เป็นหนี้หวยใต้ดิน บังคับให้เซ็นเป็นสัญญาเงินกู้

แฟนเราเป็นหนี้บัตรเครดิต ตัวแฟนไม่มีทรัพย์สินอะไร ไม่มีเงินฝาก ไม่ได้ทำงานประจำ เป็นช่างตัดผมอยู่กับพ่อเค้า ไม่ได้ไปขึ้นศาลค่ะ ที่นี่มีหมายคำบังคับส่งมาที่บ้านให้ใช้หนี้ตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน แต่ก

สวัสดีค่ะเนื่องจากแม่หนูเคยค้ำประกันเรื่องรถให้เพื่อน10ปีที่แล้วแต่เพื่อนแม่ไม่ส่งตามที่นัดหมายทางบริษัทได้โทรมาหาล่าสุดวันนี้ว่าจะฟ้องให้ไปขึ้นศาลเกี่ยวกับผู้ค้ำประกันเพราะคนเป็นหนี้ไม่สามารถติดต่อได

วันนี้มีเจ้าหน้าที่ภาคสนามโทรมาว่าจะลงพื้นที่ มาหาเราที่บ้านตามภูมิลำเนา เนื่องจากเขาส่งหมายศาลมาแล้ว แล้วขาดการติดต่อจากเรา เลยทำให้เข้าสู่กระบวนการสืบทรัพย์ยึดทรัพย์ โดยทางเจ้าหน้าที่ภาคสนามได้แนะนำ

สวัสดีค่ะ พอดีโดน เจ้าของร้านบอกว่าแจ้งลักทรัพย์(เราไม่รู้จักเจ้าของร้าน หรือร้านเขาเลย) เรากับพวกอีก3คน ซึ่งเรารู้จักทั้ง 3 คนทางออนไลน์ ไม่เคยเจอหน้า มี 2 คน คือ A กับ B ทำงานที่ร้าน B เป็นหนี้เราอย

เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนได้เดินทางไปศาลเพื่อเข้าพูดคุยเรื่อง "คดีหนี้บัตรเครดิต" ของคุณแม่ที่เสียไปแล้ว เบื้องต้น ณ ตอนนั้นได้คุยกันว่าทนายของทางฝั่งธนาคารก็ไม่ได้ต้องการจะให้เราต้องมาชดใช้แทน

“เมื่อสัญญาการเดินทางถูกยกเลิก แต่ผู้บริโภคไม่มีศาลให้ฟ้อง ต้องไปศาลทรัพย์สินฯ แค่ค่าขึ้นศาลก็แพงกว่าค่าตั๋ว!“ “ยกเลิกเที่ยวบิน ไม่คืนเงิน: ปัญหาทางกฎหมายที่ผู้โดยสารแพ้ตั้งแต่ต้น&r

มีข้อเท็จจริงว่าคดีอาญา อัยการได้ดำเนินการฟ้องเป็นคดี พรบเช็ค ปรากฎว่าจำเลยรับสารภาพ อยู่ระหว่างการผ่อนผันการชำระหนี้ และนัดฟังผลชำระหนี้พร้อมฟังคำพิพากษาในปีหน้า แต่ปรากฎว่าโจทก์ได้มาฟ้องมูลหนี้เดี

คือผมเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ จำนวน  1  ล้านบาท ให้นาย 1  แต่นาย 1 ไม่ชำระเงินเลย ทำให้ถูกฟ้องศาลบังคับคดียึดบ้านที่ดิน  ซึ่งกรณีนี้นาย 1 ไม่ถูกฟ้องล้มละลายเพราะบังคับคดีมาที่ผู้ค้ำ

ผมสงสัยในเชิงว่าเวลาฟ้องศาลคดีแบบไหนจะได้รับการตัดสินที่ดีกว่ากันระหว่าง 1. คดีฉ่อโกงเงิน ที่ไม่มีหลักฐานอะไรนอกจากใบโอนเงิน กับ 2. คดีเงินกู้ ซึ่งมีหลักฐานเป็นใบที่เซ็นรับหนี้จากอำเภอต่อหน้านายอำเ

กรณีของเราเกิดขึ้นเมื่อ4-5ปีที่แล้วค่ะ ออกรถมอเตอร์ไซค์เป็นชื่อของเราเอง ออกมาไม่ถึง1เดือนแม่แฟนก็เอารถเราไปใช่ที่ ตจว.(ซึ่งไม่ได้บอกเราก่อน)โดยอ้างว่าจะส่งงวดรถให้ ส่วนเราใช้รถเขาแทน พอถึงงวดส่งไม่ได