สะกดวิญญาณ

กระทู้สนทนา

.

               กรี๊ด ! “ช่วยด้วย ! อื้อ อื้อ “ เสียงอู้อี้เล็ดลอดออกมาจากฝ่ามือหนาที่กำลังปิดปากเอาไว้ แววตาเว้าวอนร้องขอชีวิต น้ำตาไหลลงอาบสองแก้ม สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ต้องสิ้นลมหายใจเมื่อโดนมือแข็งแรงทั้งสองข้างบีบเข้าที่ลำคออย่างจัง

                  ใครคนหนึ่งได้ทำการสนองตัณหาทรามของตนเองในป่าได้สำเร็จ โดยผ่านมาเห็นนางจันทร์หอมในป่าเข้าพอดี ตอนแรกไม่กะจะให้ตาย พอคิดไปคิดมาหากรอดออกไปได้ คนที่ตายต้องเป็นเขาแน่นอน จึงจัดการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเสีย ไม่พอแถมยังได้ปลดเอาสร้อยคอของนางจันทร์หอมไปด้วย ก่อนไปเขาได้จัดการทำอะไรบางอย่างเอาไว้ เพราะเป็นคนที่มีวิชาอาคม

                    ผ่านไป 3 วัน

                  “ประกาศพ่อแม่พี่น้อง ผู้ชายพ่อบ้านใครที่ไม่ได้ไปทำอะไรในวันนี้ ขอความร่วมมือมารวมตัวกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้านด่วน ช่วยกันออกตามหานางจันทร์หอมในป่านะครับ วัยรุ่นชายทุกคน พ่อผู้ใหญ่ขอความร่วมมือด้วย ช่วยกันออกไปตามหานางจันทร์หอมด้วยกัน เข้าป่าหายตัวไป 3 วันแล้วยังไม่กลับออกมาเลย ลูกหลานและญาติ ๆ ฝากขอความร่วมมือช่วยออกตามหาให้ที เราคนบ้านเดียวกันไม่ทิ้งกันน้อ”

                       ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์ออกหอกระจายข่าว ช่วยกันระดมพลออกตามหานางจันทร์หอมที่ป่าท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นป่าที่คนในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เที่ยวหาของป่าเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นเห็ดหรือสัตว์ป่า มีให้หาอยู่ร่ำไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่

                     ป่าท้ายหมู่บ้านเป็นป่าที่ทุกคนคุ้นเคย เป็นป่าที่เห็นมาแต่ตั้งแต่เกิด เด็กเล็ก ๆ พากันเข้าออกเที่ยวหาของป่าทุกวัน จึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องอันตรายมากนัก ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุอะไรเลย นอกจากเจอสัตว์มีพิษเท่านั้น ก็ต้องระมัดระวังกันเอาเอง ไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดเหตุการณ์คนหายตัวไปขึ้น

                     นายก้อนคำเมื่อมารดาหายตัวไป 3 วันแล้วไม่กลับบ้านจึงร้อนใจ แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ประกาศบอกชาวบ้านช่วยออกตามผู้เป็นมารดาที ล่าสุดเขาเห็นมารดาถือเสียมกับตะกร้าไม้ไผ่เดินเข้าไปในป่า บอกจะไปหาเห็ดสักหน่อย จนป่านนี้ 3 วันแล้วไม่ยอมกลับออกมา

                   เขาภาวนาขอให้เจอมารดาด้วยเถิด แม้นจะเจอเพียงร่างไร้วิญญาณก็ตาม ภายในใจลึก ๆ ก็ยังหวังว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่

                   หลังสิ้นเสียงประกาศของผู้ใหญ่บ้าน ทุกคนออกมารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง พวกวัยรุ่นเด็ก ๆ ในหมู่บ้านต่างก็ออกมาช่วยค้นหานางจันทร์หอมนายก้อนคำซึ้งในน้ำใจเหลือเกิน

                  “พี่ก้อน “ นางสาวแก้วใจผู้เป็นน้องสาวได้ สะกิดพี่ชายเบา ๆ เมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่คุ้นตา สร้อยของมารดาไปอยู่กับนายคำดีได้อย่างไร

                 “อะไรแก้ว “ เขาหันมาถามน้องสาว “เรารอพี่อยู่ที่บ้าน พี่เสียแม่ไปคนนึงแล้ว พี่ไม่อยากเสียน้องสาวไปอีกคน ไปรอที่บ้านน้านวลจันทร์เลย อย่าอยู่คนเดียวที่บ้านพี่เป็นห่วง” นายก้อนคำกำชับ ตอนนี้อะไรก็ระแวงไปหมด นึกว่าน้องสาวจะขอตามเข้าไปค้นหาผู้เป็นมารดาด้วย

                  “ไม่ใช่… แก้วไม่ได้จะขอตามไปด้วย แต่แก้วแปลกใจว่าทำไมสร้อยของแม่ถึงไปอยู่บนคอลุงคำดีได้” นางสาวแก้วใจพูด สะกิดให้พี่ชายดูด้วย นางสาวแก้วใจจำสร้อยเส้นนั้นได้ดี เป็นคนซื้อให้มารดาเองกับมือ

                   นายคำดีชายวัยห้าสิบปีเศษเป็นผู้ที่เข้าร่วมอาสาค้นหานางจันทร์หอม นายคำดีเป็นอีกคนที่นับว่ามีวิชาอาคม ก็ไม่เคยใช้ไปในทางที่ผิดสักที  นายคำดีเหมือนจะรู้ว่ามีคนจ้อง เขากระชับคอเสื้อให้เข้าที่กว่าเดิม เปลี่ยนที่ยืน จากนั้นก็ชวนเพื่อนคุยเรื่องการตามหานางจันทร์หอม

                 “คิดมากไปหรือเปล่า อืมม์ เดี๋ยวเราค่อยคุยเรื่องนี้ที่บ้าน ตอนนี้แก้วไปอยู่บ้านน้านวลจันทร์รอพี่นะ “

                 “จ้ะ พาแม่กลับบ้านให้ได้นะพี่” นางสาวแก้วใจพูดทั้งน้ำตา คิดถึงมารดาเหลือเกิน อยากกอดอยากหอมแก้มมาก ๆ

                   ก้อนคำรับปากน้องสาว ก่อนที่จะพากันเดินเข้าป่าท้ายหมู่บ้าน ช่วยกันออกตามหานางจันทร์หอม ทุกคนช่วยกันตะโกนกู่ก้องร้องเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงขานรับ ไม่มีเสียงตอบรับของนางจันทร์หอมตอบกลับมาแต่อย่างไร ไร้วี่แวว เงียบสงัด

                  ทุกคนแกะรอยตามหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ลำพังเพียงคนในหมู่บ้านไม่พอ ต้องขอความร่วมมือคนต่างหมู่บ้าน ป่าท้ายหมู่บ้านกว้างใหญ่ยิ่งนัก ต้องไปขอความช่วยเหลือจากหมู่บ้านใกล้เคียงมาช่วยคนหาเพิ่ม

                   ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์กับการตามหานางจันทร์หอม ทุกคนแทบพลิกผืนป่าหาก็ไม่เจอแม้แต่เศษเสื้อผ้า ข่าวนางจันทร์หอมแพร่กระจายไปทั่ว ออกข่าวทีวี ออกหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้มีทีมค้นหาชื่อดังเป็นดาราอาสามาช่วยหาก็หาไม่เจอ

                   ใครที่ว่ามีจิตสัมผัสมาช่วยค้นหา ก็ไม่เจอแม้แต่เงาเช่นกัน ทำให้นายก้อนคำกับนางสาวแก้วใจสองพี่น้องหมดอาลัยตายอยาก หมดหนทางความหวังที่จะเจอมารดา “แก้วเชื่อว่าสร้อยเส้นนั้นเป็นของแม่พี่ก้อน”

                  “เผื่อลูก ๆ ลุงคำดีเขาซื้อให้ล่ะ เราจะไปกล่าวหาใครลอย ๆ ไม่ได้นะ อีกอย่างสร้อยลายนั้นมีตั้งมากมายตามร้านทอง” ก้อนคำยกหาเหตุผลมาหักล้าง แม้ในใจอยากจะเชื่อน้องสาวยิ่งนัก

                   “แต่ลุงคำดีเขาเป็นผู้ชาย เขาจะมาใส่สร้อยผู้หญิงได้ยังไงพี่ก้อน สร้อยที่แก้วเห็นวันนั้นมันเป็นลายที่ผู้หญิงเขาใส่กัน มันสร้อยของแม่ชัด ๆ แก้วจำได้ แก้วสวมที่คอให้แม่เองกับมือ แก้วจำสร้อยแม่ได้ ” พูดทั้งน้ำตานองหน้าด้วยความคิดถึงมารดา

                   แม่อยู่ไหน ทำไมไม่ปรากฏตัวให้ลูกเห็น แม้นเสียชีวิตไปแล้ว ทำไมไม่ยอมให้นำร่างมาทำพิธีเผาตามประเพณี แม่ไม่อยากขึ้นสวรรค์หรืออย่างไร นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนเป็นปีแล้วที่ตามหาแม่ไม่เจอ ใครทำแม่ เขาเอาแม่ไปไว้ที่ไหน เสือสิงห์มันกัดกินมันน่าจะทิ้งกระดูกให้ดูต่างหน้าบ้าง แต่นี่ไม่มีเลย ไม่ทิ้งอะไรไว้เลย

                    สองพี่น้องคุยกันถึงจะเป็นความจริง ก็ยากยิ่งนักที่เด็กสองคนจะไปต่อกลอนกับผู้ใหญ่ แถมยังเป็นผู้มีฐานะอีก ญาติ ๆ ก็ไม่ค่อยสนใจ เมื่อหาไม่เจอก็คือหาไม่เจอ หาเจอวันไหนค่อยมาว่ากัน

                  นายก้อนคำเองเที่ยวเข้าไปในป่าเสมอเวลาว่าง เที่ยวออกตามหาแม่อยู่อย่างนั้น นับเวลาก็จวนจะสามปีเข้าให้แล้ว ที่แม่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

                   ส่วนนายคำดีหลังจากที่เจอสายตาของแก้วใจมองมา เขาก็ถอดสร้อยเส้นนั้นออก ไม่สวมมันอีกเลย นึกไม่ถึงว่าจะมีคนสังเกต แถมยังเป็นคนใกล้ตัวนางจันทร์หอมอีก ไม่ได้ ! เขาจะไม่มีวันถูกจับได้เด็ดขาด

                    แสยะยิ้มที่มุมปาก เที่ยวเข้าไปทุกวันเถอะก้อนคำ เอ็งไม่มีวันเจอแม่ของเอ็งหรอก หัวเราะหึหึในลำคอเมื่อเห็นก้อนคำเดินผ่านหน้าบ้านเข้าไปในป่านั่น ขอโทษนะนางจันทร์หอม ข้าไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ มันพลั้งมือ ข้าจะไว้ใจเอ็งได้อย่างไรหากปล่อยไปแล้วเอ็งจะไม่ได้นำเรื่องไปบอกคนมาจับข้า รำพึงรำพันกับตัวเองถึงนางจันทร์หอม

                   3 ปีผ่านไป

                  ทุกคนในหมู่บ้านต่างถอดใจกันหมดกับเรื่องนางจันทร์หอม ยกเว้นเพียงลูกสาวกับลูกชายที่ภาวนาทุกวันขอให้เจอผู้เป็นมารดา แม้จะเหลือเพียงกระดูกผุยผงก็ตาม

                  ฤดูฝนมาเยือนฝนตกโปรยปรายทำให้ป่าชื้น พวกเห็ดต่าง ๆ เกิดเต็มทั่วป่า ชาวบ้านทั้งใกล้และไกลต่างพากันเข้าป่าหาเห็ดและหาของป่ากันอย่างเริงร่า ไม่มีใครหวาดกลัวยายจันทร์หอมสักคน นี่ก็ผ่านมาสามปีแล้ว อีกอย่างไม่มีใครเคยเจอยายจันทร์หอมมาหลอกเลย

                   วันนี้พวกนางวัลลี นางอนงค์ และ นางบังอร คนหมู่บ้านใกล้เคียงต่างพากันเข้าป่าหาเห็ดในป่าแห่งนี้ ต่างคนต่างเดินเขี่ยเห็ดไปเรื่อย ๆ นางบังอรอายุไม่ถึงห้าสิบดี ประจำเดือนยังมาอยู่

                     ถึงจะมาขาด ๆ หาย ๆ ก็ตาม ประจำเดือนหายไปสองเดือนเพราะจะเข้าวัยทอง แต่ ทำไมเดือนนี้ประจำเดือนถึงโผล่มาซะอย่างนั้น ถึงอย่างไรก็ไม่มีผลต่อการหาเห็ดในวันนี้ นางบังอรเซ็งกับร่างกายของตน

                    นางบังอรเขี่ยหาเห็ดไปไปเรื่อย ๆ ตามหมู่เห็ดที่เกิดเรียงรายกันด้วยความตื่นเต้น แอบเก็บเอาเงียบ ๆ คนเดียว หมู่เห็ดละโงกดอกสวยเหลือเกิน อ้าปากค้างก่อนจะรีบก้มเก็บใส่ตะกร้าคนเดียว

                     ระหว่างที่ก้มเก็บอยู่ดี ๆ ได้ก้าวเท้าข้ามกิ่งไม้แห้งไปแบบไม่สนใจ พอเก็บเห็ดหมดทุกดอกจะกลับไปหาเพื่อนอีกสองคน ต้องตกใจผงะหงายหลังเกือบเป็นลมคาที่ กรีดร้องสุดเสียงด้วยความหวาดกลัว

                      กรี๊ด ! “ช่วยด้วย ช่วยด้วยผีหลอก !” นางบังอรกรีดร้องสุดเสียง ไม่เพียงแค่นางวัลลี นางอนงค์ที่วิ่งมาหานางบังอร คนอื่น ๆ ที่ต่างเข้ามาหาเห็ดในป่าแห่งนี้ เมื่อได้ยินเสียงคนกรีดร้องก็รีบวิ่งมาดูด้วยสัญชาตญาณทันที

                    “อะไรอี่บังอร มืงเจออะไร” ทันทีที่มาถึง นางอนงค์ร้องถาม เมื่อเห็นนางบังอรปิดตาร้องไห้ ทุกคนหันไปมองตามที่นางบังอรชี้มือให้ดู ต้องผงะเช่นกัน เป็นกระดูกชิ้นส่วนของมนุษย์ ที่สำคัญบนกะโหลกศีรษะ มีตัวหนังสือสีแดงคล้ายยันต์เขียนกำกับเอาไว้ด้วย

                    พอทั้งสามคนได้สติ ทุกคนที่มามุงดูเห็นแบบนั้นก็พากันรีบวิ่งกระเจิงออกจากป่าอย่างรวดเร็ว นำเรื่องไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน นายก้อนคำนำทีมผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน และตำรวจเข้ามาตรวจสอบชิ้นส่วนมนุษย์ที่ว่านั่น ยกเว้นก็แต่นายคำดีที่ไม่ยอมมาด้วย  ทุกคราวออกตามหาก็มาด้วยทุกครั้ง ทำไมวันนี้ไม่ยอมมา นายก้อนคำเก็บความสงสัยเอาไว้

                  ผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอออกมาแล้วว่าเป็นชิ้นส่วนของนางจันทร์หอมจริง ๆ นายก้อนคำกับนางสาวแก้วใจ ได้นำกระดูกของมารดามาทำฌาปนกิจให้ถูกต้องตามประเพณี ด้วยความเศร้าโศก ของชาวบ้านและบรรดาญาติ ๆ ทุกคนต่างแช่งชักหักกระดูกคนที่ทำ

                  สิ่งที่เป็นปริศนาคาใจของชาวบ้านคือตัวหนังสือที่คล้ายยันต์มันหมายความว่าอย่างไร ใครเป็นคนทำ มีคนสะกดวิญญาณบดบังร่างกายเอาไว้หรือ และถ้านางบังอรไม่เป็นประจำเดือนและเดินข้ามคงไม่เจอ

                   ปัญหาคาใจดูเหมือนจะไม่มีทางออก ทุกคนในละแวกนี้รู้กันทั่วก็พูดไม่ได้เหมือนน้ำท่วมปาก ไม่มีใครเอาผิดได้ เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ ทุกคนรู้ ก่อนหน้าที่จะเจอชิ้นส่วนของนางจันทร์หอมในปีนี้นายคำดีป่วยกระเสาะกระแสะ เข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น นี่อาจจะเป็นว่าทำให้มนต์คาถาเสื่อมลง

                     พอหลังจากเจอชิ้นส่วนของนางจันทร์หอม นายคำดีก็ไม่อยู่บ้าน หายไปเลย ญาติ ๆ บอกว่าไปอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวที่อีกจังหวัดหนึ่ง ทุกคนสงสัยนายคำดีเพราะเป็นคนมีวิชาอาคม ทุกคนจึงมุ่งไปที่ตัวนายคำดี

                  อีกทั้งเรื่องสร้อยคอที่นางสาวแก้วใจสงสัย ก็ได้แพร่งพรายไปสู่ปากชาวบ้าน ปากต่อปาก หลักฐานทางความรู้สึกมันบอกว่านายคำดีเป็นคนฆ่าข่มขืนนางจันทร์หอม แต่ หลักฐานที่จะมัดตัวจับมาลงโทษไม่มีเลย

                     นายก้อนคำกับน้องสาวได้เพียงรอกฎแห่งกรรมเท่านั้น ดูเหมือนนายคำดีจะได้รับกฎแห่งกรรมนั้นบ้างแล้ว เมื่อเรื่องราวซาลง นายคำดีกลับมาเยี่ยมบ้านบ้าง ก็นอนค้างไม่ได้ เคยนอนค้างที่บ้านของตน นอนไม่ได้มีอะไรบางอย่างมารบกวนตลอดเวลา เรื่องนี้ก็เป็นที่โจษขานของคนในหมู่บ้าน มันยิ่งเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือลงไปอีกว่า นายคำดีนั่นแหละฆ่านางจันทร์หอม

                  “แม่สบายดี ไม่ต้องห่วงแม่นะทั้งสองคน ก้อนดูแลแก้วแทนแม่ด้วย ปล่อยเขาไปเถอะอย่าไปจองเวรจองกรรมกับเขาเลย แม่มาลา แม่สบายดี ดูแลน้องให้ดีนะลูก แม่ลาก่อน”

                   “แม่ !” ก้อนคำสะดุ้งตื่น นี่เขาฝันไปเองหรือ นึกถึงฝันเมื่อครู่ นี่แม่ของเขามาลาเหรอ พอนึกถึงฝันเมื่อสักครู่ก็เผยยิ้มออกมา แม่ดูสวยสดใสมาก “ครับแม่ ก้อนจะดูแลน้องให้ดีที่สุด ก้อนจะไม่จองเวรจองกรรมลุงคำดี แม่ไปอยู่กับพ่อนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมทำบุญให้แม่นะ” ก่อนจะหลับตานอนอีกครั้ง หวังใจเป็นอย่างมากว่าจะเจอแม่ในฝันอีก

จบ…
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่