ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราอายุ24ปี ส่วนแฟนอายุ25 คบกันมา7ปี (ระหว่างทางมีเลิกกันไป2-3ครั้ง)
ตอนนี้เราเข้ามาอยู่บ้านเขา ช่วยทำงานธุรกิจที่บ้านของเขา
ในทุกๆวันเราต้องตื่นมาทำงานเหมือนทำงานคนทั่วๆไป แต่ในทุกๆเช้าเราต้องลงมาถวายน้ำพระ ล้างจานชาม กระบอกน้ำ ทำความเรียบร้อยในครัวให้เสร็จก่อนแล้วถึงไปลุยงานต่อ แต่แฟนเราสามารถตื่นสายได้ทุกวัน และในของการทำงาน บางคนมองมาคิดว่าง่าย แต่ปัญหาจุกจิกมันเยอะมาก บางวันงานเยอะงานมีปัญหาก็รู้สึกเหนื่อยมากพอแล้ว เลิกงานจะนอนอยากพักผ่อน แต่ก็ทำไม่ได้เลยเพราะมีงานบ้านรออยู่อีกแล้ว ตกเย็นชีวิตมันก็วนลูปอยู่แบบนี้ ต้องคอยเช็ดคอยล้างในระหว่างวันนั้นที่เกิดขึ้น พอเราทำอะไรเสร็จทุกอย่างขึ้นมานอนพัก แต่ด้วยความแฟนเราเป็นคนชอบดื่ม ก็จะนั่งสังสรรค์หน้าบ้าน ปิ้งย่างทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา แล้วแจ็คพอตก็จะมาตกที่แล้ว คนที่ต้องเคลียร์ก็เป็นเรา ชีวิตมันเลยอยู่แค่นี้ พอนานๆไปเราก็มีใช้ให้เขาทำบ้าง ช่วงเย็นเราไม่ได้กินไม่ได้จับอะไรเลย ทำมาทั้งวันแล้วช่วยกันหน่อย เหมือนจะไปด้วยดี แต่เขาก็ทำได้ไม่นาน. แล้วมีเหตุการนึงที่เราให้แฟนล้างในส่วนของเขา แต่เมื่อแม่เขาเห็นก็เลยมีพูดๆกับลูก(ขอไม่เล่าในส่วนนี้นะคะ) แต่แม่เขาก็คุยกับเราเรื่องนี้ "การที่เราใช้ให้แฟนไปล้างจาน เขาสามารถเอาเวลานี้ไปนั่งคิดเรื่องงานหรือเรื่องที่มีประโยชน์กว่านี้ ถ้าเราจะบอกว่าเราก็ทำงาน แต่ผู้ชายเขาหาเงินได้มากกว่า" มันก็จุกๆอยู่นะคะ แอบรู้สึกเหมือนเวลาของเราถูกพรากไปทั้งหมด เราไม่สามารถมีเวลาเป็นของตัวเองได้ ในขณะที่แฟนเราสามารถนั่งดื่มได้อย่างมีความสุข เราเลยรู้สึกว่าในช่วงเวลานั้นที่เขาได้ผ่อนคลาย มันเป็นความทุกข์ของเราอย่างนึง เพราะเรื่องนี้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราต้องทำ แต่ด้วยความมาอย่บ้านเขา เราไม่สามารถพูดอะไรได้ ก็ได้แต่ยิ้มรับ
พอผ่านไปนานไปเราเริ่มรู้สึกไม่ไหว เราลองวัดใจไม่ทำไม่แตะอะไรเลย.. ค่ะ ทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่มีใครทำเช่นกัน สุดท้ายเราก็ต้องเป็นคนทำ แต่หลังๆมานี้เราจะพูดให้เขาทำมากขึ้น เพราะเราก็เหนื่อยเหมือนกันไม่ใช่แค่เขาคนเดียว เขาก็ดูไม่สบอารมณ์ ดูเหนื่อย เช่น หูย เยอะ พรุ่งนี้ละกัน โห (ทำเสียงจิ๊จ๊ะ) เราก็ยอมรับว่าไม่พอใจ เราก็บอกเขาตรงๆว่าสิ่งพวกนึ้เราทำมาอยู่ทุกวัน แค่ให้ช่วยแค่นี้ ไม่ได้ใช้ให้ทำทุกวันซะหน่อย เขาก็ทำบัางไม่ทำบ้าง
แต่ที่บ่นๆประจำวันคือการอยู่ในห้องแล้วไม่หยิบจับอะไร กระบอกน้ำเอาขึ้นมากิน2-3ขวด กินเสร็จวางในห้องตลอด แรกๆก็เอาไปเก็บให้ หลังๆคือบ่อยมาก พูดดีๆก็แล้ว จนเราต้องคอยบ่นถึงจะทำ เช่น ขวดน้ำกินแล้วก็เอาลงมาข้างล่าง ทำไมต้องให้พูดตลอดเลย อะอันนี้คือเรื่องที่1 ต่อไปคือเรื่องเสื้อผ้า ตะกร้าผ้าเดิมทีอยู่ในห้อง แต่แฟนเราเขาเป็นคนเปลี่ยนลงไปไว้ในห้องน้ำ บอกว่าเวลาจะอาบก็ถอดลงตระกร้าเลย แต่พอเอาเข้าจริงเขาก็มาถอดกองๆไว้ในห้อง เราก็บอกให้เอาลงไปเก็บทุกครั้ง เขาก็จะไม่พอใจที่ว่า ทำไมอะ ทำไมบ่นอีกละ ต่อไปเรื่องที่3 ที่ปั่นหู เขาชอบปั่นหูมาก แต่พอปั่นเสร็จก็จะวางไว้ตรงนั้นเลย ทั้งที่ขยะใกล้ๆก็ไม่ทิ้ง เวลาเราเก็บห้องเจอแต่ที่ปั่นหู เต็มตามพื้นตามซอกและบนที่นอน อันนี้ก็บ่นบ่อยว่าปั่นเสร็จก็ทิ้ง ไม่ใช่มาวางไว้ เรื่องที่4คือขี้บุหรี่ เขาชอบมาสูบบุหรี่บริเวณห้องครัวกับห้องน้ำ(มันติดกัน) บางทีเขายืนดูดในครัวแล้วดีดขี้บุหรี่ มันจะตกลงมาแถวกระบอกน้ำซึ่งมันก็จะเป็นคราบดำๆ เราก็คอยบอกเสมอว่าไม่ได้นะ มันลงตรงนี้นะ คือบางทีมันดำๆแต่เราไม่ได้ไปสนใจดูตรงนั้น แต่ถ้าแม่เขาเห็นเขาก็จะบอกให้เราต้องคอยเช็ด ซึ่งถ้าไม่มีขี้บุหรี่ก็จะไม่มีคราบสีดำนึ่ ละในห้องน้ำเขาก็ไปเขี่ยๆลงพื้น แต่ไม่ฉีดน้ำ ซึ่งเราเป็นคนขัดห้องน้ำ เวลาเขาไม่ฉีดบางทีมันก็ติดพื้นดำๆๆฉีดทั่วไปไม่ออกอีก คือเอาจริงๆเรารู้สึกว่าบางทีเราเหนื่อยเรามีงานเพิ่มเพราะเขา เราก็บ่นอะ คือเราพูดดีก็แล้ว บ่นก็แล้ว ไม่มีไรดีขึ้นเลย ตอนพูดดีๆเราก็พยายามบอกเขาบอก เธอ เราเหนื่อยนะ เราต้องตื่นแต่เช้ามาทำในครัว งานหน้าร้านก็เยอะบิลก็เยอะ เลิกงานเค้าก็ไม่ได้พัก ต้องมาทำงานบ้านต่ออีก ต้องเห็นใจเค้านะ ช่วยกันหน่อย ทำให้ดีๆสิ แต่มันก็ไม่เป็นผลค่ะ... ยื่งไม่พูดยิ่งไม่ทำ แต่ถ้าพูดก็บั่นทอนกันไปเรื่อยๆ
อีกอย่างคือเขาคิดเกมส์ เวลางานบางทีเขาก็เล่นเกม(ในมือถือ) จริงๆก็เล่นเกือบตลอด แล้วก็จะใช้คนนั้นคนนี้ทำนั่นให้หน่อยทำนี่ให้หน่อย ซึ่งเอาจริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องยากในสิ่งที่เขาใช้ แต่ด้วยความเขาเล่นแต่เกมส์แล้วใช้คนอื่น แล้วเป็นกิจวัตรของเขาไปแล้วเราเลยรู้สึกไม่โอเค แต่พูดไปก็จะบอกว่าบ่น
จริงๆเราเข้าใจได้ว่าเราขี้บ่นจริงๆ แต่ถ้ามองในมุมเราคือมันเหนื่อยมาก ต้องคอยมาทำนั่นนี่แต่เช้า งานเราก็มี เลิกงานแล้วก็ยังมีให้ทำต่ออีก และในปัญหาจุกจิกพวกนั้นบางอย่างมันเกิดจากเขา ที่ทำให้เหมือนเป็นการเพิ่มงานให้กับตัวเราเอง เราก็อยากให้เขาเข้าใจว่าเราก็เหนื่อยนะ คือเราก็รู้ตัวเองดีแหละว่าพูดมากไม่ได้ มาอาศัยอยู่บ้านเขา เราก็เคยพูดไปว่า ให้มาอยู่ที่นี่เพราะอะไร เป็นแฟน เป็นพนักงาน หรือเป็นคนใช้ เราเป็นทุกอย่างเลย. แต่เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เหมือนเขาไม่เห็นใจ แม้แต่วันไม่สบาย จานชามทุกอย่างเหมือนเดิม เราก็บอกเขาช่วยล้างให้หน่อยนะ เราไม่ไหว เขาก็นั่งเล่นเกมส์ เราเลยล้างได้ประมาณนึงแต่ไม่มีแรงแลัว เลยบอกเขาไป เขาก็ชักสีหน้าทำท่าไม่พอใจแต่ก็ทำให้นะคะ แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกดี รู้ว่าเขาไม่พอใจ
ปัญหาหลักๆที่อยากถามหลายๆความเห็น เราอยากรู้ว่าเราบ่นมากเกินไป หรือสิ่งที่บ่นนั้นมันคือเรื่องที่สมควรจะพูดอยู่แล้ว อยากถามจากคนที่ไม่รู้จักมากกว่า ขอบคุณความเห็นล่วงหน้าด้วยนะคะ
เราบ่นมากเกินไป หรือเขาไม่เข้าใจเรา?
ตอนนี้เราเข้ามาอยู่บ้านเขา ช่วยทำงานธุรกิจที่บ้านของเขา
ในทุกๆวันเราต้องตื่นมาทำงานเหมือนทำงานคนทั่วๆไป แต่ในทุกๆเช้าเราต้องลงมาถวายน้ำพระ ล้างจานชาม กระบอกน้ำ ทำความเรียบร้อยในครัวให้เสร็จก่อนแล้วถึงไปลุยงานต่อ แต่แฟนเราสามารถตื่นสายได้ทุกวัน และในของการทำงาน บางคนมองมาคิดว่าง่าย แต่ปัญหาจุกจิกมันเยอะมาก บางวันงานเยอะงานมีปัญหาก็รู้สึกเหนื่อยมากพอแล้ว เลิกงานจะนอนอยากพักผ่อน แต่ก็ทำไม่ได้เลยเพราะมีงานบ้านรออยู่อีกแล้ว ตกเย็นชีวิตมันก็วนลูปอยู่แบบนี้ ต้องคอยเช็ดคอยล้างในระหว่างวันนั้นที่เกิดขึ้น พอเราทำอะไรเสร็จทุกอย่างขึ้นมานอนพัก แต่ด้วยความแฟนเราเป็นคนชอบดื่ม ก็จะนั่งสังสรรค์หน้าบ้าน ปิ้งย่างทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา แล้วแจ็คพอตก็จะมาตกที่แล้ว คนที่ต้องเคลียร์ก็เป็นเรา ชีวิตมันเลยอยู่แค่นี้ พอนานๆไปเราก็มีใช้ให้เขาทำบ้าง ช่วงเย็นเราไม่ได้กินไม่ได้จับอะไรเลย ทำมาทั้งวันแล้วช่วยกันหน่อย เหมือนจะไปด้วยดี แต่เขาก็ทำได้ไม่นาน. แล้วมีเหตุการนึงที่เราให้แฟนล้างในส่วนของเขา แต่เมื่อแม่เขาเห็นก็เลยมีพูดๆกับลูก(ขอไม่เล่าในส่วนนี้นะคะ) แต่แม่เขาก็คุยกับเราเรื่องนี้ "การที่เราใช้ให้แฟนไปล้างจาน เขาสามารถเอาเวลานี้ไปนั่งคิดเรื่องงานหรือเรื่องที่มีประโยชน์กว่านี้ ถ้าเราจะบอกว่าเราก็ทำงาน แต่ผู้ชายเขาหาเงินได้มากกว่า" มันก็จุกๆอยู่นะคะ แอบรู้สึกเหมือนเวลาของเราถูกพรากไปทั้งหมด เราไม่สามารถมีเวลาเป็นของตัวเองได้ ในขณะที่แฟนเราสามารถนั่งดื่มได้อย่างมีความสุข เราเลยรู้สึกว่าในช่วงเวลานั้นที่เขาได้ผ่อนคลาย มันเป็นความทุกข์ของเราอย่างนึง เพราะเรื่องนี้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราต้องทำ แต่ด้วยความมาอย่บ้านเขา เราไม่สามารถพูดอะไรได้ ก็ได้แต่ยิ้มรับ
พอผ่านไปนานไปเราเริ่มรู้สึกไม่ไหว เราลองวัดใจไม่ทำไม่แตะอะไรเลย.. ค่ะ ทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่มีใครทำเช่นกัน สุดท้ายเราก็ต้องเป็นคนทำ แต่หลังๆมานี้เราจะพูดให้เขาทำมากขึ้น เพราะเราก็เหนื่อยเหมือนกันไม่ใช่แค่เขาคนเดียว เขาก็ดูไม่สบอารมณ์ ดูเหนื่อย เช่น หูย เยอะ พรุ่งนี้ละกัน โห (ทำเสียงจิ๊จ๊ะ) เราก็ยอมรับว่าไม่พอใจ เราก็บอกเขาตรงๆว่าสิ่งพวกนึ้เราทำมาอยู่ทุกวัน แค่ให้ช่วยแค่นี้ ไม่ได้ใช้ให้ทำทุกวันซะหน่อย เขาก็ทำบัางไม่ทำบ้าง
แต่ที่บ่นๆประจำวันคือการอยู่ในห้องแล้วไม่หยิบจับอะไร กระบอกน้ำเอาขึ้นมากิน2-3ขวด กินเสร็จวางในห้องตลอด แรกๆก็เอาไปเก็บให้ หลังๆคือบ่อยมาก พูดดีๆก็แล้ว จนเราต้องคอยบ่นถึงจะทำ เช่น ขวดน้ำกินแล้วก็เอาลงมาข้างล่าง ทำไมต้องให้พูดตลอดเลย อะอันนี้คือเรื่องที่1 ต่อไปคือเรื่องเสื้อผ้า ตะกร้าผ้าเดิมทีอยู่ในห้อง แต่แฟนเราเขาเป็นคนเปลี่ยนลงไปไว้ในห้องน้ำ บอกว่าเวลาจะอาบก็ถอดลงตระกร้าเลย แต่พอเอาเข้าจริงเขาก็มาถอดกองๆไว้ในห้อง เราก็บอกให้เอาลงไปเก็บทุกครั้ง เขาก็จะไม่พอใจที่ว่า ทำไมอะ ทำไมบ่นอีกละ ต่อไปเรื่องที่3 ที่ปั่นหู เขาชอบปั่นหูมาก แต่พอปั่นเสร็จก็จะวางไว้ตรงนั้นเลย ทั้งที่ขยะใกล้ๆก็ไม่ทิ้ง เวลาเราเก็บห้องเจอแต่ที่ปั่นหู เต็มตามพื้นตามซอกและบนที่นอน อันนี้ก็บ่นบ่อยว่าปั่นเสร็จก็ทิ้ง ไม่ใช่มาวางไว้ เรื่องที่4คือขี้บุหรี่ เขาชอบมาสูบบุหรี่บริเวณห้องครัวกับห้องน้ำ(มันติดกัน) บางทีเขายืนดูดในครัวแล้วดีดขี้บุหรี่ มันจะตกลงมาแถวกระบอกน้ำซึ่งมันก็จะเป็นคราบดำๆ เราก็คอยบอกเสมอว่าไม่ได้นะ มันลงตรงนี้นะ คือบางทีมันดำๆแต่เราไม่ได้ไปสนใจดูตรงนั้น แต่ถ้าแม่เขาเห็นเขาก็จะบอกให้เราต้องคอยเช็ด ซึ่งถ้าไม่มีขี้บุหรี่ก็จะไม่มีคราบสีดำนึ่ ละในห้องน้ำเขาก็ไปเขี่ยๆลงพื้น แต่ไม่ฉีดน้ำ ซึ่งเราเป็นคนขัดห้องน้ำ เวลาเขาไม่ฉีดบางทีมันก็ติดพื้นดำๆๆฉีดทั่วไปไม่ออกอีก คือเอาจริงๆเรารู้สึกว่าบางทีเราเหนื่อยเรามีงานเพิ่มเพราะเขา เราก็บ่นอะ คือเราพูดดีก็แล้ว บ่นก็แล้ว ไม่มีไรดีขึ้นเลย ตอนพูดดีๆเราก็พยายามบอกเขาบอก เธอ เราเหนื่อยนะ เราต้องตื่นแต่เช้ามาทำในครัว งานหน้าร้านก็เยอะบิลก็เยอะ เลิกงานเค้าก็ไม่ได้พัก ต้องมาทำงานบ้านต่ออีก ต้องเห็นใจเค้านะ ช่วยกันหน่อย ทำให้ดีๆสิ แต่มันก็ไม่เป็นผลค่ะ... ยื่งไม่พูดยิ่งไม่ทำ แต่ถ้าพูดก็บั่นทอนกันไปเรื่อยๆ
อีกอย่างคือเขาคิดเกมส์ เวลางานบางทีเขาก็เล่นเกม(ในมือถือ) จริงๆก็เล่นเกือบตลอด แล้วก็จะใช้คนนั้นคนนี้ทำนั่นให้หน่อยทำนี่ให้หน่อย ซึ่งเอาจริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องยากในสิ่งที่เขาใช้ แต่ด้วยความเขาเล่นแต่เกมส์แล้วใช้คนอื่น แล้วเป็นกิจวัตรของเขาไปแล้วเราเลยรู้สึกไม่โอเค แต่พูดไปก็จะบอกว่าบ่น
จริงๆเราเข้าใจได้ว่าเราขี้บ่นจริงๆ แต่ถ้ามองในมุมเราคือมันเหนื่อยมาก ต้องคอยมาทำนั่นนี่แต่เช้า งานเราก็มี เลิกงานแล้วก็ยังมีให้ทำต่ออีก และในปัญหาจุกจิกพวกนั้นบางอย่างมันเกิดจากเขา ที่ทำให้เหมือนเป็นการเพิ่มงานให้กับตัวเราเอง เราก็อยากให้เขาเข้าใจว่าเราก็เหนื่อยนะ คือเราก็รู้ตัวเองดีแหละว่าพูดมากไม่ได้ มาอาศัยอยู่บ้านเขา เราก็เคยพูดไปว่า ให้มาอยู่ที่นี่เพราะอะไร เป็นแฟน เป็นพนักงาน หรือเป็นคนใช้ เราเป็นทุกอย่างเลย. แต่เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เหมือนเขาไม่เห็นใจ แม้แต่วันไม่สบาย จานชามทุกอย่างเหมือนเดิม เราก็บอกเขาช่วยล้างให้หน่อยนะ เราไม่ไหว เขาก็นั่งเล่นเกมส์ เราเลยล้างได้ประมาณนึงแต่ไม่มีแรงแลัว เลยบอกเขาไป เขาก็ชักสีหน้าทำท่าไม่พอใจแต่ก็ทำให้นะคะ แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกดี รู้ว่าเขาไม่พอใจ
ปัญหาหลักๆที่อยากถามหลายๆความเห็น เราอยากรู้ว่าเราบ่นมากเกินไป หรือสิ่งที่บ่นนั้นมันคือเรื่องที่สมควรจะพูดอยู่แล้ว อยากถามจากคนที่ไม่รู้จักมากกว่า ขอบคุณความเห็นล่วงหน้าด้วยนะคะ