ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้าที่เราได้ลงรีวิวที่ทำงานเก่าขอเราซึ่งไม่ใช่ที่เดียวกันกับที่จะรีวิวต่อไปนี้นะคะ สำหรับที่เก่าเราออกมาแล้วและยังคงมีคอนแทคพี่ๆ /เจ้านายที่เก่า ยังดีต่อกันค่ะ ไม่มีปัญหาใดใด
.
.
เราตัดสินใจออกจากที่ทำงานเก่าเพราะปัญหาโควิดทำให้มีนโยบายลดวันทำงานเหลือครึ่งเดือน และลดเงินเดือน 50% (ส่วนตัวเข้าใจเหตุผลของเจ้านายนะ เพราะมันคือวิกฤตแต่เราก็อยู่ไม่ได้จริงๆกับเงินเดือนครึ่งเดียว เลยตัดสินใจขอลาออกและหางานใหม่)
.
.
เราเห็นประกาศงานของบริษัทส่งนักเรียนไปเรียน ตปท. ในเว็บ location แถวสามย่าน ประกาศรับเจ้าหน้าที่การตลาด เราสนใจเลยส่ง Resume ไป และเขาก็เรียนไปสัมภาษณ์
บอนี้เขามีเจ้าของร่วมกัน 2 คน (สามี-ภรรยา) กัน
ตอนสัมภาษณ์เราสมัครตำแหน่งการตลาด สัมกับสามีเขาค่ะ (สัมประมาณช่วงปลายเดือนเม.ย. 64) สรุปว่าเขารับทำการตลาด ให้เริ่มงานวันที่ 15 มิ.ย. 64
**เราดีใจมากได้งานใหม่ มีเงินแล้ว เพราะช่วงเดือนที่ผ่านมาบริษัทเก่าก็ได้เงินครึ่งเดียว แทบไม่พอใช้ เราอยู่คนเดียว พ่อกับแม่อยู่ ตจว. เขาก็ไม่มีเงินมา support เรา และก็ไม่อยากให้เขาเป็นห่วงว่าเราดูแลตัวเองไม่ได้ เราก็ต้องใจหางาน ทำงานของเรา
.
.
วันที่15,16,17,18 เราไปทำงาน แบบไม่มีให้เซ็นต์สัญญา เพราะตอนนั้นเจ้านาย 2 คนไป ตปท. แต่มีงานสั่งมาเราก็ทำให้หมด ส่วนของ HR ลางาน 3 วัน (15,16,17) ก็คือไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรเลย ขนาดระบบสแกนนิ้วก็ยังไม่ได้ทำ เท่าที่รู้มาที่นี่มีคนลาออกกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเราก็เอะใจว่าทำไมคนออกกันเยอะ และรับคนใหม่บ่อยๆ (วัฒนธรรมองค์กรเขาต้องผิดปกติแน่ๆ) จนกระทั่ง...
.
.
วันที่ 19 เจ้านายคนที่เป็นภรรยา เขา VDO call ขอคุยกับเรา คุยไปคุยมาเขาบอกประมาณว่าคุณสมบัติของเรายังไม่พอสำหรับการตลาดแบบที่เขาต้องการ เขาย้ายเราไปเป็น Sale คืองงมาก มันไม่ใช่ทาง นี่ก็ไม่ถนัดที่ต้องคุยโทรศัพท์ ติดต่อเยอะๆอยู่แล้ว ก็คิดแล้วว่าไม่เหมาะกับเรา
เราคิดว่าถ้าเขาคุยกับสามีเขาสักหน่อยตั้งแต่ช่วงเดือนก่อนหน้าและแจ้งเรากลับมาว่าไม่รับเราหรือเราไม่มีคุณสมบัติตามที่เขาต้องการและจะย้ายไปเป็น Sale ก่อนคงจะดีกว่านี้ เราเองจะได้มีเวลาตัดสินใจ / หางานใหม่ ที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า แต่นี่มาแจ้งเอาวันที่เริ่มงานไปแล้ว ซึ่งเราไม่โอเคมากๆ ถ้าจะให้หางานใหม่ในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ก็ไม่รู้ว่าพอสิ้นเดือนจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าน้ำ ไฟ ค่าห้อง หรืออื่นๆ //เครียดมากๆ ซึ่งเขาไม่มาเข้าใจเราแบบเห็นแก่ตัวมาก
.
.
เรามานั่งทบทวนว่าจะทำ sale ต่อดีไหม หรือออกและหางานใหม่เลย เพราะเท่าที่รู้มา (จากคนในออฟฟิศ) ก็บอกว่าบางคนมาเช้าตอนเย็นหายไปเลย บางคนมา 3-4 วัน หายไปเลยก็มี (มันแปลกไปไหมกับที่ทำงานนี้) คนที่ทำงานตอนนี้อายุงานนานสุดแค่ 10 เดือน คือแบบ มันใช่เหรอ ??? บริษัทอะไรเนี้ยยย ???
.
.
เราตัดสินใจแจ้งเรื่องขอไม่เซ็นสัญญา(เพราะตั้งแต่มาทำก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญาแล้ว) พร้อมแจ้งเหตุผลของเรากับเจ้าของที่เป็นภรรยาทางไลน์ เพราะคิดว่าการหายไปเฉยๆ ดูไม่ profreshional เอาสะเลย... แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมาคืออนุมานได้เลยว่าการศึกษาอันสูงส่งและเงินในบัญชีหลักล้านไม่ได้พัฒนาจิตใจเลยค่ะ (ตามรูป)
1. ถ้าเขาคุยกันก่อนว่าไม่รับเราตั้งแต่แรกแล้วแจ้งกลับคงดีกว่านี้ เราจะได้ไม่เสียเวลาทำงานให้ / ค่ารถที่นั่งไปออฟฟิศทุกวัน ก็หลักร้อยนะ และงานที่เราทำไปก็ส่งต่อให้น้องที่อยู่แผนกเดียวกันแล้ว (ส่งให่น้องเพราะว่าเราอยากช่วยงานน้องมากกว่า ปัจจุบันบริษัท post content ที่เราทำทาง Facebook เพจของเขาค่ะ เจ็บใจมาก เอางานเราไปแต่ไม่จ่ายเงิน แต่ก็ทำไรไม่ได้เลย)
.
2. การตอบเราแบบแย่มาก ทั้งๆที่เป็นการตัดสินใจของตัวเองแท้ๆ ถ้าเขาคุยกับสามีก่อนและให้เราได้มีโอกาสตั้งตัวว่าเขาไม่รับเราคงดีกว่านี้ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น ระยะเวลาเป็นเดือนทำไมพึ่งจะมาคุยกับเรา เรื่องแบบนี้ควรตกลงกันก่อนเริ่มงานด้วยซ้ำ
.
3. การเปลี่ยนตำแหน่งไม่แน่ใจว่าสามารถโยกย้ายได้ตามใจผู้ว่าจ้างเลยเหรอ คือเราก็คาดหวังมาทำตำแหน่งที่เราสมัครอยู่แล้ว เราอ่านในสัญญามีข้อที่บอกว่าผู้ว่าจ้างสามารถย้ายหรือเปลี่ยนตำแหน่งงานเราได้ตามความเหมาะสม ก็ยิ่งไม่อยากเซ็นสัญญาเข้าไปใหญ่
.
4. ทำงานไปแล้ว ส่งงานให้แล้ว ไม่มีการเซ็นสัญญา ปกติต้องมีลายลักษณ์อักษรก่อนสั่งงานเราด้วยซ้ำ
ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ถามได้นะคะ เผื่อมีใครจะสมัครที่นี่ เราจะตอบเท่าที่เรารู้มานะ
#รีวิวสมัครงาน
[CR] รีวิวทำงานฟรี 6 วัน ไม่ได้เงินโดนเชิ่ดใส่แบบเริ่ดๆจากเจ้าของบอ
.
.
เราตัดสินใจออกจากที่ทำงานเก่าเพราะปัญหาโควิดทำให้มีนโยบายลดวันทำงานเหลือครึ่งเดือน และลดเงินเดือน 50% (ส่วนตัวเข้าใจเหตุผลของเจ้านายนะ เพราะมันคือวิกฤตแต่เราก็อยู่ไม่ได้จริงๆกับเงินเดือนครึ่งเดียว เลยตัดสินใจขอลาออกและหางานใหม่)
.
.
เราเห็นประกาศงานของบริษัทส่งนักเรียนไปเรียน ตปท. ในเว็บ location แถวสามย่าน ประกาศรับเจ้าหน้าที่การตลาด เราสนใจเลยส่ง Resume ไป และเขาก็เรียนไปสัมภาษณ์
บอนี้เขามีเจ้าของร่วมกัน 2 คน (สามี-ภรรยา) กัน
ตอนสัมภาษณ์เราสมัครตำแหน่งการตลาด สัมกับสามีเขาค่ะ (สัมประมาณช่วงปลายเดือนเม.ย. 64) สรุปว่าเขารับทำการตลาด ให้เริ่มงานวันที่ 15 มิ.ย. 64
**เราดีใจมากได้งานใหม่ มีเงินแล้ว เพราะช่วงเดือนที่ผ่านมาบริษัทเก่าก็ได้เงินครึ่งเดียว แทบไม่พอใช้ เราอยู่คนเดียว พ่อกับแม่อยู่ ตจว. เขาก็ไม่มีเงินมา support เรา และก็ไม่อยากให้เขาเป็นห่วงว่าเราดูแลตัวเองไม่ได้ เราก็ต้องใจหางาน ทำงานของเรา
.
.
วันที่15,16,17,18 เราไปทำงาน แบบไม่มีให้เซ็นต์สัญญา เพราะตอนนั้นเจ้านาย 2 คนไป ตปท. แต่มีงานสั่งมาเราก็ทำให้หมด ส่วนของ HR ลางาน 3 วัน (15,16,17) ก็คือไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรเลย ขนาดระบบสแกนนิ้วก็ยังไม่ได้ทำ เท่าที่รู้มาที่นี่มีคนลาออกกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเราก็เอะใจว่าทำไมคนออกกันเยอะ และรับคนใหม่บ่อยๆ (วัฒนธรรมองค์กรเขาต้องผิดปกติแน่ๆ) จนกระทั่ง...
.
.
วันที่ 19 เจ้านายคนที่เป็นภรรยา เขา VDO call ขอคุยกับเรา คุยไปคุยมาเขาบอกประมาณว่าคุณสมบัติของเรายังไม่พอสำหรับการตลาดแบบที่เขาต้องการ เขาย้ายเราไปเป็น Sale คืองงมาก มันไม่ใช่ทาง นี่ก็ไม่ถนัดที่ต้องคุยโทรศัพท์ ติดต่อเยอะๆอยู่แล้ว ก็คิดแล้วว่าไม่เหมาะกับเรา
เราคิดว่าถ้าเขาคุยกับสามีเขาสักหน่อยตั้งแต่ช่วงเดือนก่อนหน้าและแจ้งเรากลับมาว่าไม่รับเราหรือเราไม่มีคุณสมบัติตามที่เขาต้องการและจะย้ายไปเป็น Sale ก่อนคงจะดีกว่านี้ เราเองจะได้มีเวลาตัดสินใจ / หางานใหม่ ที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า แต่นี่มาแจ้งเอาวันที่เริ่มงานไปแล้ว ซึ่งเราไม่โอเคมากๆ ถ้าจะให้หางานใหม่ในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ก็ไม่รู้ว่าพอสิ้นเดือนจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าน้ำ ไฟ ค่าห้อง หรืออื่นๆ //เครียดมากๆ ซึ่งเขาไม่มาเข้าใจเราแบบเห็นแก่ตัวมาก
.
.
เรามานั่งทบทวนว่าจะทำ sale ต่อดีไหม หรือออกและหางานใหม่เลย เพราะเท่าที่รู้มา (จากคนในออฟฟิศ) ก็บอกว่าบางคนมาเช้าตอนเย็นหายไปเลย บางคนมา 3-4 วัน หายไปเลยก็มี (มันแปลกไปไหมกับที่ทำงานนี้) คนที่ทำงานตอนนี้อายุงานนานสุดแค่ 10 เดือน คือแบบ มันใช่เหรอ ??? บริษัทอะไรเนี้ยยย ???
.
.
เราตัดสินใจแจ้งเรื่องขอไม่เซ็นสัญญา(เพราะตั้งแต่มาทำก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญาแล้ว) พร้อมแจ้งเหตุผลของเรากับเจ้าของที่เป็นภรรยาทางไลน์ เพราะคิดว่าการหายไปเฉยๆ ดูไม่ profreshional เอาสะเลย... แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมาคืออนุมานได้เลยว่าการศึกษาอันสูงส่งและเงินในบัญชีหลักล้านไม่ได้พัฒนาจิตใจเลยค่ะ (ตามรูป)
1. ถ้าเขาคุยกันก่อนว่าไม่รับเราตั้งแต่แรกแล้วแจ้งกลับคงดีกว่านี้ เราจะได้ไม่เสียเวลาทำงานให้ / ค่ารถที่นั่งไปออฟฟิศทุกวัน ก็หลักร้อยนะ และงานที่เราทำไปก็ส่งต่อให้น้องที่อยู่แผนกเดียวกันแล้ว (ส่งให่น้องเพราะว่าเราอยากช่วยงานน้องมากกว่า ปัจจุบันบริษัท post content ที่เราทำทาง Facebook เพจของเขาค่ะ เจ็บใจมาก เอางานเราไปแต่ไม่จ่ายเงิน แต่ก็ทำไรไม่ได้เลย)
.
2. การตอบเราแบบแย่มาก ทั้งๆที่เป็นการตัดสินใจของตัวเองแท้ๆ ถ้าเขาคุยกับสามีก่อนและให้เราได้มีโอกาสตั้งตัวว่าเขาไม่รับเราคงดีกว่านี้ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น ระยะเวลาเป็นเดือนทำไมพึ่งจะมาคุยกับเรา เรื่องแบบนี้ควรตกลงกันก่อนเริ่มงานด้วยซ้ำ
.
3. การเปลี่ยนตำแหน่งไม่แน่ใจว่าสามารถโยกย้ายได้ตามใจผู้ว่าจ้างเลยเหรอ คือเราก็คาดหวังมาทำตำแหน่งที่เราสมัครอยู่แล้ว เราอ่านในสัญญามีข้อที่บอกว่าผู้ว่าจ้างสามารถย้ายหรือเปลี่ยนตำแหน่งงานเราได้ตามความเหมาะสม ก็ยิ่งไม่อยากเซ็นสัญญาเข้าไปใหญ่
.
4. ทำงานไปแล้ว ส่งงานให้แล้ว ไม่มีการเซ็นสัญญา ปกติต้องมีลายลักษณ์อักษรก่อนสั่งงานเราด้วยซ้ำ
ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ถามได้นะคะ เผื่อมีใครจะสมัครที่นี่ เราจะตอบเท่าที่เรารู้มานะ
#รีวิวสมัครงาน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้