สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ผมเขียนไปหลายกระทู้แล้วครับเรื่องคืนรถ เขียนจนโดนทัวร์ลงขี้เกียจตอบ จนหลังๆตอบสั้นๆต้องลองเอง
หลักการมันง่ายๆไฟแนนซ์ให้ยืมเงินไปซื้อรถแล้วผ่อนคืน โดยมีรถค้ำเอาไว้
พอไม่ผ่อนด้วยเหตุใดๆก็ตาม ไฟแนนซ์ก็เอารถคืนกลับไปขายทอดตลาด ขายได้เท่าไหร่หักลบหนี้
ที่มีตามสัญญาเช่าซื้อ เหลือเท่าไหร่ก็เป็นส่วนต่าง นี่คือความเสียหายที่เกิดกับไฟแนนซ์
ทีนี้ตามโซเชียลเห็นแชร์ๆกันมาเป็นปี คืนรถได้ไม่ผิดสัญญา บลาๆๆ ทนายคนนั้นว่างั้นว่างี้ เขาพูดไม่ผิด
แต่เขาไม่ได้พูดในอีกมุมที่ไฟแนนซ์เป็นผู้เสียหายก็มีโอกาสสู้ในคดีแพ่งเช่นกัน
ทนายที่ชอบยกเรื่องคืนรถไม่เสียส่วนต่างอ้างมาตรานั้นมาตรานี้ อ้างฎีกาฉบับนั้นฉบับนี้
แต่ไม่มีทนายคนไหนบอกเลยว่าคุณจะต้องถูกไฟแนนซ์ฟ้องก่อนด้วยนะ ไม่ใช่คืนรถแล้วจบ
เพราะมันไม่มีกฎหมายมาตราไหนห้ามไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าส่วนต่าง ไม่ว่าตอนคืนจะค้างหรือไม่ค้างค่างวด!
เมื่อฟ้องศาล ศาลเห็นว่ามีมูล ก็ต้องให้ความยุติธรรมเบื้องต้นก็ไกล่เกลี่ยกันก่อน จบมั้ย ถ้าไม่จบ
ก็ลุยต่อในชั้นศาล ไฟแนนซ์แจกแจงมาสิมีค่าส่วนต่างเกิดขึ้นอย่างไร ถูกต้องมั้ย เป็นธรรมมั้ย
เอ้าไฟแนนซ์แจกแจงได้น่าเชื่อถือ มีเอกสารหลักฐานพร้อม
ลูกหนี้ล่ะ ชี้แจงสิ อ๋อ เอาข้อมูลมาจากโซเชียล หรือไปจ้างทนายนกแก้วนกขุนทอง ท่องสคริปต์มาแก้ต่าง
จบ ผมบอกเลย แพ้คดีแน่นอน ปีที่แล้วไฟแนนซ์เก่าที่ผมเคยทำงานมีคดีคืนรถแบบนี้ร้อยกว่าคดี
ผลคือไฟแนนซ์ชนะเรียบทุกคดีไม่มีแพ้
ถามว่ามีโอกาสที่ลูกหนี้ชนะคดีมั้ย ตอบว่ามีครับ คดีแบบนี้พันคดีมันจะมีไฟแนนซ์หลุดแพ้อยู่บ้าง
ราวๆ 30-40คดี ที่อุทธรณ์แล้วชนะด้วยข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของไฟแนนซ์ที่ต่างกันไป แต่สัดส่วนมันก็น้อยมากๆ
เทียบแล้วโอกาสชนะก็ราวๆ 0.3% แถมต้องหาทนายเทพๆด้วยครับ ค่าทนายก็หลายหมื่นแล้ว
หลักการมันง่ายๆไฟแนนซ์ให้ยืมเงินไปซื้อรถแล้วผ่อนคืน โดยมีรถค้ำเอาไว้
พอไม่ผ่อนด้วยเหตุใดๆก็ตาม ไฟแนนซ์ก็เอารถคืนกลับไปขายทอดตลาด ขายได้เท่าไหร่หักลบหนี้
ที่มีตามสัญญาเช่าซื้อ เหลือเท่าไหร่ก็เป็นส่วนต่าง นี่คือความเสียหายที่เกิดกับไฟแนนซ์
ทีนี้ตามโซเชียลเห็นแชร์ๆกันมาเป็นปี คืนรถได้ไม่ผิดสัญญา บลาๆๆ ทนายคนนั้นว่างั้นว่างี้ เขาพูดไม่ผิด
แต่เขาไม่ได้พูดในอีกมุมที่ไฟแนนซ์เป็นผู้เสียหายก็มีโอกาสสู้ในคดีแพ่งเช่นกัน
ทนายที่ชอบยกเรื่องคืนรถไม่เสียส่วนต่างอ้างมาตรานั้นมาตรานี้ อ้างฎีกาฉบับนั้นฉบับนี้
แต่ไม่มีทนายคนไหนบอกเลยว่าคุณจะต้องถูกไฟแนนซ์ฟ้องก่อนด้วยนะ ไม่ใช่คืนรถแล้วจบ
เพราะมันไม่มีกฎหมายมาตราไหนห้ามไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าส่วนต่าง ไม่ว่าตอนคืนจะค้างหรือไม่ค้างค่างวด!
เมื่อฟ้องศาล ศาลเห็นว่ามีมูล ก็ต้องให้ความยุติธรรมเบื้องต้นก็ไกล่เกลี่ยกันก่อน จบมั้ย ถ้าไม่จบ
ก็ลุยต่อในชั้นศาล ไฟแนนซ์แจกแจงมาสิมีค่าส่วนต่างเกิดขึ้นอย่างไร ถูกต้องมั้ย เป็นธรรมมั้ย
เอ้าไฟแนนซ์แจกแจงได้น่าเชื่อถือ มีเอกสารหลักฐานพร้อม
ลูกหนี้ล่ะ ชี้แจงสิ อ๋อ เอาข้อมูลมาจากโซเชียล หรือไปจ้างทนายนกแก้วนกขุนทอง ท่องสคริปต์มาแก้ต่าง
จบ ผมบอกเลย แพ้คดีแน่นอน ปีที่แล้วไฟแนนซ์เก่าที่ผมเคยทำงานมีคดีคืนรถแบบนี้ร้อยกว่าคดี
ผลคือไฟแนนซ์ชนะเรียบทุกคดีไม่มีแพ้
ถามว่ามีโอกาสที่ลูกหนี้ชนะคดีมั้ย ตอบว่ามีครับ คดีแบบนี้พันคดีมันจะมีไฟแนนซ์หลุดแพ้อยู่บ้าง
ราวๆ 30-40คดี ที่อุทธรณ์แล้วชนะด้วยข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของไฟแนนซ์ที่ต่างกันไป แต่สัดส่วนมันก็น้อยมากๆ
เทียบแล้วโอกาสชนะก็ราวๆ 0.3% แถมต้องหาทนายเทพๆด้วยครับ ค่าทนายก็หลายหมื่นแล้ว
ความคิดเห็นที่ 5
ทำไมมีคนเข้าใจว่า คืนรถแล้วก็จบเยอะจัง ทั้งที่กระทู้แบบนี้มีเกลื่อนพันทิพย์ เจ็บตัวกันทั้งนั้น
ค้นหาใน Internet เจอกระทู้ที่บอกว่าคืนได้ แต่กระทู้ที่คืนแล้วโดนฟ้องไม่เจอบ้างเลยเหรอครับ ทั้งๆ ผู้ที่ประสบชะตากรรมเดียวกับคุณเยอะขนาดนี้
ไม่ได้มีเจตนาซ้ำเติมนะครับ แค่สงสัยว่าทำไมหลายคนคิดว่าคืนแล้วจบ ไปฟังที่ไหนมา
ค้นหาใน Internet เจอกระทู้ที่บอกว่าคืนได้ แต่กระทู้ที่คืนแล้วโดนฟ้องไม่เจอบ้างเลยเหรอครับ ทั้งๆ ผู้ที่ประสบชะตากรรมเดียวกับคุณเยอะขนาดนี้
ไม่ได้มีเจตนาซ้ำเติมนะครับ แค่สงสัยว่าทำไมหลายคนคิดว่าคืนแล้วจบ ไปฟังที่ไหนมา
ความคิดเห็นที่ 47
เอาให้ดีนะครับ จะตัดสินใจทำอะไรลงไป แก้ไขทีหลังมันยากนะ
เคสแบบนี้ คนในหมู่บ้านผมที่เตะบอลด้วยกันประจำ ไปออกรถกะบะสี่ประตูค่ายนึงมา แล้วส่งไม่ถึงปี จะคืนรถ ไม่ค้างค่างวดอะไร ถามในคลับในเฟส มีคนอ้างว่าเป็นทนายอาสาจัดการให้บอกว่าไม่เสียค่าส่วนต่างแน่นอน พร้อมส่งไฟล์ PDF ฎีกาปีก่อนๆ มาให้อ่าน พร้อมบอกว่าจัดการให้ได้แบบในนี้เป๊ะ เสียค่าจัดการเรื่องจดหมายให้ทนายคนนี้ไม่กี่พัน รับรอง จบ
ซึ่งก็จบจริงๆ คืนได้ แต่ไม่กี่เดือนโดนจดหมายจากไฟแน้นซ์เรียกค่าเสียหาย ต่อจากนั้นก็มีหมายศาลแพ่ง ให้ไปไกล่เกลี่ยค่าเสื่อม ค่าเสียโอกาสจากยอดเงินรที่ให้กู้ บลาๆๆ เพื่อนผมนั่งไม่ติด... และแน่นอน ทนายคนเดิมก็รับหน้าเสื่อจัดการให้ บอกว่าจัดการได้ เรื่องแบบนี้ฟ้องเป็นปกติ ฤแต่ตอนแรกไม่บอกว่าจะโดนฟ้อง) เสียเงินค่าจ้างอีกครั้ง ชั้นต้นประมาณ 35000 + ค่าเดินททางตอนสืบพยานอีกครั้งละ 3000 และอุธรณ์อีก 20000 ทนายไฟแน้นซ์ยื่นข้อเสนอจ่ายก้อนแรกบางส่วน ที่เหลือผ่อน ในห้องไกล่เกลี่ย แต่ทนายฝั่งเพื่อนผมแนะว่าให้ยืนกรานไม่ให้ยอมรับข้อเสนอใดๆ ทั้งนั้น ต้องไม่เสียค่าส่วนต่างสถานเดียว ให้ศาลท่านพิพากษาได้เลย ตกลงกันไม่ได้
สรุป จบที่อุธรณ์ พิพากษา "ไฟแน้นซ์ชนะ" หักค่าปรับ ค่าทวงถาม ค่าดำเนินการไปเล็กน้อยไ่กี่หมื่น แต่ค่ารถ ค่าบอกเบี้ยเงินที่กู้มา โดนเต็มๆ และที่สำคัญ ต้องจ่ายทั้งหมด (ราวๆ 5 แสนบาท) ทันทีภายใน 90 วันหลังคำพิพากษา พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ไม่มีการผ่อนจ่าย ถ้าเลยทนายไฟแน้นซ์เตรียมยื่นสืบทรัพย์ บังคับคดีทันที
จากที่จะคุยกันได้ ผ่อนกันได้ ไกล่เกลี่ยกันได้ กลายเป็นค่าทนายก็เสีย สิ่งที่ได้กลับมาจากทนายฝั่งตัวเองคือ "ผมเสียใจด้วย ผมทำเต็มที่แล้ว..." แถมต้องวิ่งเต้นเอาที่เข้าแบ้งค์ หาเงินมาให้ไฟแน้นซ์ทั้งหมดทันที ไม่งั้นทั้งที่ทั้งบ้านจะโดนบังคับคดียึดหมด ทนายฝั่งไฟแน้นซ์ บอกเลยว่าเคี่ยวมากๆ เดินออกมาจากศาลอุธรณ์เค้าบอกเลยว่าเจอแบบนี้เยอะ เค้ารู้ว่าต้องทำยังไง
ถ้าชนะ มันก็ดีครับ แต่ถ้าแพ้ อ่วม...
เคสแบบนี้ คนในหมู่บ้านผมที่เตะบอลด้วยกันประจำ ไปออกรถกะบะสี่ประตูค่ายนึงมา แล้วส่งไม่ถึงปี จะคืนรถ ไม่ค้างค่างวดอะไร ถามในคลับในเฟส มีคนอ้างว่าเป็นทนายอาสาจัดการให้บอกว่าไม่เสียค่าส่วนต่างแน่นอน พร้อมส่งไฟล์ PDF ฎีกาปีก่อนๆ มาให้อ่าน พร้อมบอกว่าจัดการให้ได้แบบในนี้เป๊ะ เสียค่าจัดการเรื่องจดหมายให้ทนายคนนี้ไม่กี่พัน รับรอง จบ
ซึ่งก็จบจริงๆ คืนได้ แต่ไม่กี่เดือนโดนจดหมายจากไฟแน้นซ์เรียกค่าเสียหาย ต่อจากนั้นก็มีหมายศาลแพ่ง ให้ไปไกล่เกลี่ยค่าเสื่อม ค่าเสียโอกาสจากยอดเงินรที่ให้กู้ บลาๆๆ เพื่อนผมนั่งไม่ติด... และแน่นอน ทนายคนเดิมก็รับหน้าเสื่อจัดการให้ บอกว่าจัดการได้ เรื่องแบบนี้ฟ้องเป็นปกติ ฤแต่ตอนแรกไม่บอกว่าจะโดนฟ้อง) เสียเงินค่าจ้างอีกครั้ง ชั้นต้นประมาณ 35000 + ค่าเดินททางตอนสืบพยานอีกครั้งละ 3000 และอุธรณ์อีก 20000 ทนายไฟแน้นซ์ยื่นข้อเสนอจ่ายก้อนแรกบางส่วน ที่เหลือผ่อน ในห้องไกล่เกลี่ย แต่ทนายฝั่งเพื่อนผมแนะว่าให้ยืนกรานไม่ให้ยอมรับข้อเสนอใดๆ ทั้งนั้น ต้องไม่เสียค่าส่วนต่างสถานเดียว ให้ศาลท่านพิพากษาได้เลย ตกลงกันไม่ได้
สรุป จบที่อุธรณ์ พิพากษา "ไฟแน้นซ์ชนะ" หักค่าปรับ ค่าทวงถาม ค่าดำเนินการไปเล็กน้อยไ่กี่หมื่น แต่ค่ารถ ค่าบอกเบี้ยเงินที่กู้มา โดนเต็มๆ และที่สำคัญ ต้องจ่ายทั้งหมด (ราวๆ 5 แสนบาท) ทันทีภายใน 90 วันหลังคำพิพากษา พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ไม่มีการผ่อนจ่าย ถ้าเลยทนายไฟแน้นซ์เตรียมยื่นสืบทรัพย์ บังคับคดีทันที
จากที่จะคุยกันได้ ผ่อนกันได้ ไกล่เกลี่ยกันได้ กลายเป็นค่าทนายก็เสีย สิ่งที่ได้กลับมาจากทนายฝั่งตัวเองคือ "ผมเสียใจด้วย ผมทำเต็มที่แล้ว..." แถมต้องวิ่งเต้นเอาที่เข้าแบ้งค์ หาเงินมาให้ไฟแน้นซ์ทั้งหมดทันที ไม่งั้นทั้งที่ทั้งบ้านจะโดนบังคับคดียึดหมด ทนายฝั่งไฟแน้นซ์ บอกเลยว่าเคี่ยวมากๆ เดินออกมาจากศาลอุธรณ์เค้าบอกเลยว่าเจอแบบนี้เยอะ เค้ารู้ว่าต้องทำยังไง
ถ้าชนะ มันก็ดีครับ แต่ถ้าแพ้ อ่วม...
แสดงความคิดเห็น
คืนรถไปแล้ว แต่โดนฟ้องเรียกค่าส่วนต่าง