☻ เพชฌฆาตเดรัจฉาน ☻
แล้วในที่สุด ผมก็รับงานอีกครั้งจนได้
ถึงจะรู้ว่า สารพัดหน่วยงานลับต่างเฝ้าจับตาตัวเองอยู่ แต่มันก็คืออาชีพ แล้วงานนี้ผมก็สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่า มันจะเป็นงานชิ้นสุดท้าย ผมต้องปล่อยวางเสียทีกับอาชีพนี้ เป้าหมายเป็นสองผัวเมีย เป็นงานซึ่งผมไม่ได้รับจ้างเคสแบบนี้ มาสิบปีแล้ว
หลังจากงานนี้เสร็จสิ้น ผมตั้งใจจะหายตัวไปใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาเสียที เงินสดและทองคำแท่งขนาดกล่องไม้ขีดกว่ายี่สิบแท่ง ผมเตรียมพร้อมไว้แล้วกับเป้สนามใบย่อม พอกันทีกับโลกเส็งเคร็งที่มีแต่ความเกลียดชัง โลกที่มีแต่การแก้แค้น เอาชนะ ไม่เว้นแม้แต่ขอแค่สะใจกับการเอาคืน พอกันทีกับการว่าจ้างที่ไม่เคยมีคำอธิบายใด ๆ ซึ่งผมไม่เคยต้องการคำตอบอยู่แล้ว และพอกันที กับฉายาซึ่งผมไม่เคยรู้สึกรู้สมด้วยเลยแม้แต่น้อย
‘ ..เพชฌฆาตเดรัจฉาน.. ’
ถึงฉายามันจะตอกย้ำสันดานดิบ ตามที่ผู้ว่าจ้างโปรโมทให้ในวงการเถื่อน แต่ใครจะรู้ว่า เวลานี้ผมกำลังพยายามเปลี่ยนตัวเอง และยังสัญาญาแล้วสัญญาอีกกับเด็กสาวคนหนึ่ง ว่าผมจะลบคำว่าเดรัจฉานออกไปจากตัวเองให้ได้ ขอเพียงเธอให้เวลา
ผมไม่รู้หรอกว่า การกระทำความดีกับคนอื่นต้องทำอย่างไร และต้องทำถึงเพียงไหน หญิงสาววัยสิบเก้าเบื้องหน้า ผมไม่เข้าใจหรอกว่าสิ่งที่ผมทำกับเธอมา ทั้งการดูแล ทั้งการปกป้อง ทั้งการคุ้มครองความเลวร้ายให้เธอมาทั้งชีวิต นั่นเป็นผลมาจากสาเหตุใด หรือเพราะนั่นคือการสำนึกผิดอย่างนั้นหรือ
เด็กสาวคนนี้ผ่านวัยเด็ก ผ่านวัยไร้เดียงสามากับชีวิตบัดซบของผมอย่างไร้ร่องรอย ไร้ตัวตน ผมสอนให้เธอเอาตัวรอด สอนให้เธอแกร่ง สอนให้เธอเข้มแข็ง ไม่ใช่ผู้หญิงซึ่งอ่อนต่อโลก โลกที่พร้อมเสมอสำหรับกับการแว้งกัด โลกที่ทำร้ายได้แม้กระทั่งคนไม่มีทางสู้ หรือไม่เคยคิดจะสู้ด้วยซ้ำไป กาลข้างหน้าของโลกจะเป็นอย่างไร ผมไม่เคยรู้หรอก ผมรู้แค่เพียงว่า คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เราจะหายตัวไปจากวงการเดรัจฉานด้วยกันเมื่องานเสร็จเรียบร้อย ผมไม่อยากให้เธอเดินตามรอยผม ทั้ง ๆ ที่เธอมีพรสวรรค์ยิ่งกว่าผมเสียอีก สำหรับคำว่า ‘ นักฆ่า ’
เธอเป็นคนตระเตรียมปืนไรเฟิ่ลให้ผมเช่นเคย ปืนกับแมกกาซีนถูกบรรจุในกล่องกีต้าร์โปร่งเรียบร้อย ทุกอย่างดูกลมกลืนและลงตัวเหมือนดังที่ผมย้ำสอนมาตลอด ความแนบเนียน ความละเอียดรอบคอบ คือความเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบเสมอมา
ไวน์แดงซึ่งผมเพิ่งกลืนลงคอหลังจากชนแก้วกับเธอ แค่เพียงไม่ถึงสิบวินาที มันให้ความรู้สึกร้อนฉ่าขณะของเหลวนั่นไหลลงสู่กระเพาะ ดูเหมือนมันกระตุกเส้นเลือดให้ซาบซ่านเหลือเกิน แต่จู่ ๆ มันก็กลับอบอุ่น และค่อย ๆ ลดองศาลงจนรู้สึกเย็นเยียบไปทั่วตัว ..ทั่วหัวใจ อาการชาและไร้การตอบสนองเริ่มแผ่ไปทั่วร่าง ของเหลวข้นสีแดงเริ่มทะลักไหลออกมาจากรูจมูกของผม พยายามเหลือบมองไปทางคนเสิร์ฟไวน์ เสียงของเด็กสาวผู้ซึ่งผมถ่ายทอดวิชาเดรัจฉานให้เธอมาทั้งชีวิต ค่อย ๆ ส่งเสียงดังแว่วหู
“ไม่ต้องฆ่าผัวเมียใครอีกแล้วล่ะ แม้จะเคยทำมาเมื่อสิบปีที่แล้ว
” เสียงนั้นราวกับเสียงแม่ชีกำลังสวดมนต์มาจากหน้าเมรุที่ไหนสักแห่ง ..ไกลแสนไกล
“จบสิ้นกันที ที่แกเคยเดรัจฉานกับพ่อแม่กูมาต่อหน้าต่อตา
”
ผมแน่ใจว่า.. ผมได้ยินเสียงนั้น ได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนความรู้สึกจะดำดิ่งลงสู่ห้วงความมืดมิด ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอะไร..
[ จบ ]
ชื่อเดียวเอี่ยวทุกเรื่อง ..เชือดไม่เงียบ..
แล้วในที่สุด ผมก็รับงานอีกครั้งจนได้
ถึงจะรู้ว่า สารพัดหน่วยงานลับต่างเฝ้าจับตาตัวเองอยู่ แต่มันก็คืออาชีพ แล้วงานนี้ผมก็สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่า มันจะเป็นงานชิ้นสุดท้าย ผมต้องปล่อยวางเสียทีกับอาชีพนี้ เป้าหมายเป็นสองผัวเมีย เป็นงานซึ่งผมไม่ได้รับจ้างเคสแบบนี้ มาสิบปีแล้ว
หลังจากงานนี้เสร็จสิ้น ผมตั้งใจจะหายตัวไปใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาเสียที เงินสดและทองคำแท่งขนาดกล่องไม้ขีดกว่ายี่สิบแท่ง ผมเตรียมพร้อมไว้แล้วกับเป้สนามใบย่อม พอกันทีกับโลกเส็งเคร็งที่มีแต่ความเกลียดชัง โลกที่มีแต่การแก้แค้น เอาชนะ ไม่เว้นแม้แต่ขอแค่สะใจกับการเอาคืน พอกันทีกับการว่าจ้างที่ไม่เคยมีคำอธิบายใด ๆ ซึ่งผมไม่เคยต้องการคำตอบอยู่แล้ว และพอกันที กับฉายาซึ่งผมไม่เคยรู้สึกรู้สมด้วยเลยแม้แต่น้อย
‘ ..เพชฌฆาตเดรัจฉาน.. ’
ถึงฉายามันจะตอกย้ำสันดานดิบ ตามที่ผู้ว่าจ้างโปรโมทให้ในวงการเถื่อน แต่ใครจะรู้ว่า เวลานี้ผมกำลังพยายามเปลี่ยนตัวเอง และยังสัญาญาแล้วสัญญาอีกกับเด็กสาวคนหนึ่ง ว่าผมจะลบคำว่าเดรัจฉานออกไปจากตัวเองให้ได้ ขอเพียงเธอให้เวลา
ผมไม่รู้หรอกว่า การกระทำความดีกับคนอื่นต้องทำอย่างไร และต้องทำถึงเพียงไหน หญิงสาววัยสิบเก้าเบื้องหน้า ผมไม่เข้าใจหรอกว่าสิ่งที่ผมทำกับเธอมา ทั้งการดูแล ทั้งการปกป้อง ทั้งการคุ้มครองความเลวร้ายให้เธอมาทั้งชีวิต นั่นเป็นผลมาจากสาเหตุใด หรือเพราะนั่นคือการสำนึกผิดอย่างนั้นหรือ
เด็กสาวคนนี้ผ่านวัยเด็ก ผ่านวัยไร้เดียงสามากับชีวิตบัดซบของผมอย่างไร้ร่องรอย ไร้ตัวตน ผมสอนให้เธอเอาตัวรอด สอนให้เธอแกร่ง สอนให้เธอเข้มแข็ง ไม่ใช่ผู้หญิงซึ่งอ่อนต่อโลก โลกที่พร้อมเสมอสำหรับกับการแว้งกัด โลกที่ทำร้ายได้แม้กระทั่งคนไม่มีทางสู้ หรือไม่เคยคิดจะสู้ด้วยซ้ำไป กาลข้างหน้าของโลกจะเป็นอย่างไร ผมไม่เคยรู้หรอก ผมรู้แค่เพียงว่า คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เราจะหายตัวไปจากวงการเดรัจฉานด้วยกันเมื่องานเสร็จเรียบร้อย ผมไม่อยากให้เธอเดินตามรอยผม ทั้ง ๆ ที่เธอมีพรสวรรค์ยิ่งกว่าผมเสียอีก สำหรับคำว่า ‘ นักฆ่า ’
เธอเป็นคนตระเตรียมปืนไรเฟิ่ลให้ผมเช่นเคย ปืนกับแมกกาซีนถูกบรรจุในกล่องกีต้าร์โปร่งเรียบร้อย ทุกอย่างดูกลมกลืนและลงตัวเหมือนดังที่ผมย้ำสอนมาตลอด ความแนบเนียน ความละเอียดรอบคอบ คือความเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบเสมอมา
ไวน์แดงซึ่งผมเพิ่งกลืนลงคอหลังจากชนแก้วกับเธอ แค่เพียงไม่ถึงสิบวินาที มันให้ความรู้สึกร้อนฉ่าขณะของเหลวนั่นไหลลงสู่กระเพาะ ดูเหมือนมันกระตุกเส้นเลือดให้ซาบซ่านเหลือเกิน แต่จู่ ๆ มันก็กลับอบอุ่น และค่อย ๆ ลดองศาลงจนรู้สึกเย็นเยียบไปทั่วตัว ..ทั่วหัวใจ อาการชาและไร้การตอบสนองเริ่มแผ่ไปทั่วร่าง ของเหลวข้นสีแดงเริ่มทะลักไหลออกมาจากรูจมูกของผม พยายามเหลือบมองไปทางคนเสิร์ฟไวน์ เสียงของเด็กสาวผู้ซึ่งผมถ่ายทอดวิชาเดรัจฉานให้เธอมาทั้งชีวิต ค่อย ๆ ส่งเสียงดังแว่วหู
“ไม่ต้องฆ่าผัวเมียใครอีกแล้วล่ะ แม้จะเคยทำมาเมื่อสิบปีที่แล้ว” เสียงนั้นราวกับเสียงแม่ชีกำลังสวดมนต์มาจากหน้าเมรุที่ไหนสักแห่ง ..ไกลแสนไกล
“จบสิ้นกันที ที่แกเคยเดรัจฉานกับพ่อแม่กูมาต่อหน้าต่อตา”
ผมแน่ใจว่า.. ผมได้ยินเสียงนั้น ได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนความรู้สึกจะดำดิ่งลงสู่ห้วงความมืดมิด ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอะไร..