สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
เครื่องบินจะตกหน้ากากออกซิเจนหล่นลงมา เค้าบอกให้ผู้ใหญ่สวมก่อนแล้วถึงสวมให้เด็ก
เหตุผลคือถ้าผู้ใหญ่หมดลมก่อน เด็กก็ตายตามช่วยตัวเองไม่ได้
วัคซีนถ้าไม่เอาให้บุคลากรก่อนถ้าเขาติดเชื้อต้องปิด รพ ประชาชนก็ไม่ต่างกับเด็กน้อยรอความตาย
ที่บอกว่าไม่มีประเทศไหนในโลกฉีดกระตุ้นด้วยเข็ม 3 ตอนนี้ ไม่จริง ผมเพิ่งไปฉีดมาวันนี้ประเทศ UAE
ตามรูปจากแอพฯมือถือ เข็ม 1,2 ซิโนฟาร์ม เข็ม 3 ไฟเซอร์ 6 เดือนหลังจากเข็ม 2

ถ้าตามข่าวดีๆจะรู้ว่าเค้าประกาศมาเป็นเดือนแล้วที่ UAE
ส่วนที่ตุรกีฉีดเข็ม 3 ให้ตั้งแต่ 3 เดือนด้วยซ้ำหลังเข็ม 2 สำหรับบุคลากรและผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง เลือกได้ว่าจะเอาไฟเซอร์หรือวัคซีนอะไรที่มี
https://pantip.com/topic/40814490
บางเรื่องไม่ต้องมีวิจัยแต่ต้องทำก่อน วัคซีนเข็ม 3 ของตุรกีแค่ 3 เดือนก็มาจากรู้ว่ามันปลอดภัย
และเพิ่มภูมิคุ้มกัน ไม่ต้องวิจัยว่าเพิ่มได้เท่าไหร่ตอนนี้ที่กำลังฉุกเฉิน ก่อนนี้ซิโนแวคไปเยอะจนคุมไม่อยู่ตุรกีไม่ดื้อและรีบแก้ไข
คนที่ไม่ตามข่าวสารและข้อมูลวิทยาศาสตร์ใหม่ๆกำลังจะฉุดสังคมให้อยู่ในสถานะลำบาก
จากหัวกระทู้ที่กล่าวว่า "การระบาดของโรคใดๆนั้น เป็นเรื่องของสังคมศาสตร์มากกว่าวิทยาศาสตร์ วัคซีนไม่ใช่คำตอบเดียว" ไม่จริงสำหรับโควิด
ตราบใดที่ยังคุมการระบาดไม่ได้สังคมก็มีปัญหา ผู้คนไม่มีงาน ไม่มีเงิน สถานประกอบการปิดตัว กำลังรอวัคซีนที่ทำให้เปิดเศรษฐกิจได้อีกครั้ง
แก้ปัญหาก็ต้องไปแก้ที่ปัญหาไม่ใช่แค่ประชาสัมพันธ์ที่มีก่อนหน้านี้ วัคซีนที่ดีที่สุดคือหน้ากาก เลยไม่รีบจอง ผลเป็นไงตอนนี้
ทั้งการทดลองวัดภูมิคุ้มกันหลังชิโนแวค ทั้ง 3 เข็มพอๆกับไฟเซอร์ หลอกได้แต่ตัวเอง หลอกให้ตัวเองเชื่อว่ายังมีคนเชื่อเรื่องพวกนี้
เอาเวลาไปสร้างงานจริงๆมาวางให้ประชาชนเห็นดีกว่า ไปหาวัคซีนมาให้เยอะและเป็นวัคซีนที่ประสิทธิภาพสูงด้วยเป็นหน้าที่ทุกรัฐบาลกำลังทำ
ประเทศไทยไม่ทำจะเน้นประชาสัมพันธ์ไปยังไงประชาชนก็รู้ความจริงอยู่ดี
เหตุผลคือถ้าผู้ใหญ่หมดลมก่อน เด็กก็ตายตามช่วยตัวเองไม่ได้
วัคซีนถ้าไม่เอาให้บุคลากรก่อนถ้าเขาติดเชื้อต้องปิด รพ ประชาชนก็ไม่ต่างกับเด็กน้อยรอความตาย
ที่บอกว่าไม่มีประเทศไหนในโลกฉีดกระตุ้นด้วยเข็ม 3 ตอนนี้ ไม่จริง ผมเพิ่งไปฉีดมาวันนี้ประเทศ UAE
ตามรูปจากแอพฯมือถือ เข็ม 1,2 ซิโนฟาร์ม เข็ม 3 ไฟเซอร์ 6 เดือนหลังจากเข็ม 2

ถ้าตามข่าวดีๆจะรู้ว่าเค้าประกาศมาเป็นเดือนแล้วที่ UAE
ส่วนที่ตุรกีฉีดเข็ม 3 ให้ตั้งแต่ 3 เดือนด้วยซ้ำหลังเข็ม 2 สำหรับบุคลากรและผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง เลือกได้ว่าจะเอาไฟเซอร์หรือวัคซีนอะไรที่มี
https://pantip.com/topic/40814490
บางเรื่องไม่ต้องมีวิจัยแต่ต้องทำก่อน วัคซีนเข็ม 3 ของตุรกีแค่ 3 เดือนก็มาจากรู้ว่ามันปลอดภัย
และเพิ่มภูมิคุ้มกัน ไม่ต้องวิจัยว่าเพิ่มได้เท่าไหร่ตอนนี้ที่กำลังฉุกเฉิน ก่อนนี้ซิโนแวคไปเยอะจนคุมไม่อยู่ตุรกีไม่ดื้อและรีบแก้ไข
คนที่ไม่ตามข่าวสารและข้อมูลวิทยาศาสตร์ใหม่ๆกำลังจะฉุดสังคมให้อยู่ในสถานะลำบาก
จากหัวกระทู้ที่กล่าวว่า "การระบาดของโรคใดๆนั้น เป็นเรื่องของสังคมศาสตร์มากกว่าวิทยาศาสตร์ วัคซีนไม่ใช่คำตอบเดียว" ไม่จริงสำหรับโควิด
ตราบใดที่ยังคุมการระบาดไม่ได้สังคมก็มีปัญหา ผู้คนไม่มีงาน ไม่มีเงิน สถานประกอบการปิดตัว กำลังรอวัคซีนที่ทำให้เปิดเศรษฐกิจได้อีกครั้ง
แก้ปัญหาก็ต้องไปแก้ที่ปัญหาไม่ใช่แค่ประชาสัมพันธ์ที่มีก่อนหน้านี้ วัคซีนที่ดีที่สุดคือหน้ากาก เลยไม่รีบจอง ผลเป็นไงตอนนี้
ทั้งการทดลองวัดภูมิคุ้มกันหลังชิโนแวค ทั้ง 3 เข็มพอๆกับไฟเซอร์ หลอกได้แต่ตัวเอง หลอกให้ตัวเองเชื่อว่ายังมีคนเชื่อเรื่องพวกนี้
เอาเวลาไปสร้างงานจริงๆมาวางให้ประชาชนเห็นดีกว่า ไปหาวัคซีนมาให้เยอะและเป็นวัคซีนที่ประสิทธิภาพสูงด้วยเป็นหน้าที่ทุกรัฐบาลกำลังทำ
ประเทศไทยไม่ทำจะเน้นประชาสัมพันธ์ไปยังไงประชาชนก็รู้ความจริงอยู่ดี
ความคิดเห็นที่ 17
ก็ดีที่ไม่ลงตำแหน่ง ประกาศตัวว่าแสดงความคิดเห็นในฐานะหมอคนหนึ่ง...
แต่การลงท้ายบทความว่า "แค่แพทย์คนหนึ่งที่ไม่เห็นแก่ตัว".. หมายความว่าแพทย์หน้างานที่เรียกร้องเข็มสามเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างนั้นหรือ.?
ได้อ่านทัศนคติของแพทย์ท่านนี้อยู่บ่อยๆ เหมือนจะพูดดีหลายครั้ง แต่มักแฝงด้วยการยกตนข่มท่านเสมอๆ
(ขอโทษวิจารณ์ตรงเกินไป ..รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ)..
ขอร้องหละครับ อย่าคิดว่าแพทย์ที่เรียกร้องเข็มสามเป็นแพทย์ที่เห็นแก่ตัวเลย แพทย์หนึ่งคนช่วยคนธรรมดาได้เป็นร้อย กลับกันถ้าแพทย์หน้างานหนึ่งคนน๊อคไป ต้องมีคนป่วยรออีกเป็นร้อย... เปลี่ยนทัศนคติซะนะครับ..
แต่การลงท้ายบทความว่า "แค่แพทย์คนหนึ่งที่ไม่เห็นแก่ตัว".. หมายความว่าแพทย์หน้างานที่เรียกร้องเข็มสามเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างนั้นหรือ.?
ได้อ่านทัศนคติของแพทย์ท่านนี้อยู่บ่อยๆ เหมือนจะพูดดีหลายครั้ง แต่มักแฝงด้วยการยกตนข่มท่านเสมอๆ
(ขอโทษวิจารณ์ตรงเกินไป ..รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ)..
ขอร้องหละครับ อย่าคิดว่าแพทย์ที่เรียกร้องเข็มสามเป็นแพทย์ที่เห็นแก่ตัวเลย แพทย์หนึ่งคนช่วยคนธรรมดาได้เป็นร้อย กลับกันถ้าแพทย์หน้างานหนึ่งคนน๊อคไป ต้องมีคนป่วยรออีกเป็นร้อย... เปลี่ยนทัศนคติซะนะครับ..
แสดงความคิดเห็น
ได้อ่านบทความดี ๆ บทความหนึ่ง เข้าท่าดีครับ
https://web.facebook.com/nithi.mahanonda/posts/10159365930583895
ด้วยความเคารพและเห็นใจความกลัวการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว จนมีประกาศกันว่าจะให้บุคลากรด่านหน้าได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังจากได้วัคซีนไปครบแล้วสองโดส
ผมขอให้ข้อคิดว่า…..
1)ต้องไม่ลืมว่าคนที่ได้รับวัคซีนครบแล้วไม่ว่าชนิดใดยังมีโอกาสติดเชื้อ ได้ช่วงนี้มีรายงานว่าแพทย์พยาบาลติดเชื้อกันมากนั้นเป็นเพราะพวกเราด่านหน้าเสี่ยงได้รับเชื้อกว่าคนทั่วไปอยู่แล้วแม้แต่จะมีอุปกรณ์ป้องกันเต็มที่อย่างดีแต่ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันทั้งโลก การที่พวกเรา(แพทย์)ตระหนกจะทำให้คนทั่วไปตื่นเต้นไปยิ่งกว่า
2)เรา(แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า และทุกคนที่แม้แต่คิด)ดูเห็นแก่ตัวไปไหมในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่ได้วัคซีนสักเข็มเดียว ถ้าเราจะมารับการกระตุ้นด้วยเข็มที่สามกันก่อน
3)ยังไม่มีประเทศไหนในโลก ณ เวลานี้ที่แนะนำให้ฉีดกระตุ้นวัคซีนโควิด19ด้วยเข็มสามในตอนนี้ จะเป็นเมื่อไหร่ สามเดือน หกเดือน แต่ทั้งนี้ถ้าอยากรู้ก่อนอยากทำก่อนก็ทำได้แต่….. ควรทำเป็นการศึกษาให้เป็นระบบไม่ควรทำแบบ ทำไปมั่วๆเหมือนที่ผ่านมา ไม่เก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ไม่วางแผนให้เป็นระบบประเทศไทยก็จะไม่มีข้อมูลอีกเช่นเคยเหมือนในอดีต
ผมไม่แน่ใจจริงๆว่า ทำเช่นนี้เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับ (บริจาค แลก ซื้อ)จำนวนพิเศษนี้หรือไม่ …..ไม่รู้จริงๆครับ พยายามช่วยหาเหตุผลอธิบายว่านโยบายการให้ฉีดกระตุ้นในบุคลากรการแพทย์นี้มีเหตุมีผลลึกๆอะไร
4) หลายแสนโดสที่จะได้รับบริจาคให้พวดเราส่วนหน้ามากระตุ้นภูมิถ้าจะฉีดให้คนไทยที่ยังไม่เคยได้วัคซีนได้ สามแสนห้าหมื่นคน จะสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ สามสี่พันคน ทีเดียว ดีกว่าไปหาทางเพิ่มเตียงไหมครับ
5)ทำเช่นนี้(ออกข่าว ปชส ว่าแพทย์ใช้การกระตุ้นภูมิเข็มสาม) เท่ากับสร้างกระแสความเชื่อให้คนมีเงิน(ขี้อวด และขี้กลัว) แห่กันไม่ฉีดวัคซีนหลักที่มีขณะนี้ของรัฐบาลอยู่แต่รอไปเสี่ยงติดเชื้อไปและแพร่เชื้อด้วยไปอีกหลายๆเดือนเพื่อ รอ mRNA vaccine ทางเลือก และนอกจากนี้จะมีคน วีไอพี (ที่คนละประเภทกับ VIP ผม) ที่ไม่มีเงิน(แต่มีเครือข่ายมีสายมีเส้น)แห่กันไปลัดคิวแย่งคิววัคซีนหลักเพื่อกระตุ้นภูมิ ของคนที่ยังไม่ได้วัคซีนสักเข็มเดียว สังคมเราจะยิ่งมีความเหลื่อมล้ำไปกันใหญ่ไหมครับ…..ถ้าประเทศเรามีวัคซีนเกินพอ ผมเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์กับนโยบายนี้
6)ผมไม่แย้งไม่เถียงว่ามีข้อมูลทางการแพทย์มากมายที่ทำให้อาจคิดและอาจทำให้เชื่อต่อได้ว่าการได้รับวัคซีนกระตุ้นนั้นจะทำให้ป้องกันสายพันธุ์ใหม่ได้ดีขึ้น แต่รู้ได้อย่างไรล่ะครับว่ากระตุ้นเร็วหรือช้าในเวลานี้จะให้ผลเสียมากหรือน้อยกว่ากันอยาคิดแค่มุมที่ดีมากหรือน้อยกว่ากัน …..อย่าหลงตามกันไป จะตอบคำถามนี้ได้”ต้อง”วิจัยและศึกษาให้เป็นระบบ อย่าสักแต่ว่า เชื่อ ฟัง และ ได้ยินเขาว่า ต่อๆกันมา
7)ผมพูดมาตลอดว่าการระบาดของโรคใดๆนั้น เป็นเรื่องของสังคมศาสตร์มากกว่าวิทยาศาสตร์ วัคซีนไม่ใช่คำตอบเดียว ถ้าทำตามแนวทางและประชาสัมพันธ์ส่งเสริมที่จะให้เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็มที่สาม ณ เวลานี้มีแต่จะทำให้เกิดความสับสน และแตกแยก เหลื่อมล้ำในสังคมมากขึ้นอย่างแท้
ผมไม่รู้ความตั้งใจของที่มาของการบริจาคมีเจตนาอย่างไรเล็งเห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่จะเกิดขึ้นไหม…..หรือเป็นเพียงแค่การตลาดบริษัทยา
ปกติผมไม่ค่อยชอบค้านอะไรตรงๆแบบนี้ แต่คราวนี้ขอผิดกติกาตัวเอง สงสารคนไทยอีก หลายสิบล้านคนที่ยังไม่ได้วัคซีน ……..ผมขอค้านไม่เห็นด้วยในการให้ฉีดกระตุ้นเข็มสามในเวลานี้ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีนครับ ถ้าใครจะได้รับการกระตุ้นเข็มที่สามควรต้องอยู่ในการศึกษาวิจัยที่เป็นระบบเท่านั้น ไม่เช่นนั้น ท่านเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกเกินไปครับ
นิธิ มหานนท์
(วันนี้ความเห็นส่วนตัวไม่ขอลงตำแหน่งครับ แค่แพทย์คนหนึ่งที่ไม่ขอเห็นแก่ตัว)
6 กรกฎาคม 2564
#เราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง #อย่าเห็นแก่ตัว
เป็นบทความที่เข้าท่าดีครับ คิดเห็นกันอย่างไรบ้างสำหรับแง่มุมนี้