ปี 2099 ในอีก 78 ปีข้างหน้าอากีระ เด็กน้อยลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น วัย 4 ขวบเดินกลับบ้านพร้อมคุณพ่อที่ชื่อ ชินอิจิ พ่อหม้าย ภรรยาคนไทย แต่ภรรยาเขาได้จากไป 2 ปีแล้ว ซึ่งเขาได้จูงมืออากีระหลังจากรับลูกจากโรงเรียน เดินผ่านสุสานโบราณ ที่มีหญ้าขึ้นเต็ม มีรั้วกั้นสุสาน มีเถาวัลย์ขึ้นรกป้ายสลักชื่อ หลายป้าย
ป้ายที่ใกล้รั้วมากสุด จนเด็กน้อย อากิระ เห็นได้ชัดทุกวัน เขียนว่า ศรเขียว ซึ่งมีรูปชายชุดขาว ใส่หมวกยิ้มภายใต้แสงจันทรา ทำให้ อากีระ เอ่ยถามกับพ่อว่า คนนี้เป็นใคร และชี้นิ้วไปยังป้าย ทำให้ ชินอิจิ คุณพ่อวัย 54 ซึ่งจากอายุ คงจะเกิดในปี 2045 กล่าวยิ้มๆให้กับลูกว่า "ไม่รู้สิลูก แต่ดูจากภาพเขาน่าจะมีความสุขดีนะพ่อว่า "
อากีระ เป็นเด็กผู้หญิง แต่ช่างพูดช่างถาม ก็ถามพ่อต่อว่า แล้วพ่อมีความสุขรึเปล่า ขณะที่ทั้งสองเดินเลยป้าย ศรเขียวไป ก็ยังมีป้าย อีก 3 - 4 ป้าย
ชินอิจิ ก็เดินจูงลูกเดินไปเรื่อยๆ เห็น ป้ายคนผมยาวมีไฟลุกโชน คนนี้น่าจะทรนงองอาจ ป้ายต่อมาเป็นรูปมนุษย์ต่างดาว คนนี้น่าจะอารมณ์ดี และอีกป้ายเป็นรูปหญิงสาวชุดขาว ช่างสวยสคราญจริงๆ ก่อน ชินอิจิ จะตอบลูกว่า "พ่อ ก็มีความสุขสิลูก"
แต่สีหน้าของ ชินอิจิ นั้นความจริงเขาไม่ได้มีความสุขตามที่บอกกับ อากีระ เลย ชินอิจิ ตกงานมา 4 ปีแล้ว จากคนที่มีหน้าที่การงานดี รายได้ดี แต่พอภรรยาเขาล้มป่วยเมื่อ 4 ปีก่อน ก็จึงลาออกมาดูแล จนภรรยาจากไปใน 2 ปีต่อมา แต่พอเขาจะกลับมาหางานทำ วัย 53 ของเขา ไม่ว่าจะมีประสบการณ์เพียงใด แต่ก็ไม่สามารถกลับมาหางานทำได้อีกเลย โดยเขาต้องเอาเงินเก็บสมัยก่อนออกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันซึ่งมีแต่ร่อยหรอ
ชินอิจิ พา อากีระ เดินมาถึงสุดทางของสุสาน ซึ่งต้องข้ามถนนอีกครั้ง เขาหันกลับไปมองภาพป้ายหลุมศพ ที่ดูยังมีชีวิตชีวาทุกรูป แม้ภาพจะซีดไปบ้าง เถาวัลย์จะรกไปบ้าง แต่ ในแต่ละภาพล้วนดู มีชีวิต สายตา บุคลิก มิติ และความงาม ก่อนที่เขาจะถอนหายไป แล้ว จูงอากีระ ข้ามถนนอย่างระมัดระวัง
เมื่อถึงบ้าน ชินอิจิ ก็ให้ อากีระ ไปล้างมือล้างเท้า เปลียนชุด ส่วนเขานั่งพัก และ นึกถึงตนเอง เขาไม่ได้ทำงานมา 4 ปี เริ่มจากสังคมของเขาไม่มี เขามีแต่ภรรยาและ โรงพยาบาล ความเจ็บป่วยของภรรยา และ ภาระลูกน้อย เขาขาดการติดต่อจากสังคมในทุกทาง ไม่ว่าจะตามเสียง ข้อความลดน้อยถอยหาย เพื่อนฝูงก็ต่างล้วนย่างเข้าวัยที่ถ้าไม่เป็นผู้บริหารงานยุ่ง ก็รีไทร์ไปอยู่กับครอบครัว ตามแต่ฐานะของแต่ละคน
ชินอิจิ รู้สึกเหมือน ยังหายใจอยู่ แต่ไร้ซึ่งชีวิต เหมือนคนตายไปแล้ว เขารู้สึกเช่นนั้น เขาตายยิ่งกว่า ภาพคนบนหลุมศพที่เขาเดินผ่านยามไปรับลูกทุกวันเสียอีก เขามีแค่ อากีระ สิ่งเดียวที่ทำให้เขายังขยับร่างกายทำหน้าที่พ่อต่อไป และก็ยังหวังว่าจะเลี้ยงอากีระให้เติบใหญ่ จนดูแลตัวเองได้ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นเขาก็ยังต้องหายใจเข้าออกต่อไป
บางคนจากไปแล้ว ก็ยังเหมือนมีชีวิต ยามนึกถึงแววตา บุคลิก นิสัยใจคอ ความดีงาม แต่บางคนยังมีชีวิตแต่ก็ใช้ชีวิตเหมือนคนที่ตายไปแล้ว คุณอยากเป็นแบบไหน ก็ต้องเลือกหนทางเสียแต่วันนี้ก่อนที่จะสายเกินไป เพราะวันเวลาไม่เคยหยุดรอใคร
ปล .พาดพิงโปรไฟล์บางท่านแต่ค่อนข้างมั่นใจว่า คงจะทาบๆครึ่งศตวรรษกันแล้วในวันนี้ ถ้าอีก 78 ปี ก็มี 100 ขึ้น หากผิดพลาดประการใดขออภัย มาณ ที่นี้
สิ่งใดเคยมั่นหมาย หวังไว้
จงอย่าให้อุปสรรค กีดขวาง
มุมานะเดินหน้า ฝ่าทาง
แม้เคว้งคว้างบางครา อย่าถอย
ยามชีพอยู่ใช่ยั้ง ยืนยง
คงมีวันจบลง มอดม้วย
คนใช่จำจดจน ร่ำรวย
จงอยู่ด้วยความดี มีธรรม
-----------------------------------------------------------------------------
เราอาจไม่ได้อยู่ดูโลกสลายในบั้นปลายชีวิต
แต่ยามเราสิ้นชีวิตโลกอาจยังคงเห็นเราอยู่อีกชั่วเวลาหนึ่ง
------------------------------------------------------------------------------
PEACE
ศรเขียว
ยังหายใจ แต่ไร้ชีวิต
ป้ายที่ใกล้รั้วมากสุด จนเด็กน้อย อากิระ เห็นได้ชัดทุกวัน เขียนว่า ศรเขียว ซึ่งมีรูปชายชุดขาว ใส่หมวกยิ้มภายใต้แสงจันทรา ทำให้ อากีระ เอ่ยถามกับพ่อว่า คนนี้เป็นใคร และชี้นิ้วไปยังป้าย ทำให้ ชินอิจิ คุณพ่อวัย 54 ซึ่งจากอายุ คงจะเกิดในปี 2045 กล่าวยิ้มๆให้กับลูกว่า "ไม่รู้สิลูก แต่ดูจากภาพเขาน่าจะมีความสุขดีนะพ่อว่า "
อากีระ เป็นเด็กผู้หญิง แต่ช่างพูดช่างถาม ก็ถามพ่อต่อว่า แล้วพ่อมีความสุขรึเปล่า ขณะที่ทั้งสองเดินเลยป้าย ศรเขียวไป ก็ยังมีป้าย อีก 3 - 4 ป้าย
ชินอิจิ ก็เดินจูงลูกเดินไปเรื่อยๆ เห็น ป้ายคนผมยาวมีไฟลุกโชน คนนี้น่าจะทรนงองอาจ ป้ายต่อมาเป็นรูปมนุษย์ต่างดาว คนนี้น่าจะอารมณ์ดี และอีกป้ายเป็นรูปหญิงสาวชุดขาว ช่างสวยสคราญจริงๆ ก่อน ชินอิจิ จะตอบลูกว่า "พ่อ ก็มีความสุขสิลูก"
แต่สีหน้าของ ชินอิจิ นั้นความจริงเขาไม่ได้มีความสุขตามที่บอกกับ อากีระ เลย ชินอิจิ ตกงานมา 4 ปีแล้ว จากคนที่มีหน้าที่การงานดี รายได้ดี แต่พอภรรยาเขาล้มป่วยเมื่อ 4 ปีก่อน ก็จึงลาออกมาดูแล จนภรรยาจากไปใน 2 ปีต่อมา แต่พอเขาจะกลับมาหางานทำ วัย 53 ของเขา ไม่ว่าจะมีประสบการณ์เพียงใด แต่ก็ไม่สามารถกลับมาหางานทำได้อีกเลย โดยเขาต้องเอาเงินเก็บสมัยก่อนออกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันซึ่งมีแต่ร่อยหรอ
ชินอิจิ พา อากีระ เดินมาถึงสุดทางของสุสาน ซึ่งต้องข้ามถนนอีกครั้ง เขาหันกลับไปมองภาพป้ายหลุมศพ ที่ดูยังมีชีวิตชีวาทุกรูป แม้ภาพจะซีดไปบ้าง เถาวัลย์จะรกไปบ้าง แต่ ในแต่ละภาพล้วนดู มีชีวิต สายตา บุคลิก มิติ และความงาม ก่อนที่เขาจะถอนหายไป แล้ว จูงอากีระ ข้ามถนนอย่างระมัดระวัง
เมื่อถึงบ้าน ชินอิจิ ก็ให้ อากีระ ไปล้างมือล้างเท้า เปลียนชุด ส่วนเขานั่งพัก และ นึกถึงตนเอง เขาไม่ได้ทำงานมา 4 ปี เริ่มจากสังคมของเขาไม่มี เขามีแต่ภรรยาและ โรงพยาบาล ความเจ็บป่วยของภรรยา และ ภาระลูกน้อย เขาขาดการติดต่อจากสังคมในทุกทาง ไม่ว่าจะตามเสียง ข้อความลดน้อยถอยหาย เพื่อนฝูงก็ต่างล้วนย่างเข้าวัยที่ถ้าไม่เป็นผู้บริหารงานยุ่ง ก็รีไทร์ไปอยู่กับครอบครัว ตามแต่ฐานะของแต่ละคน
ชินอิจิ รู้สึกเหมือน ยังหายใจอยู่ แต่ไร้ซึ่งชีวิต เหมือนคนตายไปแล้ว เขารู้สึกเช่นนั้น เขาตายยิ่งกว่า ภาพคนบนหลุมศพที่เขาเดินผ่านยามไปรับลูกทุกวันเสียอีก เขามีแค่ อากีระ สิ่งเดียวที่ทำให้เขายังขยับร่างกายทำหน้าที่พ่อต่อไป และก็ยังหวังว่าจะเลี้ยงอากีระให้เติบใหญ่ จนดูแลตัวเองได้ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นเขาก็ยังต้องหายใจเข้าออกต่อไป
บางคนจากไปแล้ว ก็ยังเหมือนมีชีวิต ยามนึกถึงแววตา บุคลิก นิสัยใจคอ ความดีงาม แต่บางคนยังมีชีวิตแต่ก็ใช้ชีวิตเหมือนคนที่ตายไปแล้ว คุณอยากเป็นแบบไหน ก็ต้องเลือกหนทางเสียแต่วันนี้ก่อนที่จะสายเกินไป เพราะวันเวลาไม่เคยหยุดรอใคร
ปล .พาดพิงโปรไฟล์บางท่านแต่ค่อนข้างมั่นใจว่า คงจะทาบๆครึ่งศตวรรษกันแล้วในวันนี้ ถ้าอีก 78 ปี ก็มี 100 ขึ้น หากผิดพลาดประการใดขออภัย มาณ ที่นี้