คืนรถไปแล้ว แต่โดนฟ้องเรียกค่าส่วนต่าง

สวัสดีค่ะ พอดีอยากจะสอบถามผู้รู้ค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เรากำลังจะถูกไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าส่วนต่างค่ะ คือเราได้ไปหาข้อมูลมา เขาบอกว่าถ้าเราเป็นฝ่ายคืนรถยนต์ให้กับไฟแนนซ์ ถือว่าเป็นการบอกเลิกสัญญา ไฟแนนซ์จะไม่มีสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าส่วนต่าง (ถ้าเข้าใจอะไรผิดต้องขออภัยด้วยนะคะ)แต่ในกรณีของเราคือ เราค้างค่างวดรถอยู่ประมาณ 2 เดือนนิดๆ พอรู้ว่าไปต่อไม่ไหว เลยโทรไปหาไฟแนนซ์ บอกว่าทางเราจะเอารถยนต์ไปคืนให้ เพราะผ่อนต่อไม่ไหว แต่ไฟแนนซ์ตอบกลับมาว่าเดี๋ยวเขาจะมารับรถเอง พอผ่านไปประมาณครึ่งเดือน ไฟแนนซ์ก็มารับรถไปค่ะ แต่เขาไม่ได้มีหนังสือสัญญาบอกเลิกให้กับทางเราค่ะ มีแค่บันทึกการส่งมอบรถยนต์ใบเดียวค่ะ เลยอยากทราบว่าในกรณีนี้ถ้าเราถูกฟ้อง จะมีโอกาสชนะคดีไหมคะ รบกวนผู้ที่รู้หรือมีประสบการณ์ ช่วยบอกเราทีค่ะ ตอนนี้เครียดมาก😭 (เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก ถ้าผิดพลาดตรงไหน หรือเล่าเรื่องดูงงๆต้องขออภัยด้วยค่ะ)

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ผมเขียนไปหลายกระทู้แล้วครับเรื่องคืนรถ เขียนจนโดนทัวร์ลงขี้เกียจตอบ จนหลังๆตอบสั้นๆต้องลองเอง
หลักการมันง่ายๆไฟแนนซ์ให้ยืมเงินไปซื้อรถแล้วผ่อนคืน โดยมีรถค้ำเอาไว้
พอไม่ผ่อนด้วยเหตุใดๆก็ตาม ไฟแนนซ์ก็เอารถคืนกลับไปขายทอดตลาด ขายได้เท่าไหร่หักลบหนี้
ที่มีตามสัญญาเช่าซื้อ เหลือเท่าไหร่ก็เป็นส่วนต่าง นี่คือความเสียหายที่เกิดกับไฟแนนซ์

ทีนี้ตามโซเชียลเห็นแชร์ๆกันมาเป็นปี คืนรถได้ไม่ผิดสัญญา บลาๆๆ ทนายคนนั้นว่างั้นว่างี้ เขาพูดไม่ผิด
แต่เขาไม่ได้พูดในอีกมุมที่ไฟแนนซ์เป็นผู้เสียหายก็มีโอกาสสู้ในคดีแพ่งเช่นกัน
ทนายที่ชอบยกเรื่องคืนรถไม่เสียส่วนต่างอ้างมาตรานั้นมาตรานี้ อ้างฎีกาฉบับนั้นฉบับนี้
แต่ไม่มีทนายคนไหนบอกเลยว่าคุณจะต้องถูกไฟแนนซ์ฟ้องก่อนด้วยนะ ไม่ใช่คืนรถแล้วจบ
เพราะมันไม่มีกฎหมายมาตราไหนห้ามไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าส่วนต่าง ไม่ว่าตอนคืนจะค้างหรือไม่ค้างค่างวด!

เมื่อฟ้องศาล ศาลเห็นว่ามีมูล ก็ต้องให้ความยุติธรรมเบื้องต้นก็ไกล่เกลี่ยกันก่อน จบมั้ย ถ้าไม่จบ
ก็ลุยต่อในชั้นศาล ไฟแนนซ์แจกแจงมาสิมีค่าส่วนต่างเกิดขึ้นอย่างไร ถูกต้องมั้ย เป็นธรรมมั้ย
เอ้าไฟแนนซ์แจกแจงได้น่าเชื่อถือ มีเอกสารหลักฐานพร้อม
ลูกหนี้ล่ะ ชี้แจงสิ อ๋อ เอาข้อมูลมาจากโซเชียล หรือไปจ้างทนายนกแก้วนกขุนทอง ท่องสคริปต์มาแก้ต่าง
จบ ผมบอกเลย แพ้คดีแน่นอน ปีที่แล้วไฟแนนซ์เก่าที่ผมเคยทำงานมีคดีคืนรถแบบนี้ร้อยกว่าคดี
ผลคือไฟแนนซ์ชนะเรียบทุกคดีไม่มีแพ้

ถามว่ามีโอกาสที่ลูกหนี้ชนะคดีมั้ย ตอบว่ามีครับ คดีแบบนี้พันคดีมันจะมีไฟแนนซ์หลุดแพ้อยู่บ้าง
ราวๆ 30-40คดี ที่อุทธรณ์แล้วชนะด้วยข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของไฟแนนซ์ที่ต่างกันไป แต่สัดส่วนมันก็น้อยมากๆ
เทียบแล้วโอกาสชนะก็ราวๆ 0.3% แถมต้องหาทนายเทพๆด้วยครับ ค่าทนายก็หลายหมื่นแล้ว
ความคิดเห็นที่ 5
ทำไมมีคนเข้าใจว่า คืนรถแล้วก็จบเยอะจัง ทั้งที่กระทู้แบบนี้มีเกลื่อนพันทิพย์ เจ็บตัวกันทั้งนั้น

ค้นหาใน Internet เจอกระทู้ที่บอกว่าคืนได้ แต่กระทู้ที่คืนแล้วโดนฟ้องไม่เจอบ้างเลยเหรอครับ ทั้งๆ ผู้ที่ประสบชะตากรรมเดียวกับคุณเยอะขนาดนี้

ไม่ได้มีเจตนาซ้ำเติมนะครับ แค่สงสัยว่าทำไมหลายคนคิดว่าคืนแล้วจบ ไปฟังที่ไหนมา
ความคิดเห็นที่ 47
เอาให้ดีนะครับ จะตัดสินใจทำอะไรลงไป แก้ไขทีหลังมันยากนะ

เคสแบบนี้ คนในหมู่บ้านผมที่เตะบอลด้วยกันประจำ ไปออกรถกะบะสี่ประตูค่ายนึงมา แล้วส่งไม่ถึงปี จะคืนรถ ไม่ค้างค่างวดอะไร ถามในคลับในเฟส มีคนอ้างว่าเป็นทนายอาสาจัดการให้บอกว่าไม่เสียค่าส่วนต่างแน่นอน พร้อมส่งไฟล์ PDF ฎีกาปีก่อนๆ มาให้อ่าน พร้อมบอกว่าจัดการให้ได้แบบในนี้เป๊ะ เสียค่าจัดการเรื่องจดหมายให้ทนายคนนี้ไม่กี่พัน รับรอง จบ

ซึ่งก็จบจริงๆ คืนได้ แต่ไม่กี่เดือนโดนจดหมายจากไฟแน้นซ์เรียกค่าเสียหาย ต่อจากนั้นก็มีหมายศาลแพ่ง ให้ไปไกล่เกลี่ยค่าเสื่อม ค่าเสียโอกาสจากยอดเงินรที่ให้กู้ บลาๆๆ  เพื่อนผมนั่งไม่ติด... และแน่นอน ทนายคนเดิมก็รับหน้าเสื่อจัดการให้ บอกว่าจัดการได้ เรื่องแบบนี้ฟ้องเป็นปกติ ฤแต่ตอนแรกไม่บอกว่าจะโดนฟ้อง)  เสียเงินค่าจ้างอีกครั้ง ชั้นต้นประมาณ 35000 + ค่าเดินททางตอนสืบพยานอีกครั้งละ 3000 และอุธรณ์อีก 20000  ทนายไฟแน้นซ์ยื่นข้อเสนอจ่ายก้อนแรกบางส่วน ที่เหลือผ่อน ในห้องไกล่เกลี่ย  แต่ทนายฝั่งเพื่อนผมแนะว่าให้ยืนกรานไม่ให้ยอมรับข้อเสนอใดๆ ทั้งนั้น ต้องไม่เสียค่าส่วนต่างสถานเดียว ให้ศาลท่านพิพากษาได้เลย ตกลงกันไม่ได้

สรุป จบที่อุธรณ์ พิพากษา "ไฟแน้นซ์ชนะ" หักค่าปรับ ค่าทวงถาม ค่าดำเนินการไปเล็กน้อยไ่กี่หมื่น  แต่ค่ารถ ค่าบอกเบี้ยเงินที่กู้มา โดนเต็มๆ  และที่สำคัญ ต้องจ่ายทั้งหมด (ราวๆ 5 แสนบาท) ทันทีภายใน 90 วันหลังคำพิพากษา พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ไม่มีการผ่อนจ่าย ถ้าเลยทนายไฟแน้นซ์เตรียมยื่นสืบทรัพย์ บังคับคดีทันที

จากที่จะคุยกันได้ ผ่อนกันได้ ไกล่เกลี่ยกันได้ กลายเป็นค่าทนายก็เสีย สิ่งที่ได้กลับมาจากทนายฝั่งตัวเองคือ "ผมเสียใจด้วย ผมทำเต็มที่แล้ว..." แถมต้องวิ่งเต้นเอาที่เข้าแบ้งค์ หาเงินมาให้ไฟแน้นซ์ทั้งหมดทันที ไม่งั้นทั้งที่ทั้งบ้านจะโดนบังคับคดียึดหมด ทนายฝั่งไฟแน้นซ์ บอกเลยว่าเคี่ยวมากๆ  เดินออกมาจากศาลอุธรณ์เค้าบอกเลยว่าเจอแบบนี้เยอะ เค้ารู้ว่าต้องทำยังไง

ถ้าชนะ มันก็ดีครับ  แต่ถ้าแพ้ อ่วม...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่