ชายผู้ที่ถือไม้กางเขน (ขนาด3.50เมตร) เดินไปมาแล้วกว่า 324 ดินแดน ทั่วโลกจนได้ขึ้น Guinness World Records
Arthur Owen Blessitt
ชายที่เดินถือไม้กางเขน ขนาด3.50เมตร ไปทั่วโลก เพื่อเผยแพร่ ศาสนา จนได้บันทึกไว้ใน Guinness Book of World Records
Blessitt เกิดในรัฐมิสซิสซิปปี้ และมาโตในลุยเซียนา จนอายุได้7ขวบ Blessitt ก็กลายเป็นคริสเตียนอย่างเต็มตัว
เขาเลิกเรียนกลางคัน ในขณะที่เรียนอยู่ในวิทยาลัยแบ๊บติสต์โกลเดนเกต ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
เพื่อทำหน้าที่เป็นลูกศิษย์ให้กับโบสถ์แบ๊บติสต์หลายแห่งทั่วสหรัฐอเมริกา
ในอดีต เขายังเคย ถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตในปี 1976 ของมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์และฟลอริดาอีกด้วย
เขาถอนตัวจากการแข่งขันกลางคัน จากการติดโผเข้าชิงเป็นลำดับ5ในรัฐ ฟลอริดาด้วยคะแนน 8171เสียง เขากล่าวว่าเขา "เขาคือผู้แพ้ที่มีความสุขที่สุดในโลก" เพราะ “การปฏิรูปทางจิตวิญญาณและศีลธรรมของเขาได้กลายเป็นประเด็นสำคัญของการรณรงค์ในครั้งนั้นไปแล้ว”
ในปี1960 Blessitt ก็เริ่มเทศนาในฮอลลีวูด ที่นั่นเขากลายเป็นที่รู้จักในนาม “รัฐมนตรีกระทรวงพระอาทิตย์ตก”
ในปี 1968 เขาได้เปิดร้านกาแฟชื่อ His Place ที่ Sunset Strip, Hollywood

เขาได้สร้างไม้กางเขนขนาดใหญ่ขึ้นที่นั่น และลองแบกไม้กางเขนนั้นเดินในระยะทางสั้นๆ
จนมาในปี 1969 เขาเริ่มเดินทางด้วยไม้กางเขน โดยเดินจากลอสแองเจลิสไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งไกลพอๆกับ กรุงเทพฯ ไปโตเกียวเลยทีเดียว....

เมื่อพูดถึงแรงบันดาลใจในการเดิน เขาเล่าว่า “เขาได้ยินเสียงของพระเยซูทรงเรียก ให้เขาเดินทางไปในทุกประเทศทั่วโลก”
ในปี 1971 เขาได้ลองเดินทางข้ามแดนครั้งแรกโดยเริ่มจากไอร์แลนด์เหนือ

Blessitt ได้แบกไม้กางเขนไปยังทุกส่วนของโลก ในช่วงสงครามเย็น เขาได้นำไม้กางเขนเดินทางเข้าสู่สหภาพโซเวียต ผ่าน รัฐบอลติก ยูเครน อิรัก เกาหลีเหนือ อิหร่าน อัฟกานิสถาน โซมาเลีย ซูดาน จีน แอฟริกาใต้ เลบานอน อินเดีย แอนตาร์กติกา ปาเลสไตน์ อิสราเอล คิวบา ลิเบีย เยเมนเหนือและใต้ เวียดนาม และมองโกเลีย
เขาผ่านสถานที่สงครามมากมาย ผ่านทะเลทราย ผ่านป่าอันน่ากลัว บน 324 กลุ่มเกาะและดินแดนหลักๆทั้ง 7 ทวีป
เขา ต้องเผชิญกับการถูกซุ่มยิงใน 54 ครั้งในประเทศที่เป็นเขตสงคราม ถูกจับกุม 24 ครั้ง ต้องอดอาหารถึง 40 วัน ถูกรถชนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และศูนย์เสียไม้กางเขนที่เขานำไปด้วยถึง2ครั้ง ได้ทางเดินร่วมกับคน 70,000 คนทั่วโปแลนด์
ระหว่างการเดินทาง Blessitt ได้พบกับผู้นำทางศาสนามากมายทั่วโลก เช่น George W. Bush, Billy Graham, Pope John Paul II, Yasser Arafat และ Muammar al-Gaddafi
เขาเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกเมื่อ Billy Graham ได้เดินร่วมไปกับเขา
รวมถึง Pope John Paul II ก็ได้ต้อนรับเขา เมื่อเขามาถึงที่กรุงโรม
Yasser Arafat ได้พบเขาและต้อนรับเขาที่กรุงเบรุต
ยังไม่เท่านั้นเขาได้เขาได้ถูกเชิญให้เข้าพักในบ้านของนายกรัฐมนตรี Begin ในอิสราเอลอีกด้วย
แน่นอนเขาเดินทางผ่านช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์มาแล้วมากมาย
และในปี 2019 นี้เอง Blessitt บรรลุเป้าหมายที่เขาตั้งไว้กับตัวเองว่าจะเดินไปในทุก "ประเทศและกลุ่มเกาะ" ทั่วโลกให้สำเร็จ เขาได้เก็บไมค์เดินเป็นระยะทางกว่า 69,202 กม ผ่าน 324 "ประเทศ กลุ่มเกาะ และดินแดน" เขายังอ้างว่าได้เดินทางไปทุกมหาสมุทรและเดินไปทั่วทั้ง7ทวีป (รวมถึงแอนตาร์กติกาด้วย)

PR Newswire ของ Trinity Broadcast Network อ้างว่าเขาเป็นที่รู้จักในระดับสากลในชื่อ “ผู้แสวงบุญด้วยไม้กางเขน"
Guinness Book of World Records 1996-2021 ระบุว่านี่เป็น ‘การเดินท้าวที่ยาวที่สุดในโลกที่มนุษย์เคยทำมา'
ยังไม่พอในปี 2015 Guinness World Records ก็ให้เขาได้เป็นบุคคลสำคัญ ในการการแสวงบุญ โดยการเดินท้าวที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย
อีกทั้งเรื่องราวของเขายังถูกนำไปสร้างเป็นสารคดีต่างๆ เช่น
The Cross Museum of Arthur
Denise Blessitt (2014),
Arthur: A Pilgrim (1988)
The Cross: The Arthur Blessitt Story (2009) อีกด้วย
ใน สารคดี ตอนหนึ่งเล่าว่า
ในปี 1973 ขณะที่เขากำลังนอนอยู่ใต้มุ้งในเมืองฟรีทาวน์ ประเทศเซียร์ราลีโอน
เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเดินข้ามทวีปแอฟริกา
เขาได้รับแจ้งจากแพทย์ เกี่ยวกับโรคมาลาเรีย ไข้เหลือง อหิวาตกโรค ไม่ให้เขากินอาหารท้องถิ่น ไม่ให้เขาดื่มน้ำ ไม่อาบน้ำในแม่น้ำ
สิ่งที่เขาคิดตอนนั้นคือเขาไม่มีเสบียง เขามีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่อยู่ข้างเขา
เขาเปิดพระคัมภีร์และอ่านคำสอนในบทที่ 10 จนได้ยินเสียงพระเจ้าพูดว่า...
“ไปเถิด…บ้านใดก็ตามที่เจ้าเข้าไป ให้พูดว่า “สันติสุขจงมีแก่บ้านหลังนี้…อยู่ในบ้านหลังนั้น กินและดื่ม ของที่เขาให้...ไม่ว่าจะเดินเข้าไปในเมืองไหน และพวกเขาต้อนรับคุณ จงกินของที่ตั้งไว้ตรงหน้าคุณ
และพูดกับพวกเขาว่า "อาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้คุณแล้ว" คืนนั้นฉันให้คำมั่นสัญญากับพระเจ้าว่าจะทำตามที่พระเยซูตรัสอย่างเคร่งคัด นี่กระมังคือสิ่งที่ทำให้เขารอดปลอดภัยจาก ภัยอันตรายทั้งปวง
ตลอดระยะเวลา 54 ปี Arthur Owen Blessitt สละชีวิต ให้กับสิ่งที่เขาเชื่อ จนเราสำผัสได้ถึงความศัทธรา ที่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม มันมีพลังมหาศาล มากกว่า ที่มนุษย์อย่างเราจะคิดว่าจะมีคนทำสิ่งนั้นๆได้

หลากหลายความเชื่อที่มีอยู่บนโลก ทำให้ผู้คนที่จิตใต้สำนึกเขาผูกติดอยู่กับความเชื่อนั้นๆจะทำในสิ่งที่เราไม่คาดคิดได้เสมอ
ผมเคยอ่านเรื่องราวของชายคนหนึ่งในประเทศอินเดีย นาย Sadhu Amar Bharati หนุ่มพนักงานออฟฟิศ ที่มีความเชื่อแรงกล้าต่อพระเจ้าของเขาในศาสนาฮินดรู และ พระศิวะ และตัดสิ้นใจหยุดทุกอย่างทางโลก เพื่ออุทิศตนให้กับศาสนาที่เขานับถือ

เขาชูมือขวา ขึ้นเหนือศรีษะ เพื่อทรมาณตัวเอง มากว่า40ปี จนมือข้างนั้นพิการและไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้ตามปรกติเหมือนเดิมอีกต่อไป เพียงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาได้อุทิศตนให้กับ พระศิวะ และต้องการเข้าถึงความสุขที่แท้จริงนั้นเอง
หรือแม้กระทั่งในวิหาร st. basil cathedral ใน Moscow ผมก็ได้เห็นเครื่องทรมาณตัวเอง ในทางศาสนา มีโซ่กับตะปูที่ไว้ตอกกับมือให้ติดกับไม้กางเขน เพื่อที่จะได้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกของพระเยซูในขณะนั้นว่าท่านรู้สึกอย่างไร

ผมเชื่อว่า ความเชื่อ ความศัทธรา อันแรงกล้า สามารถทำให้คนลุกขึ้นมาทำอะไรได้แบบที่มนุษย์ทั่วไปอย่างเราๆคิดไม่ถึงได้เลยทีเดียว...
FACEBOOK : LAMKATANK
INSTAGRAM : LAMKATANK
YOUTUBE : LAMKATANK TV
www.blessitt.com
wikipedia.org/wiki/Arthur_Blessitt
http://news.bbc.co.uk
abcnews.go.com
www.nytimes.com
ชายผู้ที่ถือไม้กางเขน (ขนาด3.50เมตร) เดินไปมาแล้วกว่า 324 ประเทศทั่วโลกจนได้ขึ้น Guinness World Records
Arthur Owen Blessitt
ชายที่เดินถือไม้กางเขน ขนาด3.50เมตร ไปทั่วโลก เพื่อเผยแพร่ ศาสนา จนได้บันทึกไว้ใน Guinness Book of World Records
Blessitt เกิดในรัฐมิสซิสซิปปี้ และมาโตในลุยเซียนา จนอายุได้7ขวบ Blessitt ก็กลายเป็นคริสเตียนอย่างเต็มตัว
เขาเลิกเรียนกลางคัน ในขณะที่เรียนอยู่ในวิทยาลัยแบ๊บติสต์โกลเดนเกต ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
เพื่อทำหน้าที่เป็นลูกศิษย์ให้กับโบสถ์แบ๊บติสต์หลายแห่งทั่วสหรัฐอเมริกา
ในอดีต เขายังเคย ถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตในปี 1976 ของมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์และฟลอริดาอีกด้วย
เขาถอนตัวจากการแข่งขันกลางคัน จากการติดโผเข้าชิงเป็นลำดับ5ในรัฐ ฟลอริดาด้วยคะแนน 8171เสียง เขากล่าวว่าเขา "เขาคือผู้แพ้ที่มีความสุขที่สุดในโลก" เพราะ “การปฏิรูปทางจิตวิญญาณและศีลธรรมของเขาได้กลายเป็นประเด็นสำคัญของการรณรงค์ในครั้งนั้นไปแล้ว”
ในปี1960 Blessitt ก็เริ่มเทศนาในฮอลลีวูด ที่นั่นเขากลายเป็นที่รู้จักในนาม “รัฐมนตรีกระทรวงพระอาทิตย์ตก”
ในปี 1968 เขาได้เปิดร้านกาแฟชื่อ His Place ที่ Sunset Strip, Hollywood
เขาได้สร้างไม้กางเขนขนาดใหญ่ขึ้นที่นั่น และลองแบกไม้กางเขนนั้นเดินในระยะทางสั้นๆ
จนมาในปี 1969 เขาเริ่มเดินทางด้วยไม้กางเขน โดยเดินจากลอสแองเจลิสไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งไกลพอๆกับ กรุงเทพฯ ไปโตเกียวเลยทีเดียว....
เมื่อพูดถึงแรงบันดาลใจในการเดิน เขาเล่าว่า “เขาได้ยินเสียงของพระเยซูทรงเรียก ให้เขาเดินทางไปในทุกประเทศทั่วโลก”
ในปี 1971 เขาได้ลองเดินทางข้ามแดนครั้งแรกโดยเริ่มจากไอร์แลนด์เหนือ
Blessitt ได้แบกไม้กางเขนไปยังทุกส่วนของโลก ในช่วงสงครามเย็น เขาได้นำไม้กางเขนเดินทางเข้าสู่สหภาพโซเวียต ผ่าน รัฐบอลติก ยูเครน อิรัก เกาหลีเหนือ อิหร่าน อัฟกานิสถาน โซมาเลีย ซูดาน จีน แอฟริกาใต้ เลบานอน อินเดีย แอนตาร์กติกา ปาเลสไตน์ อิสราเอล คิวบา ลิเบีย เยเมนเหนือและใต้ เวียดนาม และมองโกเลีย
เขาผ่านสถานที่สงครามมากมาย ผ่านทะเลทราย ผ่านป่าอันน่ากลัว บน 324 กลุ่มเกาะและดินแดนหลักๆทั้ง 7 ทวีป
เขา ต้องเผชิญกับการถูกซุ่มยิงใน 54 ครั้งในประเทศที่เป็นเขตสงคราม ถูกจับกุม 24 ครั้ง ต้องอดอาหารถึง 40 วัน ถูกรถชนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และศูนย์เสียไม้กางเขนที่เขานำไปด้วยถึง2ครั้ง ได้ทางเดินร่วมกับคน 70,000 คนทั่วโปแลนด์
ระหว่างการเดินทาง Blessitt ได้พบกับผู้นำทางศาสนามากมายทั่วโลก เช่น George W. Bush, Billy Graham, Pope John Paul II, Yasser Arafat และ Muammar al-Gaddafi
เขาเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกเมื่อ Billy Graham ได้เดินร่วมไปกับเขา
รวมถึง Pope John Paul II ก็ได้ต้อนรับเขา เมื่อเขามาถึงที่กรุงโรม
Yasser Arafat ได้พบเขาและต้อนรับเขาที่กรุงเบรุต
ยังไม่เท่านั้นเขาได้เขาได้ถูกเชิญให้เข้าพักในบ้านของนายกรัฐมนตรี Begin ในอิสราเอลอีกด้วย
แน่นอนเขาเดินทางผ่านช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์มาแล้วมากมาย
และในปี 2019 นี้เอง Blessitt บรรลุเป้าหมายที่เขาตั้งไว้กับตัวเองว่าจะเดินไปในทุก "ประเทศและกลุ่มเกาะ" ทั่วโลกให้สำเร็จ เขาได้เก็บไมค์เดินเป็นระยะทางกว่า 69,202 กม ผ่าน 324 "ประเทศ กลุ่มเกาะ และดินแดน" เขายังอ้างว่าได้เดินทางไปทุกมหาสมุทรและเดินไปทั่วทั้ง7ทวีป (รวมถึงแอนตาร์กติกาด้วย)
PR Newswire ของ Trinity Broadcast Network อ้างว่าเขาเป็นที่รู้จักในระดับสากลในชื่อ “ผู้แสวงบุญด้วยไม้กางเขน"
Guinness Book of World Records 1996-2021 ระบุว่านี่เป็น ‘การเดินท้าวที่ยาวที่สุดในโลกที่มนุษย์เคยทำมา'
ยังไม่พอในปี 2015 Guinness World Records ก็ให้เขาได้เป็นบุคคลสำคัญ ในการการแสวงบุญ โดยการเดินท้าวที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย
อีกทั้งเรื่องราวของเขายังถูกนำไปสร้างเป็นสารคดีต่างๆ เช่น
The Cross Museum of Arthur
Denise Blessitt (2014),
Arthur: A Pilgrim (1988)
The Cross: The Arthur Blessitt Story (2009) อีกด้วย
ใน สารคดี ตอนหนึ่งเล่าว่า
ในปี 1973 ขณะที่เขากำลังนอนอยู่ใต้มุ้งในเมืองฟรีทาวน์ ประเทศเซียร์ราลีโอน
เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเดินข้ามทวีปแอฟริกา
เขาได้รับแจ้งจากแพทย์ เกี่ยวกับโรคมาลาเรีย ไข้เหลือง อหิวาตกโรค ไม่ให้เขากินอาหารท้องถิ่น ไม่ให้เขาดื่มน้ำ ไม่อาบน้ำในแม่น้ำ
สิ่งที่เขาคิดตอนนั้นคือเขาไม่มีเสบียง เขามีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่อยู่ข้างเขา
เขาเปิดพระคัมภีร์และอ่านคำสอนในบทที่ 10 จนได้ยินเสียงพระเจ้าพูดว่า...
“ไปเถิด…บ้านใดก็ตามที่เจ้าเข้าไป ให้พูดว่า “สันติสุขจงมีแก่บ้านหลังนี้…อยู่ในบ้านหลังนั้น กินและดื่ม ของที่เขาให้...ไม่ว่าจะเดินเข้าไปในเมืองไหน และพวกเขาต้อนรับคุณ จงกินของที่ตั้งไว้ตรงหน้าคุณ
และพูดกับพวกเขาว่า "อาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้คุณแล้ว" คืนนั้นฉันให้คำมั่นสัญญากับพระเจ้าว่าจะทำตามที่พระเยซูตรัสอย่างเคร่งคัด นี่กระมังคือสิ่งที่ทำให้เขารอดปลอดภัยจาก ภัยอันตรายทั้งปวง
ตลอดระยะเวลา 54 ปี Arthur Owen Blessitt สละชีวิต ให้กับสิ่งที่เขาเชื่อ จนเราสำผัสได้ถึงความศัทธรา ที่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม มันมีพลังมหาศาล มากกว่า ที่มนุษย์อย่างเราจะคิดว่าจะมีคนทำสิ่งนั้นๆได้
หลากหลายความเชื่อที่มีอยู่บนโลก ทำให้ผู้คนที่จิตใต้สำนึกเขาผูกติดอยู่กับความเชื่อนั้นๆจะทำในสิ่งที่เราไม่คาดคิดได้เสมอ
ผมเคยอ่านเรื่องราวของชายคนหนึ่งในประเทศอินเดีย นาย Sadhu Amar Bharati หนุ่มพนักงานออฟฟิศ ที่มีความเชื่อแรงกล้าต่อพระเจ้าของเขาในศาสนาฮินดรู และ พระศิวะ และตัดสิ้นใจหยุดทุกอย่างทางโลก เพื่ออุทิศตนให้กับศาสนาที่เขานับถือ
เขาชูมือขวา ขึ้นเหนือศรีษะ เพื่อทรมาณตัวเอง มากว่า40ปี จนมือข้างนั้นพิการและไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้ตามปรกติเหมือนเดิมอีกต่อไป เพียงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาได้อุทิศตนให้กับ พระศิวะ และต้องการเข้าถึงความสุขที่แท้จริงนั้นเอง
หรือแม้กระทั่งในวิหาร st. basil cathedral ใน Moscow ผมก็ได้เห็นเครื่องทรมาณตัวเอง ในทางศาสนา มีโซ่กับตะปูที่ไว้ตอกกับมือให้ติดกับไม้กางเขน เพื่อที่จะได้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกของพระเยซูในขณะนั้นว่าท่านรู้สึกอย่างไร
ผมเชื่อว่า ความเชื่อ ความศัทธรา อันแรงกล้า สามารถทำให้คนลุกขึ้นมาทำอะไรได้แบบที่มนุษย์ทั่วไปอย่างเราๆคิดไม่ถึงได้เลยทีเดียว...
FACEBOOK : LAMKATANK
INSTAGRAM : LAMKATANK
YOUTUBE : LAMKATANK TV
www.blessitt.com
wikipedia.org/wiki/Arthur_Blessitt
http://news.bbc.co.uk
abcnews.go.com
www.nytimes.com