คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
มัน(เคย)เป็นทางหลวงสายหลักที่ใช้เดินทางข้ามรัฐ ซึ่งมีจนเริ่มต้นที่ Chicago รัฐ Illinois มุ่งไปทางตะวันตกเฉียงใต้เพื่อไปฝั่ง Pacific โดยผ่านรัฐต่างๆ คือ Missouri, Kansas, Oklahoma, Texas, New Mexico, Arizona ไปสิ้นสุดที่ LA รัฐ California รวมระยะทางประมาณ 2,500 ไมล์ หรือกว่า 4,000 กิโลเมตร Route 66 ได้ถูกกำหนดเลข 66 ในปี 1926


อเมริกาเป็นประเทศใหญ่ พื้นที่กว้างขวางมาก การเดินทางระหว่างเมืองในสมัยนั้นก็ต้องผ่านพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ทุรกันดาร ผ่านทะเลทราย ภูเขา ทุ่งหญ้า แต่ละเมืองอยู่ห่างๆกัน ดังนั้นตามจุดสำคัญต่างๆที่พอจะเป็นจุดพักรถ จุดพักผ่อน ได้ก็จะเกิดแหล่งชุมชนเล็กๆ มีร้านค้า มีปั๊มน้ำมัน มีโรงแรมเล็กๆ



ให้นึกภาพเมืองไทยก็คือ เหมือนถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ ถนนสุขุมวิท ถนนเพชรเกษม ไรงี้ นึกภาพที่สมัยก่อนทางหลวงมันยังเป็นถนนสองเลนสวนกัน สองข้างทางเป็นพื้นที่กันดาร ตัดลัดเลาะผ่านเมืองต่างๆไปยังจุดหมายปลายทาง
เมื่ออเมริกามีระบบทางหลวงแบบใหม่ (New Interstate Highway System) ขึ้น หลายรัฐก็ได้สร้างทางหลวงใหม่ ซึ่งทางหลวงใหม่นี้ กว้างกว่าเดิม ตัดตรงกว่าเดิมไม่ลัดเลี้ยวผ่านเมืองเล็กเมืองน้อย ทำให้การเดินทางใช้เวลาน้อยลง ทำให้ทางหลวงระหว่างเมือง ระหว่างรัฐแบบเดิมก็เสื่อมความนิยมไป รวมถึง US Route 66 นี้ด้วย จาก Chicago เดินทางไป LA ก็จะใช้ I-55 -> I-44 -> I-40 หรือ I-80 -> I-70 -> I-15


ผู้คนก็ใช้งานถนนี้น้อยลงมากๆ จนทำให้ในหลายๆส่วนของเส้นทางนี้ ร้านค้า ปั๊มน้ำมัน โรงแรม ก็ต้องปิดบริการไป



ให้นึกภาพการเดินทางจากกรุงเทพ ไปชลบุรี ก่อนที่จะมีถนนบางนา-ตราด เดิมจากรุงเทพฯไปชลบุรี ก็ต้องวิ่งถนนสุขุมวิทสายเก่า ผ่านปากน้ำ บางปู บางเสร่ ลัดเลาะอ้อมโลกเรื่อยไป พอมีถนนบางนา-ตราด มาใหม่ ก็แทบจะไม่มีคนใช้เส้นสุขุมวิทเดิมเพื่อเดินทางไปชลบุรีอีก
ปัจจุบัน หลายรัฐ หลายเมือง ก็เริ่มมีการปรับปรุง Route 66 เดิมให้เป็นถนนสายประวัติศาสตร์ (Historic) โดยรำลึกถึงความทรงจำเก่าๆที่ทางหลวงสายนี้เคยเป็นทางหลวงหลักในการเดินทางไปสู่ตะวันตก เดินทางไปสู่เมือง Los Angles เมืองแห่งมายา เมืองแห่งความหวัง สองข้างทางก็มีร้านขายของที่ระลึก บางร้านก็แปรสภาพเป็น Museum เล็กๆ ไปด้วย
ถ้าจะถามว่า วัฒนธรรม Route 66 คืออะไร มันก็คือความทรงจำในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในเส้นทางนี้แหละครับ และเนื่องจากมันตัดผ่านหลายรัฐ มันก็มีความทรงจำแตกต่างกันไป









อเมริกาเป็นประเทศใหญ่ พื้นที่กว้างขวางมาก การเดินทางระหว่างเมืองในสมัยนั้นก็ต้องผ่านพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ทุรกันดาร ผ่านทะเลทราย ภูเขา ทุ่งหญ้า แต่ละเมืองอยู่ห่างๆกัน ดังนั้นตามจุดสำคัญต่างๆที่พอจะเป็นจุดพักรถ จุดพักผ่อน ได้ก็จะเกิดแหล่งชุมชนเล็กๆ มีร้านค้า มีปั๊มน้ำมัน มีโรงแรมเล็กๆ



ให้นึกภาพเมืองไทยก็คือ เหมือนถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ ถนนสุขุมวิท ถนนเพชรเกษม ไรงี้ นึกภาพที่สมัยก่อนทางหลวงมันยังเป็นถนนสองเลนสวนกัน สองข้างทางเป็นพื้นที่กันดาร ตัดลัดเลาะผ่านเมืองต่างๆไปยังจุดหมายปลายทาง
เมื่ออเมริกามีระบบทางหลวงแบบใหม่ (New Interstate Highway System) ขึ้น หลายรัฐก็ได้สร้างทางหลวงใหม่ ซึ่งทางหลวงใหม่นี้ กว้างกว่าเดิม ตัดตรงกว่าเดิมไม่ลัดเลี้ยวผ่านเมืองเล็กเมืองน้อย ทำให้การเดินทางใช้เวลาน้อยลง ทำให้ทางหลวงระหว่างเมือง ระหว่างรัฐแบบเดิมก็เสื่อมความนิยมไป รวมถึง US Route 66 นี้ด้วย จาก Chicago เดินทางไป LA ก็จะใช้ I-55 -> I-44 -> I-40 หรือ I-80 -> I-70 -> I-15


ผู้คนก็ใช้งานถนนี้น้อยลงมากๆ จนทำให้ในหลายๆส่วนของเส้นทางนี้ ร้านค้า ปั๊มน้ำมัน โรงแรม ก็ต้องปิดบริการไป



ให้นึกภาพการเดินทางจากกรุงเทพ ไปชลบุรี ก่อนที่จะมีถนนบางนา-ตราด เดิมจากรุงเทพฯไปชลบุรี ก็ต้องวิ่งถนนสุขุมวิทสายเก่า ผ่านปากน้ำ บางปู บางเสร่ ลัดเลาะอ้อมโลกเรื่อยไป พอมีถนนบางนา-ตราด มาใหม่ ก็แทบจะไม่มีคนใช้เส้นสุขุมวิทเดิมเพื่อเดินทางไปชลบุรีอีก
ปัจจุบัน หลายรัฐ หลายเมือง ก็เริ่มมีการปรับปรุง Route 66 เดิมให้เป็นถนนสายประวัติศาสตร์ (Historic) โดยรำลึกถึงความทรงจำเก่าๆที่ทางหลวงสายนี้เคยเป็นทางหลวงหลักในการเดินทางไปสู่ตะวันตก เดินทางไปสู่เมือง Los Angles เมืองแห่งมายา เมืองแห่งความหวัง สองข้างทางก็มีร้านขายของที่ระลึก บางร้านก็แปรสภาพเป็น Museum เล็กๆ ไปด้วย
ถ้าจะถามว่า วัฒนธรรม Route 66 คืออะไร มันก็คือความทรงจำในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในเส้นทางนี้แหละครับ และเนื่องจากมันตัดผ่านหลายรัฐ มันก็มีความทรงจำแตกต่างกันไป







แสดงความคิดเห็น
วัฒนธรรม Route66 คืออะไรครับ?
คลับก็มี
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายร้านที่ไม่ได้ชื่อ Route66 แต่
ก็ต้องมีไอคอนของมันติดอยู่ พร้อมกับภาพโฆษณา
แบบอเมริกันเก่าๆ เช่นตู้เย็น เตาอบไฟฟ้า ภาพชายหนุ่ม
บนอานบิ๊กไบค์
ผมแค่เคยไปเที่ยวอเมริกาแต่ไม่เคยอยู่จนซึ้ง
เคยเสิร์ชกูเกิ้ลก็พบแต่ว่าเป็นถนนไฮเวย์แต่ไม่เข้าใจว่า
สำคัญอย่างไรในเชิงวัฒนธรรม
จึงขอถามชาวพันทิปหน่อย