สาวโพสต์โวย สถานที่กักตัว สกปรก หมอน-ที่นอน มีแต่เชื้อรารังปลวก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6462737
สาวโพสต์สถานที่กักตัว สกปรก หมอนมีแต่เชื้อรา-รังปลวก พีกสุดห้องน้ำรวมแค่ชะโงกหน้าก็เห็นหมด โวยจนท.สถานที่ไม่พร้อมก็อย่าเอาเป็นที่กักตัว
วันที่ 19 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพของศูนย์กักตัวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ขอร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากสภาพค่อนข้างสกปรก หมอนและที่นอนก็มีเชื้อรา โดยไม่มีผ้าปูที่นอน ไม่มีผ้าห่ม ไม่มีปลอกหมอนให้ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยฝุ่นจำนวนมาก โดยระบุข้อความว่า
เมื่อยังตกลงกันไม่ได้ คนที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน เคสนี้ไม่ใช่เคสแรกตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น แต่ขอพูดถึง วันนี้ 18.06.2021 มีน้อง ๆ ญาติ ๆ ที่รักษาโควิดอาการดีขึ้นแล้ว ทางคุณหมอโรงพยาบาลสนามอนุญาตให้กลับบ้านได้ 3 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด และประสานงานให้ทางโรงพยาบาลในพื้นที่รับตัวกลับไปรักษาต่อ หรือกักตัวอีก 14 วัน หลังจากรับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามแล้ว 13 วัน ทางเราได้รับการติดต่อจากอนามัยในพื้นที่และผู้ใหญ่บ้าน ว่าไม่อนุญาตให้กักตัวที่บ้านต้องไปกักตัวต่อยังสถานที่ที่หน่วยงานจัดเตรียมไว้ให้
ทางเราไม่มีสิทธิปฏิเสธ แต่สิ่งที่ทางน้อง ๆได้รับหลังจากรถโรงพยาบาลไปส่ง เมื่อไปถึงได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าอยู่บ้านหลังไหน ให้เดินไปเอง ทางน้อง ๆ ยังพอเข้าใจ อาจเป็นไปได้ว่าคุณไม่อยากสัมผัสเราที่มีเชื้ออยู่ แต่ยังโชคดีมีคนที่อยู่ก่อนแล้วนำน้อง ๆ ไปยังบ้านพัก ต้องขอบคุณคนที่อยู่ก่อนมาก ๆ สำหรับความช่วยเหลือต่าง ๆ พอไปถึงเป็นบ้านโล่ง ๆ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ นอกจากมีพัดลมติดเพดาน 1 เครื่องที่มีเสียงดังเวลาเปิด มีฟูกเก่า ๆ สกปรกมาก ขนาด 3 ฟุต
ไม่มีผ้าปูที่นอน ไม่มีผ้าห่ม ไม่มีปลอกหมอนให้ คำตอบที่ได้จากเจ้าหน้าที่คือ ของอย่างอื่นคุณต้องนำมาเองทุกอย่าง จะให้คนไข้กลับไปเอาเองหรือให้คนที่บ้านนำมาให้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งบ้านที่ติดกัน 9 หลัง ติดเชื้อโควิด ทั้งหมด 34 คน และเหลือบ้านละคนที่ต้องกักตัว ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ น้อง ๆ ต้องขออุปกรณ์เพิ่มเติม สิ่งที่ได้คือมีฟูก 1 อัน ขนาด 3 ฟุต รวมอันเดิมเป็น 2 หลัง หมอน 2 ใบที่มีเชื้อราขึ้น มีเสื่อ 1 ผืน ไม้กวาดกับที่โกยขยะ 1 อัน และหลอดไฟที่ยังไม่ได้เปลี่ยน 1 หลอด
สภาพบ้านสกปรกมาก มีฝุ่นเต็มไปหมด มีรังปลวก มีรังมดตามพื้นผนังในบ้าน ผนังบางส่วนติดกับถุงดำที่มีรอยขาด ๆ ผนังเป็นรู กระเบื้องแตก ไฟในบ้านไม่ค่อยสว่าง นี่คือบ้านหลังแรกที่น้องต้องเข้าไปพัก จากนั้นเพื่อน ๆ ที่อยู่ก่อนแล้วแนะนำให้เปลี่ยนบ้านเป็นบ้านหลังที่ 2 ที่ 3 แต่บ้านนั้นกลอนล็อกประตูไม่สามารถใช้งานได้ จำเป็นต้องเปลี่ยนบ้านอีกหลังเป็น ครั้งที่ 4 ยังดีที่พัดลมสามารถใช้งานได้ กลอนล็อกประตูใช้ได้ แต่ไฟยังไม่ค่อยสว่างอยู่ดี ถ้าเป็นคุณคุณจะกล้านอนไหม?
ลองคิดดูว่าคนไข้ ที่เพิ่งเดินทางไปถึงต้องไปทำความสะอาดบ้านทั้งหลังเอง ต้องขนย้ายสิ่งของเอง ต้องขอความช่วยเหลือเพื่อน ๆ ที่อยู่ก่อนมาเปลี่ยนหลอดไฟให้ บ้านหลังข้าง ๆ หรือบริเวณอยู่รวมกับผู้ชาย แล้วน้อง ๆ เป็นผู้หญิงแค่ 3 คน ในบ้านหลังนั้น เรื่องห้องน้ำอยู่ข้างนอก ทางไปห้องน้ำมืดมาก เปลี่ยวด้วย ที่พีคคือเป็นห้องน้ำรวมที่แบ่งเขตแค่ผนังห้อง ฝั่งนี้ผู้หญิงฝั่งนี้ผู้ชาย ที่ผนังตรงกลางแต่ละฝั่งสามารถชะโงกเห็นฝั่งตรงข้ามได้
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หน่วยงานคุณจัดเตรียมไว้ให้จริงหรือ ถ้าเป็นลูกหลานของคุณ คุณจะยังให้เขายังอยู่ต่อที่นี่ไหม นี่คือสิ่งที่คุณบอกว่าจัดเตรียมไว้ให้ ขอถามว่าจริง ๆ แล้วคุณได้เข้าไปตรวจสอบบ้านแต่ละหลังแล้วใช่ไหม สิ่งที่เกิดข้อเปรียบเทียบอย่างชัดเจนคือ เทศบาลจัดเตรียมของให้สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงที่ต้องกักตัว ได้ดีกว่าสิ่งที่อำเภอจัดเตรียมไว้ให้ สำหรับผู้ที่กลับมาจากโรงพยาบาลต้องกักตัว มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร
ความเหลื่อมล้ำของการบริหารจัดการที่ล้มเหลว การโยนไปโยนมาของหน่วยงาน สุดท้ายประชาชนไม่ได้รับคำตอบ ถ้าสถานที่ไม่พร้อมรองรับ สู้ให้อยู่โรงพยาบาลต่อให้ครบ 28 วันเลยไม่ดีกว่าหรอ มีหมอคอยสังเกตอาการตลอด 24 ชั่วโมง แต่การไปอยู่ที่นั่นเจ้าหน้าที่ยังไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เลย ถ้าเราไม่ออกมาสะท้อนเหตุการณ์นี้ก็จะเกิดขึ้นซ้ำ ต่อไป สุดท้ายขอให้ภาพเป็นคนเล่าเรื่อง อยากเรียกร้อง ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบโดยด่วน
ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พ้อถูกเทวัคซีน จาก 3 แสน เหลือแค่ 7 หมื่นโดส
https://www.prachachat.net/breaking-news/news-694188
ผู้ว่าฯโวย สมุทรสาครฮับโรงงานทำรายได้ 6 แสนล้านบาท/ปี โควิดยังหนักบอกจะให้วัคซีน 3 แสนโดส จัดมาให้แค่ 7 หมื่นโดส
วันที่ 19 มิถุนายน 2564 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวในรายการ ”
ไม่แพ้แน่นอน เราจะผ่านไปด้วยกัน” ว่า ในวันที่ 19 มิถุนายน 2564 สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดสมุทรสาครพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 171 ราย แต่ได้รับการจัดสรรวัคซีนมาในเดือกรกฎาคม 2564 จำนวน 70,000 โดส ซึ่งถือว่าน้อยมาก จากเดิมจะได้รับการจัดสรร จำนวน 3 แสนกว่าโดส
ทั้งที่สมุทรสาครมีปัจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่ 1) มีตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ยังไม่ลดลงเลย ความหวังอยู่ที่วัคซีน 2) สมุทรสาครมีโรงพยาบาลสนาม ซึ่งไม่ได้ใช้เฉพาะคนสมุทรสาคร แต่ได้เปิดรับผู้ติดเชื้อโควิดจากจังหวัดอื่นเข้ามาใช้ด้วย 3) สมุทรสาครเป็นศูนย์กลางโรงงานที่สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย 5-6 แสนล้านบาทต่อปี ด้วยปัจจัยเหล่านี้ควรจัดสรรวัคซีนให้จังหวัดสมุทรสาคร ไม่ควรจะเป็นอย่างที่เห็นอยู่
“เมื่อเช้านี้ (19 มิ.ย. 2564) ได้หารือกับคณะกรรมการส่วนกลางไป ซึ่งเท่าที่ทราบว่าหลังจากคณะกรรมการส่วนกลางได้รับฟังปัญหาแล้วบอกว่า จะหาแนวทางแก้ไข โดยจะมึการขยับให้เป็นหลักแสนโดส แต่ยังไม่รู้ว่าเท่าไหร่ ผมพยายามผลักดันเต็มที่แล้ว”
นายวีระศักดิ์กล่าวต่อไปว่า วานนี้ (18 มิ.ย. 2564) ได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครได้มีการพิจารณาเรื่องวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ได้มาชี้แจงในที่ประชุมว่า ได้สั่งจองไปยังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ 2 แสนโดส โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามรับรอง ซึ่งตนพร้อมที่ลงนามให้ แต่วันนี้ยังไม่ทราบว่าจะได้มาจำนวนเท่าไหร่ และได้มาเมื่อไหร่ เพราะมีหลายหน่วยงานต่างสั่งจองเข้าไปกันจำนวนมาก
“สาเหตุที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก เพราะได้รับแจ้งจากผู้ติดเชื้อ และโรงงานต่าง ๆ ให้ความร่วมมือแจ้งเข้ามา จึงได้เข้าไปตรวจ ทั้งนี้เมื่อตรวจพบได้ขอความร่วมมือปิดกิจการชั่วคราวเพื่อทำความสะอาด”
สำหรับเรื่องการเปิดการเรียนการสอน ตนได้มีโอกาสคุยกับภาคการศึกษาและส่วนราชการต่าง ๆ รวมทั้งคุยกับภาคธุรกิจในสมุทรสาคร อยากจัดการเรียนการสอนให้ใกล้เคียงกับการเรียนการสอนปกติ หรือออนไซต์ให้ได้มากที่สุด แทนที่จะนั่งเรียนออนไลน์ที่บ้าน
จึงได้ตั้งเงื่อน 3 ประการที่จะให้เด็กไปโรงเรียนได้คือ
1.สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ต้องไม่รุนแรง
2.วัคซีนป้องกันโควิด-19 ต้องได้ฉีดตามกำหนด ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมีการชะลอ หรือมีการเลื่อนหรือไม่ ถ้าไม่ได้รับวัคซีนตามกำหนดก็ไม่สามารถเปิดเรียนได้
3.มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา โดยมี นาย
สุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธาน และให้ศึกษาธิการจังหวัด เป็นเลขาฯ โดยมีกรรมการอีกหลายคน ทั้งนี้คณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวจะมีหน้าที่กลั่นกรองความพร้อมของสถานศึกษาแต่ละแห่งที่จะเรียนออนไซต์สมควรจะให้ดำเนินการหรือไม่
“โรดแมปที่วางไว้ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงปลายเดือนมิถุนายนี้คงสามารถเปิดเรียนแบบออนไซต์สำหรับเด็กโต ระดับชั้นมัธยมศึกษา ปวช. ปวส. ปริญญา ถ้าสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ได้ฉีดวัคซีนครบ ประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2564 สามารถเปิดการเรียนการสอนในส่วนเด็กประถม ศูนย์เด็กเล็กได้
รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่วางไว้กับชุมชน หมู่บ้านต่าง ๆ คิดว่าสามารถดำเนินได้ประมาณปลายเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป แต่ทั้งหมดขึ้นกับปัจจัยสถานการณ์โควิด และการได้รับจัดสรรวัคซีนครบถ้วนหรือไม่”
ที่สำคัญนอกจากการฉีดวัคซีนให้คนไทยแล้ว ต้องเริ่มฉีดวัคซีนให้คนต่างชาติ นี่คือโรดแมปที่จังหวัดวางไว้ แต่ไม่มีใครสามารถคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นได้ ถ้าวัคซีนไม่มาตามที่ขอไป และสถานการณ์แย่กว่าปัจจุบัน ก็ต้องปรับเปลี่ยนกันอีกครั้งให้สอดคล้องกับความเป็นจริงด้วย
“แต่ถึงฉีดวัคซีนแล้ว ต้องใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง วัคซีนเพียงแต่ลดอาการของโควิดที่หนักก็เบาลง โอกาสเสี่ยงน้อยลง ฉีดวัคซีนแล้วอย่าชะล่าใจ เช่น วัดป้อมโชติการามทยอยพบผู้ติดเชื้อโควิดถึงวันนี้ รวม 39 ราย แบ่งเป็นพระ 17 องค์ เณร 10 องค์ แม่ชี 1 คน ฆาราวาส 11 คน ในค่ายทหารยังมีเป็นครอบครัวเดียว และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงพบอีก 5-6 คน
ตัวเลขการพบผู้ติดเชื้อในสมุทรสาครตอนนี้มีทั้งในโรงงาน และในครอบครัว หลายคนจึงเป็นห่วงเมื่อเปิดเทอม เด็ก ๆ จะติดเชื้อกันจำนวนมาก จึงยังให้เรียนออนไลน์ ซึ่งคนติดเชื้อคือ ครูติดเชื้อมาจากที่บ้าน ตอนนี้ในเมืองไทยมีเกือบครบทุกสายพันธุ์แล้ว”
2ครูฉีดโควิดแล้วยังติดเชื้อ! ล็อกประตูปิดตายโรงเรียนดัง สั่งตรวจทั้งหมด กักตัววุ่น
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6462962
โรงเรียนดังเมืองคอนวุ่น ครูติดโควิด 2 ราย ทั้งที่ฉีดวัคซีนแล้ว ส่งครู-บุคลากรทางการศึกษาตรวจด่วน สั่งกักตัว 14 วัน รวมทั้งปิดอาคาร ล็อกรั้วโรงเรียน
วันที่ 19 มิ.ย.2564 ผู้อำนวยการโรงเรียน ในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งผลการตรวจโควิดของคุณครู 1 ท่าน ว่ายืนยันผลการตรวจติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณครูท่านนี้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 พร้อมกับคุณครูอีก 17 คนแล้ว เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2564 ที่โรงละคร อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตนได้ประสานขอคำชี้แนะจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด เพื่อร่วมหาแนวทางการดำเนินการแบบเร่งด่วน
โดยให้ครู บุคลากรทางการศึกษาทุกคน ได้ไปตรวจคัดกรองที่รพ.มหาราช เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งครูกลุ่มเสี่ยงสูงที่สัมผัสใกล้ชิดซึ่งได้ร่วมทานอาหารกลางวันด้วยกันเมื่อวันที่ 14 และ 16 มิ.ย.64 จำนวน 7 ราย โดยผลตรวจกลุ่มเสี่ยงต่ำทุกคนไม่ติดเชื้อ แพทย์แนะนำให้กักตัวที่บ้าน 14 วัน ขณะที่จ้าหน้าที่รพ.สต. ได้เข้ามาสอบสวนโรค เก็บข้อมูลเชิงลึกที่โรงเรียน รายงานสาธารณสุขอำเภอนำผู้เสี่ยงสูงไปกักตัว นอกจากนั้นโรงเรียนยังปิดประตูรั้ว อาคารเรียน ปิดป้ายห้ามเข้า-ออก ห้ามไม่ให้ใช้พื้นที่ 14 วัน ตามคำแนะนำจาก สสจ.นครศรีธรรมราช
ล่าสุดวันนี้ มีครูอีก 1 ท่านผลตรวจออกมาเป็นบวก โดยคุณครูท่านนี้ ระบุว่า ได้พูดคุยแบบใกล้ชิดกับครูที่ป่วยโควิดท่านแรก ขณะนี้รพ.มหาราช ได้ส่งระมารับตัวคุณครู ไปรักษาแล้ว รวมทั้งครอบครัวก็ถูกส่งไปตรวจหาเชื้อโควิดและกักตัวแล้วเช่นกัน
JJNY : 4in1 สาวโพสต์โวยสถานที่กักตัวสกปรก│ผู้ว่าฯสมุทรสาครพ้อ│2ครูฉีดแล้วยังติดเชื้อ!│ธุรกิจแอลกอฮอล์ เชียร์เปิดกิจการ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6462737
สาวโพสต์สถานที่กักตัว สกปรก หมอนมีแต่เชื้อรา-รังปลวก พีกสุดห้องน้ำรวมแค่ชะโงกหน้าก็เห็นหมด โวยจนท.สถานที่ไม่พร้อมก็อย่าเอาเป็นที่กักตัว
วันที่ 19 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพของศูนย์กักตัวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ขอร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากสภาพค่อนข้างสกปรก หมอนและที่นอนก็มีเชื้อรา โดยไม่มีผ้าปูที่นอน ไม่มีผ้าห่ม ไม่มีปลอกหมอนให้ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยฝุ่นจำนวนมาก โดยระบุข้อความว่า
เมื่อยังตกลงกันไม่ได้ คนที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน เคสนี้ไม่ใช่เคสแรกตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น แต่ขอพูดถึง วันนี้ 18.06.2021 มีน้อง ๆ ญาติ ๆ ที่รักษาโควิดอาการดีขึ้นแล้ว ทางคุณหมอโรงพยาบาลสนามอนุญาตให้กลับบ้านได้ 3 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด และประสานงานให้ทางโรงพยาบาลในพื้นที่รับตัวกลับไปรักษาต่อ หรือกักตัวอีก 14 วัน หลังจากรับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามแล้ว 13 วัน ทางเราได้รับการติดต่อจากอนามัยในพื้นที่และผู้ใหญ่บ้าน ว่าไม่อนุญาตให้กักตัวที่บ้านต้องไปกักตัวต่อยังสถานที่ที่หน่วยงานจัดเตรียมไว้ให้
ทางเราไม่มีสิทธิปฏิเสธ แต่สิ่งที่ทางน้อง ๆได้รับหลังจากรถโรงพยาบาลไปส่ง เมื่อไปถึงได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าอยู่บ้านหลังไหน ให้เดินไปเอง ทางน้อง ๆ ยังพอเข้าใจ อาจเป็นไปได้ว่าคุณไม่อยากสัมผัสเราที่มีเชื้ออยู่ แต่ยังโชคดีมีคนที่อยู่ก่อนแล้วนำน้อง ๆ ไปยังบ้านพัก ต้องขอบคุณคนที่อยู่ก่อนมาก ๆ สำหรับความช่วยเหลือต่าง ๆ พอไปถึงเป็นบ้านโล่ง ๆ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ นอกจากมีพัดลมติดเพดาน 1 เครื่องที่มีเสียงดังเวลาเปิด มีฟูกเก่า ๆ สกปรกมาก ขนาด 3 ฟุต
ไม่มีผ้าปูที่นอน ไม่มีผ้าห่ม ไม่มีปลอกหมอนให้ คำตอบที่ได้จากเจ้าหน้าที่คือ ของอย่างอื่นคุณต้องนำมาเองทุกอย่าง จะให้คนไข้กลับไปเอาเองหรือให้คนที่บ้านนำมาให้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งบ้านที่ติดกัน 9 หลัง ติดเชื้อโควิด ทั้งหมด 34 คน และเหลือบ้านละคนที่ต้องกักตัว ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ น้อง ๆ ต้องขออุปกรณ์เพิ่มเติม สิ่งที่ได้คือมีฟูก 1 อัน ขนาด 3 ฟุต รวมอันเดิมเป็น 2 หลัง หมอน 2 ใบที่มีเชื้อราขึ้น มีเสื่อ 1 ผืน ไม้กวาดกับที่โกยขยะ 1 อัน และหลอดไฟที่ยังไม่ได้เปลี่ยน 1 หลอด
สภาพบ้านสกปรกมาก มีฝุ่นเต็มไปหมด มีรังปลวก มีรังมดตามพื้นผนังในบ้าน ผนังบางส่วนติดกับถุงดำที่มีรอยขาด ๆ ผนังเป็นรู กระเบื้องแตก ไฟในบ้านไม่ค่อยสว่าง นี่คือบ้านหลังแรกที่น้องต้องเข้าไปพัก จากนั้นเพื่อน ๆ ที่อยู่ก่อนแล้วแนะนำให้เปลี่ยนบ้านเป็นบ้านหลังที่ 2 ที่ 3 แต่บ้านนั้นกลอนล็อกประตูไม่สามารถใช้งานได้ จำเป็นต้องเปลี่ยนบ้านอีกหลังเป็น ครั้งที่ 4 ยังดีที่พัดลมสามารถใช้งานได้ กลอนล็อกประตูใช้ได้ แต่ไฟยังไม่ค่อยสว่างอยู่ดี ถ้าเป็นคุณคุณจะกล้านอนไหม?
ลองคิดดูว่าคนไข้ ที่เพิ่งเดินทางไปถึงต้องไปทำความสะอาดบ้านทั้งหลังเอง ต้องขนย้ายสิ่งของเอง ต้องขอความช่วยเหลือเพื่อน ๆ ที่อยู่ก่อนมาเปลี่ยนหลอดไฟให้ บ้านหลังข้าง ๆ หรือบริเวณอยู่รวมกับผู้ชาย แล้วน้อง ๆ เป็นผู้หญิงแค่ 3 คน ในบ้านหลังนั้น เรื่องห้องน้ำอยู่ข้างนอก ทางไปห้องน้ำมืดมาก เปลี่ยวด้วย ที่พีคคือเป็นห้องน้ำรวมที่แบ่งเขตแค่ผนังห้อง ฝั่งนี้ผู้หญิงฝั่งนี้ผู้ชาย ที่ผนังตรงกลางแต่ละฝั่งสามารถชะโงกเห็นฝั่งตรงข้ามได้
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หน่วยงานคุณจัดเตรียมไว้ให้จริงหรือ ถ้าเป็นลูกหลานของคุณ คุณจะยังให้เขายังอยู่ต่อที่นี่ไหม นี่คือสิ่งที่คุณบอกว่าจัดเตรียมไว้ให้ ขอถามว่าจริง ๆ แล้วคุณได้เข้าไปตรวจสอบบ้านแต่ละหลังแล้วใช่ไหม สิ่งที่เกิดข้อเปรียบเทียบอย่างชัดเจนคือ เทศบาลจัดเตรียมของให้สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงที่ต้องกักตัว ได้ดีกว่าสิ่งที่อำเภอจัดเตรียมไว้ให้ สำหรับผู้ที่กลับมาจากโรงพยาบาลต้องกักตัว มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร
ความเหลื่อมล้ำของการบริหารจัดการที่ล้มเหลว การโยนไปโยนมาของหน่วยงาน สุดท้ายประชาชนไม่ได้รับคำตอบ ถ้าสถานที่ไม่พร้อมรองรับ สู้ให้อยู่โรงพยาบาลต่อให้ครบ 28 วันเลยไม่ดีกว่าหรอ มีหมอคอยสังเกตอาการตลอด 24 ชั่วโมง แต่การไปอยู่ที่นั่นเจ้าหน้าที่ยังไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เลย ถ้าเราไม่ออกมาสะท้อนเหตุการณ์นี้ก็จะเกิดขึ้นซ้ำ ต่อไป สุดท้ายขอให้ภาพเป็นคนเล่าเรื่อง อยากเรียกร้อง ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบโดยด่วน
ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พ้อถูกเทวัคซีน จาก 3 แสน เหลือแค่ 7 หมื่นโดส
https://www.prachachat.net/breaking-news/news-694188
ผู้ว่าฯโวย สมุทรสาครฮับโรงงานทำรายได้ 6 แสนล้านบาท/ปี โควิดยังหนักบอกจะให้วัคซีน 3 แสนโดส จัดมาให้แค่ 7 หมื่นโดส
วันที่ 19 มิถุนายน 2564 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวในรายการ ”ไม่แพ้แน่นอน เราจะผ่านไปด้วยกัน” ว่า ในวันที่ 19 มิถุนายน 2564 สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดสมุทรสาครพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 171 ราย แต่ได้รับการจัดสรรวัคซีนมาในเดือกรกฎาคม 2564 จำนวน 70,000 โดส ซึ่งถือว่าน้อยมาก จากเดิมจะได้รับการจัดสรร จำนวน 3 แสนกว่าโดส
ทั้งที่สมุทรสาครมีปัจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่ 1) มีตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ยังไม่ลดลงเลย ความหวังอยู่ที่วัคซีน 2) สมุทรสาครมีโรงพยาบาลสนาม ซึ่งไม่ได้ใช้เฉพาะคนสมุทรสาคร แต่ได้เปิดรับผู้ติดเชื้อโควิดจากจังหวัดอื่นเข้ามาใช้ด้วย 3) สมุทรสาครเป็นศูนย์กลางโรงงานที่สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย 5-6 แสนล้านบาทต่อปี ด้วยปัจจัยเหล่านี้ควรจัดสรรวัคซีนให้จังหวัดสมุทรสาคร ไม่ควรจะเป็นอย่างที่เห็นอยู่
“เมื่อเช้านี้ (19 มิ.ย. 2564) ได้หารือกับคณะกรรมการส่วนกลางไป ซึ่งเท่าที่ทราบว่าหลังจากคณะกรรมการส่วนกลางได้รับฟังปัญหาแล้วบอกว่า จะหาแนวทางแก้ไข โดยจะมึการขยับให้เป็นหลักแสนโดส แต่ยังไม่รู้ว่าเท่าไหร่ ผมพยายามผลักดันเต็มที่แล้ว”
นายวีระศักดิ์กล่าวต่อไปว่า วานนี้ (18 มิ.ย. 2564) ได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครได้มีการพิจารณาเรื่องวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ได้มาชี้แจงในที่ประชุมว่า ได้สั่งจองไปยังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ 2 แสนโดส โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามรับรอง ซึ่งตนพร้อมที่ลงนามให้ แต่วันนี้ยังไม่ทราบว่าจะได้มาจำนวนเท่าไหร่ และได้มาเมื่อไหร่ เพราะมีหลายหน่วยงานต่างสั่งจองเข้าไปกันจำนวนมาก
“สาเหตุที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก เพราะได้รับแจ้งจากผู้ติดเชื้อ และโรงงานต่าง ๆ ให้ความร่วมมือแจ้งเข้ามา จึงได้เข้าไปตรวจ ทั้งนี้เมื่อตรวจพบได้ขอความร่วมมือปิดกิจการชั่วคราวเพื่อทำความสะอาด”
สำหรับเรื่องการเปิดการเรียนการสอน ตนได้มีโอกาสคุยกับภาคการศึกษาและส่วนราชการต่าง ๆ รวมทั้งคุยกับภาคธุรกิจในสมุทรสาคร อยากจัดการเรียนการสอนให้ใกล้เคียงกับการเรียนการสอนปกติ หรือออนไซต์ให้ได้มากที่สุด แทนที่จะนั่งเรียนออนไลน์ที่บ้าน
จึงได้ตั้งเงื่อน 3 ประการที่จะให้เด็กไปโรงเรียนได้คือ
1.สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ต้องไม่รุนแรง
2.วัคซีนป้องกันโควิด-19 ต้องได้ฉีดตามกำหนด ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมีการชะลอ หรือมีการเลื่อนหรือไม่ ถ้าไม่ได้รับวัคซีนตามกำหนดก็ไม่สามารถเปิดเรียนได้
3.มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา โดยมี นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธาน และให้ศึกษาธิการจังหวัด เป็นเลขาฯ โดยมีกรรมการอีกหลายคน ทั้งนี้คณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวจะมีหน้าที่กลั่นกรองความพร้อมของสถานศึกษาแต่ละแห่งที่จะเรียนออนไซต์สมควรจะให้ดำเนินการหรือไม่
“โรดแมปที่วางไว้ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงปลายเดือนมิถุนายนี้คงสามารถเปิดเรียนแบบออนไซต์สำหรับเด็กโต ระดับชั้นมัธยมศึกษา ปวช. ปวส. ปริญญา ถ้าสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ได้ฉีดวัคซีนครบ ประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2564 สามารถเปิดการเรียนการสอนในส่วนเด็กประถม ศูนย์เด็กเล็กได้
รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่วางไว้กับชุมชน หมู่บ้านต่าง ๆ คิดว่าสามารถดำเนินได้ประมาณปลายเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป แต่ทั้งหมดขึ้นกับปัจจัยสถานการณ์โควิด และการได้รับจัดสรรวัคซีนครบถ้วนหรือไม่”
ที่สำคัญนอกจากการฉีดวัคซีนให้คนไทยแล้ว ต้องเริ่มฉีดวัคซีนให้คนต่างชาติ นี่คือโรดแมปที่จังหวัดวางไว้ แต่ไม่มีใครสามารถคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นได้ ถ้าวัคซีนไม่มาตามที่ขอไป และสถานการณ์แย่กว่าปัจจุบัน ก็ต้องปรับเปลี่ยนกันอีกครั้งให้สอดคล้องกับความเป็นจริงด้วย
“แต่ถึงฉีดวัคซีนแล้ว ต้องใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง วัคซีนเพียงแต่ลดอาการของโควิดที่หนักก็เบาลง โอกาสเสี่ยงน้อยลง ฉีดวัคซีนแล้วอย่าชะล่าใจ เช่น วัดป้อมโชติการามทยอยพบผู้ติดเชื้อโควิดถึงวันนี้ รวม 39 ราย แบ่งเป็นพระ 17 องค์ เณร 10 องค์ แม่ชี 1 คน ฆาราวาส 11 คน ในค่ายทหารยังมีเป็นครอบครัวเดียว และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงพบอีก 5-6 คน
ตัวเลขการพบผู้ติดเชื้อในสมุทรสาครตอนนี้มีทั้งในโรงงาน และในครอบครัว หลายคนจึงเป็นห่วงเมื่อเปิดเทอม เด็ก ๆ จะติดเชื้อกันจำนวนมาก จึงยังให้เรียนออนไลน์ ซึ่งคนติดเชื้อคือ ครูติดเชื้อมาจากที่บ้าน ตอนนี้ในเมืองไทยมีเกือบครบทุกสายพันธุ์แล้ว”
2ครูฉีดโควิดแล้วยังติดเชื้อ! ล็อกประตูปิดตายโรงเรียนดัง สั่งตรวจทั้งหมด กักตัววุ่น
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6462962
โรงเรียนดังเมืองคอนวุ่น ครูติดโควิด 2 ราย ทั้งที่ฉีดวัคซีนแล้ว ส่งครู-บุคลากรทางการศึกษาตรวจด่วน สั่งกักตัว 14 วัน รวมทั้งปิดอาคาร ล็อกรั้วโรงเรียน
วันที่ 19 มิ.ย.2564 ผู้อำนวยการโรงเรียน ในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งผลการตรวจโควิดของคุณครู 1 ท่าน ว่ายืนยันผลการตรวจติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณครูท่านนี้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 พร้อมกับคุณครูอีก 17 คนแล้ว เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2564 ที่โรงละคร อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตนได้ประสานขอคำชี้แนะจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด เพื่อร่วมหาแนวทางการดำเนินการแบบเร่งด่วน
โดยให้ครู บุคลากรทางการศึกษาทุกคน ได้ไปตรวจคัดกรองที่รพ.มหาราช เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งครูกลุ่มเสี่ยงสูงที่สัมผัสใกล้ชิดซึ่งได้ร่วมทานอาหารกลางวันด้วยกันเมื่อวันที่ 14 และ 16 มิ.ย.64 จำนวน 7 ราย โดยผลตรวจกลุ่มเสี่ยงต่ำทุกคนไม่ติดเชื้อ แพทย์แนะนำให้กักตัวที่บ้าน 14 วัน ขณะที่จ้าหน้าที่รพ.สต. ได้เข้ามาสอบสวนโรค เก็บข้อมูลเชิงลึกที่โรงเรียน รายงานสาธารณสุขอำเภอนำผู้เสี่ยงสูงไปกักตัว นอกจากนั้นโรงเรียนยังปิดประตูรั้ว อาคารเรียน ปิดป้ายห้ามเข้า-ออก ห้ามไม่ให้ใช้พื้นที่ 14 วัน ตามคำแนะนำจาก สสจ.นครศรีธรรมราช
ล่าสุดวันนี้ มีครูอีก 1 ท่านผลตรวจออกมาเป็นบวก โดยคุณครูท่านนี้ ระบุว่า ได้พูดคุยแบบใกล้ชิดกับครูที่ป่วยโควิดท่านแรก ขณะนี้รพ.มหาราช ได้ส่งระมารับตัวคุณครู ไปรักษาแล้ว รวมทั้งครอบครัวก็ถูกส่งไปตรวจหาเชื้อโควิดและกักตัวแล้วเช่นกัน