วเขาเป็นอีกคนหนึ่งบุคลิกดีมาก"
ฟากตัวพ่อทนายความที่อยู่มาแล้วทุกยุคอย่าง "อาจารย์ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช" ทนายความสายบันเทิง
ที่เป็นส่วนนึงในละครเรื่องนี้ เข้าฉากร่วมว่าความประชันกับ "เบลล่า-ราณี" ในละคร ยังต้องขอยกนิ้วให้
"พอได้เข้าฉากกับน้องเบลล่า ผมเห็นถึงความเก่งเขาเลยครับ ไม่มีผิดเลย ผมเนี้ยผิดเองเลย (หัวเราะ) เขาทำการบ้านมาดีมาก
ผมอยากขอบคุณน้องเบลล่านะ ที่ถือว่าเป็นสีสันของวงการทนาย วงการนิติศาสตร์ของเรา ได้มีของสวยงามๆ ไว้ให้ดูบ้าง
ถ้าชีวิตจริงมีทนายที่ทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้นะ ผมว่าคนต้องจ้างเขาว่าความเยอะมากๆ คือเขายกระดับวิชาชีพเราได้มาก
อย่างน้อยคุณดูละครเรื่องนี้ คุณจะได้ศัพท์ง่ายๆ ของวิชาชีพทนายแน่นอน"
ปิดท้ายที่นางเอกคนเก่ง "เบลล่า-ราณี"
ขอพูดถึงบทบาทครั้งยิ่งใหญ่กับการสวมบท "ทนายทิชา" ทนายหญิงสุดตรองว่าเบื้องหลังของตัวละคร ตัวนี้สุดหินแค่ไหน
"ยากมาก เบลทำการบ้านค่อนข้างเยอะกับบทบาทนี้ เพราะด้วยความเป็นวิชาชีพมันต้องมีรายละเอียดตรงนี้ค่อนข้างมาก
ทางทีมก็มีการทำการบ้านเยอะมาก ตั้งแต่ลุคหรือว่าเสื้อผ้าหน้าผม ด้วยความที่เป็นวิชาชีพจริงๆ ในตัวบทมาตรา ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่ายากมาก
เราก็อาศัยท่องจำ เขียนบันทึกลงสมุดก่อนเพื่อให้เราจำได้ พอใส่ชุดครบองค์ประกอบอินเนอร์ก็มา (หัวเราะ)
เรื่องนี้เรามีทนายเจมส์มาช่วยโค้ชให้ด้วย ก็เพื่อความสมบูรณ์ของตัวละคร ก็มาช่วยดูหลายๆ อย่างให้ที่หน้าเซ็ท
ต้องยืนยังไง วางตัวยังไง ต้องยืนในจุดไหน หลังๆ มาก็จะเข้าใจและรักในอาชีพทนาย
ภูมิใจแทนทุกคนที่อาชีพนี้ต้องเต็มไปด้วยความพยายามและความเรียนรู้ เราะผ่านการจดบันทึกและท่องจำกันมาเยอะมากๆ
ในเรื่องเบลว่าความหลายคดีด้วยนะ ไม่ใช่แค่คดีเดียว ยากมาก แล้วพูดอยู่คนเดียวอ่ะ ต้องพูดเป็นชุด…คือเบลจะพยายามไม่ให้ผิดในฉาก
เพราะไม่อย่างนั้นอารมณ์มันไม่ต่อเนื่อง เรียกว่าต้องใช้ทั้งพลัง ความจริงจัง ว่ายังไงเราก็ต้อง ข่มคู่แข่งให้ได้
แล้วภาษากฎหมายยากมาก ตัวเลขมาตราอะไรต่างๆ คือพยายามจะจำให้ได้ทั้งหมด"
[🔎] เจาะลึกเบื้องหลัง "เบลล่า" กับบทบาท "ทนาย" สุดสตรอง ต้องฝ่าด่านหินจาก 3 ทนายดัง