เรื่องมีอยู่ว่า แม่ฉันได้กู้เงินจากธนาคารแห่งหนึ่งเนื่องจากต้องการซื้อที่ดินเพื่อปลูกสร้างเมื่อสิบห้าปีก่อน และได้นำโฉนดที่ดินจำนองธนาคารเพื่อปลูกสร้างบ้าน จากนั้นพี่ชายของฉันกลับจากต่างประเทศคุยกันว่าจะเข้าไปชำระเพื่อปิดสินเชื่อเคหะตัวนี้ และฉันก็ไม่ได้สอบถามหรือพูดคุยเรื่องนี้อีก ซึ่งตัวฉันเองก็ไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับโฉนดที่ดินนี้ เพียงแต่รับรู้ว่าแม่ฉันทำสินเชื่อกับธนาคารเมื่อสองปีที่ผ่านมาครอบครัวได้พูดคุยถึงการถือกรรมสิทธิ์ถือครอบครองโฉนดที่ดินผืนนี้โดยมีข้อตกลงกันใน3คนพี่น้องว่า หากใครต้องการจะถือกรรมสิทธิ์ครอบครองต้องมีเงินก้อน100,000 บาท เพื่อให้พี่ชายคนโตที่ทำการผ่อนมาและต้องซ่อมแซมต่อเติม ฉันเนื่องจากมีเงินเก็บอยู่จำนวนนึงเลยตัดสินใจจ่ายเงินให้พี่ชายและซ่อมแซมบ้านเพิ่มเติมอีกสองแสนกว่าบาท ระยะเวลาสองปีกว่าที่พี่ชายคนโตถือโฉนดที่ดินอยู่ที่มีชื่อของแม่เป็นกรรมสิทธิ์ก่อนจะโอนให้ฉันเมื่อช่วงต้นปี หลังจากมีการโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อของดิฉันได้หกเดือนและได้มีเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งนึงโทรหาดิฉันและแจ้งกับดิฉันว่า แม่ดิฉันได้ไปขอยืมโฉนดที่ดินเพื่อถ่ายเอกสารและไม่ส่งคืนเมื่อสองปีก่อนและยังคงมียอดค้างชำระอยู่240,000บาท (ซึ่งดิฉันเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง) เจ้าหน้าที่ธนาคารเลยมีความจำเป็นเพื่อจะขอโฉนดที่ดินคืนซึ่งปัจจุบันโฉนดที่ดินฉันเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับธนาคาร ฉันไม่ทราบว่าเคสนี้เป็นความผิดพลาดของระบบธนาคารหรือไม่อย่างไรแต่ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และถ้าหากแม่ฉันเป็นจริงอย่างที่เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้ง ฉันผู้ถือสิทธิ์ครอบครองอยากทราบว่าฉันต้องทำอย่างไร
ข้อสงสัยของฉันคือ
- โฉนดที่ดินอยู่ที่แม่เป็นเวลา2ปีกว่าทำไมเจ้าหน้าที่ธนาคารพึ่งถาม
- หากแม่ฉันนำโฉนดที่ดินออกมาโดยพลการเหตุใดธนาคารจึงไม่มีการติดตามทวงถามหรือยื่นฟ้องเพื่อขอโฉนดเมื่อสองปีก่อน
- หากแม่และพี่ชายของฉันยังไม่ปิดยอดสินเชื่ออยากทราบว่าแม่ฉันมีสิทธ์ที่จะนำโฉนดออกมาโดยพลการได้หรือไม่
ใครพอทราบบ้าง หรือมีกฏหมายข้อไหนเกี่ยวข้องบ้าง
ข้อสงสัยของฉันคือ
- โฉนดที่ดินอยู่ที่แม่เป็นเวลา2ปีกว่าทำไมเจ้าหน้าที่ธนาคารพึ่งถาม
- หากแม่ฉันนำโฉนดที่ดินออกมาโดยพลการเหตุใดธนาคารจึงไม่มีการติดตามทวงถามหรือยื่นฟ้องเพื่อขอโฉนดเมื่อสองปีก่อน
- หากแม่และพี่ชายของฉันยังไม่ปิดยอดสินเชื่ออยากทราบว่าแม่ฉันมีสิทธ์ที่จะนำโฉนดออกมาโดยพลการได้หรือไม่