(ภาพโดรนถ่ายเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ของช้างที่หลับใหลกลายเป็นกระแสไวรัลในจีนและทั่วโลก / Cr.ภาพ REUTERS)
โดยธรรมชาติแล้ว ช้างเป็นสัตว์ที่มีความฉลาดเฉลียวอย่างยอดเยี่ยม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาพวกมันจะรู้เรื่องราวมากมายในแต่ละวันเกี่ยวกับพวกมัน แต่ฝูงช้างที่ใกล้สูญพันธุ์ในประเทศจีนที่ดึงดูดคนทั้งประเทศนี้ กลับทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกงงงันไปอย่างสิ้นเชิงในสิ่งที่พวกมันทำ
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ช้างจะเคลื่อนตัวไปในระยะทางสั้นๆ แต่ฝูงช้างเหล่านี้ได้เล็ดลอดไปทั่วประเทศจีนมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว ตอนนี้ช้างได้หลงทางไปเกือบ 310 ไมล์ (500 กม.) ซึ่งเป็นช่วงระยะการเดินทางขนาดมหึมาจากถิ่นที่อยู่เดิมของพวกมัน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คิดว่าช้างเริ่มเดินทางเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วจากเขตอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งชาติสิบสองปันนา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ใกล้พรมแดนกับเมียนมาร์และลาว
มีผู้คนเคยเห็นพวกมันทุบประตูบ้าน บุกร้านค้า ขโมยอาหาร เล่นโคลน อาบน้ำในคลอง และงีบหลับกลางป่า นอกจากนี้ ยังพบเห็นพวกมันกำลังกินพืชผลและมุดเข้าบ้านของผู้คน โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พวกมันยืนต่อแถวเพื่อดื่มน้ำในลานบ้านของคน และใช้งวงเปิดก๊อกได้สำเร็จ จากนั้น พวกมันได้เริ่มย้ายไปทางใต้อีกครั้ง และถูกพบครั้งสุดท้ายในเมืองสือเจี๋ยใกล้กับเมืองหยูซี
การเคลื่อนย้ายนี้ ทำให้ช้างเป็นที่รู้จักมากที่สุดทั้งในประเทศและทั่วโลก ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าทำไมพวกมันถึงเริ่มออกเดินทางตั้งแต่แรก แล้วจะมุ่งหน้ากลับหรือไม่ หรืออะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
Joshua Plotnik ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาช้างที่ Hunter College, City University of New York กล่าวกับ BBC ว่า ความจริงก็คือไม่มีใครรู้
แน่นอนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับความต้องการทางทรัพยากร อาหาร น้ำ และที่พักพิงหรือไม่ และถ้าเกี่ยวกันนั่นก็สมเหตุสมผลดี เนื่องจากในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ช้างเอเชียอาศัยอยู่ในป่านั้น มีการรบกวนของมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการกระจายตัวของที่อยู่อาศัย การสูญเสีย และการลดทรัพยากร
และยังอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของกลุ่ม โดยผู้นำกลุ่มของช้างเด็กๆและช้างที่มีอายุเหล่านี้ เป็นช้างแม่พันธุ์ตัวเมียที่มีอายุมากที่สุดและฉลาดที่สุด ซึ่งเป็นไปได้ว่าหลังจากวัยแรกรุ่น ตัวผู้อาจจะแยกตัวออกไปหรือไปรวมกลุ่มกับตัวผู้อื่นๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ จากนั้นก็เข้ามารวมตัวกับตัวเมียเพียงชั่วคราวเพื่อผสมพันธุ์ก่อนจากไปอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ฝูงนี้ออกออกเดินทางเป็นกลุ่มช้าง 16 หรือ 17 ตัว รวมทั้งตัวผู้ 3 ตัว โดยตัวผู้สองตัวแยกออกไปในอีกหนึ่งเดือนต่อมา และตัวผู้อีกหนึ่งตัวออกจากกลุ่มเมื่อต้นเดือนที่ผ่า่นมา โดย Ahimsa Campos-Arceiz ศาสตราจารย์และผู้ตรวจสอบหลักของสวนพฤกษชาติเขตร้อนสิบสองปันนากล่าวว่า
อาจเป็นเพราะอยู่ในอาณาเขตที่ไม่คุ้นเคย และจากที่เห็นเวลาที่พวกมันเดินเข้าไปในเมืองหรือหมู่บ้าน พวกมันจะเข้ามาใกล้ชิดกัน นั่นเป็นสัญญาณของความเครียด ความวิตกกังวล ถึงอย่างนั้นนักวิจัยก็แปลกใจอย่างมากเมื่อช้างตัวเมียสองตัวคลอดลูกในระหว่างการเดินทาง
ภาพกลุ่มช้างจากโดรนของจีน
Lisa Olivier จากองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่า Game Rangers International ซึ่งตั้งอยู่ในแซมเบียให้ความเห็นว่า ช้างเป็นสัตว์ที่มีนิสัยชอบใช้ชีวิตประจำวันและต้องขับเคลื่อนเป็นกิจวัตร เป็นเรื่องปกติที่พวกมันจะย้ายไปยังพื้นที่ใหม่เมื่อกำลังจะออกลูก และพยายามหาที่ที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้
และจากภาพที่มีชื่อเสียงของช้างที่นอนด้วยกันนั้นไม่ธรรมดาเช่นกัน ซึ่งโดยปกติช้างเด็กจะนอนอยู่บนพื้นและช้างใหญ่จะพิงต้นไม้หรือกองปลวก แต่พวกมันกลับนอนราบลงไป ทำให้กดดันต่อหัวใจและปอดอย่างมาก และหากมีอันตรายใดๆ เกิดขึ้น จากความใหญ่โตของพวกมันจะใช้เวลานานเกินไปที่จะลุกขึ้นได้ ดังนั้น การที่พวกมันนอนราบลงไปแสดงให้เห็นว่าพวกมันหมดแรงจริงๆ และทั้งหมดเป็นสิ่งใหม่มากสำหรับพวกมัน ทั้งนี้ การสื่อสารของพวกมันส่วนใหญ่เป็นเสียงอินฟาเรดจากการสั่นสะเทือนของเท้า
นักวิทยาศาสตร์มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า นี่ไม่ใช่การย้ายถิ่นเพราะไม่เป็นไปตามเส้นทางที่กำหนด อย่างไรก็ตาม จีนเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่ประชากรช้างเติบโตขึ้นด้วยความพยายามในการอนุรักษ์ที่กว้างขวาง และจากการปราบปรามการลักลอบล่าสัตว์อย่างหนัก ด้วยเหตุนี้ จำนวนช้างป่าในมณฑลยูนนานที่หายไป 193 ตัวในปี 1990 ในปัจจุบันกลับมาเป็นประมาณ 300 ตัว
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าช้างป่าชนิดนี้เป็นช้างป่าที่เดินทางไกลที่สุดจากแหล่งที่อยู่อาศัย
แต่การกลายเป็นเมืองและการตัดไม้ทำลายป่าทำให้แหล่งที่อยู่อาศัยของช้างลดลง ดังนั้นตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุไว้ พวกมันจะมองหาบ้านใหม่ที่มีการเข้าถึงอาหารได้ดีขึ้น ซึ่งพวกมันใช้ชีวิตส่วนใหญ่เพื่อค้นหาอาหาร 150 ถึง 200 กก.ทุกวัน
ฝูงช้างเอเชีย 15 ตัวที่เคลื่อนตัวไปทางเหนือทั่วประเทศจีนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 นี้ดึงดูดใจจีน ทุกย่างก้าวของการเดินทางได้รับการบันทึกไว้ในสื่อของรัฐ และดูเหมือนทุกที่บนโซเชียลมีเดียของจีน โลกนี้ดูเหมือนจะไม่เพียงพอสำหรับทริปของการเดินทางไปในที่ที่ไม่มีใครรู้ว่าที่ไหน แต่ที่ผิดปกติมากที่สุดคือ การที่ช้างเคลื่อนที่ในเส้นทางเป็นระยะทางหลายร้อยไมล์หรือกิโลเมตรแบบนี้ไม่ธรรมดา
จนถึงขณะนี้ ช้างอพยพเหล่านี้ไม่ได้ทำอันตรายต่อมนุษย์หรือช้าง ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้วางเหยื่อล่ออาหารและปิดถนนด้วยรถบรรทุกเพื่อเปลี่ยนเส้นทางช้างไปสู่ความปลอดภัย โดยสื่อจีนเข้าตรวจสอบกลุ่มช้างทุกวัน และฝูงสัตว์ก็กลายเป็นโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ที่สำคัญคือ ความสนใจทั้งหมดได้เพิ่มความตระหนักและความอ่อนไหวต่อชะตากรรมของช้างที่ใกล้สูญพันธุ์ในประเทศ และความสนใจทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบในวงกว้างที่จะช่วยอนุรักษ์โลก
ภาพถ่ายทางอากาศที่ถ่ายเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2021 แสดงให้เห็นฝูงช้างเอเชียในเขตจินหนิงของคุนหมิง
เมืองที่มีประชากรหนาแน่นในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน (Xinhua via Getty Images)
ตั้งแต่ปี 1986 ช้างเอเชียได้รับการระบุว่าใกล้สูญพันธุ์ในรายการแดงของ IUCN
Cr.
https://www.bbc.com/news/world-asia-china-57565514 / By Suranjana Tewari BBC News
Cr.
https://www.sixthtone.com/news/1007690/Why%2015%20Elephants%20Went%20on%20a%20500-km%20Journey%20in%20China
Cr.
https://www.newsbricks.com/world-news/migratory-elephants-china/91997 / Vignesh Subbaian
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
การเดินทางลึกลับของฝูงช้างที่ใกล้สูญพันธุ์ในประเทศจีน
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ช้างจะเคลื่อนตัวไปในระยะทางสั้นๆ แต่ฝูงช้างเหล่านี้ได้เล็ดลอดไปทั่วประเทศจีนมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว ตอนนี้ช้างได้หลงทางไปเกือบ 310 ไมล์ (500 กม.) ซึ่งเป็นช่วงระยะการเดินทางขนาดมหึมาจากถิ่นที่อยู่เดิมของพวกมัน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คิดว่าช้างเริ่มเดินทางเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วจากเขตอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งชาติสิบสองปันนา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ใกล้พรมแดนกับเมียนมาร์และลาว
มีผู้คนเคยเห็นพวกมันทุบประตูบ้าน บุกร้านค้า ขโมยอาหาร เล่นโคลน อาบน้ำในคลอง และงีบหลับกลางป่า นอกจากนี้ ยังพบเห็นพวกมันกำลังกินพืชผลและมุดเข้าบ้านของผู้คน โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พวกมันยืนต่อแถวเพื่อดื่มน้ำในลานบ้านของคน และใช้งวงเปิดก๊อกได้สำเร็จ จากนั้น พวกมันได้เริ่มย้ายไปทางใต้อีกครั้ง และถูกพบครั้งสุดท้ายในเมืองสือเจี๋ยใกล้กับเมืองหยูซี
การเคลื่อนย้ายนี้ ทำให้ช้างเป็นที่รู้จักมากที่สุดทั้งในประเทศและทั่วโลก ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าทำไมพวกมันถึงเริ่มออกเดินทางตั้งแต่แรก แล้วจะมุ่งหน้ากลับหรือไม่ หรืออะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
แน่นอนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับความต้องการทางทรัพยากร อาหาร น้ำ และที่พักพิงหรือไม่ และถ้าเกี่ยวกันนั่นก็สมเหตุสมผลดี เนื่องจากในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ช้างเอเชียอาศัยอยู่ในป่านั้น มีการรบกวนของมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการกระจายตัวของที่อยู่อาศัย การสูญเสีย และการลดทรัพยากร
และยังอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของกลุ่ม โดยผู้นำกลุ่มของช้างเด็กๆและช้างที่มีอายุเหล่านี้ เป็นช้างแม่พันธุ์ตัวเมียที่มีอายุมากที่สุดและฉลาดที่สุด ซึ่งเป็นไปได้ว่าหลังจากวัยแรกรุ่น ตัวผู้อาจจะแยกตัวออกไปหรือไปรวมกลุ่มกับตัวผู้อื่นๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ จากนั้นก็เข้ามารวมตัวกับตัวเมียเพียงชั่วคราวเพื่อผสมพันธุ์ก่อนจากไปอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ฝูงนี้ออกออกเดินทางเป็นกลุ่มช้าง 16 หรือ 17 ตัว รวมทั้งตัวผู้ 3 ตัว โดยตัวผู้สองตัวแยกออกไปในอีกหนึ่งเดือนต่อมา และตัวผู้อีกหนึ่งตัวออกจากกลุ่มเมื่อต้นเดือนที่ผ่า่นมา โดย Ahimsa Campos-Arceiz ศาสตราจารย์และผู้ตรวจสอบหลักของสวนพฤกษชาติเขตร้อนสิบสองปันนากล่าวว่า
อาจเป็นเพราะอยู่ในอาณาเขตที่ไม่คุ้นเคย และจากที่เห็นเวลาที่พวกมันเดินเข้าไปในเมืองหรือหมู่บ้าน พวกมันจะเข้ามาใกล้ชิดกัน นั่นเป็นสัญญาณของความเครียด ความวิตกกังวล ถึงอย่างนั้นนักวิจัยก็แปลกใจอย่างมากเมื่อช้างตัวเมียสองตัวคลอดลูกในระหว่างการเดินทาง
และจากภาพที่มีชื่อเสียงของช้างที่นอนด้วยกันนั้นไม่ธรรมดาเช่นกัน ซึ่งโดยปกติช้างเด็กจะนอนอยู่บนพื้นและช้างใหญ่จะพิงต้นไม้หรือกองปลวก แต่พวกมันกลับนอนราบลงไป ทำให้กดดันต่อหัวใจและปอดอย่างมาก และหากมีอันตรายใดๆ เกิดขึ้น จากความใหญ่โตของพวกมันจะใช้เวลานานเกินไปที่จะลุกขึ้นได้ ดังนั้น การที่พวกมันนอนราบลงไปแสดงให้เห็นว่าพวกมันหมดแรงจริงๆ และทั้งหมดเป็นสิ่งใหม่มากสำหรับพวกมัน ทั้งนี้ การสื่อสารของพวกมันส่วนใหญ่เป็นเสียงอินฟาเรดจากการสั่นสะเทือนของเท้า
นักวิทยาศาสตร์มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า นี่ไม่ใช่การย้ายถิ่นเพราะไม่เป็นไปตามเส้นทางที่กำหนด อย่างไรก็ตาม จีนเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่ประชากรช้างเติบโตขึ้นด้วยความพยายามในการอนุรักษ์ที่กว้างขวาง และจากการปราบปรามการลักลอบล่าสัตว์อย่างหนัก ด้วยเหตุนี้ จำนวนช้างป่าในมณฑลยูนนานที่หายไป 193 ตัวในปี 1990 ในปัจจุบันกลับมาเป็นประมาณ 300 ตัว
ฝูงช้างเอเชีย 15 ตัวที่เคลื่อนตัวไปทางเหนือทั่วประเทศจีนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 นี้ดึงดูดใจจีน ทุกย่างก้าวของการเดินทางได้รับการบันทึกไว้ในสื่อของรัฐ และดูเหมือนทุกที่บนโซเชียลมีเดียของจีน โลกนี้ดูเหมือนจะไม่เพียงพอสำหรับทริปของการเดินทางไปในที่ที่ไม่มีใครรู้ว่าที่ไหน แต่ที่ผิดปกติมากที่สุดคือ การที่ช้างเคลื่อนที่ในเส้นทางเป็นระยะทางหลายร้อยไมล์หรือกิโลเมตรแบบนี้ไม่ธรรมดา
จนถึงขณะนี้ ช้างอพยพเหล่านี้ไม่ได้ทำอันตรายต่อมนุษย์หรือช้าง ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้วางเหยื่อล่ออาหารและปิดถนนด้วยรถบรรทุกเพื่อเปลี่ยนเส้นทางช้างไปสู่ความปลอดภัย โดยสื่อจีนเข้าตรวจสอบกลุ่มช้างทุกวัน และฝูงสัตว์ก็กลายเป็นโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ที่สำคัญคือ ความสนใจทั้งหมดได้เพิ่มความตระหนักและความอ่อนไหวต่อชะตากรรมของช้างที่ใกล้สูญพันธุ์ในประเทศ และความสนใจทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบในวงกว้างที่จะช่วยอนุรักษ์โลก
Cr.https://www.sixthtone.com/news/1007690/Why%2015%20Elephants%20Went%20on%20a%20500-km%20Journey%20in%20China
Cr.https://www.newsbricks.com/world-news/migratory-elephants-china/91997 / Vignesh Subbaian
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)