ทริปนี้เราไป ย่าติง ในเดือน ธ.ค. 2019 นะคะ (ก่อนโควิดระบาดเลยค่ะ)
เราอยากเอาเรื่องนี้มาเล่าให้เพื่อนๆฟังค่ะ ไว้เป็นอุทาหรณ์ หรือเป็นความบันเทิงก็ได้ 5555
เราไปจีนครั้งแรกค่ะ ก็มีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับจ่ายเงินที่นั่นไว้ประมาณนึง
ว่าที่จีน ส่วนใหญ่จะจ่ายเงินแบบออนไลน์ผ่านมือถือได้แล้วค่ะ โดยนิยมใช้ Alipay

ที่มารูป:
https://www.marketingoops.com/wp-content/uploads/2019/01/alipay1.jpg.webp
หลักๆ แอพนี้มีไว้รองรับกับบัญชีธนาคารของที่จีนค่ะ แต่ก็มีการพัฒนาให้นักท่องเที่ยวใช้ได้ด้วย
เป็นแบบ TourPass สามารถผูกกับบัตรเครดิตได้เลย
หวานหมูสายสแกนจ่ายเลย แต่… มันนำมาซึ่งหายนะสำหรับเราค่ะ
ทีนี้เราก็เลยแลกเป็น
เงินสดพกไปนิดหน่อย บัตรเครดิตเราเลือกหยิบไปใบเดียว (visa)
พอไปถึงจีนปรากฏว่า Alipay แบบ TourPass นี้ จ่ายบางร้านได้(ร้านใหญ่ๆ) ร้านรายย่อยมักจะใช้ไม่ได้
โดยที่เราเองก็ยังไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรมาถึงตอนนี้ ใครรู้สาเหตุแล้วบอกหน่อยนะคะ จะขึ้นแบบนี้ค่ะ

ด้วยเหตุนี้ เราเลยต้องควักเงินสดมาจ่าย
จนเราเงินสดหมดค่ะ !!!!!
จะไปกดเงินที่ตู้ ATM ที่ย่าติง ก็ไม่รองรับ Visa อีก ไม่มีเงินสดในมือก็เหมือนไม่มีความสุขเลยค่ะ 5555
แต่เราก็ยังมองโลกในแง่ดี ว่างั้นรอเข้าร้านใหญ่ๆ จ่ายด้วยแอพเอาก็น่าจะยังพอไปได้อยู่แหล่ะ
(มีนะครั้งนึง ตอนเข้าร้านสะดวกซื้อ แล้วจ่ายเงินได้ ทีนี้เลยบอกเค้าว่าเงินสดเราหมด
ขอจ่ายเงินแลกเป็นเงินสดหน่อย ร้านก็ทำให้นะคะ แต่พอสแกนอีกรอบก็จ่ายไม่ได้แล้ว เป็นงงมาก ฮื่อออ ร้องห้ายยยย)
และสิ่งสำคัญของทริปนี้คือ
ค่าเข้าอุทยานย่าติง เราก็คิดว่าน่าจะจ่ายด้วยแอพได้แหล่ะ ก็ทำตัวยังชิลอยู่ 5555
เล่าก่อนว่า ก่อนวันที่เราจะเข้าอุทยานย่าติง
เราบังเอิญไปรู้จักกับนักท่องเที่ยวชาวจีน 3 คนจากโฮสเทลที่เราพักค่ะ
เราคุยกัน (ภาษาอังกฤษนะ) ก็รู้ว่าพรุ่งนี้พวกเค้าจะไปเดินย่าติง รูทยาวกัน เค้าก็ชวนเราไปด้วย
เลยตกลงไปด้วยกันเลยแล้วกัน จะได้หารค่ารถกันด้วย เยี่ยมไปเลย!!
พอถึงส่วนเก็บเงินค่าเข้าอุทยาน เราก็ไปเข้าแถวจ่ายเงิน ค่าเข้า 480 หยวน (240 หยวนต่อคน)
แล้วเราก็มาลุ้นว่าเราจะสแกนจ่ายได้ไหม ในใจคือมั่นใจมากว่าได้แหล่ะ…
แต่ผิดคาดค่ะ
สแกนจ่ายเงินไม่ได้ค่ะ !!!!! เงินสดก็ไม่มีแล้ว ตู้กดก็ไม่มีแล้ววว
ตอนนั้นคืออากาศที่ว่าเย็นมากๆ แต่เเรารู้สึกร้อนไปเลย ร้อนเงินมากกกกก 5555
แล้วเพื่อนแก๊งค์ที่เราเพิ่งได้รู้จักนี้ก็มาช่วยค่ะ นางฟ้ามาโปรดมากๆๆ
พี่เค้าจ่ายค่าเข้าให้เราก่อนค่ะ 480 หยวน นี่มันประมาณ 2000 กว่าบาทไทยเลยนะคะ
เราแบบถ้าไม่มีพี่เค้า เราก็คงจะไม่ได้เข้าอุทยานไปแล้ว หรือคงต้องหาทางหาเงินทางอื่นแล้ว ><
และเราก็รู้สึกเกรงใจพี่เค้ามากๆ ระหว่างทางที่นั่งรถขึ้นเขา เราก็หาทางคืนเงินพี่เค้าให้เร็วที่สุด
ดีที่มีเพื่อนของเพื่อนเราที่ไปเรียนที่จีน เราเลยขอโอนเงินไทยไปให้เพื่อน และให้เพื่อนโอนเงินหยวนให้พี่ชาวจีนที่ออกค่าเข้าให้ก่อนค่ะ
ก็มีการโอนขอแลกเป็นเงินสดมาพกติดตัวเพิ่มด้วยค่ะ พอมีเงินสดในมือนี่มันช่างดีอะไรอย่างนี้ 55555+
แล้วเราก็ได้ใช้เวลาร่วมกันทั้งวันเลยค่ะ แม้ว่าจะต่างชาติ ต่างภาษา แต่เราก็รู้สึกว่าเราไปด้วยกันได้ค่ะ
เป็นความรู้สึกที่ได้มากกว่าการมาเที่ยวย่าติงอีกค่ะ
และนั่นก็เป็นเรื่องราวที่ทำให้เราประทับในเพื่อนชาวจีนแก๊งค์นี้มากๆ
เรื่องนี้สอนเราให้รู้ว่า
1. หากจะไปเที่ยว พกเงินสดให้ครอบคลุมการเที่ยวเป็นหลักดีกว่า
2. บัตรเครดิตประเภทต่างๆ พกไปเถอะ มีไว้อุ่นใจกว่า
3. คนจีนโคตรน่ารักกกกกก
สำหรับเรื่องราวความประทับใจในมิตรภาพใหม่นี้ยังมีอีกนะคะ
เป็นเรื่องที่ทำเอาเราต้องกอดลาพวกพวกเค้าแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ
คือซึ้งและรู้สึกรักพวกเค้ามากๆ แม้จะเพิ่งรู้จักกันแค่วันสองวัน
ไว้เดี๋ยวเรามาเล่าในกระทู้ใหม่นะคะ ว่าเรารู้จักพวกเพื่อนชาวจีนได้ยังไง
และพีคกว่านี้คือ เราเกือนจะกลับตัวเมืองไม่ได้ และอาจจะต้องตกเครื่องบิน !!
พึ่งมาเล่า: เมื่อไปเที่ยวจีนแล้วไม่มีเงินจ่ายค่าเข้า จนต้องยืมเงินชาวจีน [ทริปย่าติง Yading]
เราอยากเอาเรื่องนี้มาเล่าให้เพื่อนๆฟังค่ะ ไว้เป็นอุทาหรณ์ หรือเป็นความบันเทิงก็ได้ 5555
เราไปจีนครั้งแรกค่ะ ก็มีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับจ่ายเงินที่นั่นไว้ประมาณนึง
ว่าที่จีน ส่วนใหญ่จะจ่ายเงินแบบออนไลน์ผ่านมือถือได้แล้วค่ะ โดยนิยมใช้ Alipay
ที่มารูป: https://www.marketingoops.com/wp-content/uploads/2019/01/alipay1.jpg.webp
หลักๆ แอพนี้มีไว้รองรับกับบัญชีธนาคารของที่จีนค่ะ แต่ก็มีการพัฒนาให้นักท่องเที่ยวใช้ได้ด้วย
เป็นแบบ TourPass สามารถผูกกับบัตรเครดิตได้เลย
หวานหมูสายสแกนจ่ายเลย แต่… มันนำมาซึ่งหายนะสำหรับเราค่ะ
ทีนี้เราก็เลยแลกเป็นเงินสดพกไปนิดหน่อย บัตรเครดิตเราเลือกหยิบไปใบเดียว (visa)
พอไปถึงจีนปรากฏว่า Alipay แบบ TourPass นี้ จ่ายบางร้านได้(ร้านใหญ่ๆ) ร้านรายย่อยมักจะใช้ไม่ได้
โดยที่เราเองก็ยังไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรมาถึงตอนนี้ ใครรู้สาเหตุแล้วบอกหน่อยนะคะ จะขึ้นแบบนี้ค่ะ
ด้วยเหตุนี้ เราเลยต้องควักเงินสดมาจ่าย จนเราเงินสดหมดค่ะ !!!!!
จะไปกดเงินที่ตู้ ATM ที่ย่าติง ก็ไม่รองรับ Visa อีก ไม่มีเงินสดในมือก็เหมือนไม่มีความสุขเลยค่ะ 5555
แต่เราก็ยังมองโลกในแง่ดี ว่างั้นรอเข้าร้านใหญ่ๆ จ่ายด้วยแอพเอาก็น่าจะยังพอไปได้อยู่แหล่ะ
(มีนะครั้งนึง ตอนเข้าร้านสะดวกซื้อ แล้วจ่ายเงินได้ ทีนี้เลยบอกเค้าว่าเงินสดเราหมด
ขอจ่ายเงินแลกเป็นเงินสดหน่อย ร้านก็ทำให้นะคะ แต่พอสแกนอีกรอบก็จ่ายไม่ได้แล้ว เป็นงงมาก ฮื่อออ ร้องห้ายยยย)
และสิ่งสำคัญของทริปนี้คือ ค่าเข้าอุทยานย่าติง เราก็คิดว่าน่าจะจ่ายด้วยแอพได้แหล่ะ ก็ทำตัวยังชิลอยู่ 5555
เล่าก่อนว่า ก่อนวันที่เราจะเข้าอุทยานย่าติง
เราบังเอิญไปรู้จักกับนักท่องเที่ยวชาวจีน 3 คนจากโฮสเทลที่เราพักค่ะ
เราคุยกัน (ภาษาอังกฤษนะ) ก็รู้ว่าพรุ่งนี้พวกเค้าจะไปเดินย่าติง รูทยาวกัน เค้าก็ชวนเราไปด้วย
เลยตกลงไปด้วยกันเลยแล้วกัน จะได้หารค่ารถกันด้วย เยี่ยมไปเลย!!
พอถึงส่วนเก็บเงินค่าเข้าอุทยาน เราก็ไปเข้าแถวจ่ายเงิน ค่าเข้า 480 หยวน (240 หยวนต่อคน)
แล้วเราก็มาลุ้นว่าเราจะสแกนจ่ายได้ไหม ในใจคือมั่นใจมากว่าได้แหล่ะ…
แต่ผิดคาดค่ะ สแกนจ่ายเงินไม่ได้ค่ะ !!!!! เงินสดก็ไม่มีแล้ว ตู้กดก็ไม่มีแล้ววว
ตอนนั้นคืออากาศที่ว่าเย็นมากๆ แต่เเรารู้สึกร้อนไปเลย ร้อนเงินมากกกกก 5555
แล้วเพื่อนแก๊งค์ที่เราเพิ่งได้รู้จักนี้ก็มาช่วยค่ะ นางฟ้ามาโปรดมากๆๆ
พี่เค้าจ่ายค่าเข้าให้เราก่อนค่ะ 480 หยวน นี่มันประมาณ 2000 กว่าบาทไทยเลยนะคะ
เราแบบถ้าไม่มีพี่เค้า เราก็คงจะไม่ได้เข้าอุทยานไปแล้ว หรือคงต้องหาทางหาเงินทางอื่นแล้ว ><
และเราก็รู้สึกเกรงใจพี่เค้ามากๆ ระหว่างทางที่นั่งรถขึ้นเขา เราก็หาทางคืนเงินพี่เค้าให้เร็วที่สุด
ดีที่มีเพื่อนของเพื่อนเราที่ไปเรียนที่จีน เราเลยขอโอนเงินไทยไปให้เพื่อน และให้เพื่อนโอนเงินหยวนให้พี่ชาวจีนที่ออกค่าเข้าให้ก่อนค่ะ
ก็มีการโอนขอแลกเป็นเงินสดมาพกติดตัวเพิ่มด้วยค่ะ พอมีเงินสดในมือนี่มันช่างดีอะไรอย่างนี้ 55555+
แล้วเราก็ได้ใช้เวลาร่วมกันทั้งวันเลยค่ะ แม้ว่าจะต่างชาติ ต่างภาษา แต่เราก็รู้สึกว่าเราไปด้วยกันได้ค่ะ
เป็นความรู้สึกที่ได้มากกว่าการมาเที่ยวย่าติงอีกค่ะ
และนั่นก็เป็นเรื่องราวที่ทำให้เราประทับในเพื่อนชาวจีนแก๊งค์นี้มากๆ
เรื่องนี้สอนเราให้รู้ว่า
1. หากจะไปเที่ยว พกเงินสดให้ครอบคลุมการเที่ยวเป็นหลักดีกว่า
2. บัตรเครดิตประเภทต่างๆ พกไปเถอะ มีไว้อุ่นใจกว่า
3. คนจีนโคตรน่ารักกกกกก
สำหรับเรื่องราวความประทับใจในมิตรภาพใหม่นี้ยังมีอีกนะคะ
เป็นเรื่องที่ทำเอาเราต้องกอดลาพวกพวกเค้าแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ
คือซึ้งและรู้สึกรักพวกเค้ามากๆ แม้จะเพิ่งรู้จักกันแค่วันสองวัน
ไว้เดี๋ยวเรามาเล่าในกระทู้ใหม่นะคะ ว่าเรารู้จักพวกเพื่อนชาวจีนได้ยังไง
และพีคกว่านี้คือ เราเกือนจะกลับตัวเมืองไม่ได้ และอาจจะต้องตกเครื่องบิน !!