พบกันสายไปมันน่าเสียดาย ปาฏิหาริย์ ไม่มีจริง
สิ้นเสียงเพลงพี่กบ พลันให้นึกถึงโอกาสเข้ารอบต่อไปของฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ช่างเหมือนกันกับตอนท้ายของเพลงคือ “ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง”
ว่ากันจริงๆ โอกาสในการเข้ารอบต่อไปสำหรับการลุ้นพื้นที่ไปเล่นบอลโลกรอบสุดท้ายปีนี้ (ต้องบอกว่าครั้งนี้) ถือว่าสดใสพอสมควร เพราะการได้เจอกันเองกับทีมในชาติอาเซียน อย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ถือว่า ถ้ามองว่ายาก มันก็ไม่ยากซักเท่าไรนัก ถ้ามองว่าง่าย มันก็ดีกว่าเจอทีมจากตะวันออกกลางหรือพวกจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อะไรเทือกนั้น ซึ่งพอผลการจับฉลากออกมา หลายๆ ล้านคนในประเทศถึงกับฝันหวานในการที่จะได้ไปสร้างความใกล้เคียงกับการเข้ารอบสองไปลุ้นพื้นที่ไปบอลโลกกันเลยทีเดียว ผมเองก็หนึ่งในนั้น
แล้วกับการได้เฮดโค้ชหน้าใหม่จากแดนอาทิตย์อุทัย ผู้เคยนำพาแผ่นดินแม่ไปโลดแล่นในสมรภูมิสูงสุดลูกหนังอย่าง Nishino Akira มาเป็นกุนซือขับเคลื่อนทีม ยิ่งทำให้ฝันหวานปานน้ำผึ้งเดือนสี่กันเลยทีเดียวเชียว
แต่ ความสุขมักอยู่กับเราได้ไม่นานนัก
โดยเริ่มจากการที่เราเปิดสนามทำได้แค่เสมอกับเวียดนาม ต่อด้วยสร้างความหวังเล็กๆ กับการออกไปถล่มอินโดนีเซีย และตามมาด้วยเปิดบ้านเฉือน UAE ทีมที่คาดว่าน่าจะเป็นงานหนักที่สุดสำหรับเรา ด้วยฟอร์มการเล่นเปิดหัว ที่ เสมอ 1 ชนะ 2 และเป็นการชนะ UAE ได้ด้วย ทำให้แฟนบอลต่างหวังกันถึงการเข้าไปวาดแข้งในรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายกันอย่างตาหวาน แต่ก็ต้องย้ำกันอีกรอบว่า “ความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นานนัก” กับการเจอมาเลเซีย ทีมที่ยัดเยียดความปราชัยให้กับช้างศึกเรามาครั้งแล้วครั้งเล่า ทีมที่ชนะเรามากกว่าแพ้
สถิติการพบกันของทีมชาติไทย กับ ทีมชาติมาเลเซีย มีดังนี้
พบกันทั้งหมด 111 ครั้ง
ทีมชาติไทย ชนะ 35 ครั้ง
เสมอ 35 ครั้ง
ทีมชาติมาเลเซีย ชนะ 41 ครั้ง
จากสถิติในการเจอกันของสองทีม จะเห็นได้ว่า มาเลเซีย ถือเป็นขวากหนามสำคัญของทีมชาติไทยเลยทีเดียว และโดยเฉพาะนัดล่าสุดเกมส์คัดบอลโลกที่เจอกันในบ้านมาเลเซีย ทีมชาติไทยโดนกระซวกไส้ไหลกลับบ้านมาตามเคย และเป็นความพ่ายแพ้แล้วแพ้เล่า และเราไม่ชนะมาเลเซียเลยใน 4 นัดหลังสุดที่เจอกัน ทำได้ดีที่สุดคือ ผลเสมอ 2 นัด และแพ้อีก 2 นัด มันช่างเจ็บช้ำระกำหวานเสียเหลือเกิน และนี่ก็เริ่มเป็นการเดินเข้าสู่เส้นทางเพลงพี่กบทีละนิด ทีละนิด แต่ “สงครามยังไม่จบ อย่างเพิ่งนับศพทหาร”
เรายังมีโอกาส ไม่ไปในฐานะแชมป์กลุ่ม เราก็ไปในฐานะอันดับสองของกลุ่มที่ดีที่สุด (ว่าไปนั่น) ข้อความปลุกใจกองเชียร์ให้ฮึกเหิม ทยอยเสริฟมาไม่ขาดสาย (ถามนักเตะยัง) ถ้าเราเอาชนะนัดที่เหลือทั้งหมดได้ (เหรอ)
ได้เหรอ มาดูกัน นัดแรกเลกสองเปิดมา เสมอเวียดนาม ตามมาด้วยเสมออินโดนีเซียทีมเด็ก แล้วไม่พลิกแพ้ UAE ตามคาด จบ 7 นัด ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 2 มีอยู่ 9 แต้ม ตามหลัง เวียดนามผู้นำ ที่มี 17 คะแนน อยู่ 8 แต้ม (ห่างเนาะ) และตามอันดับ 2 ของกลุ่ม G อย่าง UAE ที่มี 15 คะแนน อยู่ 6 แต้ม เรียกว่า ขาดลอย พร้อมกับประกาศตัวว่า ข้านั้น ยังไม่พร้อม ขอกลับไปทำการบ้านใหม่แล้วใหม่เล่า อีกรอบแล้วรอบเล่า แล้วข้าจะมาทวงคืน โดยทัพช้างศึกเราจะมีเกมส์ส่งท้ายกับมาเลเซีย ที่ ณ เพลานี้มีคะแนนเท่ากัน แต่ลูกได้เสียเราดีกว่า
อย่างที่ว่าไว้ตอนต้นๆ ว่า ถ้าดูสถิติที่ผ่านมา เราเอาชนะมาเลเซียได้ยากมาก ผลงานในสนามนี่เล่นแบบสูสีกันตลอด โดยในทัวร์นี้ สำหรับผมเอง ผมว่ามาเลเซียมีผลงานที่ค่อนข้างดีกว่าทีมชาติไทยเรา นัดล่าสุดของมาเลเซีย ถึงแม้จะแพ้ต่อเวียดนาม แต่รูปเกมส์ไม่ได้แพ้มากมายอย่างสกอร์ที่ออกมา และนักเตะมาเลเซีย ดูจะมีความมุ่งมั่นกระหายชัยชนะกันมากๆ
ฉะนั้น นัดสุดท้าย ผมเองก็หวังว่านักเตะเราจะร่วมแรงร่วมใจกันเล่น ร่วมใจกันสู้เพื่อเอาชัยชนะมาฝากแฟนบอลชาวไทย และโดยเฉพาะ จะได้พิสูจน์ว่า นักเตะไทยไม่ได้เป็นอย่างข่าวล่าสุดที่ออกมา
สำหรับนัดเจอมาเลเซีย นัดสุดท้าย ในฐานะโค้ชคีย์บอร์ด ขอจัดตัวผู้เล่นโดยยึดระบบเดิม 4-2-3-1 และจากความทุ่มเทของต้น และยุคนี้ต้องให้เค้าล่ะ เกมส์นัดสุดท้ายผมจึงขอมอบปลอกแขนกัปตันทีมชาติไทยให้กับต้น นฤบดินทร์
ประตู ฉัตรชัย ควรจะต้องได้รับประสบการณ์ เพื่อสร้างกระดูกในเกมส์ทีมชาติได้แล้วครับ ไม่งั้นก็ต้องหาประตูตัวใหม่ที่เป็นอนาคตของทีมชาติ ถ้าฉัตรชัยพิสูจน์ตัวเองแล้วไม่ผ่าน เพราะในเกมส์สโมสร ฉัตรชัย ถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว นัดสุดท้ายจึงต้องลง (ที่ผ่านมาก็ลืมมันไปซะ)
หลังสี่ตัว
ขวา ต้นยืนหนึ่ง ฟอร์มดีเหลือเกินมาจากสโมสร และมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ วิ่งใส่เกินร้อยทั้งเกมส์มาก ฉะนั้น ปลอกแขนจึงสมควรไปอยู่ที่แขนต้นด้วย (ให้เอง)
ซ้าย จตุรพัช เด็กมันมีแววครับ ลองเออเนสโต้ ลองศศลักษณ์มาแล้ว ลองดูอีกซักคนจะเป็นไร ผมว่าถ้าเป็นผม ไม่เอาศศลักษณ์ลงก็ต้องเป็นจตุรพัชนี่แหละ
คู่กลาง พรรษาต้องลง ยังไงยุคนี้หลังที่ดีที่สุดสำหรับทีมชาติไทย สำหรับผมเองคือพรรษา อาจจะเริ่มช้าไปบ้าง แต่ประสบการณ์ ทางบ้านทางบอล ถือว่ายิ่งแก่ยิ่งดี จัดยืนคู่ปวีร์ กองหลังน้ำตาลหวาน ที่มีความสูง จ่ายบอลคม ดันเด็กอีกคนดู
กลาง พีระดนย์ กับวีระเทพ นี่ก็ต้องได้รับโอกาสละ เทคนิค ดีทั้งคู่ จ่ายบอลคม เข้าบอลดี ลองดูคงไม่เสียหาย
หน้าต่ำ ขวา เจริญศักดิ์ นาทีนี้ ผมว่าน้องแกมีดีพอที่จะยึดตำแหน่งตัวจริงทีมชาติได้ ผลงานในลีกเป็นตัวพิสูจน์อย่างดี แถมพร้อมมีความมุ่งมั่นทุ่มเทสูง วิ่งได้ทั้งเกมส์ไม่มีหมด เอามาเล่นกับต้น ผลัดกันขึ้นผลัดกันลงนี่ แค่นึกก็เสียวแล้ว นิชิโนะ จัดให้ซักทีเหอะ
ซ้าย สุภโชค ณ ตอนนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธ ว่าเด็กมันดี เด็กมันได้ คงไม่ต้องพิมพ์สรรพคุณอะไรมาก ไม่เจ็บต้องลง
ตัวกลาง เด็กจิ้งจอก ถ้าไม่เจ็บ ต้องลง ซึมซับเพื่อนร่วมทีม ซึมซับเกมส์ทีมชาติ และถือเป็นจอมทัพที่ถือว่าดีที่สุดในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมาจริงๆ นี่เห็นแค่เกมส์เดียวก็ชัดเลยว่า ฝีเท้าระดับพรีเมียร์ลีกจริงๆ ทักษะ สกิลการเล่นบอล การวิ่ง ฉะนั้นถ้าไม่เจ็บต้องลง ลงเพื่อให้ได้เกมส์ที่เล่นร่วมกันกับเพื่อนๆ ในทีมชาติ และทำให้เกมส์แดนหน้ามีการสร้างโอกาสในการเข้าทำที่หลากหลายขึ้น
หน้าเป้า ซักทีเหอะ สุขสุ่ม ซักทีเหอะ ให้โอกาสน้องเค้าซักทีเหอะ พิสูจน์ตัวเองระดับสโมสรผ่านแบบได้คะแนนเต็มแล้ว จัดลงให้กองเชียร์เห็นเป็นบุญตาในนามทีมชาติทีเหอะ ว่าทีมเรายังมีกองหน้าที่เข้าทำคมๆ เหลืออยู่
นี่ก็เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ จากประสบการณ์อันน้อยนิดที่มีทั้งในฐานะที่เคยเป็นนักเตะ เป็นโค้ชบอลก๊อกแก๊กๆ และตามดูตามเชียร์บอลไทยมาโดยตลอด และก็ทิ้งท้ายไว้เหมือนเดิมครับว่า ชนะแพ้สำหรับกองเชียร์แบบผมไม่สำคัญเท่ากับความมุ่งมันทุ่มเทของนักเตะในสนาม ถ้าเล่นกันเต็มที่แล้ว แพ้มาไม่มีใครว่าหรอกครับ มีแต่จะให้กำลังใจกันเพิ่มก็เท่านั้น แต่ถ้าน้องๆ มีโอกาสเล่นให้ทีมชาติแล้ว ลงไปดันเล่นแบบก๊อกๆ แก๊กๆ ไม่ไล่ ไม่ตาม ไม่ทุ่มเท มันก็ไม่แปลกใจหรอกที่จะมีเสียงครหา และนักกีฬามืออาชีพจริงๆ โค้ชจะชาติไหน ควรให้ความเคารพและเชื่อฟัง และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เหมือนพวกคุณเล่นให้สโมสรนั่นแหละครับ
แม้ว่า ลึกๆ จะรู้ว่า นักเตะไทยเราให้ความเคารพโค้ชคนไทยมากกว่าก็ตาม
กองเชียร์เชียร์ไม่ท้อ นักตะ แท้ หรือป่าว
ก่อนจากขอทิ้งท้ายด้วยคำคมประจำวัน
"ถึงจะไม่ได้สิทธิเราชนะ แต่เราชอบเธอนะมีสิทธิไหม"
เก่งก่อนเกมส์ THAILAND VS MALAYSIA By Coach Keyboard
สิ้นเสียงเพลงพี่กบ พลันให้นึกถึงโอกาสเข้ารอบต่อไปของฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ช่างเหมือนกันกับตอนท้ายของเพลงคือ “ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง”
ว่ากันจริงๆ โอกาสในการเข้ารอบต่อไปสำหรับการลุ้นพื้นที่ไปเล่นบอลโลกรอบสุดท้ายปีนี้ (ต้องบอกว่าครั้งนี้) ถือว่าสดใสพอสมควร เพราะการได้เจอกันเองกับทีมในชาติอาเซียน อย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ถือว่า ถ้ามองว่ายาก มันก็ไม่ยากซักเท่าไรนัก ถ้ามองว่าง่าย มันก็ดีกว่าเจอทีมจากตะวันออกกลางหรือพวกจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อะไรเทือกนั้น ซึ่งพอผลการจับฉลากออกมา หลายๆ ล้านคนในประเทศถึงกับฝันหวานในการที่จะได้ไปสร้างความใกล้เคียงกับการเข้ารอบสองไปลุ้นพื้นที่ไปบอลโลกกันเลยทีเดียว ผมเองก็หนึ่งในนั้น
แล้วกับการได้เฮดโค้ชหน้าใหม่จากแดนอาทิตย์อุทัย ผู้เคยนำพาแผ่นดินแม่ไปโลดแล่นในสมรภูมิสูงสุดลูกหนังอย่าง Nishino Akira มาเป็นกุนซือขับเคลื่อนทีม ยิ่งทำให้ฝันหวานปานน้ำผึ้งเดือนสี่กันเลยทีเดียวเชียว
แต่ ความสุขมักอยู่กับเราได้ไม่นานนัก
โดยเริ่มจากการที่เราเปิดสนามทำได้แค่เสมอกับเวียดนาม ต่อด้วยสร้างความหวังเล็กๆ กับการออกไปถล่มอินโดนีเซีย และตามมาด้วยเปิดบ้านเฉือน UAE ทีมที่คาดว่าน่าจะเป็นงานหนักที่สุดสำหรับเรา ด้วยฟอร์มการเล่นเปิดหัว ที่ เสมอ 1 ชนะ 2 และเป็นการชนะ UAE ได้ด้วย ทำให้แฟนบอลต่างหวังกันถึงการเข้าไปวาดแข้งในรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายกันอย่างตาหวาน แต่ก็ต้องย้ำกันอีกรอบว่า “ความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นานนัก” กับการเจอมาเลเซีย ทีมที่ยัดเยียดความปราชัยให้กับช้างศึกเรามาครั้งแล้วครั้งเล่า ทีมที่ชนะเรามากกว่าแพ้
สถิติการพบกันของทีมชาติไทย กับ ทีมชาติมาเลเซีย มีดังนี้
พบกันทั้งหมด 111 ครั้ง
ทีมชาติไทย ชนะ 35 ครั้ง
เสมอ 35 ครั้ง
ทีมชาติมาเลเซีย ชนะ 41 ครั้ง
จากสถิติในการเจอกันของสองทีม จะเห็นได้ว่า มาเลเซีย ถือเป็นขวากหนามสำคัญของทีมชาติไทยเลยทีเดียว และโดยเฉพาะนัดล่าสุดเกมส์คัดบอลโลกที่เจอกันในบ้านมาเลเซีย ทีมชาติไทยโดนกระซวกไส้ไหลกลับบ้านมาตามเคย และเป็นความพ่ายแพ้แล้วแพ้เล่า และเราไม่ชนะมาเลเซียเลยใน 4 นัดหลังสุดที่เจอกัน ทำได้ดีที่สุดคือ ผลเสมอ 2 นัด และแพ้อีก 2 นัด มันช่างเจ็บช้ำระกำหวานเสียเหลือเกิน และนี่ก็เริ่มเป็นการเดินเข้าสู่เส้นทางเพลงพี่กบทีละนิด ทีละนิด แต่ “สงครามยังไม่จบ อย่างเพิ่งนับศพทหาร”
เรายังมีโอกาส ไม่ไปในฐานะแชมป์กลุ่ม เราก็ไปในฐานะอันดับสองของกลุ่มที่ดีที่สุด (ว่าไปนั่น) ข้อความปลุกใจกองเชียร์ให้ฮึกเหิม ทยอยเสริฟมาไม่ขาดสาย (ถามนักเตะยัง) ถ้าเราเอาชนะนัดที่เหลือทั้งหมดได้ (เหรอ)
ได้เหรอ มาดูกัน นัดแรกเลกสองเปิดมา เสมอเวียดนาม ตามมาด้วยเสมออินโดนีเซียทีมเด็ก แล้วไม่พลิกแพ้ UAE ตามคาด จบ 7 นัด ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 2 มีอยู่ 9 แต้ม ตามหลัง เวียดนามผู้นำ ที่มี 17 คะแนน อยู่ 8 แต้ม (ห่างเนาะ) และตามอันดับ 2 ของกลุ่ม G อย่าง UAE ที่มี 15 คะแนน อยู่ 6 แต้ม เรียกว่า ขาดลอย พร้อมกับประกาศตัวว่า ข้านั้น ยังไม่พร้อม ขอกลับไปทำการบ้านใหม่แล้วใหม่เล่า อีกรอบแล้วรอบเล่า แล้วข้าจะมาทวงคืน โดยทัพช้างศึกเราจะมีเกมส์ส่งท้ายกับมาเลเซีย ที่ ณ เพลานี้มีคะแนนเท่ากัน แต่ลูกได้เสียเราดีกว่า
อย่างที่ว่าไว้ตอนต้นๆ ว่า ถ้าดูสถิติที่ผ่านมา เราเอาชนะมาเลเซียได้ยากมาก ผลงานในสนามนี่เล่นแบบสูสีกันตลอด โดยในทัวร์นี้ สำหรับผมเอง ผมว่ามาเลเซียมีผลงานที่ค่อนข้างดีกว่าทีมชาติไทยเรา นัดล่าสุดของมาเลเซีย ถึงแม้จะแพ้ต่อเวียดนาม แต่รูปเกมส์ไม่ได้แพ้มากมายอย่างสกอร์ที่ออกมา และนักเตะมาเลเซีย ดูจะมีความมุ่งมั่นกระหายชัยชนะกันมากๆ
ฉะนั้น นัดสุดท้าย ผมเองก็หวังว่านักเตะเราจะร่วมแรงร่วมใจกันเล่น ร่วมใจกันสู้เพื่อเอาชัยชนะมาฝากแฟนบอลชาวไทย และโดยเฉพาะ จะได้พิสูจน์ว่า นักเตะไทยไม่ได้เป็นอย่างข่าวล่าสุดที่ออกมา
สำหรับนัดเจอมาเลเซีย นัดสุดท้าย ในฐานะโค้ชคีย์บอร์ด ขอจัดตัวผู้เล่นโดยยึดระบบเดิม 4-2-3-1 และจากความทุ่มเทของต้น และยุคนี้ต้องให้เค้าล่ะ เกมส์นัดสุดท้ายผมจึงขอมอบปลอกแขนกัปตันทีมชาติไทยให้กับต้น นฤบดินทร์