เริ่มเลยนะคะ คือแฟนเราเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากพอสมควร ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย รักษาด้วยยาไม่ได้แล้วค่ะต้องเปลี่ยนหัวใจใหม่เท่านั้นถึงจะหาย ก็รักษาอยู่วอร์ดCCUตั้งแต่วันแรกค่ะ วันแรกก็ปั้มหัวใจซะแล้ว หมอเลยแจ้งให้ใส่เครื่องเอคโม่หรือเครื่องหัวใจเทียมค่ะ วิธีคือเครื่องนี้จะมีสายยางปักเข้าที่ช่วงใต้ราวนมสองเส้น จะดูดเลือดทั้งหมดออกมาเวียนที่เครื่องแล้วก็วนกลับเข้าสู่ร่างกาย ต้องใส่จนกว่าจะหาหัวใจใหม่ที่แมตช์กับเนื่อเหยื่อคนไข้ได้ค่ะ ใส่มาประมานเกือบสองเดือน ทางหมอก็แจ้งว่าได้หัวใจแล้วพรุ่งนี้จะได้ผ่าตัดเปลี่ยนช่วงเช้า แต่วันนี้ก่อนช่วงเย็นคนไข้ฉี่ล้นออกจากสายสวน บุรุษพยาบาลเลยมาถอดออกแล้วใส่ให้ใหม่ ปัญหาคือตั้งแต่เปลี่ยนใหม่แฟนก็ฉี่ออกมาเป็นเลือดตลอดค่ะคืนนั้นก็ไปผ่ากระเพาะปัสสวะเพื่อจี้ไฟฟ้าหารูรั่วแล้วก็เตรียมรอผ่าตัดใหญ่พรุ่งค่ะนี่เรื่องแรก แต่มีแทรกนิดนึงนะคะ ช่วงแรกที่ผ่าตัดใส่เครื่องแอคโม่หลังจากตื่นมาแล้วคนไข้มีอาการแขนขาข้างซ้ายอ่อนแรงจนถึงขนาดกำนิ้วมือเราไม่ได้ มีหมอมาตรวจเรื่อยๆเลยถามว่าเปนเพราะอะไร หมอบอกพร้อมกับหัวเราะแห้งๆว่าเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยตอนผ่าตัดใส่เครื่องแอคโม่ เลยทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทันช่วงนึงแต่ไม่เปนไรรอทำกายภาพพร้อมๆกับตอนจะหัดเดินได้นะ หมอบอกแบบนี้เหมือนไม่ร้ายแรง ค่ะ วันต่อมาได้เวลาไปส่งเค้าผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจใหม่ ทั้งตื่นเต้นดีใจและกลัวใช้เวลาไปตั้งแต่แปดโมงเช้าออกมาก็ห้าโมงเย็นครึ่งค่ะ โอเคเลยรอบบนี้ตื่นไวกว่าที่คิดค่ะ แต่ก็ยังมีปัญหาฉี่เปนเลือดอยู่ซึ่งหมอเองยังไม่รู้สาเหตุแน่นอนต้องดูไปเรีอยๆ หลังจากนั้นก็ย้ายลงมาอยู่ห้องCCUเหมือนเดิม ดูแลรักษากันมาเกือบสามสี่เดือนวันนึงอยู่ๆคนไข้รู้สึกปวดหัวมากๆตั้งแต่สิบโมงแจ้งพยาบาลแล้ว ยังไม่มาดู สิบเอ็ดโมงคนไข้ปวดมากขึ้นพร้อมกับความดัน170คงค้างไม่กระดิกไปเลขอื่นเลย เรียกพยาบาลแล้ว หมอสั่งยาพาราเซตามอลให้1เม็ดค่ะ ในขณะที่เราเองสงสัยกับความดัน170ที่ค้างอยู่เลขนี้ไม่เปลี่ยนเลยก็พยายามชี้ให้ทุกพยาบาลที่เดินเข้ามาดูให้ทีซึ่งก็ได้คำตอบว่าโอเคๆเด่วแจ้งคุณหมอให้สุดท้ายห้าโมงเย็นหมอจ่ายยาพารามาให้เพิ่ม1เม็ด ไม่มีอะไรเพิ่มเติมค่ะจนสองทุ่มเรากลับบ้านเราก็แจ้งว่าช่วยดูเรื่องความดันให้ทีนะคะ สุดท้ายมาถึงบ้านไม่แล้วใจโทรกลับไปโรงพยาบาลถามว่าความดันลดมั้ย พยาบาลบอกลดแล้วเหลือ165ค่ะ โห!!!เรานี่ตกใจเลยถามว่าตามหมอสมองมารึยังทำไมไม่ตามมา พยายบาลบอกรอดูอาการจนประมานสี่ทุ่มโทรกลับมาบอกให้กลับไปโรงพยาบาลเพราะมีเลือดออกที่สมองต้องผ่าตัดสมองด่วน เทวดาใจร้ายเหลือเกินแค่เปลี่ยนหัวใจมาก็ต้องกดภูมิคุ้มกันตัวเองไว้ แล้วนี้ยังผ่าสมองอีก คืนนั้นเราก็รอทั้งคืนค่ะ ออกมาจากห้องผ่าตัดตอนสิบเอ็ดโมงเช้า หมอแจ้งว่าเรียบร้อยดีแต่มีเลือดซึมอยู่ก็กลับมาอยู่ที่CCU ได้สองวันไตวายเฉียบพลันปอดติดเชื้อ ทีนี้หนักแล้วจากจะหายดีกลายเปนมองไม่เห็นทางรอด หมอก็ฟอกไตด่วนให้ดีขึ้นมานิดนึง แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากหมอและพยาบาลเหมือนเดิมอีกแล้วค่ะ มีพี่พยาบาลที่สนิทกันเค้าเรียกเราคุยว่าถ้าแกมีทางไปแกไปเลยนะไม่ต้องรอถ้าไปเพื่อตัวเองไปเลย เราก็ตอบไปว่าบ้าเหรอมาด้วยกันจะให้ทิ้งเค้าตอนนี้ได้ไงมาด้วยกันกลับด้วยกันสิไม่ทิ้งแฟนหรอก พยาบาลคนนั้นก็โอเคแล้วแต่แล้วกัน เราก็งงๆนะ แต่ไม่ได้เฉลียวใจ จนมาถึงช่วงก่อนโควิดปีที่แล้ว ช่วงมีนาคม แฟนเราโดนย้ายจากห้องccuไปวอร์ดสามัญรวมชาย ซึ่งสภาพแฟนเราหลังจากที่ขึ้นไปได้1วันเราไปเยี่ยมเค้าเราจำไม่ได้อ่ะค่ะ เถียงกับพยาบาลพักนึงลองเรียกเค้าดูพอเค้าหันหน้ามาเท่านั้นเราน้ำตาไหลเลย เปลี่ยนไปมากแค่วันเดียวเอง จากบวมๆหลังผ่าตัดกลายเปนดำผอมซูบขาเล็กมากๆ เราคิดแล้วว่าต้องเสียใจอีกแน่ๆเลยถ้ายังเปนแบบนี้ ต่อมาอีกสองวันหมอแจ้งขอตัดกระเพาะปัสสวะทิ้งเพราะยังฉี่เปนเลือดไม่หาย เราเลยถามไปว่ารักษาไม่ได้เเล้วหรอหมอตอบว่าถ้ารักษาหายมันก็คงหายไปตั้งแต่เดือนแรกแล้วล่ะนะ อ่าวไหงตอบหมาๆงี้ล่ะหมอ เราเลยไม่ยอมให้ตัด ก็ผ่านไปอีกสองวันหมอเรียกคุยว่าปอดติดเชื้อนะแต่ไม่รู้เชื้ออะไรมันดื้อยาทุกตัวที่โรงพยาบาลมีแล้วตอนนี้ปอดเปนรูกว้างสามเซนติเมตรแล้ว เราเลยถามหมอว่าแล้วต้องทำไงต่อ หมอบอกว่ารอเวลาที่เค้าจะไปค่ะหมอจะพยายามให้เค้าเจ็บปวดน้อยที่สุดเพราะรักษาทุกอย่างหมดหนทางแล้ว คำนี้มันพาจุกและทวลๆที่ท้องนะคะพูดไม่ออกร้องไห้ไม่ออกได้แต่เดินตัวเบาๆกลับบ้าน แต่สุดท้ายแล้ววันนั้นมันก็มาถึงค่ะหลังจากหมอแจ้งสองวัน ตีสามครึ่งทางโรงพยาบาลโทรมาให้รีบไปดูใจเพราะทรุดแล้วพอไปถึงพยาบาลบอกรีบเข้าไปเลยอยู่ๆคนไข้ก็ดีขึ้นมาเผนปกติตอนที่เราไปถึงแต่ไม่ได้คุยกันรู้เรื่องหรอกนะคะเพร่ะตาเค้าลอยแล้วฟังเข้าใจแต่ตอบเราไม่ได้ ได้แต่เห้นน้ำตาเค้าไหลจนสายแปดโมงครึ่งเค้าก็จากเราไปค่ะ ทุกวันนี้นั่งคิดกับตัวเองว่าทำไมถึงเปนแบบนี้เราอยู่กับความหวังและรอคอยที่จะได้กลับบ้านด้วยกันมาทำกับข้าวกินกันสองคนเรารอวันที่จะได้กลับบ้านแต่ไม่ใช่แบบนี้สิ เราได้แต่คิดว่าจุดเปลี่ยนมันคือตอนไหนนะ เรื่องนี้มันต้องมีจุดเปลี่ยนสิ ตอนผ่าสมองรึว่าตอนย้ายมาห้องรวม รึว่าผิดที่เรา สารพัดคิดค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังคิดโทดตัวเองที่ดูแลไม่ดีในวันนั้น ....เรื่องมีเท่านี้ค่ะ อาจจะยาวไปนะคะแต่อยากรู้ความคิดของเพื่อนๆว่าคิดยังไงกับเหตุการณ์ที่เราได้แชร์ให้อ่าน จริงๆแล้วปลีกย่อยที่ทำให้รู้สึกแย่กว่านี้มีอีกเพียบค่ะแต่วันนี้เอาเท่านี้ก่อนนะคะ
ผิดที่ใคร? หมอ พยาบาล คนไข้ ญาติ