13 เทคนิค ลูกคลอดง่าย ลูกออกมาปลอดภัยคุณแม่หายห่วง

เชื่อว่าเรื่องที่คุณแม่กังวลในระหว่างการตั้งครรภ์ต้องหนีไม่พ้นเรื่องการคลอดอย่างแน่นอน และมีคำถามมากมาย ว่าลูกออกมาปลอดภัยหรือไม่ ทำยังไงให้ ลูกคลอดง่าย แน่นอนว่า คงมีความกังวลใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ ยิ่งคุณแม่ที่มีท้องแรกด้วยนั้น ยิ่งเพิ่มความกังวลทวีคูณศึกษาหาข้อมูลมากมาย  ไม่ว่าจะ ถามผู้มีประสบการณ์ หรือปรึกษาแพทย์ก็แล้ว พอจะช่วยให้คลายความกังวลไปได้จริงไหมค่ะ แต่ในทางกลับกัน บางคนยิ่งหาข้อมูลมาก ยิ่งเพิ่มความกังวลยิ่งขึ้น

วันนี้เรานำ 13 เทคนิค ลูกคลอดง่าย และลูกคลอดออกมาปลอดภัยมาฝากคุณแม่กันค่ะ


1. ไม่น่าเชื่อ ว่าการกินอินทผลัมช่วงใกล้คลอด ช่วยทำให้ คลอดได้ดี
แน่นอนว่าการทานพืชผักผลไม้ เป็นสิ่งที่ควรรับประทานในช่วงตั้งครรภ์แต่ไม่น่าเชื่อว่ามีผลไม้เพียงไม่กี่ชนิด ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องศึกษาให้ดีในระหว่างท้องว่าสมควรกินหรือไม่ และยิ่งในช่วงใกล้คลอดยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ แต่ไม่น่าเชื่อว่า อินทผลัม นั้นช่วยให้คลอดง่ายขึ้น เพราะอะไรมาดูกันค่ะ ในอินทผลัมมีสารที่ชื่อว่า ออกซิโตซิน ออกฤทธิ์ได้ดีสำหรับคุณแม่ท้องแก่ เพราะช่วยกระตุ้นการบีบและหดตัวของมดลูก ผลการทดลองทางการแพทย์พบว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ที่รับประทานอินทผลัมเป็นประจำช่วงใกล้คลอดนั้น  สามารถลดปริมาณความต้องการใช้ยากระตุ้นในการคลอดได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานอินทผลัม แน่นอนว่าสรรพคุณนี้ทำให้คลอดง่าย  เพราะฉะนั้นแล้วในช่วงไตรมาสที่สาม  ถึงช่วงใกล้คลอด แนะนำให้คุณแม่รับประทานอินทผลัมเป็นอาหารว่าง หรืออาหารทานเล่น ประมาณ 4 – 6 ผลต่อวัน จะได้คลอดง่าย ๆ ค่ะ

2. เน้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทำให้ ลูกคลอดง่าย
ในยุคสมัยนี้ มองไปทางไหนคุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลาย สายฟิตแอนด์เฟิม ยิ่งจะเห็นจากตามสื่อต่างๆ ที่ดาราตั้งครรภ์เน้นการออกกำลังกาย ก็อาจมีอิทธิพลอยู่ไม่น้อยจริงไหมค่ะ จึงไม่แปลกที่ คุณแม่ตั้งครรภ์หันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น อาจเนื่องด้วยเพราะต้องการให้หุ่นกลับมาฟิตเฟิร์มโดยเร็วหลังคลอดและต้องการให้คลอดง่ายมากขึ้น แต่เน้นว่าการออกกำลังกายไม่ได้ทำให้คลอดง่าย แต่เพิ่มความActiveให้กับร่างกาย อวัยวะและcellในร่างกายสดชื่น เพิ่มออกซิเจนให้Cell บวกกับลดความเครียด ผ่อนคลายมากขึ้น อุ้งเชิงกรานก็จะแข็งแรง อดทนต่อการเจ็บท้องคลอดมากกว่าคุณแม่ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย จึงทำให้ได้ผลดีและเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดที่ดีมากๆค่ะ  โดยวิธีการออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์ที่คุณแม่สามารถทำได้ มีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเดินเบา ๆ วันละประมาณ 20-30 นาที ว่ายน้ำ หรือโยคะสำหรับคนท้อง โดยสามารถขอคำแนะนำจากคุณหมอที่ดูแลครรภ์ได้นะคะ

3. ทำได้ง่ายๆในบ้าน แช่หรืออาบน้ำอุ่น ช่วยทำให้ผ่อนคลาย
 เทคนิคช่วยลดความเครียดให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ทำได้ง่ายๆที่บ้าน คือการนอนแช่น้ำอุ่นสุดยอดการผ่อนคลายสำหรับคุณแม่ เนื่องจากความอุ่นและคุณสมบัติในการพยุงตัวของน้ำ ทำให้ตัวมีน้ำหนักเบา ช่วยปลอบประโลม ผ่อนคลายร่างกายที่ตกอยู่ในสภาพเครียดได้ดีจริงๆค่ะ ถ้าคุณแม่มีอ่างอาบน้ำ แต่ถ้าไม่มีอ่างอาบน้ำ การอาบน้ำฝักบัวก็ให้ผลดีเช่นเดียวกัน แต่ต้องระมัดระวังอยู่เสมอนะคะ เพื่อความปลอดภัยในขณะใช้ห้องน้ำนะคะคุณแม่

4. เรื่องง่ายๆที่คุณแม่มักมองข้าม การนอนหลับให้เพียงพอ
ช่วงตั้งครรภ์การนอนถือว่าสำคัญมากๆ แต่บ่อยครั้งที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีอาการนอนหลับไม่สนิท เกิดจากความกังวล คิดมาก การเหนื่อยล้า อ่อนแรงหรือไม่สบายตัว ถึงอย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรพยายามนอนให้ได้เยอะๆ อย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมงนะคะ  จากงานวิจัยในวารสารสูตินรีเวชของชาวอเมริกากล่าวว่า  คุณแม่ใกล้คลอดโดยเฉพาะช่วงเดือนสุดท้ายก่อนคลอด ที่นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน  หรือเรียกว่านอนไม่เพียงพอ มีความเสี่ยงที่จะใช้เวลาในการคลอดนานกว่า 11 ชั่วโมงเลยทีเดียว และในที่สุดอาจมีแนวโน้มที่จะต้องผ่าคลอดมากกว่า 4 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับคุณแม่ที่นอนอย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง ถือว่าเป็นเรื่องเล็กๆที่ส่งผลไม่ใช่เล่นเลยจริงไหมค่ะ พยายามข่มตานอนหรือหาวิธีช่วยให้นอนหลับสบายๆ เพื่อให้ได้เวลาที่เพียงพอต่อการพักผ่อนเพื่อให้คลอดง่ายนะคะ

5.โยคะช่วยให้ คลอดง่าย ผ่อนคลายไปในตัว
พูดถึงการออกกำลังกายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วนั้น แน่นอนว่าไม่สามารถจะออกกำลังกายที่หักโหมมากนัก แต่การออกกำลังกายด้วยการทำโยคะถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยในยุคสมัยนี้  ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดอาการตะคริวระหว่างตั้งท้องแล้ว รวมถึงลดการบวม และการปวดหลัง ปวดขา หลายท่าของโยคะ ที่เน้นเฉพาะท่า และต้องได้รับการดูและในระหว่างกานเล่นโยคะ  ยังสามารถช่วยบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้คลอดได้ง่ายขึ้น เช่น ท่าสุนัขบิดขี้เกียจและท่าแมว เป็นต้น นอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญมากๆ การทำโยคะยังเป็นการฝึกสมาธิ ฝึกการกำหนดลมหายใจเข้าออก ซึ่งมีผลที่ดีช่วยให้ในระหว่างคลอดผ่อนคลายลดความตึงเครียดของคุณแม่ได้ดีค่ะ

6. ฝึกสมาธิ และรู้จักวิธีผ่อนคลายความกังวล
ตรงนี้เป็นเรื่องของความคิด ก่อนจะเปลี่ยนแปลงท่าทางการออกกำลังกาย การปรับทัศนคติเกี่ยวกับการตั้งครรภ์การคลอด บางครั้งคุณแม่บางคนอาจมีความคิดที่ว่าการคลอดเป็นเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ในชีวิต แน่นอนว่ามันสำคัญและมีคุณค่าในการถือกำเนิดลูกน้อย แต่เมื่อเราตั้งความคาดหวัง และมองว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่จะนำพามาซึ่ง การหาข้อมูลและคำแนะนำมากมายหลายอย่างยิ่งเยอะ ยิ่งสร้างความสับสน เพราะแต่ละคนมีวิธีไม่เหมือนกัน แล้วแต่บุคคลไป แน่นอนว่าคุณแม่มือใหม่สับสน เครียด  เพิ่มความกลัวมากยิ่งขึ้น การผ่อนคลายความกลัวความสับสน และมองเรื่องการคลอดเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นไปอย่างธรรมชาติ ช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพของแม่และลูกนะคะ  ควรทำใจให้สบาย อย่าเครียด เพราะการที่คุณแม่ท้องมีความสุขจิตใจสงบ จะช่วยให้คลอดง่าย มองโลกในแง่ดี หาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ จะเป็นสิ่งที่ทำแล้วสบายใจก็ขอให้คุณแม่ทำตามวิถีที่สบายใจค่ะ และหมั่นคุยกับลูกและสามีบ่อย ๆนะคะ เพราะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญสำหรับคุณแม่ และเป็นการเสริมสร้างความอบอุ่นในครอบครัวเช่นเดียวกัน

7. ใช้หลักการแรงโน้มถ่วงเข้าช่วย
มีคำแนะนำว่า ช่วงที่คุณแม่ใกล้คลอดลองพยายามจับท่านั่งของตัวเองเป็นท่า นั่งคุกเข่า หรือใช้ลูกบอลออกกำลังกายพยุงลำตัวไว้ หรือใช้เก้าอี้แทนได้ ตรงนี้ต้องทำเมื่อมีคนดูแลอยู่ใกล้ๆนะคะ รวมถึงพยายามยืน เดิน บ่อย ๆ เป็นการช่วยดันให้ทารกลงมาอยู่ช่วงล่างทำให้คลอดง่าย และหากลูกกลับหัวแล้ว หัวของลูกที่ถูกดันลงมาจะช่วยกดทับปากมดลูกให้ขยาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดได้ง่ายมากยิ่งขึ้นค่ะ

8. ฝึกการหายใจเข้าออกในกรณีที่คลอดเองตามธรรมชาติ
สำหรับคุณแม่ที่คลอดเองตามธรรมชาติ เรื่องการเบ่งคลอดเป็นสิ่งที่จะทำในจังหวะที่เป็นอัตโนมัติ ดังนั้นฝึกจังหวะการหายใจที่ถูกต้องจะช่วยได้มากในเรื่องของแรงเบ่งค่ะ  คุณแม่บางคนไม่ทันได้ตั้งสติ ร้องให้โวยวาย ก็ยิ่งทำให้ใช้พลังงานเยอะ และลมเบ่งหมดเร็ว ไม่ทันได้เก็บลมเบ่งไว้ในจังหวะที่ถูกที่ถูกเวลา ดังนั้นเมื่อใช้ลมในการเบ่งกลับไม่มีแรงเบ่ง ดังนั้นการฝึกลมหายใจถือว่าสำคัญมากๆ   ควรหาข้อมูลและฝึกการหายใจบ่อย ๆ เมื่อถึงเวลาคลอดก็จะสามารถปฏิบัติได้โดยอัตโนมัตินะคะ เพราะเตรียมตัวฝึกมาดีจนรู้จังหวะการหายใจ ก็จะทำให้การเบ่งคลอดนั้นง่ายและใช้เวลาในการคลอดไม่นาน ซึ่งดีต่อตัวคุณแม่และดีต่อลูกในท้องเช่นกันค่ะ

9. ชวนคุณแม่ตั้งครรภ์เดินเยอะ ๆ ช่วยให้คลอดง่าย
ในครอบครัวบางครอบครัวที่มีผู้ใหญ่ อาจมีความกังวล และพยายามให้คนท้องนอนเยอะๆและไม่ค่อยให้ทำกิจกรรมต่างๆ แต่จริงๆแล้วอยากจะบอกว่ากิจกรรมที่ทำได้ง่ายๆและควรทำคือการเดินค่ะ การเดินถือว่าเป็นการบริหารร่างกายอย่างหนึ่ง ซึ่งทำได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ส่งผลต่อการคลอด ยิ่งเดินมากยิ่งลดความเจ็บปวด ในหนึ่งวันควรใช้เวลาเดิน 20-30 นาที เพราะ เชื่อว่าการเดินอาจช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซิน (Oxytocin) ที่ช่วยให้มดลูกบีบรัดตัวได้มากยิ่งขึ้น เป็นการกระตุ้นการคลอดได้ดี และควรบริหารร่างกายส่วนอื่น ๆร่วมด้วย

10. ชวนคุณแม่ตั้งครรภ์ ดื่มชาใบราสเบอร์รีแดง
 สูตรนี้เป็นสูตรของทางฝรั่ง แนะนำให้ดื่มช่วงใกล้คลอด มีความเชื่อว่าชาชนิดนี้ เป็นวิธีที่ช่วยเร่งการคลอด ตรงนี้ต้องเน้นย้ำว่าไม่แนะนำให้ดื่มชานี้ ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ เพราะว่าอาจทำให้เสี่ยงกับการคลอดก่อนกำหนดได้นะคะ แต่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ใกล้กำหนดคลอดแล้ว ลองดื่มดูได้ค่ะ จะทำให้เร่งการคลอดและคลอดง่ายขึ้น

11.เทคนิคการกระตุ้นหัวนมด้วยการนวดคลึง
กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกซีโตซินทำให้มดลูกหดรัดตัวดีขึ้น ด้วย การกระตุ้นที่หัวนม (Breast stimulation) โดยการนวดคลึง คุณแม่ใช้ฝ่ามือนวดบริเวณลานนมอย่างอ่อนโยนครั้งละ 15-20 นาทีทุก ๆ ชั่วโมง วันละหลาย ๆ ครั้ง ไม่น่าเชื่อว่า จากการศึกษาพบว่าวิธีนี้สามารถลดการเกิดการเจ็บครรภ์คลอดได้ และปากมดลูกมีความพร้อมมากขึ้น เป็นวิธีที่เหมาะกับแม่ท้องที่ปากมดลูกมีความพร้อมสำหรับการคลอด จะต้องปรึกษากับคุณหมอที่ฝากครรภ์ก่อนว่ามีความพร้อม หรือสามารถทำได้อย่างปลอดภัยหรือไม่นะคะ ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ค่ะ
 
12. เตรียมความพร้อมก่อนวันคลอด ลดความกังวลเพิ่มความสบายใจ
สิ่งนี้เป็นสิ่งเล็กน้อยที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ เพราะ การเตรียมพร้อมก่อนถึงกำหนดคลอด ทั้งการจัดข้าวของที่ต้องใช้ใส่กระเป๋าเตรียมไว้รอไปโรงพยาบาล รวมถึงการเลือกเพลงที่จะช่วยผ่อนคลายระหว่างการคลอด เป็นอะไรที่ช่วยทำให้การคลอดง่ายขึ้น รวมถึงเตรียมสิ่งที่ต้องทำหลังจากกลับจากโรงพยาบาลแล้ว เป็นสิ่งสำคัญเพิ่มความสบายใจและควรทำความเข้าใจกับคู่สามีในหน้าที่ที่ต้องทำในวันคลอดและหลังคลอดค่ะ เป็นอีกทางที่ทำให้คุณแม่วางใจอุ่นใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด เตรียมการให้พร้อมมีชัยไปกว่าครึ่งนะคะ

13.เคล็ดลับ ฝึกนั่งท่าผีเสื้อแบบมณีเวช ช่วยคลอดง่าย
ข้อนี้เป็นข้อพิเศษค่ะ เพราะท่านั่งนี้เป็นท่าที่ช่วยให้ปากมดลูกเปิด ในช่วงใกล้คลอด ทำให้คุณแม่คลอดง่าย ร่วมด้วยกับคุณแม่ควรพยายามขยับร่างกายในท่าหลังตรง เช่น การยืดตัว การยืน รวมทั้งการเดิน โน้มตัวไปข้างหน้าแล้วย่อตัวเล็กน้อย รวมทั้งฝึกนั่งท่าผีเสื้อแบบมณีเวชบ่อย โดยการนั่งฝ่าเท้าชิดกัน สองมือกดตรงเข่าไว้ ก่อนจะโน้มตัวไปข้างหน้านับ 1 – 20 และผ่อนคลายนะคะ  นอกจากการทำท่าผีเสื้อจะช่วยให้ปากมดลูกเปิดเร็ว ยังบรรเทาอาการเจ็บท้องคลอดได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ท่าทั้งหมดควรสอบถามแพทย์และอยู่ในการดูแลของแพทย์ก่อนนะคะ

มาถึงตรงนี้ เรียกได้ว่าเตรียมความพร้อมทั้งกายและใจเพื่อรอวันสำคัญที่ใกล้จะมาถึง เพราะถ้าไม่เตรียมความพร้อมเวลาคลอดลูกคุณแม่ตั้งครรภ์จะเจ็บท้องกันมาก และการรอคลอดก็ยาวนานหลายชั่วโมง ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดี เคล็ดลับข้างต้นจะทำให้คุณแม่ผ่อนคลายกายใจให้พร้อมก่อนไปคลอดค่ะ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่