ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยรวดเร็ว(ระยะทาง ส่วน ระยะเวลา) กว่าทุกๆ รอบที่ผ่านมา

จีนจ้องคุม hard commodities เหล็ก อลูมิเนียม ทองแดง >>> BRI survival

Soft commodities มีอนาคตกว่า 

ข่าวในรอบ 12-18 Jun 64>> FED เปลี่ยนนโยบาย, G7-เลิกใช้ถ่านหินภายใน 2564, G7-จะทำ Infra project แข่ง BRI, จีนขาย hard commodities จากสต็อกรัฐบาล, US-EU จับมือ, US-Russia คุยกันรู้เรื่อง, US-จีน หนักข้อขึ้น ห้ามลงทุน 64 บจ ห้ามใช้ APP จีน >> เข้าโหมดแข่งกันข่มมากขึ้นเรื่อยๆ

-----------
Chip & Electronics industries เป็นสินค้าความมั่งคง สหรัฐ ยุโรป ต้องมีโรงงานในประเทศ

แนวโน้ม จีน เมกา อยู่กันแบบสงครามเย็น >> Industrial Goods ต้องผลิตได้ในประเทศหรือผลิตได้ในประเทศพันธมิตร,
แต่สิ่งสำคัญที่แข่งกันคือ computing power, AI algorithms, electronics-software-mapping oriented weapons คือผู้ชนะ ref. ผลงานในอิหร่านและสงครามอาเซอฯ

เมกา ตัดการลงทุนในจีน+10Y ข้างหน้า การค้าสหรัฐ-จีน ยุโรป-จีน ญี่ปุ่น-จีน มีสัดส่วนลดลงเทียบ GDP ทั้งสองฝ่ายลดลง>> แล้วจีนจะแก้ปัญหาอย่างไรจะหาเงินจากไหน?       
--> ถ้าโลกยังมั่นใจว่า เมกา เหนือกว่า  จีน แต่ไม่รบกัน ประเทศอื่นก็จะยังค้าขายและท่องเที่ยวกับจีน จีนรวยน้อยลง แต่ก็อยู่ได้  BRI จะเป๊ก
--> ถ้าโลกคิดว่า จีน พลิก มาเหนือกว่า เมกา เงินทุนจะประเทศอื่นจะหลังไหลเข้าไปจีนอย่างมาก เป็นการลงทุนกับอนาคต แบบนี้ เมกา จะเป็นฝายฝ่อ ตัวเล็กลง