ปัณหาครอบครัวแบบนี้แก้ยังไงคอมเม้นหน่อยครับ

กระทู้คำถาม
ผมเคยมีปัณหานี้อยู่เป็นประจำทุกวันตอนนี้ก็ยังเป็นอยูผมเป็นคนที่โดนมารดาทิ้งไปตั่งแต่2-3ขวบอยู่กับบิดาและย่ามาโดยตลอดแล้วบิดานั้นเหมือนจะไม่ข่ิยใส่ใจเราเลยตั้งแต่เล็กๆแต่ตอนนี้ผมอายุ16ปีพอเริ่มโต่บิดาผมก็เริ่มไม่ฝังสิ่งที่ผมพูดเริ่มไม่ข่อยเชื่อใจทั่งที่ผมเป็นลูกแท้ๆ ย่าผมก็เป็นคนที่เกลียดการเล่นเกมส์เป็นอย่ามากแค่ทุกวันนี้แค่เล่นนิดหน่อยๆก็ด่าผมก็ไม่เข้าใจเขาเคยบอกว่าเล่นเกมส์มันไม่มีอนาคตส่วนบิดาผมเขาไม่ข่อยเชื่อใจผมและก็ย่าทั่งที่ผมก็ไม่เคยทำอะไรผิดบางที่บิดาผมก็ดาว่าโง่ยังงั่นยังงี้ทั่งที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดครอบครัวผมชอบนำความคิดตัวเองเป็นหลักแล้วก็เดาไปว่ายังงั่นยังงี้ทั่งที่ไม่รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง"ผมแค่คุยงานกับเพื่อนถึงตอนกลางคืนบิดาและย่าก็ด่าผมว่า"จะคุยอะไรกันหนักกันหนา"ผมก็อธิบายให้ฟังว่า"มันจะคุยงานกันมันเลยนัดผมให้คุยด้วย"ด้วยความไม่เชื่อใจหรือไม่ฝังที่ผมผู้เป็นลุกพูดจึงด่าว่าผมว่าเป็นคนที่โกหกทั่งๆที่หลักฐานก็มี่แต่ก็ไม่เชื่อหามว่าผมเป็นคนไรสาระไอ้ที่คุยกันก็เรื่องไรสาระผมสินหวังมากทั่งที่ผมคุยเรื่องเรียนกันอธิบายก็หามว่าเถียงแต่ผมก็ยังมีคนเข้าใจในตัวผมก็คืออาและแม่อาผมอาผมเขาเป็นลกพี่ลุกน้องกับบิดาผมผมเลยยับถือเขามากสุดผมเตยขอร้องเขาว่าจะให้ซ้อมโทรศัพท์ใหม่แต่อาเขานั้นซื้อให้ผมใหม่เลยพอผมกลับมาบ้านด้วยความที่บิดาและย่าไม่เชื่อใจผมก็เลยต้องอธิบายก็หามว่าเถียงอีกจากนั้นผมต้องตามอามาบอกว่าเขาซื้อมาให้จึงจะตกลงกันได้แต่บิดาก็ยังไม่เชื่อใจผมอยู่ดีแล้วก็ย่าผมด้วยทั่งที่ผมมีความจำเป็นแต่เขาไม่เข้าใจแล้วช่วงนี้เป็นช่วงเรียนออนไลน์ด้วยผมจึงมีความจำเป็น #ชีวิต 
เหมือนผมโดนว่าอยู่คนเดียวด้วยความไม่เข้าใจกันถ้ามีวิธีแก้ช่วยคอมเม่นมาหน่อยค้บ #ความไม่เข้าใจไม่เชื่อใจกัน #แลกเปลี่ยนความคิดเห็นหน่อย
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
อย่างแรกเลยนะ....

- เวลาเขียนอะไรยาวๆ เว้นวรรคตอน ขึ้นย่อหน้าใหม่ เสียบ้าง จะทำให้คนอ่านอ่านง่ายขึ้น
- เวลาที่จะเขียนอะไรในที่สาธารณะ ควรตรวจสอบด้วย ว่าพิมพ์ผิด พิมพ์ถูกอย่างไรบ้าง เพราะมันทำให้คนที่มาอ่านต้องพยายามเดาว่าสิ่งที่พิมพ์ผิดนั้นที่ถูกต้องคืออะไร

ช่วงเวลานี้ เป็นเรื่องยากสำหรับเด็ก และวัยรุ่น ที่จะทำให้คนรุ่นผู้ใหญ่ รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย เข้าใจเรื่องของการเรียนออนไลน์ หรือ การติดต่อกับครูและเพื่อนทางระบบสื่อสารต่างๆ เพราะเป็นเรื่องต่างยุคกัน ยิ่งถ้าผู้ใหญ่เหล่านั้นใช้โทรศัพท์แค่เพื่อการ "โทรออก รับสาย" ยิ่งมีช่องว่างที่ใหญ่มาก
ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ คุยกัน เวลาที่เราคุยเรื่องธุระ เรื่องการเรียน ก็ออกมานั่งคุยในที่ที่เขาเห็น ใช้คำพูดและภาษาที่เป็นทางการ สุภาพเรียบร้อย ผู้ใหญ่จะได้ค่อยๆ ปรับความเข้าใจของเขาได้

เรื่องเกมส์ ในคนวัยผู้ใหญ่ เขามักจะมีอคติกับสิ่งที่เขาคิดว่า "ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการดำรงชีพ" หรือ "เพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว" อยู่แล้ว เวลาที่เราสนุกกับเกมส์ เรามักไม่รู้หรอกว่าเวลาจริงมันผ่านไปเท่าไร เราอาจคิดว่า แค่เล่นด่านเดียวเอง แต่ด่านนั้นอาจใช้เวลาเล่น 10-15 นาทีหรือนานกว่านั้น..
และในเมื่อเวลาใน 1 วัน มีจำกัดเพียง 24 ชั่วโมง เมื่อไรที่เราใช้เพื่อเล่นเกมส์ ก็แปลว่า เราไม่ได้เรียน หรือทำสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เขาย่อมไม่พอใจเพราะเขาเห็นว่าเราไม่ทำตามสิ่งที่เขาคิดว่าเหมาะสม อย่าเพิ่งไปต่อต้าน หาเวลาคุยกันดีๆ เลือกเล่นเกมส์ประเภทที่หยุดการเล่นชั่วคราวได้ เช่น เขาเรียกให้ทำธุระอะไรอย่างอื่นระหว่างที่เล่นเกมส์อยู่ ก็หยุดเล่น ไปทำให้เขาก่อน แล้วกลับมาเล่นใหม่ เวลาเล่นเกมส์ก็อย่าเปิดเสียงดัง หรือถ้าจะใส่หูฟังก็ใส่ข้างเดียวให้ได้ยินเสียงคนอื่นด้วย อย่าจมหายไปในเกมส์

ส่วนเรื่องที่คุณไปขอให้อาช่วย อย่าบ่อย พ่อและย่าจะมองว่าไปรบกวนเขา และใครจะไปรู้ว่าผู้ใหญ่เขาเคยผิดใจหรือขัดแย้งอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า ซึ่งมันจะยิ่งทำให้ผู้ใหญ่เขาขัดใจกันมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาชีวิต
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่