ขอคำแนะนำ+กำลังใจ กำลังจะออกจากงานเก่า (comfort zone) ไปรับราชการ

อัพเดท: 00:31 (พ 11 สค)

สวัสดีทุกท่านค่ะ นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะมาอัพเดทและตอบอะไรในกระทู้นี้แล้ว ขอบคุณทุกคอมเม้นมากๆ จากหัวใจ เราอ่านและอบอุ่นใจมาก และสารภาพว่าตอนที่ยังไม่มีเวลาเข้ามาอัพเดท เราแวะเวียนเข้ามาอ่านซ้ำเรื่อยๆ เพื่อฮีลใจตัวเอง รวมถึงท่านที่ส่งหลังไมค์มาด้วยค่ะ

ต่อจากนี้เราคงจะไม่ได้เข้ามาดูแล้วอย่างที่บอก แต่ถ้าใครมีอะไรจะส่งหลังไมค์หาเรา เราอาจจะมาเช็กบ้างนานๆ ทีค่ะ อยากเขียนปิดท้ายไว้ เผื่อใครที่อาจจะเจอสถานการณ์คล้ายเราจะได้อ่านประสบการณ์อันน้อยนิดของเราไว้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องการบ้าง

ตอนนี้เราทำงานมาราวเดือนกว่า อาจยังเร็วเกินกว่าจะตัดสินอะไร แต่แน่นอนว่าเราต้องปรับตัวเยอะมากๆ เราบรรจุในหน่วยกลาง และมีคนเก่งเยอะมาก เน้นว่ามาก ขอเปรียบแบบหยาบๆ ว่า ถ้าเราเคยเป็นหัวหมาตอนอยู่ที่เก่า นี่เราเป็นแค่ปลายหางมังกรค่ะ 5555 (หรือเล็บขบมังกรดีนะ) แต่เปิดโลกมากเช่นกัน ชนิดที่ว่าต่อให้เราย้ายหน่วยงานหรือสอบใหม่ในอนาคต เราน่าจะได้อะไรจากที่นี่ไปเยอะมากๆ ทำงานมาเท่านี้แต่เหมือนมีชาเลนจ์เกือบทุกวัน วันไหนได้นั่งเคลียร์งานเงียบๆ คือ peaceful and beautiful day ที่สุด

เปลี่ยนจากเอกชนมาราชการ ยอมรับว่ายัง struggle กับหลายอย่าง โดยเฉพาะระบบค่ะ ยิ่งต้องทำงานที่บ้านก็ยากด้วยเพราะสื่อสารไม่ดีเท่าตอนเห็นหน้า แรกๆ เรา suffer มาก ตื่นมาผะอืดผะอมทุกเช้า (จะเป็นตอนเครียดๆ เช่น ช่วงเข้ามหาวิทยาลัย) กดดัน เครียดไปหมด ตอนนี้ก็ยังเครียดอยู่ แต่เริ่มพยายามหาสมดุลให้ชีวิตตัวเอง เรียนรู้ไป และ appreciated กับทุกๆ วัน

แต่ถ้าถามว่าตัดสินใจผิดไหม ไม่ผิดค่ะ เราไม่ regret เลยที่ลาออกมา และขอบคุณที่เราตัดสินใจเชื่อในสัญชาตญาณแรก วินาทีแรกที่การประกาศผลว่า "ลาออกเถอะ" ทุกวันนี้ยังคิดถึงที่เก่าไหม คิดถึงมาก แต่งานก็งอกเยอะมากจนแทบจะกลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว เวลาเห็นข่าวที่เก่าผ่านตาก็จะรู้สึกแปลกๆ เหมือนคนนอกมองเข้าไป การันตีจากคนที่อินมากจนร้องไห้ไม่หยุด พอออกมาแล้วความรู้สึกนั้นจะค่อยๆ เฟดตัวไปค่ะ ยิ่งงานที่ใหม่ยุ่งจะแทบไม่มีเวลาทำอะไรเลย เพื่อนที่เก่าก็คือของขวัญดีๆ ที่เราพยายามจะ keep in touch ไว้ แต่ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป

อยากทิ้งท้ายว่าถ้าใครอยู่สถานะเหมือน/คล้ายเรา อาจจะตอบกำป้ันทุบดินไปหน่อย แต่คนที่จะตอบได้ว่าควรไปทางไหนก็คือตัวคุณค่ะ เรื่องของเราก็เป็นแค่เศษเสี้ยวเล็กๆ ในตลาดแรงงานอันกว้างใหญ่ของประเทศไทย แต่สิ่งเดียวที่บอกได้คือ ถ้าตัดสินใจแล้วอย่าเดินถอยหลัง เราเชื่อว่าทุกคนจะปรับตัวและหาที่ทางให้ตัวเองได้ เหมือนที่เรากำลังค่อยๆ พยายาม fit in กับงานใหม่นี้อยู่ และวันหนึ่งเมื่อเราอยู่ตัว เราก็หวังจะเข้มแข็ง ส่งพลังบวกและกำลังใจให้ทุกคนได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกคน ทั้งที่มาตอบคอมเม้น แวะผ่านมา หรือส่งหลังไมค์มาแนะนำเรา ขอบคุณมากนะคะ truly appreciated!


-----------------------------------------------------
อัพเดท: 00:16 (ศ 25 มิย)

เพิ่งเห็นหลายคอมเม้น อยากขอบคุณจากหัวใจค่ะ จะขอทยอยไล่ตอบทีละคอมเม้นนะคะ

เห็นหลายๆ คนเมนชันเรื่องที่ทำงาน ขอตอบรวดเดียว (เผื่อประกอบการคอมเมนต์) เราได้หนังสือรายงานตัวแล้วค่ะ ส่วนสถานที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และบ้านเราก็อยู่กรุงเทพฯ เช่นเดียวกัน อยู่บ้านกับครอบครัว และสามารถใช้รถของที่บ้านเดินทางได้ค่ะ แต่เรื่องการใช้ชีวิตหลายอย่างคงต้องปรับอีกยาว

ยังตามอ่านคอมเมนต์เรื่อยๆ นะคะ คำแนะนำทุกท่านมีค่ากับเรามากๆ หลายคอมเมนต์อ่านแล้วหัวใจฟูเลย ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

-----------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ 

จริงๆ เน้นมาขอคำแนะนำ กำลังใจ และการปรับตัวหลายๆ อย่างมากกว่า เพราะตัดสินใจได้ค่อนข้างชัดเจนว่าจะย้ายค่ะ ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดเฉพาะมากนะคะ กลัวคนรู้จักมาอ่านเจอ อยากขอคำปรึกษาแบบนิรนามมากกว่า แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงค่ะ

เรากำลังจะลาออกจากงานแรกที่ทำมาประมาณ 3 ปีกว่าๆ ดีมากๆ เป็น comfort zone ถึงที่สุด คนทำงานรักใคร่กลมเกลียว ไม่ค่อยมี hierarchy ยืดหยุ่นมากๆ พอสมควรเลย (แต่ก็มี work ไร้ balance เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วง wfh ที่เห็นชัดเจนมาก) ชอบเนื้องานบางส่วนด้วยค่ะ แต่ที่ปัจจุบันเป็นบริษัทเล็ก และที่สำคัญคือเรามองไม่เห็น career path ของตัวเองเลย เหมือนตันอยู่ตรงนี้แล้ว และงานที่ทำไม่ตรงสายเท่าไรค่ะ เรายังอยากทำงานตรงสายอยู่ 

สาเหตุที่ลาออกเพราะสอบได้ราชการที่นึงค่ะ ลองแยบๆ ถามมาว่าเป็นยังไง ได้รับคำตอบแบบเสียงแตกมาก คนรู้จักสองคนคนนึงบอกว่าเครียดมาก อีกคนบอกว่าไม่เครียดเท่าไร แต่เราก็คิดว่ามันขึ้นกับตัวเองด้วย และตัดสินใจจะไปตั้งแต่วินาทีที่เห็นชื่อตัวเองได้บรรจุแล้ว

(ออกตัวก่อนว่า มีกระทรวงและตำแหน่งราชการในดวงใจค่ะ ซึ่งไม่ใช่ที่ๆ ได้ปัจจุบันนี้ แต่ยังสอบไม่ติดสักที กะว่าต่อให้บรรจุแล้ว จะลองสอบดูอีก เพราะเป็นความฝันจริงๆ แต่ถ้าสอบไปอีก 2-3 รอบยังไม่ได้ ก็คงถอยแล้ว)

วันไปยื่นใบลาออก กินข้าวไม่ลง ร้องไห้แหลกลานค่ะ ฝั่งหัวหน้ากับผู้บริหารก็บอกว่าอยากให้เราอยู่ต่อจริงๆ (แต่ไม่ได้ offer เงินเดือนหรืออะไรให้นะคะ เพราะเราได้ขึ้นเงินเดือนไปแล้วเมื่อต้นปี) แต่นั่นแหละค่ะ สุดท้ายเราตัดสินใจจะย้ายที่ทำงานอยู่ดี และเป็นการย้ายจากเอกชนไปราชการ

ตอนนี้เราเครียดมากค่ะ กำลังจะไปรายงานตัวแล้ว แต่ก็เครียด ใจน่ะมันบอกว่าไปแน่ๆ ต่อให้รู้ว่าอาจจะต้องปรับตัวเยอะกว่าเดิม แต่ก็ต้องไป แต่ที่เก่าก็ดีเสียจนเราแทบอยากจะขอไปตำแหน่งอีกครั้ง พยายามสะกดจิตตัวเองว่า ก็ที่เก่ามันไม่เห็น career path ดีแค่ไหนก็ต้องไป ค่อยกลับมาพบปะเพื่อนเก่าๆ ตามโอกาส ไม่แน่ใจว่าตัวเองติดกับดัก comfort zone ด้วยหรือเปล่า 

ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ แนะนำหรือเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม หรือพูดอะไรเตือนสติเราก็ได้ค่ะ อยากได้คำแนะนำในการดำเนินชีวิตด้วย เพราะเราอยู่กับที่ทำงานที่แรกเหมือนเป็นบ้านมาตลอด ตอนนี้เหมือนนกน้อยจะออกไปบินแล้วค่ะ TT 

ขอบคุณทุกๆ ท่านล่วงหน้าเลยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
ถ้าคิดว่าจะไปอยู่แล้ว ก็อย่าหันกลับครับ ตัดทางหนีตัวเองทิ้งให้หมดแล้วมุ่งไปให้สุดทาง เดี๋ยวพอเหนื่อยมากๆ ก็ไม่มีเวลาฟุ้งซ่านเอง

แต่เรื่อง comfort zone นี่เห็นฮิตกันเยอะ อยากจะบอกว่า comfort zone ที่มัน comfort จริงๆ คือตอบโจทย์ทุกอย่างที่มีน่ะ คุณจะไม่อยากออกจากมันหรอก แต่การที่คุณอยากจะออกน่ะเพราะมันไม่ได้ comfort อย่างที่ว่า แค่คุณอยู่นานจนปรับตัวได้แล้วเฉยๆ

อย่างตอนนี้เหตุผลที่คุณจะไปคือ comfort zone ที่ว่ามันไม่ตอบโจทย์เรื่องสายงาน เรื่อง career path แสดงว่ามันไม่ได้เป็น comfort zone ของคุณจริงๆ หรอก ดังนั้นอย่าไปอาลัยอาวรณ์มาก ก้าวออกมาแล้วก็ลองกับที่ใหม่ไป งานราชการหรือเอกชน ถ้ามันตอบโจทย์สิ่งที่คุณต้องการได้ มันก็กลายเป็น comfort zone อันใหม่ไปเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่