สถานการณ์ช่วงนี้ อาจไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำให้ผมนึกถึงคำนี้ขึ้นมา เลยลองแชร์กันดูนะครับ
คำตามหัวข้อ ผมเคยได้ยินมานานละครับ แต่เมื่อก่อนไม่ค่อยเห็นด้วย
คิดว่าเป็นคำปลอบใจเสียมากกว่า ประมาณว่าเอาน่ะ ฝืนๆมองข้อดีไปเถอะ ทั้งๆที่มันไม่ดีอยู่ทนโท่
..แต่พอโตขึ้น นับวันกลับยิ่งรู้สึกว่า เออ มันก็จริงนะ ไม่ว่าอะไร ถ้ามองดีๆ มันอาจมีแต่ได้จริงๆ
เวลาเจอคนตำหนิ ตอนนั้นเราไม่ชอบเลย หงุดหงิดใจ
แต่พอเหตุการณ์ผ่านไป มาสังเกต ว่าที่เราปรับตัวแก้ข้อเสียบางข้อได้ ก็เพราะคำตำหนินั้นด้วยส่วนนึง
เจอเหตุการณ์ผิดหวังหลายปีก่อน
พอวันนี้มองย้อนไปดู สังเกตว่าเหตุการณ์นั้นทำให้เราได้ออกจากกรอบเดิม และได้ทางเดินใหม่ ก็เพราะมันไม่เป็นอย่างหวังในวันนั้น
ซึ่งถ้ายังสมหวังอยู่ อย่างไรเราคงไม่ออกจากกรอบเดิมด้วยตัวเองแน่ๆ
หรือทะเลาะกับแฟนในวันก่อนๆ
ตอนอายุน้อยๆเราก็ไม่ฟัง แต่พอเราเริ่มฟังสักนิด แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็เข้าใจเค้าขึ้นได้บ้าง คราวต่อไปบางทีก็ยั้งใจไว้ทัน นึกแทนใจว่าเค้าคงหมายถึงเรื่องนี้ หรือไม่ชอบฟังคำนั้น เราก็รอบคอบขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น
..ประสบการณ์ จึงสอนปัจจุบัน ว่าเราสามารถมองเห็นข้อดี ได้จากเหตุการณ์ที่กำลังเกิด โดยไม่ต้องรอให้ผ่านไปแล้วจึงค่อยเห็นก็ได้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความเชื่อด้วยนะครับ
คือถ้าเราเชื่อ ว่าอะไรๆมันจะไม่ดี มันต้องแย่แน่ๆ อันนี้จะมองหาอะไรดีๆ มันก็ไม่อินตั้งแต่แรก
แต่ถ้าเราเชื่อ ว่าเดี๋ยวมันก็ดี ทุกอย่างมันจะมีทางไปของมัน อันนี้มันเชื่อก่อนแล้วว่าดี มันก็พอมีแรงที่จะมองหาอะไรดีๆได้ โดยไม่ต้องฝืนเกินไป
..ไม่เสียหายที่จะลองดูนะครับ ก็แค่ความเชื่อของเรา กับใจของเรา
มองไม่ดี ก็มีแต่ไม่ได้
แต่ถ้าเชื่อว่าดี มองบวกไว้ก่อน แม้ปัญหาอาจยังแก้ไม่ได้ตอนนั้น
แล้วมองดีๆ อาจจะมีแต่ได้
เป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ไปด้วยกันนะครับ
https://neopositive.wordpress.com
มองดีๆมีแต่ได้
สถานการณ์ช่วงนี้ อาจไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำให้ผมนึกถึงคำนี้ขึ้นมา เลยลองแชร์กันดูนะครับ
คำตามหัวข้อ ผมเคยได้ยินมานานละครับ แต่เมื่อก่อนไม่ค่อยเห็นด้วย
คิดว่าเป็นคำปลอบใจเสียมากกว่า ประมาณว่าเอาน่ะ ฝืนๆมองข้อดีไปเถอะ ทั้งๆที่มันไม่ดีอยู่ทนโท่
..แต่พอโตขึ้น นับวันกลับยิ่งรู้สึกว่า เออ มันก็จริงนะ ไม่ว่าอะไร ถ้ามองดีๆ มันอาจมีแต่ได้จริงๆ
เวลาเจอคนตำหนิ ตอนนั้นเราไม่ชอบเลย หงุดหงิดใจ
แต่พอเหตุการณ์ผ่านไป มาสังเกต ว่าที่เราปรับตัวแก้ข้อเสียบางข้อได้ ก็เพราะคำตำหนินั้นด้วยส่วนนึง
เจอเหตุการณ์ผิดหวังหลายปีก่อน
พอวันนี้มองย้อนไปดู สังเกตว่าเหตุการณ์นั้นทำให้เราได้ออกจากกรอบเดิม และได้ทางเดินใหม่ ก็เพราะมันไม่เป็นอย่างหวังในวันนั้น
ซึ่งถ้ายังสมหวังอยู่ อย่างไรเราคงไม่ออกจากกรอบเดิมด้วยตัวเองแน่ๆ
หรือทะเลาะกับแฟนในวันก่อนๆ
ตอนอายุน้อยๆเราก็ไม่ฟัง แต่พอเราเริ่มฟังสักนิด แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็เข้าใจเค้าขึ้นได้บ้าง คราวต่อไปบางทีก็ยั้งใจไว้ทัน นึกแทนใจว่าเค้าคงหมายถึงเรื่องนี้ หรือไม่ชอบฟังคำนั้น เราก็รอบคอบขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น
..ประสบการณ์ จึงสอนปัจจุบัน ว่าเราสามารถมองเห็นข้อดี ได้จากเหตุการณ์ที่กำลังเกิด โดยไม่ต้องรอให้ผ่านไปแล้วจึงค่อยเห็นก็ได้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความเชื่อด้วยนะครับ
คือถ้าเราเชื่อ ว่าอะไรๆมันจะไม่ดี มันต้องแย่แน่ๆ อันนี้จะมองหาอะไรดีๆ มันก็ไม่อินตั้งแต่แรก
แต่ถ้าเราเชื่อ ว่าเดี๋ยวมันก็ดี ทุกอย่างมันจะมีทางไปของมัน อันนี้มันเชื่อก่อนแล้วว่าดี มันก็พอมีแรงที่จะมองหาอะไรดีๆได้ โดยไม่ต้องฝืนเกินไป
..ไม่เสียหายที่จะลองดูนะครับ ก็แค่ความเชื่อของเรา กับใจของเรา
มองไม่ดี ก็มีแต่ไม่ได้
แต่ถ้าเชื่อว่าดี มองบวกไว้ก่อน แม้ปัญหาอาจยังแก้ไม่ได้ตอนนั้น
แล้วมองดีๆ อาจจะมีแต่ได้
เป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ไปด้วยกันนะครับ
https://neopositive.wordpress.com