จากที่อยู่ในวัฎสงสารแห่งตลาดหลอกทรัพย์ได้ 11 ฝน พี่แจ้คิดเอง เออเอง มโนเองได้ดงนี้
1.ตลาดจะไม่ให้โอกาสคนลังเล คนไม่เฝ้ามอง คนที่รอช่วงที่ทุกอย่างดีไปหมด ไม่ว่าโรคหาย เศรษฐกิจฟื้น ภาพชัดระดับ 8 K
ถ้ารอให้ถึงตอนนั้น หุ้นดีๆ หุ้นเบญจภาคี สำหรับตลาดหุ้นถ้ารอฟ้าหลังฝน >>>>ก็จะได้เสพของแพงเสมอ
2.สำหรับหุ้นปั่น หุ้นเน่า หุ้นเม่านิยม หุ้นไม่มีกำไรในงบการเงิน ซื้อตอนไหนก็ร่วงลงจุดต่ำสุดเสมอ
แต่หุ้นพวกนี้จะคึกคักเสมอ เมื่อชาวเม่าสยามหมดหวังจากหุ้นพื้นฐาน หมดหวังจากหุ้นดีที่ถือนานๆ >>>ก็ถึงเวลาพวกเขาออกมา
อาละวาดยั่วยวนให้นักตัดหน้าสิบล้อ...ดังเช่นยามนี้ ซื้อแล้วเหมือนเข้าบรรยากาศมาคุ...แค่ลุกไปเยี่ยว ชีวิตเปลี่ยน
3.สำหรับคนที่ทนดอยไม่ได้ หรือรังเกียจสีแดง ก็จะไม่ได้กินคำใหญ่ๆ เหมือนเสี่ยไจแอน ที่เสพคำใหญ่ๆมาหลายเพลา
ล่าสุดก็ถุงมือยาง ตอนเสี่ยซื้อเม่าอย่างเราลังเล ตอนเสี่ยขายเม่าอย่างเรามั่นใจม๊ากๆๆๆ
สำหรับชาวสวน ซื้อแล้วต้องติดดอยก่อนถึงจะได้เสพคำโตเลียนแบบไอเด้า...(ปลอบใจตัวเอง น่ะนะ)

4.สำหรับทฤษฎีผลประโยชน์สำหรับกูรู หนวดงาม พี่แจ้ว่ามันใช่ แต่...........จุดอ่อน คือ
มันไม่มีเวลากำหนดว่าจะเกิด เมื่อไหร่ ตอนไหน อย่างไร นี่แหละจุดออ่นของทฤษฎีนี้
เราต้องมามโนเอาเอง

5.สำหรับท่านประธานเม่า และ ปรมจารย์เม่า เราต้องฟังทรรศนะ แต่
อย่าเอามายึดมั่นถือมั่นทำไมหรอ....อยากรู้ต้องไปเรียน

ทรรศนะท่านปรมจารย์...ทำตามระบบสะกดคำว่าขาดทุนไม่เป็น
สรุป เวลาที่เหมาะกับการลงมือของชาวสวน ก็ช่วง อึมครึม ไม่ชัดเจน ฝุ่นตลบ ไม่แน่ใจเป็นเวลาที่เหมาะสมที่เจ้ากดเอาของ
เหมือนโจรจะย่องขึ้นบ้านตอนตีสาม เจ้าบ้านนอนหลับไหล ไม่ระวังตัว
หรือตำรวจจะล้อมจับโจรก็ตอนย่ำรุ่งเพราะเป็นเวลาอึมครึมตอนโจรเพลียและเผลอหลับ
ตำรววจ....จะประกาศผ่านโทรโข่งว่า ...มอบตัวซะ เพราะเจ้าหน้าที่ล้อมไว้หมดแล้ว...เอวังด้วยประการ ฉะนี้
สบายดี.......
#### ที่สุดของชาวสวนแห่งสินธร #### บรรยากาศอึมครึมแบบนั...ต้องจัดสักเพลง...เอ๊ย ต้องสวนสักไม้
1.ตลาดจะไม่ให้โอกาสคนลังเล คนไม่เฝ้ามอง คนที่รอช่วงที่ทุกอย่างดีไปหมด ไม่ว่าโรคหาย เศรษฐกิจฟื้น ภาพชัดระดับ 8 K
ถ้ารอให้ถึงตอนนั้น หุ้นดีๆ หุ้นเบญจภาคี สำหรับตลาดหุ้นถ้ารอฟ้าหลังฝน >>>>ก็จะได้เสพของแพงเสมอ
2.สำหรับหุ้นปั่น หุ้นเน่า หุ้นเม่านิยม หุ้นไม่มีกำไรในงบการเงิน ซื้อตอนไหนก็ร่วงลงจุดต่ำสุดเสมอ
แต่หุ้นพวกนี้จะคึกคักเสมอ เมื่อชาวเม่าสยามหมดหวังจากหุ้นพื้นฐาน หมดหวังจากหุ้นดีที่ถือนานๆ >>>ก็ถึงเวลาพวกเขาออกมา
อาละวาดยั่วยวนให้นักตัดหน้าสิบล้อ...ดังเช่นยามนี้ ซื้อแล้วเหมือนเข้าบรรยากาศมาคุ...แค่ลุกไปเยี่ยว ชีวิตเปลี่ยน
3.สำหรับคนที่ทนดอยไม่ได้ หรือรังเกียจสีแดง ก็จะไม่ได้กินคำใหญ่ๆ เหมือนเสี่ยไจแอน ที่เสพคำใหญ่ๆมาหลายเพลา
ล่าสุดก็ถุงมือยาง ตอนเสี่ยซื้อเม่าอย่างเราลังเล ตอนเสี่ยขายเม่าอย่างเรามั่นใจม๊ากๆๆๆ
สำหรับชาวสวน ซื้อแล้วต้องติดดอยก่อนถึงจะได้เสพคำโตเลียนแบบไอเด้า...(ปลอบใจตัวเอง น่ะนะ)
4.สำหรับทฤษฎีผลประโยชน์สำหรับกูรู หนวดงาม พี่แจ้ว่ามันใช่ แต่...........จุดอ่อน คือ
มันไม่มีเวลากำหนดว่าจะเกิด เมื่อไหร่ ตอนไหน อย่างไร นี่แหละจุดออ่นของทฤษฎีนี้
เราต้องมามโนเอาเอง
5.สำหรับท่านประธานเม่า และ ปรมจารย์เม่า เราต้องฟังทรรศนะ แต่
อย่าเอามายึดมั่นถือมั่นทำไมหรอ....อยากรู้ต้องไปเรียน
ทรรศนะท่านปรมจารย์...ทำตามระบบสะกดคำว่าขาดทุนไม่เป็น
สรุป เวลาที่เหมาะกับการลงมือของชาวสวน ก็ช่วง อึมครึม ไม่ชัดเจน ฝุ่นตลบ ไม่แน่ใจเป็นเวลาที่เหมาะสมที่เจ้ากดเอาของ
เหมือนโจรจะย่องขึ้นบ้านตอนตีสาม เจ้าบ้านนอนหลับไหล ไม่ระวังตัว
หรือตำรวจจะล้อมจับโจรก็ตอนย่ำรุ่งเพราะเป็นเวลาอึมครึมตอนโจรเพลียและเผลอหลับ
ตำรววจ....จะประกาศผ่านโทรโข่งว่า ...มอบตัวซะ เพราะเจ้าหน้าที่ล้อมไว้หมดแล้ว...เอวังด้วยประการ ฉะนี้
สบายดี.......