ตามหัวข้อด้านบนเลยค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าแฟนน้องชายเราคนนี้มีเหตุให้ต้องออกเรียนเพราะที่บ้านไม่ค่อยมีเงิน ฝืนเรียนไปก็กลัวจะไม่รอดเพราะทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายหมด
สาเหตุที่เรารู้เพราะแฟนน้องชายมาขอยืมเงินเรา เราก็เลยถามว่าเป็นไงบ้างน้องเลยเล่าให้ฟัง เราก็เลยรู้ว่าชีวิตน้องน่าสงสารเราก็เลยถามถ้าไม่เรียนแล้วจะทำไร น้องก็บอกอยากทำงานอยากมีเงินใช้ เพราะอยู่แบบนี้ก็ไม่มีเงิน เราเลยปรึกษาแม่เราปรึกษาแฟนว่าจะให้น้องลงมาทำงานกับเราที่ต่างจังหวัดดีไหม
เพราะแถวๆที่ทำงานเรา งานก็ค่อนข้างเยอะ รายได้ต่อเดือนก็ไม่น่าเกลียดถ้าขยันทำโอที เราเลยตัดสินใจชวน น้องก็สนใจและบอกจะขอมาอยู่กับเราก่อนได้ไหม มีเงินสักนิดจะออกไปหาห้องอยู่เอง เราก็บอกได้สิด้วยความสงสารและความคาดหวังว่าอยากเห็นเด็กคนนึงมีอนาคตที่ดี จึงช่วยเหลือทุกอย่าง
แม้กระทั่งค่ารถไปขนของกลับจากหอ ค่ารถลงมาหางานทำ ค่ากินค่าอยู่ รวมๆ 1 หมื่นบาทที่น้องขอยืมเราไป (ซึ่งพ่อแม่น้องไม่เคยยื่นมือมาช่วยเลย มีแต่โทรมาขอเงิน)
พอลงมาเราก็พาน้องหางาน จนได้งานพอเริ่มงานน้องก็ไปทำงานปกติ วันที่ 2 ขอลางานบอกปวดหัว ทำงานไม่ไหว เราก็ไม่อะไรก็คงคิดว่าเป็นจริง
แต่เพิ่งเริ่มงานกลัวเขาจะว่าเอา อยู่มาๆๆๆ อาทิตย์ที่ 2 เข้างานกะดึก บอกวันนี้ขอลาปวดฟันเราก็แบบ เห้ยยยย ทำงานได้ 2 อาทิตย์ลา 2 ครั้งมันใช่หรอวะ
ไม่รู้ปวดจริงปวดปลอมแต่ก้อเห็นคุยโทรศัพย์กะน้องชายเราปกติเลย เราเริ่มไม่พอใจแล้ว คือเราคิดว่าน้องมันจะมีความอดทนกว่านี้ ด้วยความที่ว่าบ้านน้องไม่ค่อยมีก็ต้องดิ้นรนกว่าคนอื่นไหมแต่ไม่ น้องดูชิวมากไม่เหมือนตอนที่คุยแชทก่อนตอนที่อยากลงมา น้องบอกทำอะไรก็ได้ขอแค่ให้ได้เงิน เหนื่อยแค่ไหนก็จะสู้ เราก็ไม่รู้จะว่าไง เราไม่คุยด้วย 2 วัน เราจึงทักไปบอกน้องชายเราว่าบอกแฟนอย่าขาดงานบ่อย น้องชายเราก็ว่าเรื่องแค่นี้จะอะไรนักหนาก็คงเอาไปคุยกันว่าเราแหละ หลังจากนั้นแฟนเราก็เรียกมาปรับทัศนคติทั้ง 2 คน ทั้งเราและน้องเพราะไม่คุยกัน ก็คุยกันน้องก็บอกต่อไปนี้จะไม่ลางานแล้วถ้าไปไหวก็จะไป
ต่อมาๆๆๆ อาทิตย์ที่ 4 น้องก็ลางานอีก บอกนอนไม่พอ ปวดหัวกลัวไปทำงานไม่ไหว ที่นอนไม่พอเรารู้ว่าเพราะห่วงแต่คุยโทรศัพย์ ไม่ยอมนอน เราก็ไม่ได้ว่าอะไรคิดว่าแล้วแต่น้องเลย เอาที่คิดว่าเหมาะสม
พอเราไม่พูดไม่อะไร น้องก็เหมือนโนสนโนแคร์ งานบ้านงานเรือนไม่เคยช่วยเราหยิบจับเลย ปกติเราจะทำกับข้าวกินน้องก็กินด้วย น้องไม่เคยมาถามให้ช่วยไรไหม ไม่เคยเลย เราทำงานบ้านน้องก็นอนกระดิกเท้า น้ำไม่เคยกรอก จานกินแล้วก็แช่ ขยะไม่เคยเอาไปทิ้ง ไม่บอกอะไรก็ไม่ทำ
ด้วยความที่เราเป็นคนค่อนข้างเจ้าระเบียบ เรามาเจอแบบนี้เราก็ไม่ไหว จะให้เราบอกเราสอนอะไรในเมื่อก็โตๆกันแล้วมันก็ควรคิดได้ไหมเรื่องแบบนี้
เราเลยทักไปบอกน้องชายเราอีก ว่าบอกแฟนช่วยพี่ทำงานบ้านหน่อย น้องเราก็คงไปบอกแฟนน้องเราเลยทักมาบอกเราว่า สิ้นเดือนนี้จะย้ายไปอยู่ข้างนอก เพื่อความสบายใจทั้ง 2 เราก็เลยบอกว่าไปเถอะเผื่อน้องจะได้สบายใจมากขึ้นอยู่กับพี่ก็อึดอัด ส่วนเงินที่ยืมพี่ไปมีค่อยทยอยคืน เราก็ว่าไปงี้
พอเลิกงานเราไปรับกลับห้อง น้องไม่คุยกับเรา เหวี่ยงๆใส่เรา เราเลยถามจะออกไปอยู่ข้างนอกใช่ไหมแล้วรถมอไซละ จะเอาลงมาตอนไหน
ถ้าไม่มีรถจะอยู่ยังไง เราพยายามคุยด้วยน้องไม่คุยกับเรา ถามคำตอบคำ รู้ได้ว่าไม่อยากคุย เราก็เลยบอกจะเอาแบบนี้ก็ได้ คราวนี้แฟนเราก็ไปเคลียร์ให้อีก บอกน้องมาคุยกับเราให้รู้เรื่องจะเอายังไง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะมองหน้ากันไม่ติด น้องก็บอกมีไรก็บอกจะไปบอกคนอื่นทำไม อยู่ด้วยกันก็บอกกันสิเราเลยถามมันต้องบอกทุกรื่องขนาดนี้เลยหรอ น้องก็บอกว่าน้องไม่เคยทำอะไรเองมีแต่พ่อแม่ทำให้ แล้วอีกอย่างน้องมันก็เป็นคนไม่ค่อยพูด พูดไม่เก่ง บางครั้งพูดจาอะไรไปก็ไม่ค่อยถูกใจใครหรอก มีไรให้บอก จิงๆก็ไม่ได้อยากจะออกไปอยู่ข้างนอกหรอก เพราะเงินก็ยังไม่พร้อมเพิ่งทำงานได้เดือนเดียว
เราก็หมดคำจะพูดเราก็ไม่พูดอะไร เราจุกมาก จุกที่เราเอาอะไรมาอยู่ด้วยเนี่ย เราอุตส่าสงสารแต่มาเจอแบบนี้ ไปต่อไม่ไหว เข็ดจนตายเลย
ตอนนี้น้องก็ยังไม่ได้ออกไปอยู่ข้างนอก ถึงตอนนี้จะเคลียร์ใจกันแล้วแต่ความรู้สึกที่เรามีต่อน้องมันหมดไปแล้ว เกือบจะถึงขั้นที่เกลียดได้เลย
เราเสียใจที่เราช่วยผิดคนจะว่าอย่างงั้นก็ได้ ช่วงที่มาอยู่กับเราเราพยายามทำดีกับน้องทุกอย่าง ไปรับไปส่งขึ้นรถไปทำงาน กับข้าวกับน้ำไม่เคยให้ช่วยออกค่าอะไรเลย กลับกลายเป็นเราไม่ดีแหละในสายตาเขา ตอนนี้บอกตรงๆก็ยังอึดอัดอยู่ด้วยกันเจอหน้ากัน ยังรู้สึกยังไงไม่รู้
เราควรทำไงดีคะ
แฟนน้องชายมาขออาศัยอยู่ด้วย อยู่ไปอยู่มาทะเลาะกัน ใจนึงก็อยากให้น้องออกไปอยู่คนเดียวแต่อีกใจนึงก็เป็นห่วง
เรื่องมีอยู่ว่าแฟนน้องชายเราคนนี้มีเหตุให้ต้องออกเรียนเพราะที่บ้านไม่ค่อยมีเงิน ฝืนเรียนไปก็กลัวจะไม่รอดเพราะทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายหมด
สาเหตุที่เรารู้เพราะแฟนน้องชายมาขอยืมเงินเรา เราก็เลยถามว่าเป็นไงบ้างน้องเลยเล่าให้ฟัง เราก็เลยรู้ว่าชีวิตน้องน่าสงสารเราก็เลยถามถ้าไม่เรียนแล้วจะทำไร น้องก็บอกอยากทำงานอยากมีเงินใช้ เพราะอยู่แบบนี้ก็ไม่มีเงิน เราเลยปรึกษาแม่เราปรึกษาแฟนว่าจะให้น้องลงมาทำงานกับเราที่ต่างจังหวัดดีไหม
เพราะแถวๆที่ทำงานเรา งานก็ค่อนข้างเยอะ รายได้ต่อเดือนก็ไม่น่าเกลียดถ้าขยันทำโอที เราเลยตัดสินใจชวน น้องก็สนใจและบอกจะขอมาอยู่กับเราก่อนได้ไหม มีเงินสักนิดจะออกไปหาห้องอยู่เอง เราก็บอกได้สิด้วยความสงสารและความคาดหวังว่าอยากเห็นเด็กคนนึงมีอนาคตที่ดี จึงช่วยเหลือทุกอย่าง
แม้กระทั่งค่ารถไปขนของกลับจากหอ ค่ารถลงมาหางานทำ ค่ากินค่าอยู่ รวมๆ 1 หมื่นบาทที่น้องขอยืมเราไป (ซึ่งพ่อแม่น้องไม่เคยยื่นมือมาช่วยเลย มีแต่โทรมาขอเงิน)
พอลงมาเราก็พาน้องหางาน จนได้งานพอเริ่มงานน้องก็ไปทำงานปกติ วันที่ 2 ขอลางานบอกปวดหัว ทำงานไม่ไหว เราก็ไม่อะไรก็คงคิดว่าเป็นจริง
แต่เพิ่งเริ่มงานกลัวเขาจะว่าเอา อยู่มาๆๆๆ อาทิตย์ที่ 2 เข้างานกะดึก บอกวันนี้ขอลาปวดฟันเราก็แบบ เห้ยยยย ทำงานได้ 2 อาทิตย์ลา 2 ครั้งมันใช่หรอวะ
ไม่รู้ปวดจริงปวดปลอมแต่ก้อเห็นคุยโทรศัพย์กะน้องชายเราปกติเลย เราเริ่มไม่พอใจแล้ว คือเราคิดว่าน้องมันจะมีความอดทนกว่านี้ ด้วยความที่ว่าบ้านน้องไม่ค่อยมีก็ต้องดิ้นรนกว่าคนอื่นไหมแต่ไม่ น้องดูชิวมากไม่เหมือนตอนที่คุยแชทก่อนตอนที่อยากลงมา น้องบอกทำอะไรก็ได้ขอแค่ให้ได้เงิน เหนื่อยแค่ไหนก็จะสู้ เราก็ไม่รู้จะว่าไง เราไม่คุยด้วย 2 วัน เราจึงทักไปบอกน้องชายเราว่าบอกแฟนอย่าขาดงานบ่อย น้องชายเราก็ว่าเรื่องแค่นี้จะอะไรนักหนาก็คงเอาไปคุยกันว่าเราแหละ หลังจากนั้นแฟนเราก็เรียกมาปรับทัศนคติทั้ง 2 คน ทั้งเราและน้องเพราะไม่คุยกัน ก็คุยกันน้องก็บอกต่อไปนี้จะไม่ลางานแล้วถ้าไปไหวก็จะไป
ต่อมาๆๆๆ อาทิตย์ที่ 4 น้องก็ลางานอีก บอกนอนไม่พอ ปวดหัวกลัวไปทำงานไม่ไหว ที่นอนไม่พอเรารู้ว่าเพราะห่วงแต่คุยโทรศัพย์ ไม่ยอมนอน เราก็ไม่ได้ว่าอะไรคิดว่าแล้วแต่น้องเลย เอาที่คิดว่าเหมาะสม
พอเราไม่พูดไม่อะไร น้องก็เหมือนโนสนโนแคร์ งานบ้านงานเรือนไม่เคยช่วยเราหยิบจับเลย ปกติเราจะทำกับข้าวกินน้องก็กินด้วย น้องไม่เคยมาถามให้ช่วยไรไหม ไม่เคยเลย เราทำงานบ้านน้องก็นอนกระดิกเท้า น้ำไม่เคยกรอก จานกินแล้วก็แช่ ขยะไม่เคยเอาไปทิ้ง ไม่บอกอะไรก็ไม่ทำ
ด้วยความที่เราเป็นคนค่อนข้างเจ้าระเบียบ เรามาเจอแบบนี้เราก็ไม่ไหว จะให้เราบอกเราสอนอะไรในเมื่อก็โตๆกันแล้วมันก็ควรคิดได้ไหมเรื่องแบบนี้
เราเลยทักไปบอกน้องชายเราอีก ว่าบอกแฟนช่วยพี่ทำงานบ้านหน่อย น้องเราก็คงไปบอกแฟนน้องเราเลยทักมาบอกเราว่า สิ้นเดือนนี้จะย้ายไปอยู่ข้างนอก เพื่อความสบายใจทั้ง 2 เราก็เลยบอกว่าไปเถอะเผื่อน้องจะได้สบายใจมากขึ้นอยู่กับพี่ก็อึดอัด ส่วนเงินที่ยืมพี่ไปมีค่อยทยอยคืน เราก็ว่าไปงี้
พอเลิกงานเราไปรับกลับห้อง น้องไม่คุยกับเรา เหวี่ยงๆใส่เรา เราเลยถามจะออกไปอยู่ข้างนอกใช่ไหมแล้วรถมอไซละ จะเอาลงมาตอนไหน
ถ้าไม่มีรถจะอยู่ยังไง เราพยายามคุยด้วยน้องไม่คุยกับเรา ถามคำตอบคำ รู้ได้ว่าไม่อยากคุย เราก็เลยบอกจะเอาแบบนี้ก็ได้ คราวนี้แฟนเราก็ไปเคลียร์ให้อีก บอกน้องมาคุยกับเราให้รู้เรื่องจะเอายังไง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะมองหน้ากันไม่ติด น้องก็บอกมีไรก็บอกจะไปบอกคนอื่นทำไม อยู่ด้วยกันก็บอกกันสิเราเลยถามมันต้องบอกทุกรื่องขนาดนี้เลยหรอ น้องก็บอกว่าน้องไม่เคยทำอะไรเองมีแต่พ่อแม่ทำให้ แล้วอีกอย่างน้องมันก็เป็นคนไม่ค่อยพูด พูดไม่เก่ง บางครั้งพูดจาอะไรไปก็ไม่ค่อยถูกใจใครหรอก มีไรให้บอก จิงๆก็ไม่ได้อยากจะออกไปอยู่ข้างนอกหรอก เพราะเงินก็ยังไม่พร้อมเพิ่งทำงานได้เดือนเดียว
เราก็หมดคำจะพูดเราก็ไม่พูดอะไร เราจุกมาก จุกที่เราเอาอะไรมาอยู่ด้วยเนี่ย เราอุตส่าสงสารแต่มาเจอแบบนี้ ไปต่อไม่ไหว เข็ดจนตายเลย
ตอนนี้น้องก็ยังไม่ได้ออกไปอยู่ข้างนอก ถึงตอนนี้จะเคลียร์ใจกันแล้วแต่ความรู้สึกที่เรามีต่อน้องมันหมดไปแล้ว เกือบจะถึงขั้นที่เกลียดได้เลย
เราเสียใจที่เราช่วยผิดคนจะว่าอย่างงั้นก็ได้ ช่วงที่มาอยู่กับเราเราพยายามทำดีกับน้องทุกอย่าง ไปรับไปส่งขึ้นรถไปทำงาน กับข้าวกับน้ำไม่เคยให้ช่วยออกค่าอะไรเลย กลับกลายเป็นเราไม่ดีแหละในสายตาเขา ตอนนี้บอกตรงๆก็ยังอึดอัดอยู่ด้วยกันเจอหน้ากัน ยังรู้สึกยังไงไม่รู้
เราควรทำไงดีคะ