Mount Taranaki (Taranaki Maunga) หรือที่รู้จักในชื่อ Mount Egmont บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ กล่าวกันว่าเป็นกรวยภูเขาไฟที่สมมาตรมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก (อีกหนึ่งคือ Mayon Volcano ) มีความสูง 2,518 เมตร และเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสองในเกาะเหนือ รองจาก
รัวเปฮู (Ruapehu) แต่โดยปริมาตรแล้ว ถือเป็นภูเขาไฟรูปกรวยบนแผ่นดินใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ โดยตั้งอยู่ภายใน Te Papaakura o Taranaki (อุทยานแห่งชาติ Egmont) 

ภูมิภาคนี้ใช้ชื่อมาจากชื่อของชาวเมารี ที่ประกอบด้วยสองส่วนคือ Tara หมายถึงภูเขา และ naki ที่เชื่อกันว่ามาจากคำว่า ngaki หมายถึง ส่องแสง โดยอ้างอิงถึงหิมะบนยอดเขา Mt Taranaki มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณสูงสำหรับทั้งชนเผ่า (iwi) ทั้งแปดในภูมิภาคนี้ โดย iwi แต่ละเผ่ามีประวัติความเป็นมาเฉพาะตัวและมีสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับภูเขา
 
ตามตำนานเมารีแห่ง Mt Taranaki เล่าว่า ครั้งหนึ่งมันเคยตั้งอยู่ใจกลางเกาะเหนือร่วมกับภูเขา Ruapehu, Tongariro และ Ngauruhoe (รัวเปฮู ตองการิโร และ งาอูรูโฮ) อย่างไรก็ตาม ทั้ง Tongariro และ Taranaki ต่างก็ตกหลุมรัก Mount Pihanga ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเขา Tongariro 
ทั้งสองจบลงด้วยการต่อสู้เพื่อครอบครองหัวใจของ Pihanga แต่ Taranaki แพ้ จึงถูกเนรเทศไปทางทิศตะวันตกให้ยืนอยู่อย่างสันโดษ โดยมีเมฆปกคลุมอย่างต่อเนื่องเพื่อซ่อนน้ำตาแห่งความโศกเศร้าของตน ทุกวันนี้ Taranaki ยังคงเป็นที่เคารพนับถือ และยอดเขาเป็นที่เคารพนับถือของชาวเมารีในพื้นที่

ภูเขาไฟนี้ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติ Egmont ที่เกือบเป็นวงกลม ซึ่งมีขอบเขตปรากฏเป็นวงกลมสีเขียวเข้มในภาพถ่ายดาวเทียม และภาพถ่ายจากระดับความสูงอื่นๆ ที่แสดงความแตกต่างในพืชพรรณระหว่างภายในและภายนอกอุทยาน โดยเฉดสีเข้มแสดงถึงป่าพื้นเมือง ในขณะที่พื้นที่สีเขียวอ่อนเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่ชนเข้ากับขอบวงกลมของอุทยาน
 
ทั้งนี้ ป่าที่ราบลุ่มของนิวซีแลนด์ส่วนใหญ่ได้รับการเคลียร์เพื่อการเกษตร เหลือเพียงป่าพื้นเมืองที่กระจัดกระจาย ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ที่เติบโตเก่าแก่ในวงกลมของอุทยานแห่งชาติ Egmont ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 19 กม.
 
Mt Taranaki เป็นภูเขาไฟ stratovolcano (เรียกอีกอย่างว่าภูเขาไฟรูปกรวยคอมโพสิต) ประกอบด้วยชั้นของเถ้าภูเขาไฟและลาวาไหลสลับกัน การปะทุของภูเขาไฟรูปกรวยมักเกิดขึ้นจากปล่องตรงกลาง โดยจะสร้างเป็นโดมลาวาที่มีตะกอนและลาวา ที่ผ่านมาเคยเกิดการถล่มครั้งใหญ่ซึ่งอยู่ห่างจากกรวย 40 กม. โดยมีลาวา 7 กม. และมี pyroclastic (หิน+เถ้า+แก๊สร้อน ที่ไหลหลากลงมาจากภูเขาไฟ)ไหล 15 กม.จากปล่อง ต่อมาเถ้าภูเขาไฟเกิดการ
เสื่อมสภาพผสมเข้ากับดิน และสร้างพื้นที่เพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์โดยรอบ

ปัจจุบัน โดมลาวาในปล่องภูเขาไฟ Taranaki ถูกล้อมรอบด้วยน้ำแข็งและหิมะ และไม่มีข้อบ่งชี้ว่าภูเขาไฟจะปะทุขึ้น อย่างไรก็ตาม Taranaki เป็นภูเขาไฟที่อายุน้อยที่สุด ใหญ่ที่สุด และคุกรุ่นเพียงแห่งเดียว ในกลุ่มเทือกเขา Kaitake และ Pouakai, Paritutu และ Sugar Loaves โดยทั้งหมดเหล่านี้ล้วนแต่ถูกกัดเซาะซากของสิ่งที่เคยเป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับการทรุดตัวของแผ่นแปซิฟิกข้างใต้แผ่นเปลือกโลกออสเตรเลีย

Taranaki เริ่มก่อตัวเมื่อประมาณ 130,000 ปีที่แล้ว และมีการปะทุระดับปานกลางถึงใหญ่โดยเฉลี่ยทุกๆ 500 ปี โดยมีการปะทุเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นห่างกันประมาณ 90 ปี ซึ่งการปะทุครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นราวปี 1790 โดยคาดว่าภูเขาไฟดังกล่าวปะทุมากกว่า 160 ครั้งในช่วง 36,000 ปีที่ผ่านมา แม้จะไม่มีข้อบ่งชี้ว่า Mt Taranaki กำลังจะปะทุขึ้นอีก แต่ประวัติทางธรณีวิทยาการปะทุที่ติดต่อกันของมันบอกเราว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
 
ตอนนี้ Mt Taranaki อยู่นิ่งๆมาเป็นเวลานานแล้ว แต่อาจเป็นเวลานานที่ผิดปกติ โดยนัก Volcanologists ก็ยอมรับว่า Taranaki อยู่นิ่งๆเพื่อรอเวลาเท่านั้น ซึ่งหากเกิดการปะทุจริง ภูเขาไฟได้รับการประเมินว่าเป็นอันตรายปานกลางถึงสูงมากสำหรับภูมิภาค Taranaki และเป็นหนึ่งในสามอันตรายระดับภูมิภาคที่มีนัยสำคัญระดับชาติ จากการวิจัยล่าสุด (2014) ประมาณการความน่าจะเป็น 81% ของการเกิดการปะทุอย่างน้อยน่าจะหนึ่งครั้งภายในปี 2065
 
สำหรับอุทยานแห่งชาติ Egmont ป่าอันเขียวชอุ่มบนเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ ตรงกันข้ามกับทุ่งหญ้าที่อยู่นอกเขตอุทยานวงกลม รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของอุทยานเป็นผลมาจากการคุ้มครองครั้งแรกในปี 1881 ซึ่งระบุว่าเขตป่าสงวนจะขยายออกไปในรัศมี 9.6 กิโลเมตรจากยอดภูเขา Taranaki (ชื่อ Mt. Egmont โดย Captain Cook) อุทยานครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 33,500 เฮกตาร์

อุทยานมีทางเข้าถึง 13 ทาง ทำให้เป็นหนึ่งในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าที่เข้าถึงได้มากที่สุดในนิวซีแลนด์ มีน้ำตกเขียวชอุ่ม ป่าฝน และหนองน้ำที่มีมอสปกคลุม ตามเส้นทางเดินป่าที่น่าทึ่งจาก Kamahi Track ไปจนถึง Pouakai Circuit โดยใช้เวลา 3 -5 วันในการเดินรอบ โดยเฉพาะบริเวณน้ำตก Dawson มีเส้นทางคดเคี้ยวมากมาย รวมถึงการเดินไปสระ Wilkies ซึ่งเป็นแอ่งหินที่ถูกกัดเซาะซึ่งเชื่อมต่อกับน้ำตกที่ไหลลงมา
  
อุทยานแห่งชาติ Egmont มีเส้นทางเดินป่ากว่า 200 กม. ในทุกระดับความยากสำหรับผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ไม่อนุญาตให้นำสุนัขเข้าไปในสวนสาธารณะ (แม้ว่าจะอยู่ในรถก็ตาม) เนื่องจากมีแนวคิดว่าจะนำนกกีวีกลับเข้ามาอยู่ในอุทยานใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เส้นทางเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ Egmont มีรูปแบบสภาพอากาศเป็นของตัวเองจากเมืองใกล้เคียงทั้งหมด รวมทั้ง New Plymouth ซึ่งอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างกะทันหันและรุนแรงขึ้นอยู่กับว่าอยู่ด้านใดของภูเขา และเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ Egmont เพื่อไปที่ยอดเขา คือเดือนมกราคมถึงเมษายน เนื่องจากภูเขาไม่มีหิมะ