(ผลงานนี้จัดแสดงที่ ONE NIMMAN )
นท พนายางกูร หรือ Notep (โน-เท็ป) เป็นนักดนตรีและศิลปินอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
เธอมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและดนตรีที่จะช่วยในการยกระดับจิตวิญญาณของผู้ชม
ผลงานที่เริ่มต้นขึ้นจากการปลดปล่อยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ของเธอ
แปรเปลี่ยนมาเป็นผลงานชิ้นสำคัญในชีวิตของ "นท" ในวันนี้
จากจุดเริ่มต้นในปี พ.ศ.2548 "นท" อุทิศตนเพื่อการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งยังเป็นสิ่งที่จุดประกายให้เธอได้ค้นพบ ความรักและความหลงไหลที่แท้จริงของตนเองในการใช้ศิลปะเพื่อการเยียวยาและสร้างแรงบันดาลใจ
ผลงานชิ้นล่าสุดของ "นท" เป็นการผสมผสานระหว่างความสนใจของเธอในศาสตร์ด้านพลังงานและจิตวิญญาณ
ซึ่งเกิดขึ้นจากเจตนารมณ์ที่ "นท" ต้องการช่วยชำระสิ่งกีดขวางในใจของผู้ชม และเยียวยาพวกเขาเหล่านั้น
ปัจจุบัน "นท" ได้รังสรรค์นิทรรศการศิลปะเดี่ยวครั้งที่สองของเธอ ในชื่อว่า Energy Diary 02
ซึ่งเนื้อหาสำคัญในการแสดงผลงานครั้งนี้คือลมหายใจและการเจริญสมาธิ
ผลงานชุด My Energy Diary นั้นถูกออกแบบขึ้นเพื่อการเปิดเผยแสงแห่งพลังงานบริสุทธิ์ของปัจเจกบุคคล
และถูกนำมาใช้เป็นพาหนะเพื่อการปลดปล่อยพลังนั้นออกมาอย่างไร้ขีดจำกัดในรูปแบบของภาพและเสียง
"นท" หวังที่จะมีส่วนช่วยในการช่วยปลดปล่อยและผ่อนคลายจิตวิญญาณของผู้คนที่ต้องดิ้นรนภายใต้ความคาดหวังของสังคม
ให้พวกเขาได้สัมผัสกับความสงบจากภายใน
และเปิดประตูสู่การตื่นรู้เพื่อการค้นหาความสมดุลแห่งชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ที่เอ่อล้นไปด้วยเทคโนโลยีและการสื่อสารที่รวดเร็ว
ในสังคมที่คนส่วนมากประสบปัญหาในการมองให้ลึกกว่าเพียงแค่เปลือกภายนอก
"นท" จึงจำเป็นต้องหาวิธีการเชื้อเชิญผู้เข้าชมให้ใช้มากกว่าแค่เพียงตาในการมองดู
แต่ใช้ดวงตาที่สามหรือดวงตาแห่งจิตใจในการมองควบคู่ไปด้วย และหากปราศจากมุมมองที่ครอบคลุมอย่างลึกซึ้งนั้น
ผู้คนต้องเผชิญความเสี่ยงที่จะตกลงสู่วัฎจักรที่ "นท" เคยได้ประสบมา
คือวัฎจักรแห่งการสูญเสียตนเอง และการออกห่างจากพลังงานศักดิ์สิทธิ์
ภายในจากมุมมองของ "นท" สังคมคือต้นเหตุแห่งความโศกเศร้า และ "นท" มุ่งหวังที่จะช่วยเบนเข็มความสนใจของผู้ชมให้กลับมารู้จักกับตนเองให้มากขึ้นผ่านผลงานศิลปะที่ไม่ใช่เพียงแค่มองเห็นด้วยได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยหัวใจ
...............................
Breathing Machine 02 เป็นส่วนต่อขยายทางความคิดของ Breathing Machine 01 ที่สานความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องจักรให้ลึกซึ้งมากขึ้น ฉันจึงสามารถใช้พลังงานจากศูนย์กลางร่างกายในการควบคุมมัน
ร่างกายฉันจะอยู่ในศูนย์กลางของผลงานชิ้นนี้
มนุษย์เราถูกรุมล้อมไปด้วยความคาดหวังและความรับผิดชอบ สังคม เทคโนโลยี โซเชี่ยลมีเดีย อินเตอร์เน็ต สามารถครอบงำหรือไม่ก็กลืนกินเรา ส่งผลให้เรามักขาดสติหลงลืมตัวตนของเราเอง
การที่เราได้กลับมาเป็นผู้ควบคุมอีกครั้ง ผ่านการเข้าไปอยู่ในจุดศูนย์กลางของจิตจะสามารถสร้างพื้นฐานสำคัญต่อการก้าวไปข้างหน้า ผ่านความทุกข์ยากและกลับมาเจริญสติ
เชียงใหม่-แสดงผลงานของ นท พนายางกูร หรือ Notep (โน-เท็ป) เป็นนักดนตรีและศิลปิน
นท พนายางกูร หรือ Notep (โน-เท็ป) เป็นนักดนตรีและศิลปินอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
เธอมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและดนตรีที่จะช่วยในการยกระดับจิตวิญญาณของผู้ชม
ผลงานที่เริ่มต้นขึ้นจากการปลดปล่อยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ของเธอ
แปรเปลี่ยนมาเป็นผลงานชิ้นสำคัญในชีวิตของ "นท" ในวันนี้
จากจุดเริ่มต้นในปี พ.ศ.2548 "นท" อุทิศตนเพื่อการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งยังเป็นสิ่งที่จุดประกายให้เธอได้ค้นพบ ความรักและความหลงไหลที่แท้จริงของตนเองในการใช้ศิลปะเพื่อการเยียวยาและสร้างแรงบันดาลใจ
ผลงานชิ้นล่าสุดของ "นท" เป็นการผสมผสานระหว่างความสนใจของเธอในศาสตร์ด้านพลังงานและจิตวิญญาณ
ซึ่งเกิดขึ้นจากเจตนารมณ์ที่ "นท" ต้องการช่วยชำระสิ่งกีดขวางในใจของผู้ชม และเยียวยาพวกเขาเหล่านั้น
ปัจจุบัน "นท" ได้รังสรรค์นิทรรศการศิลปะเดี่ยวครั้งที่สองของเธอ ในชื่อว่า Energy Diary 02
ซึ่งเนื้อหาสำคัญในการแสดงผลงานครั้งนี้คือลมหายใจและการเจริญสมาธิ
ผลงานชุด My Energy Diary นั้นถูกออกแบบขึ้นเพื่อการเปิดเผยแสงแห่งพลังงานบริสุทธิ์ของปัจเจกบุคคล
และถูกนำมาใช้เป็นพาหนะเพื่อการปลดปล่อยพลังนั้นออกมาอย่างไร้ขีดจำกัดในรูปแบบของภาพและเสียง
"นท" หวังที่จะมีส่วนช่วยในการช่วยปลดปล่อยและผ่อนคลายจิตวิญญาณของผู้คนที่ต้องดิ้นรนภายใต้ความคาดหวังของสังคม
ให้พวกเขาได้สัมผัสกับความสงบจากภายใน
และเปิดประตูสู่การตื่นรู้เพื่อการค้นหาความสมดุลแห่งชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ที่เอ่อล้นไปด้วยเทคโนโลยีและการสื่อสารที่รวดเร็ว
ในสังคมที่คนส่วนมากประสบปัญหาในการมองให้ลึกกว่าเพียงแค่เปลือกภายนอก
"นท" จึงจำเป็นต้องหาวิธีการเชื้อเชิญผู้เข้าชมให้ใช้มากกว่าแค่เพียงตาในการมองดู
แต่ใช้ดวงตาที่สามหรือดวงตาแห่งจิตใจในการมองควบคู่ไปด้วย และหากปราศจากมุมมองที่ครอบคลุมอย่างลึกซึ้งนั้น
ผู้คนต้องเผชิญความเสี่ยงที่จะตกลงสู่วัฎจักรที่ "นท" เคยได้ประสบมา
คือวัฎจักรแห่งการสูญเสียตนเอง และการออกห่างจากพลังงานศักดิ์สิทธิ์
ภายในจากมุมมองของ "นท" สังคมคือต้นเหตุแห่งความโศกเศร้า และ "นท" มุ่งหวังที่จะช่วยเบนเข็มความสนใจของผู้ชมให้กลับมารู้จักกับตนเองให้มากขึ้นผ่านผลงานศิลปะที่ไม่ใช่เพียงแค่มองเห็นด้วยได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยหัวใจ
...............................
Breathing Machine 02 เป็นส่วนต่อขยายทางความคิดของ Breathing Machine 01 ที่สานความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องจักรให้ลึกซึ้งมากขึ้น ฉันจึงสามารถใช้พลังงานจากศูนย์กลางร่างกายในการควบคุมมัน
ร่างกายฉันจะอยู่ในศูนย์กลางของผลงานชิ้นนี้
มนุษย์เราถูกรุมล้อมไปด้วยความคาดหวังและความรับผิดชอบ สังคม เทคโนโลยี โซเชี่ยลมีเดีย อินเตอร์เน็ต สามารถครอบงำหรือไม่ก็กลืนกินเรา ส่งผลให้เรามักขาดสติหลงลืมตัวตนของเราเอง
การที่เราได้กลับมาเป็นผู้ควบคุมอีกครั้ง ผ่านการเข้าไปอยู่ในจุดศูนย์กลางของจิตจะสามารถสร้างพื้นฐานสำคัญต่อการก้าวไปข้างหน้า ผ่านความทุกข์ยากและกลับมาเจริญสติ