โลกร้อน
เช้าวันจันทร์..
ความวุ่นวายของเมืองหลวงที่เห็นจนชินตาในเช้าวันทำงานวันแรกของสัปดาห์ ผู้คนหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ นี้ บ้างก็รีบเร่งเดินทาง บ้างก็รีบเร่งกับการกิน พวกที่ไม่มีรถก็ต้องทนแออัดยัดเยียดอยู่บนรถประจำทาง ดมหมอกควันพิษ พวกที่มีรถก็ต้องมาทนกับการจราจรที่แออัดยัดเยียด
น้องเชอรีน เด็กหญิงวัย 6 ขวบนั่งอยู่ในรถกับพ่อและแม่เพื่อเดินทางไปโรงเรียนอินเตอร์ในเมือง วันนี้เป็นวันแรกที่น้องเชอรีนจะต้องมาเรียน ด้วยความที่ตื่นแต่เช้า น้องเชอรีนเลยหลับอยู่บนเบาะรถตอนหน้า เพราะต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า
บ้าไปแล้วโรงเรียนแถวบ้านก็มี ทำไมถึงต้องมาเรียนในเมืองด้วย เพราะโอกาสที่ดีกว่างั้นหรือ มันคือความเหลื่อมล้ำต่างหากล่ะ
“พอดีกว่า ไม่เอาแล้ว เรียนโรงเรียนแถวบ้านน่ะดีที่สุด เรียนที่ไหนก็เหมือนกันอยู่ที่ตัวเด็ก”
นายเชยผู้เป็นบิดากล่าว โดยมีความคิดจะนำน้องเชอรีนไปเรียนโรงเรียนวัดแถวบ้าน โดยเปลี่ยนใจจากโรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังในเมือง
“เธอบ้าไปแล้วหรอ นี่อนาคตของลูกนะ” พิ้งค์พลอยผู้เป็นแม่เดือดดาล เพราะนายเชยเปลี่ยนใจจะนำน้องเชอรีนลูกสาวสุดที่รักไปเรียนโรงเรียนวัด
“ค่าเทอมก็ถูก อาหารกลางวันก็ฟรี รัฐบาลท่านอุดหนุนให้เด็กคนล่ะ 20 บาท มันจะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก” นายเชยบอกข้อดีของการเรียนโรงเรียนวัด
“ไม่ด๊ายยยยยยย” พิ้งค์พลอยขึ้นเสียงสูง “น้องเชอรีนต้องได้เรียนโรงเรียนดีๆ เท่านั้น เพื่อที่จะได้มีคอนเนคชั่นดีๆ มีโอกาสมากมายยยยย ได้ออกรายการอายุน้อยร้อยล้านนนน”
ระหว่างที่สองสามีภรรยาถกเถียงกันอยู่นั้น การจราจรก็เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ด้วยความเร็วเฉลี่ย 5 เมตร/ชั่วโมง
สุดท้ายน้องเชอรีนก็ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังตามความตั้งใจของผู้เป็นแม่ ซึ่งทำให้สองสามีภรรยาต้องหาเงินเพิ่มมากขึ้นถึงขั้นกู้หนี้ยืมสินเพื่อส่งลูกเรียน
.
.
.
แต่น้องเชอรีนไม่ทำให้ผู้เป็นแม่ผิดหวัง โรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังทำให้ได้คอนเนคชั่นดีๆ มีโอกาสมากมาย ต่อยอดได้มีโอกาสไปเรียนต่างประเทศ เมื่อเรียนจบน้องเชอรีนก็ขอใช้ชีวิตที่ต่างประเทศต่อด้วยเหตุผลที่ว่าประเทศไทยร้อนเกินไป มลพิษเยอะ อากาศไม่ดี ที่ต่างประเทศเย็นสบาย มลพิษน้อยกว่า และไม่กลับไทยอีกเลย โดยทิ้งพ่อกับแม่ทำงานใช้หนี้ ดมควันพิษกับอากาศร้อนๆ อยู่ที่ประเทศไทยต่อไป
จบ
เรื่อง โลกร้อน
เช้าวันจันทร์..
ความวุ่นวายของเมืองหลวงที่เห็นจนชินตาในเช้าวันทำงานวันแรกของสัปดาห์ ผู้คนหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ นี้ บ้างก็รีบเร่งเดินทาง บ้างก็รีบเร่งกับการกิน พวกที่ไม่มีรถก็ต้องทนแออัดยัดเยียดอยู่บนรถประจำทาง ดมหมอกควันพิษ พวกที่มีรถก็ต้องมาทนกับการจราจรที่แออัดยัดเยียด
น้องเชอรีน เด็กหญิงวัย 6 ขวบนั่งอยู่ในรถกับพ่อและแม่เพื่อเดินทางไปโรงเรียนอินเตอร์ในเมือง วันนี้เป็นวันแรกที่น้องเชอรีนจะต้องมาเรียน ด้วยความที่ตื่นแต่เช้า น้องเชอรีนเลยหลับอยู่บนเบาะรถตอนหน้า เพราะต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า
บ้าไปแล้วโรงเรียนแถวบ้านก็มี ทำไมถึงต้องมาเรียนในเมืองด้วย เพราะโอกาสที่ดีกว่างั้นหรือ มันคือความเหลื่อมล้ำต่างหากล่ะ
“พอดีกว่า ไม่เอาแล้ว เรียนโรงเรียนแถวบ้านน่ะดีที่สุด เรียนที่ไหนก็เหมือนกันอยู่ที่ตัวเด็ก”
นายเชยผู้เป็นบิดากล่าว โดยมีความคิดจะนำน้องเชอรีนไปเรียนโรงเรียนวัดแถวบ้าน โดยเปลี่ยนใจจากโรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังในเมือง
“เธอบ้าไปแล้วหรอ นี่อนาคตของลูกนะ” พิ้งค์พลอยผู้เป็นแม่เดือดดาล เพราะนายเชยเปลี่ยนใจจะนำน้องเชอรีนลูกสาวสุดที่รักไปเรียนโรงเรียนวัด
“ค่าเทอมก็ถูก อาหารกลางวันก็ฟรี รัฐบาลท่านอุดหนุนให้เด็กคนล่ะ 20 บาท มันจะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก” นายเชยบอกข้อดีของการเรียนโรงเรียนวัด
“ไม่ด๊ายยยยยยย” พิ้งค์พลอยขึ้นเสียงสูง “น้องเชอรีนต้องได้เรียนโรงเรียนดีๆ เท่านั้น เพื่อที่จะได้มีคอนเนคชั่นดีๆ มีโอกาสมากมายยยยย ได้ออกรายการอายุน้อยร้อยล้านนนน”
ระหว่างที่สองสามีภรรยาถกเถียงกันอยู่นั้น การจราจรก็เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ด้วยความเร็วเฉลี่ย 5 เมตร/ชั่วโมง
สุดท้ายน้องเชอรีนก็ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังตามความตั้งใจของผู้เป็นแม่ ซึ่งทำให้สองสามีภรรยาต้องหาเงินเพิ่มมากขึ้นถึงขั้นกู้หนี้ยืมสินเพื่อส่งลูกเรียน
.
.
.
แต่น้องเชอรีนไม่ทำให้ผู้เป็นแม่ผิดหวัง โรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังทำให้ได้คอนเนคชั่นดีๆ มีโอกาสมากมาย ต่อยอดได้มีโอกาสไปเรียนต่างประเทศ เมื่อเรียนจบน้องเชอรีนก็ขอใช้ชีวิตที่ต่างประเทศต่อด้วยเหตุผลที่ว่าประเทศไทยร้อนเกินไป มลพิษเยอะ อากาศไม่ดี ที่ต่างประเทศเย็นสบาย มลพิษน้อยกว่า และไม่กลับไทยอีกเลย โดยทิ้งพ่อกับแม่ทำงานใช้หนี้ ดมควันพิษกับอากาศร้อนๆ อยู่ที่ประเทศไทยต่อไป
จบ