สวัสดีครับ วันนี้ผมก็จะพาทุกคนมาพูดคุยกันตามหัวข้อกระทู้เลยครับ ไม่ได้มีเจตนาจะดิสเครดิตใคร แต่ทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่ผมรู้นะครับ ผมนึกอะไรออกก็พิมพ์ครับ ขออภัยหากไม่ต่อเนื่อง
ใด ๆ คือประสบการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นทั้งประสบการณ์โดยตรงของผม ของเพื่อนผม ของพี่น้อง และคนรอบตัวครับ
"รับสมัครตำแหน่ง Sales and Marketing รายได้ดี มีค่าคอม ได้เที่ยวตลอดปี"
ผมว่าหลายคนก็เคยเห็นขอความแบบนี้ตามกลุ่มหางาน และก็มีหลายคนที่หลงกลคำคมคายของงานสบายได้เงินเยอะ เลยเข้าไปสมัครที่สาขาของเขาที่กระจายอยู่หลายที่ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ในช่วงวิกฤติ Covid-19 แบบนี้พวกเขายิ่งได้ใจ เพราะเขาเชื่อว่าคนจะต้องตกงานและกระ

กระสนมาหาเขา
ใช่ครับ หลายคนเป็นแบบนั้น
พอได้เข้าไปสัมภาษณ์แล้วยิ่งรู้สึกมีหวัง มีฝันที่โตขึ้นในใจ ทว่าทันใดที่คุณได้เข้าไปทำจริง ๆ คุณก็จะรู้ว่าตำแหน่งของคุณมันไม่ได้สูงส่งอะไรเลย เป็นเพียงบันไดที่ให้สิ่งที่เรียกว่า Owner เหยียบก็เท่านั้น
ครับ เกริ่นมาถึงตรงนี้แล้ว ผมขออนุญาตชำแหละลำดับการบริหารให้อ่านกันด้วยก็แล้วกันครับ
งาน Sales and Marketing ที่ว่าก็คือระบบลูกโซ่ครับ เหมือนกับการขายยาจีนของเครือข่ายพระ๐๐๐9 ที่เมื่อเขา recruit คุณเข้าไป คุณก็จะเป็นเพียงเด็กฝึกงานต๊อกต๋อยที่แม่ทีมคุณจะเลี้ยงคุณอย่างดีเพื่อให้คุณกลายเป็น Leader (ที่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น) ให้เร็วที่สุด และทำแบบนี้กับคนอีกหลายคนเพื่อฟอร์มทีมขึ้นมา เพื่ออะไรก็น่าจะรู้นะครับ แล้วถ้ายิ่งทีมใหญ่ขึ้น มีรากฝอยระแหงแล้ว ทำยอดเซลล์ดี ตำแหน่งคุณก็จะสูงขึ้นครับ
ซึ่งตำแหน่ง Owner ที่ว่าก็มาจากการฟอร์มทีมแบบนี้เลย Owner ที่ทีมไม่แข็งแรงก็เจ๊งไปหลายคนแล้วครับ เพราะงั้นคนที่เป็นคนปั้นคนอีกทีเลยต้องเน้นปริมาณคนมาก ๆ เพื่อการันตีความมั่นคงของเม็ดเงินที่ได้จากสำนักงานใหญ่ของพวกเขาอีกที
สำนักงานใหญ่ที่ว่าก็คือต้นของสาขาที่มีโอนเนอร์เป็นคนคุมครับ ตัวสนญ. (ขออนุญาตย่อนะครับ) คือคนที่วางแผนการขายในระบบ Outsourced marketing ตัวจริงครับ สินค้าที่จะเอามาให้เครือข่ายในแต่ละสาขาขาย ต้องดีลกับทางนี้ก่อน ถ้าผมพูดไปก็น่าจะเคยเห็นครับ พวกเขาจะได้รับมอบหมายให้มายืนขายตามห้างสรรพสินค้า ข้างถนน หรือตาม BTS (แล้วก็โดนเทศกิจไล่ครับ) โดยผู้จ้างวานก็มาในหลายรูปแบบ ทั้งในแบบ NGO แบรนด์ทั่วไป และมูลนิธิทั้งหลาย
แต่คนที่เขาพยายามต้อนให้คุณไปทำงาน ก็จะขายสรรพคุณสาขาตัวเองด้วยชื่อแบรนด์ดังติดตลาด อย่างค่ายมือถือสีเขียว หรือ ค่ายเพลงย่านอโศกแทนครับ ทั้งที่สาขาเขาเองไม่ได้ทำหรอก
ถ้าผมจำไม่ผิดก่อนหน้านี้ที่เคยมีประเด็นการเรี่ยไรตัดบัตรเครดิตในนามขององค์กร NGO เจ้าหนึ่งก็เป็นผลงานของเครื่อข่ายนี้ครับ
เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าไปทำงานครับ พวกเขามักจะโฆษณาด้วยเม็ดเงินสูงแบบทำเราสงสัยว่าทำอะไรนะ เช่น 15,000-30,000 ต่อเดือน หรือสัปดาห์ละ 10,000 ประมาณนี้ครับ ถามว่าในนั้นมีคนทำได้ไหม มีครับ แต่เป็นคนจำนวน 1% ก็ว่าได้ จุดประสงค์ที่ผมพูดเรื่องนี้คือ ผมจะบอกว่าเขาไม่มีเงินเดือนให้นะครับ เป็นสัญญาจ้างแบบฟรีแลนซ์ ไม่มีสวัสดิการ ไม่ได้ประกันสังคม ไอที่ได้กันมานี่ค่าคอมมิชชั่นล้วน ๆ ครับ เพื่อนผมเคยหลงไปทำสาขาในกทม. เขายังได้ 10,000 เดือนแรกตามสัญญา ก่อนจะตัดเหลือเพียงค่าคอม แต่ผมมาจากต่างจังหวัด มันไม่มีครับ เท่าไหร่เท่านั้น หนักกว่าคือไอคำว่าสวัสดิการกินเที่ยวนี่ คุณต้องออกเองนะครับ โอนเนอร์ไม่ได้เลี้ยงคุณเสมอ แต่ไม่ไปก็ไม่ได้ครับ เดี๋ยวโดนเขม่นเอา
หนักกว่าคือผมเข้ามาอยู่กทม. เดินผ่านร้านขายของ ECO แถวมก. ขายแก้ว ECO แบบเดียวกันเลยครับ แต่ใบนึงไม่ถึงร้อย ตัดภาพมาคนเฒ่าคนแก่ที่หลงเชื่อซื้อแก้วใบละ 300 เพราะเขาบอกว่าหักเข้ามูลนิธิอะไรสักอย่าง ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าเขาหักเข้าเท่าไหร่ และหัวเรือได้ไปเท่าไหร่ ถ้าอยากทำบุญจริง ๆ มีรายชื่อมูลนิธิที่ต้องการความช่วยเหลืออีกเยอะนะครับ อย่าให้เขาเอาเงินคุณไปเลย
ลืม นี่ไม่ใช่การบริจาคนะครับ นี่คือการขายของเพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้มูลนิธิครับ อย่าเข้าใจผิด
.
.
ผมแค่เลียนแบบที่เขาพูด ๆ กันครับ
สรุปคือถ้าคุณทำไม่ได้ เขาก็คัดคุณออก ไม่ก็บีบให้คุณออกเองครับ
ผมเหนื่อยจะพิมพ์แล้วครับ ใครมีอะไรก็มาเล่ากันได้ครับ ผมแค่ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟังดี
เพื่อน ๆ เคยสงสัยไหมครับ ว่างาน Sales and Marketing ตามกลุ่มหางานคืออะไร ใครเคยทำมาแชร์กันครับ
ใด ๆ คือประสบการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นทั้งประสบการณ์โดยตรงของผม ของเพื่อนผม ของพี่น้อง และคนรอบตัวครับ
"รับสมัครตำแหน่ง Sales and Marketing รายได้ดี มีค่าคอม ได้เที่ยวตลอดปี"
ผมว่าหลายคนก็เคยเห็นขอความแบบนี้ตามกลุ่มหางาน และก็มีหลายคนที่หลงกลคำคมคายของงานสบายได้เงินเยอะ เลยเข้าไปสมัครที่สาขาของเขาที่กระจายอยู่หลายที่ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ในช่วงวิกฤติ Covid-19 แบบนี้พวกเขายิ่งได้ใจ เพราะเขาเชื่อว่าคนจะต้องตกงานและกระ
ใช่ครับ หลายคนเป็นแบบนั้น
พอได้เข้าไปสัมภาษณ์แล้วยิ่งรู้สึกมีหวัง มีฝันที่โตขึ้นในใจ ทว่าทันใดที่คุณได้เข้าไปทำจริง ๆ คุณก็จะรู้ว่าตำแหน่งของคุณมันไม่ได้สูงส่งอะไรเลย เป็นเพียงบันไดที่ให้สิ่งที่เรียกว่า Owner เหยียบก็เท่านั้น
ครับ เกริ่นมาถึงตรงนี้แล้ว ผมขออนุญาตชำแหละลำดับการบริหารให้อ่านกันด้วยก็แล้วกันครับ
งาน Sales and Marketing ที่ว่าก็คือระบบลูกโซ่ครับ เหมือนกับการขายยาจีนของเครือข่ายพระ๐๐๐9 ที่เมื่อเขา recruit คุณเข้าไป คุณก็จะเป็นเพียงเด็กฝึกงานต๊อกต๋อยที่แม่ทีมคุณจะเลี้ยงคุณอย่างดีเพื่อให้คุณกลายเป็น Leader (ที่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น) ให้เร็วที่สุด และทำแบบนี้กับคนอีกหลายคนเพื่อฟอร์มทีมขึ้นมา เพื่ออะไรก็น่าจะรู้นะครับ แล้วถ้ายิ่งทีมใหญ่ขึ้น มีรากฝอยระแหงแล้ว ทำยอดเซลล์ดี ตำแหน่งคุณก็จะสูงขึ้นครับ
ซึ่งตำแหน่ง Owner ที่ว่าก็มาจากการฟอร์มทีมแบบนี้เลย Owner ที่ทีมไม่แข็งแรงก็เจ๊งไปหลายคนแล้วครับ เพราะงั้นคนที่เป็นคนปั้นคนอีกทีเลยต้องเน้นปริมาณคนมาก ๆ เพื่อการันตีความมั่นคงของเม็ดเงินที่ได้จากสำนักงานใหญ่ของพวกเขาอีกที
สำนักงานใหญ่ที่ว่าก็คือต้นของสาขาที่มีโอนเนอร์เป็นคนคุมครับ ตัวสนญ. (ขออนุญาตย่อนะครับ) คือคนที่วางแผนการขายในระบบ Outsourced marketing ตัวจริงครับ สินค้าที่จะเอามาให้เครือข่ายในแต่ละสาขาขาย ต้องดีลกับทางนี้ก่อน ถ้าผมพูดไปก็น่าจะเคยเห็นครับ พวกเขาจะได้รับมอบหมายให้มายืนขายตามห้างสรรพสินค้า ข้างถนน หรือตาม BTS (แล้วก็โดนเทศกิจไล่ครับ) โดยผู้จ้างวานก็มาในหลายรูปแบบ ทั้งในแบบ NGO แบรนด์ทั่วไป และมูลนิธิทั้งหลาย
แต่คนที่เขาพยายามต้อนให้คุณไปทำงาน ก็จะขายสรรพคุณสาขาตัวเองด้วยชื่อแบรนด์ดังติดตลาด อย่างค่ายมือถือสีเขียว หรือ ค่ายเพลงย่านอโศกแทนครับ ทั้งที่สาขาเขาเองไม่ได้ทำหรอก
ถ้าผมจำไม่ผิดก่อนหน้านี้ที่เคยมีประเด็นการเรี่ยไรตัดบัตรเครดิตในนามขององค์กร NGO เจ้าหนึ่งก็เป็นผลงานของเครื่อข่ายนี้ครับ
เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าไปทำงานครับ พวกเขามักจะโฆษณาด้วยเม็ดเงินสูงแบบทำเราสงสัยว่าทำอะไรนะ เช่น 15,000-30,000 ต่อเดือน หรือสัปดาห์ละ 10,000 ประมาณนี้ครับ ถามว่าในนั้นมีคนทำได้ไหม มีครับ แต่เป็นคนจำนวน 1% ก็ว่าได้ จุดประสงค์ที่ผมพูดเรื่องนี้คือ ผมจะบอกว่าเขาไม่มีเงินเดือนให้นะครับ เป็นสัญญาจ้างแบบฟรีแลนซ์ ไม่มีสวัสดิการ ไม่ได้ประกันสังคม ไอที่ได้กันมานี่ค่าคอมมิชชั่นล้วน ๆ ครับ เพื่อนผมเคยหลงไปทำสาขาในกทม. เขายังได้ 10,000 เดือนแรกตามสัญญา ก่อนจะตัดเหลือเพียงค่าคอม แต่ผมมาจากต่างจังหวัด มันไม่มีครับ เท่าไหร่เท่านั้น หนักกว่าคือไอคำว่าสวัสดิการกินเที่ยวนี่ คุณต้องออกเองนะครับ โอนเนอร์ไม่ได้เลี้ยงคุณเสมอ แต่ไม่ไปก็ไม่ได้ครับ เดี๋ยวโดนเขม่นเอา
หนักกว่าคือผมเข้ามาอยู่กทม. เดินผ่านร้านขายของ ECO แถวมก. ขายแก้ว ECO แบบเดียวกันเลยครับ แต่ใบนึงไม่ถึงร้อย ตัดภาพมาคนเฒ่าคนแก่ที่หลงเชื่อซื้อแก้วใบละ 300 เพราะเขาบอกว่าหักเข้ามูลนิธิอะไรสักอย่าง ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าเขาหักเข้าเท่าไหร่ และหัวเรือได้ไปเท่าไหร่ ถ้าอยากทำบุญจริง ๆ มีรายชื่อมูลนิธิที่ต้องการความช่วยเหลืออีกเยอะนะครับ อย่าให้เขาเอาเงินคุณไปเลย
ลืม นี่ไม่ใช่การบริจาคนะครับ นี่คือการขายของเพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้มูลนิธิครับ อย่าเข้าใจผิด
.
.
ผมแค่เลียนแบบที่เขาพูด ๆ กันครับ
สรุปคือถ้าคุณทำไม่ได้ เขาก็คัดคุณออก ไม่ก็บีบให้คุณออกเองครับ
ผมเหนื่อยจะพิมพ์แล้วครับ ใครมีอะไรก็มาเล่ากันได้ครับ ผมแค่ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟังดี