กลุ่มคนงานวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่ ไม่มีใครสักคนที่สังเกตเห็นว่าดวงตาของปวงเทพฉายแววบางอย่าง หน้าเขาซีดขาวราวกับกระดาษ
นอกจากเด่นที่บังเอิญเห็นทันพอดี
“ดูนี่สิ รอยเลื้อยมันยาวไปถึงตรงลำธารโน้น” คนงานคนหนี่งตั้งข้อสังเกตพลางชี้มือ
ทุกคนมองตามแล้วแสดงสีหน้ากังวลไปตามๆกัน เด่นหันมามองปวงเทพแล้วออกความเห็นอย่างเกรงใจ
“เห็นท่าจะเอาไว้ไม่ได้แล้วล่ะครับ คุณเทพ ตัวใหญ่อย่างนี้กินวัวได้สบาย และอาจจะรวมถึงพวกเราคนใดคนหนึ่งด้วย ผมจะระดมพวกล่ามันเอง”
ปวงเทพกลืนน้ำลายลงคอ ฝืนยิ้มขึ้นอย่างยากเย็น ยกมือขึ้นตบบ่าเด่น
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการให้เอง พวกพี่ๆไม่ต้องลำบาก เรียกกู้ภัยหรือสถานเสาวภามาก็เรียบร้อย อ้า ในกรณีที่เป็นงูจริงนะ”
เด่นมองหน้าปวงเทพแล้วสงสัยในกริยากลบเกลื่อนของชายหนุ่ม แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะไม่แสดงอาการอะไรออกมา เขาเสทำมองนาฬิกาแล้วพูดว่า
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวพวกผมขอตัวไปกินข้าวเช้ากันก่อนเข้างาน วันนี้คุณเทพจะเข้าไซด์งานไหมครับ”
“ไปครับ แต่คงเป็นช่วงบ่ายๆ ตอนเช้าๆผมขอไปเคลียร์งานที่บ้านเรือนไทยของคุณนายต้องตาก่อน ฝากดูแลด้วยนะครับพี่เด่น”
“ครับ ไม่ต้องห่วง” แล้วเด่นก็เดินไปรวมกลุ่มกับบรรดาคนงานที่รออยู่แล้ว พากันชักชวนไปโรงอาหาร ทิ้งให้ปวงเทพจมความคิดของตัวเองเพียงลำพัง
“เธอ” ปวงเทพรำพึงกับตัวเอง แต่แล้วความคิดก็ต้องสะดุดลงเมื่อมีโทรศัพท์เข้า เป็นคุณสมยศผู้จัดการรีสอร์ต โทรมาถามความเรียบร้อยทั่วๆ ไปเพราะแกบอกว่าวันนี้แกอาจไม่เข้ามาจนเย็น เพราะต้องไปทำธุระบางอย่างให้คุณนายต้องตา เศรษฐีนีเจ้าของรีสอร์ตและสังหาและอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งจนนับไม่หวาดไม่ไหว
หลังจากเสร็จการสนทนา ปวงเทพก็รีบไปทำธุระส่วนตัวก่อนไปทำงานตามที่ถูกฝากฝัง
ปวงเทพมาถึงเรือนไทยแฝดหลังนั้น หลังจากกำชับบรรดานายช่างแล้วก็เดินลงเรือนมาตรวจดูเพื่อความมั่นใจอีกทีรอบๆเรือน ขณะที่เขากำลังสำรวจดูทุกจุดอย่างละเอียดรอบคอบ ก็เห็นร่างของใครแว่บๆเดินอยู่ในสวนพฤกษา
ชายหนุ่มตามไปดูด้วยความสงสัย เพราะคุณสมยศไม่อนุญาตให้คนอื่นนอกเหนือจาก คนที่ได้รับการมอบหมายให้ทำงานเข้ามาเดินยุ่มย่าม เนื่องจากเป็นสถานที่ส่วนตัว
แล้วเขาเห็นร่างด้านหลังของผู้หญิงคนหนึ่งทิ้งผมยาวดกดำที่มัดเรียบร้อยลงปิดต้นคอ เธออยู่ในเสื้อขาวกระโปรงยาวสีครีมแบบเรียบๆ รูปร่างของเธอค่อนข้างผอมแต่ไม่ถึงขนาดเนื้อติดกระดูก ผู้หญิงคนนี้กำลังเดินทอดน่องเอื่อยๆเหมือนมองดูรอบๆไปเรื่อยๆ
“คุณครับ” ปวงเทพส่งเสียงเรียก ผู้หญิงคนนั้นได้ยินก็ค่อยๆหันร่างมา หน้าตาถึงแม้ไม่เรียกว่าสวยจัด แต่วงหน้าและองคาพยพถือว่ารับกันอย่างหมดจด ที่โดดเด่นคือดวงตาทั้งคู่ที่สวยสดแม้ว่าจะดูหม่นหมองบ้างก็ตาม
ชายหนุ่มหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นอย่างสุภาพ
“ขอโทษครับน้อง ที่ตรงนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสถานที่ให้เยี่ยมชม คือยังอยู่ในช่วงบูรณะอยู่ พี่ต้องขอเชิญน้องออกไปก่อนนะครับ จุดสวยๆมีให้ดูเยอะแยะ ถ้าน้องไปไม่ถูกเดี๋ยวพี่จะเรียกพนักงานผู้หญิงพาไป”
หญิงสาวคนนั้นมองปวงเทพอย่างอย่างงุนงงในทีแรก หลังจากเห็นท่าทีของเขา ที่มุมปากของเธอก็ปรากฎรอยยิ้มน้อยๆขึ้น พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพไพเราะ
“ต้องขอโทษด้วยค่ะ ดิฉันไม่เคยรู้มาก่อน ถือวิสาสะเดินชมอยู่นานเลย ดิฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ และขอโทษด้วยในความไม่สะดวก” อยู่ๆปวงเทพก็รู้สึกเหมือนตัวเองผิดขึ้นมา เขารีบล้วงโทรศัพท์มือออกมาแล้วบอกกับหญิงสาวข้างหน้าว่า
“ผมจะโทรเรียกพนักงานต้อนรับมาพาน้องไปชมสถานที่เดี๋ยวนี้แหละครับ ได้โปรดรอสักครู่”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มละมุม เสริมให้ใบหน้าเธอน่าเพ่งพิศยิ่งขึ้น
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เกรงใจ ดิฉันพอจะรู้จักสถานที่อยู่บ้าง”
“อ๋อ คุณท่าจะเคยมาที่นี้แล้ว” จากคำพูดของหญิงสาวทำให้ปวงเทพเข้าใจไปอย่างนั้น แต่สีหน้าของหญิงกลับมีแววหวนระลึก แล้วพูดเหมือนกับรำพึงกับตัวเองมากกว่าที่จะตอบคำถาม
“ดิฉันเคยมาสองครั้งค่ะ แต่ว่านานมากแล้ว ก่อนที่ดิฉันจะ....เอ่อ”
เสียงวิ่งกระหืดกระหอบของใครบางคนกำลังวิ่งมาทางนี้ ทั้งคู่หันไปมองก็เจอคุณสมยศเจ้าของร่างอ้วนฉุกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางนี้ ในมือหอบแฟ้มอะไรอยู่อีรุงตุงนัง
“อ้าว ปวงเทพอยู่นี้เองหรือ เมื่อกี้ผมไปหาคุณที่เรือนไทยแล้วไม่เจอ” ตาคุณสมยศอาจจะพร่าเลือนด้วยเม็ดเหงื่อหยดลงเข้าตา ทำให้ไม่ทันเห็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆชายหนุ่ม
“เมื่อกี้ผมไปรับคุณนายต้องตาที่บ้านตามนัด เธอนัดกับผมจะมาตรวจรีสอร์ตวันนี้ แต่พอผมไปถึง คนที่บ้านบอกว่าเธอเดินทางมาที่รีสอร์ตแล้ว ตายล่ะ เธอต้องโกธรแน่ๆ ผมก็ว่าผมไม่ได้ผิดเวลาสักหน่อย”
ท่าทางคุณสมยศอาจจะรีบมาอย่างฉุกละหุก พอพูดจบก็เลยยืนหอบ ปวงเทพนิ่งไป เพราะยังจับใจความไม่ได้ทั้งหมด
“ดิฉันไม่โกรธคุณสมยศหรอกค่ะ คิดว่าคุณสมยศกำลังวุ่นอยู่กับเรื่องสำนักงานที่มาขอเช่าตึก ตามที่ดิฉันไหว้วาน เลยคิดว่าจะมาด้วยตัวเอง ขอโทษด้วยค่ะที่ไม่ได้โทรไปบอกก่อน”
เป็นเสียงของผู้หญิงที่ปวงเทพเพิ่งเจอมาเมื่อสักครู่นั่นเอง ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังยืนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกนั้น เป็นจังหวะที่คุณสมยศเห็นเธอก็รีบทักเธออย่างนอบน้อม
“อ้าวคุณนาย ขอโทษทีผมไม่ทันเห็น มานานแล้วหรือครับ ผมไปหาที่บ้านแล้วไม่เจอ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ผู้หญิงที่ชื่อต้องตาขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนจะเหลือบตาไปมองปวงเทพที่กำลังยืนเซ่ออยู่ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขันปนล้อเลียน
“พอดีได้พี่ปวงเทพ เขาดูแลต้อนรับดิฉันอยู่”
ได้ยินเข้าคุณสมยศถึงกับยืนตะลึง พอสมองสั่งงาน เขาก็ร้องอุทานในใจ
“Chip หายแล้ว คุณนายปีนี้อายุสามสิบหก แต่หน้ายังดูอ่อนวัยอยู่เหมือนสาวรุ่นๆ ส่วนเจ้าเทพในใบสมัครงานมันอายุยี่สิบห้า มันคงซื่อจนเซ่อดูไม่ออก ไปทักคุณนายว่าน้อง”
นารีอุปถัมภ์ตอนที่สาม(Furryjit)
กลุ่มคนงานวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่ ไม่มีใครสักคนที่สังเกตเห็นว่าดวงตาของปวงเทพฉายแววบางอย่าง หน้าเขาซีดขาวราวกับกระดาษ
นอกจากเด่นที่บังเอิญเห็นทันพอดี
“ดูนี่สิ รอยเลื้อยมันยาวไปถึงตรงลำธารโน้น” คนงานคนหนี่งตั้งข้อสังเกตพลางชี้มือ
ทุกคนมองตามแล้วแสดงสีหน้ากังวลไปตามๆกัน เด่นหันมามองปวงเทพแล้วออกความเห็นอย่างเกรงใจ
“เห็นท่าจะเอาไว้ไม่ได้แล้วล่ะครับ คุณเทพ ตัวใหญ่อย่างนี้กินวัวได้สบาย และอาจจะรวมถึงพวกเราคนใดคนหนึ่งด้วย ผมจะระดมพวกล่ามันเอง”
ปวงเทพกลืนน้ำลายลงคอ ฝืนยิ้มขึ้นอย่างยากเย็น ยกมือขึ้นตบบ่าเด่น
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการให้เอง พวกพี่ๆไม่ต้องลำบาก เรียกกู้ภัยหรือสถานเสาวภามาก็เรียบร้อย อ้า ในกรณีที่เป็นงูจริงนะ”
เด่นมองหน้าปวงเทพแล้วสงสัยในกริยากลบเกลื่อนของชายหนุ่ม แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะไม่แสดงอาการอะไรออกมา เขาเสทำมองนาฬิกาแล้วพูดว่า
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวพวกผมขอตัวไปกินข้าวเช้ากันก่อนเข้างาน วันนี้คุณเทพจะเข้าไซด์งานไหมครับ”
“ไปครับ แต่คงเป็นช่วงบ่ายๆ ตอนเช้าๆผมขอไปเคลียร์งานที่บ้านเรือนไทยของคุณนายต้องตาก่อน ฝากดูแลด้วยนะครับพี่เด่น”
“ครับ ไม่ต้องห่วง” แล้วเด่นก็เดินไปรวมกลุ่มกับบรรดาคนงานที่รออยู่แล้ว พากันชักชวนไปโรงอาหาร ทิ้งให้ปวงเทพจมความคิดของตัวเองเพียงลำพัง
“เธอ” ปวงเทพรำพึงกับตัวเอง แต่แล้วความคิดก็ต้องสะดุดลงเมื่อมีโทรศัพท์เข้า เป็นคุณสมยศผู้จัดการรีสอร์ต โทรมาถามความเรียบร้อยทั่วๆ ไปเพราะแกบอกว่าวันนี้แกอาจไม่เข้ามาจนเย็น เพราะต้องไปทำธุระบางอย่างให้คุณนายต้องตา เศรษฐีนีเจ้าของรีสอร์ตและสังหาและอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งจนนับไม่หวาดไม่ไหว
หลังจากเสร็จการสนทนา ปวงเทพก็รีบไปทำธุระส่วนตัวก่อนไปทำงานตามที่ถูกฝากฝัง
ปวงเทพมาถึงเรือนไทยแฝดหลังนั้น หลังจากกำชับบรรดานายช่างแล้วก็เดินลงเรือนมาตรวจดูเพื่อความมั่นใจอีกทีรอบๆเรือน ขณะที่เขากำลังสำรวจดูทุกจุดอย่างละเอียดรอบคอบ ก็เห็นร่างของใครแว่บๆเดินอยู่ในสวนพฤกษา
ชายหนุ่มตามไปดูด้วยความสงสัย เพราะคุณสมยศไม่อนุญาตให้คนอื่นนอกเหนือจาก คนที่ได้รับการมอบหมายให้ทำงานเข้ามาเดินยุ่มย่าม เนื่องจากเป็นสถานที่ส่วนตัว
แล้วเขาเห็นร่างด้านหลังของผู้หญิงคนหนึ่งทิ้งผมยาวดกดำที่มัดเรียบร้อยลงปิดต้นคอ เธออยู่ในเสื้อขาวกระโปรงยาวสีครีมแบบเรียบๆ รูปร่างของเธอค่อนข้างผอมแต่ไม่ถึงขนาดเนื้อติดกระดูก ผู้หญิงคนนี้กำลังเดินทอดน่องเอื่อยๆเหมือนมองดูรอบๆไปเรื่อยๆ
“คุณครับ” ปวงเทพส่งเสียงเรียก ผู้หญิงคนนั้นได้ยินก็ค่อยๆหันร่างมา หน้าตาถึงแม้ไม่เรียกว่าสวยจัด แต่วงหน้าและองคาพยพถือว่ารับกันอย่างหมดจด ที่โดดเด่นคือดวงตาทั้งคู่ที่สวยสดแม้ว่าจะดูหม่นหมองบ้างก็ตาม
ชายหนุ่มหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นอย่างสุภาพ
“ขอโทษครับน้อง ที่ตรงนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสถานที่ให้เยี่ยมชม คือยังอยู่ในช่วงบูรณะอยู่ พี่ต้องขอเชิญน้องออกไปก่อนนะครับ จุดสวยๆมีให้ดูเยอะแยะ ถ้าน้องไปไม่ถูกเดี๋ยวพี่จะเรียกพนักงานผู้หญิงพาไป”
หญิงสาวคนนั้นมองปวงเทพอย่างอย่างงุนงงในทีแรก หลังจากเห็นท่าทีของเขา ที่มุมปากของเธอก็ปรากฎรอยยิ้มน้อยๆขึ้น พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพไพเราะ
“ต้องขอโทษด้วยค่ะ ดิฉันไม่เคยรู้มาก่อน ถือวิสาสะเดินชมอยู่นานเลย ดิฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ และขอโทษด้วยในความไม่สะดวก” อยู่ๆปวงเทพก็รู้สึกเหมือนตัวเองผิดขึ้นมา เขารีบล้วงโทรศัพท์มือออกมาแล้วบอกกับหญิงสาวข้างหน้าว่า
“ผมจะโทรเรียกพนักงานต้อนรับมาพาน้องไปชมสถานที่เดี๋ยวนี้แหละครับ ได้โปรดรอสักครู่”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มละมุม เสริมให้ใบหน้าเธอน่าเพ่งพิศยิ่งขึ้น
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เกรงใจ ดิฉันพอจะรู้จักสถานที่อยู่บ้าง”
“อ๋อ คุณท่าจะเคยมาที่นี้แล้ว” จากคำพูดของหญิงสาวทำให้ปวงเทพเข้าใจไปอย่างนั้น แต่สีหน้าของหญิงกลับมีแววหวนระลึก แล้วพูดเหมือนกับรำพึงกับตัวเองมากกว่าที่จะตอบคำถาม
“ดิฉันเคยมาสองครั้งค่ะ แต่ว่านานมากแล้ว ก่อนที่ดิฉันจะ....เอ่อ”
เสียงวิ่งกระหืดกระหอบของใครบางคนกำลังวิ่งมาทางนี้ ทั้งคู่หันไปมองก็เจอคุณสมยศเจ้าของร่างอ้วนฉุกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางนี้ ในมือหอบแฟ้มอะไรอยู่อีรุงตุงนัง
“อ้าว ปวงเทพอยู่นี้เองหรือ เมื่อกี้ผมไปหาคุณที่เรือนไทยแล้วไม่เจอ” ตาคุณสมยศอาจจะพร่าเลือนด้วยเม็ดเหงื่อหยดลงเข้าตา ทำให้ไม่ทันเห็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆชายหนุ่ม
“เมื่อกี้ผมไปรับคุณนายต้องตาที่บ้านตามนัด เธอนัดกับผมจะมาตรวจรีสอร์ตวันนี้ แต่พอผมไปถึง คนที่บ้านบอกว่าเธอเดินทางมาที่รีสอร์ตแล้ว ตายล่ะ เธอต้องโกธรแน่ๆ ผมก็ว่าผมไม่ได้ผิดเวลาสักหน่อย”
ท่าทางคุณสมยศอาจจะรีบมาอย่างฉุกละหุก พอพูดจบก็เลยยืนหอบ ปวงเทพนิ่งไป เพราะยังจับใจความไม่ได้ทั้งหมด
“ดิฉันไม่โกรธคุณสมยศหรอกค่ะ คิดว่าคุณสมยศกำลังวุ่นอยู่กับเรื่องสำนักงานที่มาขอเช่าตึก ตามที่ดิฉันไหว้วาน เลยคิดว่าจะมาด้วยตัวเอง ขอโทษด้วยค่ะที่ไม่ได้โทรไปบอกก่อน”
เป็นเสียงของผู้หญิงที่ปวงเทพเพิ่งเจอมาเมื่อสักครู่นั่นเอง ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังยืนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกนั้น เป็นจังหวะที่คุณสมยศเห็นเธอก็รีบทักเธออย่างนอบน้อม
“อ้าวคุณนาย ขอโทษทีผมไม่ทันเห็น มานานแล้วหรือครับ ผมไปหาที่บ้านแล้วไม่เจอ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ผู้หญิงที่ชื่อต้องตาขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนจะเหลือบตาไปมองปวงเทพที่กำลังยืนเซ่ออยู่ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขันปนล้อเลียน
“พอดีได้พี่ปวงเทพ เขาดูแลต้อนรับดิฉันอยู่”
ได้ยินเข้าคุณสมยศถึงกับยืนตะลึง พอสมองสั่งงาน เขาก็ร้องอุทานในใจ
“Chip หายแล้ว คุณนายปีนี้อายุสามสิบหก แต่หน้ายังดูอ่อนวัยอยู่เหมือนสาวรุ่นๆ ส่วนเจ้าเทพในใบสมัครงานมันอายุยี่สิบห้า มันคงซื่อจนเซ่อดูไม่ออก ไปทักคุณนายว่าน้อง”