.
สอบวันสุดท้ายของภาคเรียนแรกผ่านไปด้วยดี เช่นเคย ยูเอ็นกับฝ้ายและเพื่อนเกือบครึ่งห้องมาเล่นที่บ้านของเธอ เนื่องในโอกาสฉลองปิดเทอมแรก บ้านของเธอเป็นจุดรวมตัวที่เหมาะที่สุดเพราะอยู่ใกล้โรงเรียน
พวกเธอซื้อขนมและของสดมาจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่บ้าน ก่อนจะไม่ได้เจอกันในช่วงปิดเทอมนี้ ขอร่วมสนุกส่งท้ายปิดเทอมกันหน่อย พวกผู้หญิงเป็นฝ่ายแม่ครัวจัดการทำทุกอย่าง พวกผู้ชายนั่งรอเฉย ๆ บางคนซื้อเบียร์มาดื่มด้วย ก็ไม่ว่ากัน
แสงระวีไม่เอาด้วยหรอก ปล่อยให้เพื่อน ๆ ดื่มกันตามสบาย ไม่กล้าทำอะไรที่ไม่เข้าท่าในสายตาพ่อแม่ กลัวจะไม่ได้เข้าไปเรียนในเมือง ทั้งที่ตนเองก็ดื่มเป็นและแอบพ่อแม่ดื่มมาหลายครั้ง กลัวว่าความตั้งใจจะสูญเปล่า
ทุกอย่างในวันนี้น่าจะอยู่ในสายตาของลุงจันทร์ เธอเห็นผู้เป็นลุงยืนมองมาทางบ้านของตนเองอยู่บ่อย ๆ สุดท้ายลุงจันทร์ก็เดินมาที่บ้าน คงอยากมาดูว่าหลานสาวกับเพื่อน ๆ ทำอะไรกัน ลุงน่าจะเห็นพวกเต้ยซื้อเบียร์กันมา แถมที่บ้านยังพากันคุยโวส่งเสียงดังอีก ลุงจันทร์พูดคุยกับเธอสองสามประโยคก็กลับ แอบมองตามหลังผู้เป็นลุงด้วยความตลก กระตุกยิ้มให้ก่อนจะเลิกสนใจหันมาสนใจเพื่อน ๆ เหมือนเดิม
ทันใดนั้นแสงระวีมองเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของใครบางคนขับเข้ามา แท็ก ! แท็กมาทำไม ไม่ได้เชิญสักหน่อย แสงระวีขมวดคิ้วหน้าบึ้งอัตโนมัติ แท็กขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดภายในบริเวณบ้าน แสงระวีหน้างอทันที ทว่าก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร แท็กมาทำไม ใครเชิญ ทำไมแท็กหน้าด้าน ไม่ชอบขี้หน้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งไม่ชอบเพิ่มเป็นทวีคูณ ได้แต่พูดในใจ ไม่กล้าเอ่ยปากไล่ ไม่อยากให้เพื่อน ๆ ที่มาในวันนี้รู้สึกไม่ดี
“ยูเอ็นเพื่อนมืงมาทำไม ใครชวน” แสงระวีเดินไปหายูเอ็นในครัว กระซิบถาม
“วีเถอะน่ามืง ยังไงก็เพื่อนกันห้องเดียวกันนะเว้ย” ยูเอ็นกระซิบคุยด้วย สายตามองไปยังแท็กที่พึ่งมาใหม่ แท็กยิ้มให้พวกเธอทั้งสองคน โดยเฉพาะเจ้าของบ้านแบบไม่ระแคะระคายว่าเจ้าของบ้านจะคิดเช่นไร
“เพื่อน ๆ มากันทุกคนวีไม่ชวนเราหน่อยเหรอ” แท็กเดินเข้ามาหาแสงระวีซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน เว้นระยะห่างไม่เข้าใกล้จนเกินไป ยิ้มให้คนตรงหน้าทักทายแบบไม่เคอะเขิน เหมือนไม่เคยมีเรื่องหมางใจกันมาก่อน แท็กรู้ว่าแสงระวีคิดอย่างไรกับตน
“คนของวีเขาไม่รู้หรอกน่า สบายใจได้ อีกอย่างฉลองปิดเทอมแบบนี้ เพื่อน ๆ มากันครบเราก็เพื่อนวี ไม่ชวนหน่อยเหรอ” ไม่รอให้แสงระวีพูดเขาแย่งพูดก่อน ด้านได้อายอดนาทีนี้ เขาอยากคุยกับแสงระวีมาก ตั้งแต่วันนั้นแสงระวีทำเหมือนไม่รู้จักกัน ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนในห้อง ทั้งที่เขาเองก็มีความรู้สึกดี ๆ ให้ไม่แพ้ผู้ชายในเมืองคนนั้น แสงระวีตัดสิทธิ์เขาไปโดยไม่ใยดี
เธอยิ้มกลบเกลื่อนไม่อยากให้เสียบรรยากาศ นั่นสินะทำไมต้องเกลียดกันด้วย เมื่อก่อนก็เป็นเพื่อนกันทำไมตอนนี้จะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไม่ได้ ก็ได้เมื่อ ม.ปลายเธอจะย้ายโรงเรียนอยู่แล้ว ควรจะจากกันด้วยดี มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันดีกว่า เหลือเพียงแค่เทอมเดียว และ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี่เองก็จะจากกัน
“แท็กมาพอดีเลยมากินยำ เราทำเสร็จพอดี” แทนที่จะต่อว่าให้เสียความรู้สึก เธอเลือกที่จะชวนเขาเข้ามาร่วมมีความสุขแทน พร้อมยิ้มให้อย่างเต็มใจ ไม่ได้แกล้งหรือฝืนยิ้มให้แม้แต่น้อย รอยยิ้มล้วนออกมาจากความจริงใจของเธอ แท็กคงรับรู้คงไม่คิดว่าเธอแกล้งเสแสร้งยิ้มให้เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศหรอกนะ
แท็กเผยยิ้มออกมาแววตาดูดีใจไม่เศร้าเหมือนเมื่อครู่นี้ แสงระวีเห็นแววตาตื้นตันดีใจคู่นั้น ก็เผยยิ้มออกมาเช่นกัน แท็กคงรอวันนี้มานาน ยิ่งคิดแสงระวีก็ยิ่งเสียใจที่ทำกับเพื่อนแบบนี้ รู้สึกโกรธตัวเอง แท็กคงกลัวโดนไล่ตะเพิดกลับไปอยู่ไม่น้อย รู้สึกดีใจที่แท็กมาในวันนี้ ไม่อย่างนั้นเวลาผ่านไปคงต้องรู้สึกผิดไปตลอด
“แท็กดื่มมั้ยพวกยูโดซื้อเบียร์มา” แสงระวีพูดกับแท็ก กลับมาเป็นเหมือนช่วงก่อนหน้าที่คุยกัน พร้อมยกถาดยำวุ้นเส้นมาวางลงกลางแคร่ มีเพื่อน ๆ นั่งล้อมวงรอ บ้างก็นั่งที่เปล ตอนนี้แค่บ่ายสามโมงเพื่อน ๆ มีเวลาอยู่เล่นอีกนาน
“ไม่อ่ะ ไม่ดื่มแค่มาเล่นด้วยแป๊บ ๆ ก็จะกลับแล้ว”
“ไม่เชื่อหรอกว่าไม่ดื่ม” แสงระวีตอบแบบเป็นกันเอง สร้างความเป็นกันเองให้กับแท็กมากที่สุด อยากให้สบายใจ เหมือนเมื่อครั้งที่ยังไม่แอบคุยกันบรรยากาศแบบนี้ รอยยิ้มแบบนี้ เสียงพูดแบบนี้แท็กไม่เคยได้สัมผัสเลยหลังจากทะเลาะกัน
เขารับรู้ว่าไม่ควรคิดอะไรเกินเลยกับเพื่อน ถ้ารู้จักกันแบบเพื่อนแต่แรกก็ควรจะเป็นเพื่อน ต่อไปนี้เขาจะกลับมาเป็นเพื่อนกับเธออีก จะไม่คิดเกินเลยอีกต่อไป
“ก็ดื่มเป็นแต่ไม่ดื่มเดี๋ยวขับรถกลับบ้านไม่ได้” แท็กตอบพูดปนยิ้มให้ แท็กเข้าไปนั่งรวมกับกลุ่มเพื่อน ๆ แท็กไม่ได้ทานอะไรด้วย เข้ามานั่งพูดคุยด้วยเฉย ๆ นอกจากจะมียำแล้วยังมีเมนูอื่น ๆ อีกตามมา ส่วนมากจะเป็นกับแกล้มของเพื่อน ๆ ผู้ชายมากกว่า
ผ่านวันนี้ไปก็ปิดเทอมแล้ว กว่าจะได้มาเจอกันอีกตั้งหนึ่งเดือน ควรจะใช้เวลาตรงนี้ให้คุ้มค่าและมีความสุขสนุกสนานมากที่สุด เสียงพูดคุยของพวกเธอดังข้ามไปยังบ้านข้าง ๆ มีผู้ใหญ่บางคนแอบมายืนดู ก็คงหนีไม่พ้นคำนินทา แสงระวีไม่แคร์อยู่แล้ว
พอท้องเริ่มอิ่มเพื่อนบางคนเริ่มแยกย้ายกันไปคุยโทรศัพท์กับแฟนของตนเอง อยู่กันคนละมุม คนละที่ บ้างก็ยังไม่อิ่ม “เต้ยอย่าดื่มมากนะเว้ยพวกมืงขับรถกลับบ้านไม่ได้นะ” แสงระวีเตือนเพื่อนนักดื่มด้วยความเป็นห่วง ถ้าเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางกลับบ้านจะทำอย่างไร
“แค่นี้จิ๊บ ๆ น่า” เต้ยตอบด้วยท่าทางขึงขัง ตาใสแป๋วทั้งที่หมดไปหลายขวด
“เออกูขับเอง ให้มันดื่มเถอะมันอกหัก” เปรมพูดขึ้น
“อ๋อแบบนี้นี่เอง ถึงว่าเห็นมันยกไม่ยั้งเลย” แสงระวีพยักหน้าให้เปรม เป็นอันเข้าใจ จึงไม่ห้ามเต้ยแล้วปล่อยให้เพื่อนปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่
แสงระวีเม้าท์กับเพื่อนผู้หญิงอย่างเฮฮาถึงพริกถึงขิง ได้อรรถรสในการคุยเหลือเกินพูดเรื่องหนุ่มคนนั้นสาวคนนี้บ้าง ส่วนแท็กแอบเข้าไปร่วมวงกับพวกเต้ยด้วย วันนี้มันมีความสุขเหลือเกิน ไม่ต้องปั้นหน้า ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องแบกอะไรไว้ให้หนักใจ
“วี ม.4 จะเข้าไปต่อในเมืองจริง ๆ เหรอ” แก้มถาม ขณะนั่งเม้าท์กันอยู่แก้มก็วกมาเรื่องนี้ แก้มเองก็จะเข้าไปต่อในเมืองเหมือนกันจึงอยากจะหาเพื่อนไปด้วย
“ใช่แล้ว เราว่าจะไปต่อโรงเรียนกับเจลและเจนอ่ะ ญาติเรา ” แสงระวีบอกเพื่อน พูดด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข อยากให้วันสอบคัดเลือกมาถึงโดยเร็วเสียจริง
“ที่เป็นฝาแฝดใช่มั้ย เราก็ว่าจะไปสอบ รายละเอียดอะไรยังไงเอามาบอกด้วยนะ เราจะได้ไปด้วยกัน”
“เค” เธอฉีกยิ้มให้แก้ม อย่างน้อย ๆ ก็มีเพื่อนแล้วหนึ่งคน
“ส่วนพวกเราต่อที่เดิมนี่แหละ วีต่อที่เดียวกันกับแฟนวีเหรอ คนนั้นน่ะ” นิดหน่อยเป็นคนถาม ถึงจะเล่นคนละกลุ่มแต่ก็สนิทกันระดับหนึ่ง ตอนนี้กระแสข่าวเรื่องหนึ่งเป็นที่รู้กันทั้งห้องสำหรับเพื่อนผู้หญิง ส่วนเพื่อนผู้ชายแทบจะไม่มีใครรู้ เพราะไม่ได้สนใจ เว้นก็แต่แท็กที่รู้เรื่องนี้
“อือใช่ เราจะไปเรียนที่เดียวกันกับหนึ่งแหละ ถ้าเราสอบได้ก็เรียน สอบไม่ได้ก็มาเรียนที่เดิม อี่ฝ้ายอี่ยูเอ็นสองคนนี้ก็จะเข้าไปเรียนด้วย”
พอถึงเวลาบ่ายคล้อยเกือบ ๆ สี่โมงเย็น น้องวายกับน้องวากลับมาจากโรงเรียน พอน้อง ๆ ของเธอมาถึงบ้านเพื่อน ๆ จึงพากันทยอยขอตัวกลับ ทุกคนกลับกันหมดเหลือเพียงฝ้ายกับยูเอ็นที่อยู่ช่วยล้างจาน เก็บบ้าน ยังเหลืออีกคนที่ยังไม่กลับคือแท็ก
“วีขอบใจนะที่ไม่รังเกียจเรา” แท็กตัดสินใจพูดเพราะเหลือกันแค่นี้ สนิทกันทั้งนั้น
“เราจะเกลียดแท็กทำไมก็เราเป็นเพื่อนกัน ไปกลับบ้านไปได้แล้ว บ้านยิ่งอยู่ไกลกว่าชาวบ้านเขา” แสงระวียิ้มให้แท็กอย่างจริงใจ ไล่ให้กลับบ้าน
“โอเคงั้นกลับแล้วนะ กลับแล้วนะฝ้ายยู เอ็น ว่าแต่น้องชื่อไรนะวี” แท็กหันมาถามน้อง ๆ สองคนที่นั่งบนเปล ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาเพราะมีคนแปลกหน้ามาบ้าน
“วากับวาย” น้องสาวของเธอตอบ ปรายตามองด้วยความเป็นมิตร ส่วนแท็กก็ยิ้มให้ทั้งสองคน
“พี่กลับแล้วนะน้องวากับน้องวาย” ไม่มีการตอบกลับจากน้อง ๆ ของแสงระวี จากนั้นแท็กขับรถออกไป ไม่นานฝ้ายกับยูเอ็นจึงขอตัวกลับบ้าง แสงระวียืนส่งทางเพื่อน ๆ จนสุดสายตาก่อนจะถอนหายใจออกมายาว ๆ ไม่ได้อะไร แค่หลังจากวันนี้ปิดเทอมแล้วเท่านั้น เปิดเทอมเจอกันนะเพื่อน แสงระวีพูดเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน
ปิดเทอมแล้ว เปรยออกมาเบา ๆ กับตนเอง เหลืออีกหนึ่งเทอมก็จะขึ้น ม.4 เธอคงได้เจอกับหนึ่งบ่อย ๆ แค่คิดมันก็ดีใจ ช่วงนี้หนึ่งสอบปลายภาคเหมือนกัน ไม่ค่อยได้คุยโทรศัพท์เป็นความโชคดีของเธอในวันนี้ แสยะยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าของหนึ่ง
วันนี้ถ้าหนึ่งโทรมาคงหมดสนุกกันแน่ รายนั้นโทรมายิ่งไม่ค่อยอยากวางสายอยู่ด้วย ยิ่งออกแนวงี่เง่าเอาแต่ใจ ถ้ารู้ว่ามีแท็กอยู่ด้วย ไม่อยากจะคิด พอนึกถึงเรื่องนี้เธอก็พูดคนเดียวออกมาลอย ๆ “ทนเอาหน่อยนะวี อีกไม่นานคงได้นั่งคุยกันใกล้ ๆ ไม่เป็นแบบนี้แล้วแสงระวีเอ้ย” เธอพูดกับตัวเองจากนั้นจึงไปจัดการกวาดบ้านหน้าที่ของตนให้แล้วเสร็จ
พ่อกลับมาจากนาจูงวัวแม่ลูกสองตัวเดินมาตามทาง บัดนี้ลูกวัวตัวเล็กตัวโตเท่าแม่วัวแล้ว พ่อว่าจะขายคิดไปคิดมาสงสารมันเหมือนกัน โชคดีที่พ่อไม่ได้ขายให้โรงฆ่าสัตว์ แต่เป็นการขายเปลี่ยนเจ้าของ คนซื้อไม่ใช่คนอื่นคนไกลเป็นญาติ ๆ กันทั้งนั้น แสงระวีมองเห็นพ่อเดินมา จึงบอกน้องวารีบไปเปิดคอกวัวรอพ่อเลย
น้องวาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ส่วนน้องวายโตแล้วขึ้น ป.1 รายนี้ซนมาก เลิกเรียนไม่เคยอยู่ติดบ้านเป็นต้องไปเล่นบ้านเพื่อนตลอด ต้องตามกลับบ้านทุกวัน ปรายตามองน้องชายที่ปั่นจักรยานเล่นรอบบ้านอยู่คนเดียว
พ่อเข้าบ้านแล้วหนึ่งอย่าโทรมาตอนนี้เลย ภาวนาพร้อมเช็กระบบเสียง ว่าตนเองปิดเสียงหรือยัง พอรู้ว่าปิดก็สบายใจ อยากโทรมาก็โทรมาเลยแต่ไม่รับหรอก วันนี้พ่อเข้าบ้านก่อนเวลา เพราะญาติของเธอจะมาดูวัวที่พ่อจะขาย
เธอยังไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้ว่ามีแฟน คิดว่ารอให้ขึ้น ม.ปลายก่อน จะคบหนึ่งเปิดเผยให้พ่อกับแม่รู้ และจะไม่นอกลู่นอกทางด้วย จะให้คำมั่นสัญญากับพ่อแม่ เธอเป็นคนรักดีมากพอที่จะไม่ทำตามใจตนเองจนพ่อแม่ขายหน้า
พูดยังไม่ทันขาดคำมีสายจากหนึ่งโทรเข้ามา แสงระวีรีบวิ่งขึ้นไปรับบนบ้าน นั่งที่คอบันไดถ้าพ่อจะขึ้นบ้านจะได้เห็นก่อนและรีบวางสายทัน ปากบอกว่าจะไม่รับ พอหนึ่งโทรเข้ามาก็อยากรับสายเหมือนเดิม
“หนึ่งถ้าวีตัดสายกระทันหันไม่ต้องสงสัยนะพ่อมา” แสงระวีชี้แจงก่อน กลัวว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหนึ่งจะได้ไม่สงสัยและคิดมาก
“ปิดเทอมแล้วใช่มั้ย อ่านหนังสือด้วย อยากเจอกันมั้ย อยากอยู่ใกล้กันมั้ย” หนึ่งไม่สนใจกับคำพูดของเธอ กลับมาทำเป็นเข้มงวดเรื่องเรียนซะนี่ ออกคำสั่งเหมือนกลัวว่าเธอจะสอบไม่ได้
“ไม่ต้องมาทำเป็นเข้มงวดเลย หนึ่งอ่ะสอบเสร็จยัง”
แสงระวี….บทที่ 10 (รีไรท์)
.
สอบวันสุดท้ายของภาคเรียนแรกผ่านไปด้วยดี เช่นเคย ยูเอ็นกับฝ้ายและเพื่อนเกือบครึ่งห้องมาเล่นที่บ้านของเธอ เนื่องในโอกาสฉลองปิดเทอมแรก บ้านของเธอเป็นจุดรวมตัวที่เหมาะที่สุดเพราะอยู่ใกล้โรงเรียน
พวกเธอซื้อขนมและของสดมาจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่บ้าน ก่อนจะไม่ได้เจอกันในช่วงปิดเทอมนี้ ขอร่วมสนุกส่งท้ายปิดเทอมกันหน่อย พวกผู้หญิงเป็นฝ่ายแม่ครัวจัดการทำทุกอย่าง พวกผู้ชายนั่งรอเฉย ๆ บางคนซื้อเบียร์มาดื่มด้วย ก็ไม่ว่ากัน
แสงระวีไม่เอาด้วยหรอก ปล่อยให้เพื่อน ๆ ดื่มกันตามสบาย ไม่กล้าทำอะไรที่ไม่เข้าท่าในสายตาพ่อแม่ กลัวจะไม่ได้เข้าไปเรียนในเมือง ทั้งที่ตนเองก็ดื่มเป็นและแอบพ่อแม่ดื่มมาหลายครั้ง กลัวว่าความตั้งใจจะสูญเปล่า
ทุกอย่างในวันนี้น่าจะอยู่ในสายตาของลุงจันทร์ เธอเห็นผู้เป็นลุงยืนมองมาทางบ้านของตนเองอยู่บ่อย ๆ สุดท้ายลุงจันทร์ก็เดินมาที่บ้าน คงอยากมาดูว่าหลานสาวกับเพื่อน ๆ ทำอะไรกัน ลุงน่าจะเห็นพวกเต้ยซื้อเบียร์กันมา แถมที่บ้านยังพากันคุยโวส่งเสียงดังอีก ลุงจันทร์พูดคุยกับเธอสองสามประโยคก็กลับ แอบมองตามหลังผู้เป็นลุงด้วยความตลก กระตุกยิ้มให้ก่อนจะเลิกสนใจหันมาสนใจเพื่อน ๆ เหมือนเดิม
ทันใดนั้นแสงระวีมองเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของใครบางคนขับเข้ามา แท็ก ! แท็กมาทำไม ไม่ได้เชิญสักหน่อย แสงระวีขมวดคิ้วหน้าบึ้งอัตโนมัติ แท็กขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดภายในบริเวณบ้าน แสงระวีหน้างอทันที ทว่าก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร แท็กมาทำไม ใครเชิญ ทำไมแท็กหน้าด้าน ไม่ชอบขี้หน้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งไม่ชอบเพิ่มเป็นทวีคูณ ได้แต่พูดในใจ ไม่กล้าเอ่ยปากไล่ ไม่อยากให้เพื่อน ๆ ที่มาในวันนี้รู้สึกไม่ดี
“ยูเอ็นเพื่อนมืงมาทำไม ใครชวน” แสงระวีเดินไปหายูเอ็นในครัว กระซิบถาม
“วีเถอะน่ามืง ยังไงก็เพื่อนกันห้องเดียวกันนะเว้ย” ยูเอ็นกระซิบคุยด้วย สายตามองไปยังแท็กที่พึ่งมาใหม่ แท็กยิ้มให้พวกเธอทั้งสองคน โดยเฉพาะเจ้าของบ้านแบบไม่ระแคะระคายว่าเจ้าของบ้านจะคิดเช่นไร
“เพื่อน ๆ มากันทุกคนวีไม่ชวนเราหน่อยเหรอ” แท็กเดินเข้ามาหาแสงระวีซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน เว้นระยะห่างไม่เข้าใกล้จนเกินไป ยิ้มให้คนตรงหน้าทักทายแบบไม่เคอะเขิน เหมือนไม่เคยมีเรื่องหมางใจกันมาก่อน แท็กรู้ว่าแสงระวีคิดอย่างไรกับตน
“คนของวีเขาไม่รู้หรอกน่า สบายใจได้ อีกอย่างฉลองปิดเทอมแบบนี้ เพื่อน ๆ มากันครบเราก็เพื่อนวี ไม่ชวนหน่อยเหรอ” ไม่รอให้แสงระวีพูดเขาแย่งพูดก่อน ด้านได้อายอดนาทีนี้ เขาอยากคุยกับแสงระวีมาก ตั้งแต่วันนั้นแสงระวีทำเหมือนไม่รู้จักกัน ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนในห้อง ทั้งที่เขาเองก็มีความรู้สึกดี ๆ ให้ไม่แพ้ผู้ชายในเมืองคนนั้น แสงระวีตัดสิทธิ์เขาไปโดยไม่ใยดี
เธอยิ้มกลบเกลื่อนไม่อยากให้เสียบรรยากาศ นั่นสินะทำไมต้องเกลียดกันด้วย เมื่อก่อนก็เป็นเพื่อนกันทำไมตอนนี้จะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไม่ได้ ก็ได้เมื่อ ม.ปลายเธอจะย้ายโรงเรียนอยู่แล้ว ควรจะจากกันด้วยดี มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันดีกว่า เหลือเพียงแค่เทอมเดียว และ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี่เองก็จะจากกัน
“แท็กมาพอดีเลยมากินยำ เราทำเสร็จพอดี” แทนที่จะต่อว่าให้เสียความรู้สึก เธอเลือกที่จะชวนเขาเข้ามาร่วมมีความสุขแทน พร้อมยิ้มให้อย่างเต็มใจ ไม่ได้แกล้งหรือฝืนยิ้มให้แม้แต่น้อย รอยยิ้มล้วนออกมาจากความจริงใจของเธอ แท็กคงรับรู้คงไม่คิดว่าเธอแกล้งเสแสร้งยิ้มให้เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศหรอกนะ
แท็กเผยยิ้มออกมาแววตาดูดีใจไม่เศร้าเหมือนเมื่อครู่นี้ แสงระวีเห็นแววตาตื้นตันดีใจคู่นั้น ก็เผยยิ้มออกมาเช่นกัน แท็กคงรอวันนี้มานาน ยิ่งคิดแสงระวีก็ยิ่งเสียใจที่ทำกับเพื่อนแบบนี้ รู้สึกโกรธตัวเอง แท็กคงกลัวโดนไล่ตะเพิดกลับไปอยู่ไม่น้อย รู้สึกดีใจที่แท็กมาในวันนี้ ไม่อย่างนั้นเวลาผ่านไปคงต้องรู้สึกผิดไปตลอด
“แท็กดื่มมั้ยพวกยูโดซื้อเบียร์มา” แสงระวีพูดกับแท็ก กลับมาเป็นเหมือนช่วงก่อนหน้าที่คุยกัน พร้อมยกถาดยำวุ้นเส้นมาวางลงกลางแคร่ มีเพื่อน ๆ นั่งล้อมวงรอ บ้างก็นั่งที่เปล ตอนนี้แค่บ่ายสามโมงเพื่อน ๆ มีเวลาอยู่เล่นอีกนาน
“ไม่อ่ะ ไม่ดื่มแค่มาเล่นด้วยแป๊บ ๆ ก็จะกลับแล้ว”
“ไม่เชื่อหรอกว่าไม่ดื่ม” แสงระวีตอบแบบเป็นกันเอง สร้างความเป็นกันเองให้กับแท็กมากที่สุด อยากให้สบายใจ เหมือนเมื่อครั้งที่ยังไม่แอบคุยกันบรรยากาศแบบนี้ รอยยิ้มแบบนี้ เสียงพูดแบบนี้แท็กไม่เคยได้สัมผัสเลยหลังจากทะเลาะกัน
เขารับรู้ว่าไม่ควรคิดอะไรเกินเลยกับเพื่อน ถ้ารู้จักกันแบบเพื่อนแต่แรกก็ควรจะเป็นเพื่อน ต่อไปนี้เขาจะกลับมาเป็นเพื่อนกับเธออีก จะไม่คิดเกินเลยอีกต่อไป
“ก็ดื่มเป็นแต่ไม่ดื่มเดี๋ยวขับรถกลับบ้านไม่ได้” แท็กตอบพูดปนยิ้มให้ แท็กเข้าไปนั่งรวมกับกลุ่มเพื่อน ๆ แท็กไม่ได้ทานอะไรด้วย เข้ามานั่งพูดคุยด้วยเฉย ๆ นอกจากจะมียำแล้วยังมีเมนูอื่น ๆ อีกตามมา ส่วนมากจะเป็นกับแกล้มของเพื่อน ๆ ผู้ชายมากกว่า
ผ่านวันนี้ไปก็ปิดเทอมแล้ว กว่าจะได้มาเจอกันอีกตั้งหนึ่งเดือน ควรจะใช้เวลาตรงนี้ให้คุ้มค่าและมีความสุขสนุกสนานมากที่สุด เสียงพูดคุยของพวกเธอดังข้ามไปยังบ้านข้าง ๆ มีผู้ใหญ่บางคนแอบมายืนดู ก็คงหนีไม่พ้นคำนินทา แสงระวีไม่แคร์อยู่แล้ว
พอท้องเริ่มอิ่มเพื่อนบางคนเริ่มแยกย้ายกันไปคุยโทรศัพท์กับแฟนของตนเอง อยู่กันคนละมุม คนละที่ บ้างก็ยังไม่อิ่ม “เต้ยอย่าดื่มมากนะเว้ยพวกมืงขับรถกลับบ้านไม่ได้นะ” แสงระวีเตือนเพื่อนนักดื่มด้วยความเป็นห่วง ถ้าเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางกลับบ้านจะทำอย่างไร
“แค่นี้จิ๊บ ๆ น่า” เต้ยตอบด้วยท่าทางขึงขัง ตาใสแป๋วทั้งที่หมดไปหลายขวด
“เออกูขับเอง ให้มันดื่มเถอะมันอกหัก” เปรมพูดขึ้น
“อ๋อแบบนี้นี่เอง ถึงว่าเห็นมันยกไม่ยั้งเลย” แสงระวีพยักหน้าให้เปรม เป็นอันเข้าใจ จึงไม่ห้ามเต้ยแล้วปล่อยให้เพื่อนปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่
แสงระวีเม้าท์กับเพื่อนผู้หญิงอย่างเฮฮาถึงพริกถึงขิง ได้อรรถรสในการคุยเหลือเกินพูดเรื่องหนุ่มคนนั้นสาวคนนี้บ้าง ส่วนแท็กแอบเข้าไปร่วมวงกับพวกเต้ยด้วย วันนี้มันมีความสุขเหลือเกิน ไม่ต้องปั้นหน้า ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องแบกอะไรไว้ให้หนักใจ
“วี ม.4 จะเข้าไปต่อในเมืองจริง ๆ เหรอ” แก้มถาม ขณะนั่งเม้าท์กันอยู่แก้มก็วกมาเรื่องนี้ แก้มเองก็จะเข้าไปต่อในเมืองเหมือนกันจึงอยากจะหาเพื่อนไปด้วย
“ใช่แล้ว เราว่าจะไปต่อโรงเรียนกับเจลและเจนอ่ะ ญาติเรา ” แสงระวีบอกเพื่อน พูดด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข อยากให้วันสอบคัดเลือกมาถึงโดยเร็วเสียจริง
“ที่เป็นฝาแฝดใช่มั้ย เราก็ว่าจะไปสอบ รายละเอียดอะไรยังไงเอามาบอกด้วยนะ เราจะได้ไปด้วยกัน”
“เค” เธอฉีกยิ้มให้แก้ม อย่างน้อย ๆ ก็มีเพื่อนแล้วหนึ่งคน
“ส่วนพวกเราต่อที่เดิมนี่แหละ วีต่อที่เดียวกันกับแฟนวีเหรอ คนนั้นน่ะ” นิดหน่อยเป็นคนถาม ถึงจะเล่นคนละกลุ่มแต่ก็สนิทกันระดับหนึ่ง ตอนนี้กระแสข่าวเรื่องหนึ่งเป็นที่รู้กันทั้งห้องสำหรับเพื่อนผู้หญิง ส่วนเพื่อนผู้ชายแทบจะไม่มีใครรู้ เพราะไม่ได้สนใจ เว้นก็แต่แท็กที่รู้เรื่องนี้
“อือใช่ เราจะไปเรียนที่เดียวกันกับหนึ่งแหละ ถ้าเราสอบได้ก็เรียน สอบไม่ได้ก็มาเรียนที่เดิม อี่ฝ้ายอี่ยูเอ็นสองคนนี้ก็จะเข้าไปเรียนด้วย”
พอถึงเวลาบ่ายคล้อยเกือบ ๆ สี่โมงเย็น น้องวายกับน้องวากลับมาจากโรงเรียน พอน้อง ๆ ของเธอมาถึงบ้านเพื่อน ๆ จึงพากันทยอยขอตัวกลับ ทุกคนกลับกันหมดเหลือเพียงฝ้ายกับยูเอ็นที่อยู่ช่วยล้างจาน เก็บบ้าน ยังเหลืออีกคนที่ยังไม่กลับคือแท็ก
“วีขอบใจนะที่ไม่รังเกียจเรา” แท็กตัดสินใจพูดเพราะเหลือกันแค่นี้ สนิทกันทั้งนั้น
“เราจะเกลียดแท็กทำไมก็เราเป็นเพื่อนกัน ไปกลับบ้านไปได้แล้ว บ้านยิ่งอยู่ไกลกว่าชาวบ้านเขา” แสงระวียิ้มให้แท็กอย่างจริงใจ ไล่ให้กลับบ้าน
“โอเคงั้นกลับแล้วนะ กลับแล้วนะฝ้ายยู เอ็น ว่าแต่น้องชื่อไรนะวี” แท็กหันมาถามน้อง ๆ สองคนที่นั่งบนเปล ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาเพราะมีคนแปลกหน้ามาบ้าน
“วากับวาย” น้องสาวของเธอตอบ ปรายตามองด้วยความเป็นมิตร ส่วนแท็กก็ยิ้มให้ทั้งสองคน
“พี่กลับแล้วนะน้องวากับน้องวาย” ไม่มีการตอบกลับจากน้อง ๆ ของแสงระวี จากนั้นแท็กขับรถออกไป ไม่นานฝ้ายกับยูเอ็นจึงขอตัวกลับบ้าง แสงระวียืนส่งทางเพื่อน ๆ จนสุดสายตาก่อนจะถอนหายใจออกมายาว ๆ ไม่ได้อะไร แค่หลังจากวันนี้ปิดเทอมแล้วเท่านั้น เปิดเทอมเจอกันนะเพื่อน แสงระวีพูดเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน
ปิดเทอมแล้ว เปรยออกมาเบา ๆ กับตนเอง เหลืออีกหนึ่งเทอมก็จะขึ้น ม.4 เธอคงได้เจอกับหนึ่งบ่อย ๆ แค่คิดมันก็ดีใจ ช่วงนี้หนึ่งสอบปลายภาคเหมือนกัน ไม่ค่อยได้คุยโทรศัพท์เป็นความโชคดีของเธอในวันนี้ แสยะยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าของหนึ่ง
วันนี้ถ้าหนึ่งโทรมาคงหมดสนุกกันแน่ รายนั้นโทรมายิ่งไม่ค่อยอยากวางสายอยู่ด้วย ยิ่งออกแนวงี่เง่าเอาแต่ใจ ถ้ารู้ว่ามีแท็กอยู่ด้วย ไม่อยากจะคิด พอนึกถึงเรื่องนี้เธอก็พูดคนเดียวออกมาลอย ๆ “ทนเอาหน่อยนะวี อีกไม่นานคงได้นั่งคุยกันใกล้ ๆ ไม่เป็นแบบนี้แล้วแสงระวีเอ้ย” เธอพูดกับตัวเองจากนั้นจึงไปจัดการกวาดบ้านหน้าที่ของตนให้แล้วเสร็จ
พ่อกลับมาจากนาจูงวัวแม่ลูกสองตัวเดินมาตามทาง บัดนี้ลูกวัวตัวเล็กตัวโตเท่าแม่วัวแล้ว พ่อว่าจะขายคิดไปคิดมาสงสารมันเหมือนกัน โชคดีที่พ่อไม่ได้ขายให้โรงฆ่าสัตว์ แต่เป็นการขายเปลี่ยนเจ้าของ คนซื้อไม่ใช่คนอื่นคนไกลเป็นญาติ ๆ กันทั้งนั้น แสงระวีมองเห็นพ่อเดินมา จึงบอกน้องวารีบไปเปิดคอกวัวรอพ่อเลย
น้องวาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ส่วนน้องวายโตแล้วขึ้น ป.1 รายนี้ซนมาก เลิกเรียนไม่เคยอยู่ติดบ้านเป็นต้องไปเล่นบ้านเพื่อนตลอด ต้องตามกลับบ้านทุกวัน ปรายตามองน้องชายที่ปั่นจักรยานเล่นรอบบ้านอยู่คนเดียว
พ่อเข้าบ้านแล้วหนึ่งอย่าโทรมาตอนนี้เลย ภาวนาพร้อมเช็กระบบเสียง ว่าตนเองปิดเสียงหรือยัง พอรู้ว่าปิดก็สบายใจ อยากโทรมาก็โทรมาเลยแต่ไม่รับหรอก วันนี้พ่อเข้าบ้านก่อนเวลา เพราะญาติของเธอจะมาดูวัวที่พ่อจะขาย
เธอยังไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้ว่ามีแฟน คิดว่ารอให้ขึ้น ม.ปลายก่อน จะคบหนึ่งเปิดเผยให้พ่อกับแม่รู้ และจะไม่นอกลู่นอกทางด้วย จะให้คำมั่นสัญญากับพ่อแม่ เธอเป็นคนรักดีมากพอที่จะไม่ทำตามใจตนเองจนพ่อแม่ขายหน้า
พูดยังไม่ทันขาดคำมีสายจากหนึ่งโทรเข้ามา แสงระวีรีบวิ่งขึ้นไปรับบนบ้าน นั่งที่คอบันไดถ้าพ่อจะขึ้นบ้านจะได้เห็นก่อนและรีบวางสายทัน ปากบอกว่าจะไม่รับ พอหนึ่งโทรเข้ามาก็อยากรับสายเหมือนเดิม
“หนึ่งถ้าวีตัดสายกระทันหันไม่ต้องสงสัยนะพ่อมา” แสงระวีชี้แจงก่อน กลัวว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหนึ่งจะได้ไม่สงสัยและคิดมาก
“ปิดเทอมแล้วใช่มั้ย อ่านหนังสือด้วย อยากเจอกันมั้ย อยากอยู่ใกล้กันมั้ย” หนึ่งไม่สนใจกับคำพูดของเธอ กลับมาทำเป็นเข้มงวดเรื่องเรียนซะนี่ ออกคำสั่งเหมือนกลัวว่าเธอจะสอบไม่ได้
“ไม่ต้องมาทำเป็นเข้มงวดเลย หนึ่งอ่ะสอบเสร็จยัง”