ภรรยาผมตอนนี้กลายเป็นโรคซึมเศร้าไปเรียบร้อย เหคุหลักเหตุนึงคือเรื่องนี้
บัญชีธนาคาร (สีม่วง) ของภรรยาถูกอายัดทั้งบัญชี ทำรายการอะไรไม่ได้มาตั้งแต่ตุลาปีที่แล้ว เงินติดอยุ่ในนั้นเจ็ดหลักครับ
คือเขาทำการขายของออนไลน์กับให้บุคคลคนหนึ่ง(เป็นยอดเงินที่น้อยกว่าเงินในบัญชีมาก) ซึ่งการซื้อขายมีการโอนเงินและส่งมอบของกันไปเรียบร้อย ขออนุญาตแทนคนซื้อว่า นส A มีหลักฐานชัดเจน
ธนาคารเองไม่ให้ข้อมูลอะไรมากไปกว่าชื่อ สน และเลขที่เอกสาร ซึ่งกว่าจะได้ที่ว่ามา ผมต้องเข้าไปเองหลายครั้ง ผมใช้เวลานานกว่าจะปลีกตัวจากงานประจำและสถานการณ์โควิดไป สน ได้ เลขที่เอกสารที่ได้มาก็ไม่ถูก เดินถามคนทั่ว สน ก็ไม่มีใครรู้ สุดท้ายเสี่ยงดวงขอยืมสมุดคุมหนังสือออกมานั่งไล่ดูทีละรายการ หาหนังสือที่ส่งถึง ธนาคาร แล้วขอรายละเอียดจนได้เจอ จนท เจ้าของคดี
ปรากฎว่าเป็นเรื่องที่คนซื้อของจากภรรยาผมไปกู้ยืมเงินจากอีกคนนึงมาแล้วไม่คืน (ขออนุญาตแทนคนให้ยืมเงินว่านาย B) เขามาแจ้งความแล้ว นส A ให้การว่านำเงินมาซื้อของจากภรรยาผม ส่วนของหายไปแล้ว
ประเด็นคือ ตำรวจสั่งอายัดบัญชีภรรยาผม โดยไม่มีการให้เรียกข้อมูลเลย และอ้างว่าเรื่องอยู่ที่อัยการแล้ว ให้ไปติดต่อทางนั้นเอาเอง หรือไม่ก็รอจนคดีสิ้นสุด อ้อ แถมให้ด้วยการบอกว่า พี่ก็ไปเอาเงินมาคืนนาย ข เรื่องจะได้จบ (อันหลังผมบอกว่า ยินดีดำเนินการให้ ถ้าได้ของนั้นคืนมา)
คำถามคือ กรณีนี้เราทำอะไรได้บ้างครับ
1) เราฟ้องหรือแจ้งร้องเรียนตำรวจได้อย่างไรว่าทำการโดยไม่มีการสืบข้อมูลอะไรเลยแล้วทำให้เราเดือดร้อน
2) เราแจ้งดำเนินคดีกับ นาย ข ได้หรือไม่ เพราะหลังจากผมหา จนท จนเจอแล้ว แสดงหลักฐานประกอบความบริสุทธิ์ทุกอย่าง ผมร้องขอให้ จนท ติดต่อเขาเพื่ออธิบาย และขอให้เขายินยอมตัดเราออกเรื่อง เพราะเรื่องเขาให้ นส A ยืมเงิน เป็นคนละเรื่องกับที่ นส A มาซื้อของกับภรรยาผม ซึ่งดำเนินการจบสิ้นกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่เขาปฎิเสธ บอกให้รอศาลตัดสิน
ผมห่วงสุขภาพภรรยามากครับ เขาต้องเป็นคนดูแลลูกๆ อีก สภาพอารมณ์เขามีผลตรงกับเด็กๆ
รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ
ปรึกษาความเดือดร้อนด้านกฎหมายกู้เงินและการดำเนินคดีครับ
บัญชีธนาคาร (สีม่วง) ของภรรยาถูกอายัดทั้งบัญชี ทำรายการอะไรไม่ได้มาตั้งแต่ตุลาปีที่แล้ว เงินติดอยุ่ในนั้นเจ็ดหลักครับ
คือเขาทำการขายของออนไลน์กับให้บุคคลคนหนึ่ง(เป็นยอดเงินที่น้อยกว่าเงินในบัญชีมาก) ซึ่งการซื้อขายมีการโอนเงินและส่งมอบของกันไปเรียบร้อย ขออนุญาตแทนคนซื้อว่า นส A มีหลักฐานชัดเจน
ธนาคารเองไม่ให้ข้อมูลอะไรมากไปกว่าชื่อ สน และเลขที่เอกสาร ซึ่งกว่าจะได้ที่ว่ามา ผมต้องเข้าไปเองหลายครั้ง ผมใช้เวลานานกว่าจะปลีกตัวจากงานประจำและสถานการณ์โควิดไป สน ได้ เลขที่เอกสารที่ได้มาก็ไม่ถูก เดินถามคนทั่ว สน ก็ไม่มีใครรู้ สุดท้ายเสี่ยงดวงขอยืมสมุดคุมหนังสือออกมานั่งไล่ดูทีละรายการ หาหนังสือที่ส่งถึง ธนาคาร แล้วขอรายละเอียดจนได้เจอ จนท เจ้าของคดี
ปรากฎว่าเป็นเรื่องที่คนซื้อของจากภรรยาผมไปกู้ยืมเงินจากอีกคนนึงมาแล้วไม่คืน (ขออนุญาตแทนคนให้ยืมเงินว่านาย B) เขามาแจ้งความแล้ว นส A ให้การว่านำเงินมาซื้อของจากภรรยาผม ส่วนของหายไปแล้ว
ประเด็นคือ ตำรวจสั่งอายัดบัญชีภรรยาผม โดยไม่มีการให้เรียกข้อมูลเลย และอ้างว่าเรื่องอยู่ที่อัยการแล้ว ให้ไปติดต่อทางนั้นเอาเอง หรือไม่ก็รอจนคดีสิ้นสุด อ้อ แถมให้ด้วยการบอกว่า พี่ก็ไปเอาเงินมาคืนนาย ข เรื่องจะได้จบ (อันหลังผมบอกว่า ยินดีดำเนินการให้ ถ้าได้ของนั้นคืนมา)
คำถามคือ กรณีนี้เราทำอะไรได้บ้างครับ
1) เราฟ้องหรือแจ้งร้องเรียนตำรวจได้อย่างไรว่าทำการโดยไม่มีการสืบข้อมูลอะไรเลยแล้วทำให้เราเดือดร้อน
2) เราแจ้งดำเนินคดีกับ นาย ข ได้หรือไม่ เพราะหลังจากผมหา จนท จนเจอแล้ว แสดงหลักฐานประกอบความบริสุทธิ์ทุกอย่าง ผมร้องขอให้ จนท ติดต่อเขาเพื่ออธิบาย และขอให้เขายินยอมตัดเราออกเรื่อง เพราะเรื่องเขาให้ นส A ยืมเงิน เป็นคนละเรื่องกับที่ นส A มาซื้อของกับภรรยาผม ซึ่งดำเนินการจบสิ้นกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่เขาปฎิเสธ บอกให้รอศาลตัดสิน
ผมห่วงสุขภาพภรรยามากครับ เขาต้องเป็นคนดูแลลูกๆ อีก สภาพอารมณ์เขามีผลตรงกับเด็กๆ
รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ